“อัจฉริยะ” ปลุกคดีแตงโมอีกครั้ง แต่ผบ.ตร.ไม่ให้ค่ายันตำรวจไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ-จ่อฟ้อง เดินหน้าคดีต่อตอนนี้กลายเป็นตำรวจปะทะภาคประชาชนไม่มีหน่วยงานตรวจสอบขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี หวังพึ่งอัยการตรวจสอบก่อนคดีสู่ศาล นักกฎหมายคาดปลายทางคดีรอลงอาญา
การแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม นิดา พัชระวีรพงศ์ ของตำรวจนนทบุรีเจ้าของคดี เมื่อ 26 เมษายน 2565 ดูเหมือนคดีนี้ที่เคยอยู่ในความสนใจของคนทั้งประเทศน่าจะจบลงตามสำนวนคดีที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานมาในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พร้อมๆ กับในช่วงเวลานี้เกิดข่าวใหญ่ขึ้นมาหลายข่าวทำให้ลดทอนความสนใจของคนในคดีนี้ลงไป
หลายคนที่เคยเอาใจช่วยติดตามคดีการเสียชีวิตของแตงโม อาจทำใจปลงกับแนวทางของสำนวนคดีที่ตำรวจได้ส่งไปที่อัยการ อีกทั้งยังมีความพร้อมใจฟ้องฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางในการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเจ้าทุกข์มีทั้งตำรวจที่ทำคดี ผู้ต้องหาอย่างแซน และกระติก รวมถึงทนายของแม่แตงโม จนกลายเป็นคำถามคาใจของผู้ที่ติดตามคดีนี้ใครที่เห็นต่างจะถูกฟ้องหมิ่นประมาททันที
อัยการจุดประกาย
แต่แล้วในช่วงท้ายสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2565 อัยการนนทบุรีมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีแตงโม กลับไปสอบเพิ่มเติมอีก 20 ประเด็น กลายเป็นอีกหนึ่งความหวังของคนที่ติดตามคดีนี้ว่าการที่อัยการสั่งสอบเพิ่มเติมอาจส่งผลต่อรูปคดี แต่บ่ายของวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 ตำรวจได้ส่งผลสอบเพิ่มเติมตามที่อัยการสั่งกลับไปที่อัยการ
“เราทำงานด้านกฎหมายมา อัยการสั่งสอบเพิ่มเติมเกิน 3 ประเด็นก็หน้าชาแล้ว เพราะมันหมายถึงสำนวนของคดีที่ส่งอัยการไปนั้นอ่อน นี่ตั้ง 20 ประเด็น แบบนี้ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว แถมใช้เวลาเพียง 3-4 วันในการเพิ่มเติมในสำนวนกับ 20 ประเด็นที่อัยการสั่งสอบเพิ่ม ด้านหนึ่งถือว่าตำรวจทำงานรวดเร็วมาก แต่อีกด้านหนึ่งหากดำเนินการด้วยความหละหลวมแล้วอัยการตีกลับมาเป็นรอบที่ 2 แบบนี้ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคงต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งกับตำรวจชุดนี้แน่นอน” นักกฎหมายรายหนึ่งกล่าว
ที่ผ่านมา แม้จะมีผู้เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในการทำคดีนี้ เนื่องจากหลายฝ่ายไม่เชื่อมั่นการทำงาน เราก็เข้าใจได้ว่าเหตุผล ผบ.ตร.ไม่มีการสั่งเปลี่ยน อาจเป็นเพราะให้เกียรติการทำงานของลูกน้องที่ลงมือทำคดีนี้ไปแล้ว แต่เมื่อทุกอย่างเป็นอย่างนี้แล้วถึงเวลาที่ท่านต้องหาทางกอบกู้ภาพลักษณ์ของตำรวจกลับคืนมา
ปลุกคดีแตงโมอีกครั้ง
คดีนี้ถูกปลุกให้กลับมาสู่ความสนใจของผู้คนอีกครั้งคือ การเปิดหลักฐานของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ทั้งแชตลับภาพการนำศพออกมาจำลองเพื่อให้บาดแผลเข้ากับใบพัดเรือซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือว่ามีน้ำหนักมาก อีกทั้งหน่วยงานอย่างสถาบันนิติเวช ก็ออกมายอมรับว่าคลิปดังกล่าวเป็นของจริง ส่วนการกระทำดังกล่าวจะเหมาะสมหรือไม่เป็นเรื่องที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องตอบความจริงกับสังคม
ต้องยอมรับว่าการออกมาเคลื่อนไหวของนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ หลักฐานในครั้งนี้มีน้ำหนักมากมากพอที่อาจทำให้อาจมีการเปลี่ยนแปลงในแนวทางการทำคดี ขึ้นอยู่กับตำรวจว่าจะให้น้ำหนักในพยานหลักฐานชุดนี้อย่างไร
ตอนนี้จะเห็นได้ว่ามีตำรวจบางคนที่มีส่วนในการทำคดีของแตงโม เริ่มยอมรับไม่ได้กับสำนวนคดี มีการให้ข้อมูลบางประการกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลักฐานที่คุณอัจฉริยะ เปิดเผยนั้นเป็นหลักฐานที่หลุดออกมาจากฝ่ายตำรวจทั้งนั้น
อัจฉริยะเปิดศึกตำรวจ
ก่อนหน้านี้ 3 พฤษภาคม 2565 นายอัจฉริยะได้ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อขอให้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย และย้ายนายตำรวจ 4 นาย ได้แก่ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 ผบก.ภ.จว.นนทบุรี
เนื่องจากบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามระเบียบในการทำคดีการชันสูตรการตายของ แตงโม นิดา ซึ่งตามระเบียบแล้วต้องทำควบคู่ไปกับการทำคดีหลัก รวมทั้งมีการนำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวนการสืบสวนสอบสวน และไม่มีการอายัดเรือ ไม่มีการตรวจสารเสพติดคนบนเรือให้ครบ รวมทั้งมีการแถลงข่าวอันเป็นเท็จที่สร้างความเสียหายให้ สตช.อย่างร้ายแรง ตนจึงได้มาร้อง ผบตร.ให้มีคำสั่งย้ายทั้ง 4 คน และให้มีการตั้งกรรมการสอบวินัย
ผบ.ตร. ออกโรงสยบ-จ่อฟ้อง
แต่สิ่งที่นายอัจฉริยะ ได้เดินหน้าติดตามคดีแตงโม นั้นต้องสะดุดลงอีกครั้ง เมื่อ 12 พฤษภาคม 2565 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ออกมากล่าวถึงการออกมาเคลื่อนไหวของนายอัจฉริยะ ในคดีของแตงโม ว่า การสอบสวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม ไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ
ร่องรอยบาดแผลที่พบบนร่างของผู้เสียชีวิตที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่อาจเกิดจากของมีคม เช่น มีด เรื่องนี้พนักงานสอบสวนยืนยันว่าพยานหลักฐานในจุดเกิดเหตุไม่พบมีด หรือของมีคม
อีกทั้งคดีแตงโม ตำรวจมีการสอบสวนในรูปแบบคณะกรรมการสอบสวนชุดใหญ่ ไม่มีการตั้งธงการสอบสวนของคดี แต่ต้องทำไปตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ และเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง
สำนวนการสอบสวนคดีนี้ ตำรวจส่งกลับไปให้อัยการแล้วหลังสอบสวนเพิ่ม 20 ประเด็นตามที่อัยการให้ความเห็นมา แต่หากมีประเด็นใดที่จำเป็นต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้รัดกุมมากขึ้น สามารถสอบสวนเพิ่มได้ในอนาคต
หากคดีแตงโม เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล เชื่อว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว คดีจะคลี่คลายตอบข้อสงสัยของสังคมได้
กรณีที่มีการนำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงพาดพิงให้การทำงานของตำรวจเสื่อมเสีย ตำรวจมีความจำเป็นต้องพิจารณาใช้กฎหมายที่มีอยู่ในการดำเนินคดีเพื่อปกป้องการทำงาน โดยให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะถ้าหากตำรวจนิ่งเฉย ไม่บังคับใช้กฎหมาย อาจเท่ากับยอมรับว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นความจริง
เป็นอันว่าในขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจการดำเนินการใดๆ เพื่อหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของคดีคงเป็นไปได้ยาก เมื่อ ผบ.ตร.ได้ออกมายืนยันการทำงานของตำรวจนนทบุรี เจ้าของคดีไม่มีเรื่องการสร้างพยานหลักฐานเท็จ แถมยังเตรียมดำเนินคดีกับบุคคลที่เสนอข้อมูลข้อเท็จจริงพาดพิงให้การทำงานของตำรวจเสื่อมเสีย
ภาพลักษณ์-ความเชื่อมั่น
การเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม ตลอดระยะเวลาของการทำคดีนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สร้างความสงสัยให้คนที่ติดตามเรื่องนี้มากมาย ข้อสงสัยหลายเรื่องไม่ได้รับคำตอบ ขณะที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้จริงๆ คือนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของผู้เสียชีวิตที่พอใจกับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่บุคคลอื่นที่เข้ามาร่วมแสวงหาข้อมูลหลักฐานเพื่อสืบค้นความจริง ด้วยการตั้งข้อสงสัยว่าคดีนี้อาจไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาบนเรือ
ขณะที่ผลการสอบสวนของคดีจะมีต่อเมื่อตำรวจแถลงข่าว รวมถึงการไม่ให้สัมภาษณ์ของผู้ต้องหา ด้วยสูตรสำเร็จที่ว่า “เป็นความลับในสำนวน” หรือ “ทุกอย่างอยู่ในสำนวน” กลายเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดหลายคนจึงโพสต์ระบายความรู้สึก และตามมาด้วยการถูกฟ้องหมิ่นประมาท
คนทั่วไปเขาสงสัยกันตั้งแต่แรกแล้ว ทั้งเรื่องการเปลี่ยนสถานที่ในการพิสูจน์ศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาเป็นสถาบันนิติเวช สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่อายัดพยานหลักฐานโดยทันที รวมทั้งไม่ตรวจร่างกายผู้ต้องหาโดยทันที และยังมีอีกหลายเรื่องที่ผู้คนทั้งประเทศเขาสงสัยกัน
ยิ่ง ผบ.ตร.ออกมาปกป้องการทำงานของตำรวจที่ทำคดียิ่งเพิ่มความเคลือบแคลงยังคงอยู่ในใจมากขึ้น คดีของแตงโม จึงทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจดูแย่ลงเรื่อยๆ กลายเป็นการลดทอนความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ
ศึกตำรวจ : ประชาชน
ที่ผ่านมา คดีของแตงโม เกิดความเห็นต่างในการทำคดีระหว่างตำรวจนนทบุรีเจ้าของคดีกับภาคประชาชนที่เกิดข้อสงสัยในการทำคดีจนมีความพยายามในการแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อมาหักล้าง แม้จะมีการร้องเรียนไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวน ร้องไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทุกฝ่ายเงียบทั้งหมด มีเพียงกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ที่เข้ามาระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายแม่ของแตงโมทำเรื่องถอน
ตอนนี้จึงกลายเป็นการปะทะกันระหว่างภาคประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายตำรวจมีการฟ้องข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงานกับทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยเฉพาะนายอัจฉริยะ อาจถูกฟ้องร้องเพิ่ม ตำรวจถือเป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ไม่มีหน่วยงานใดตรวจสอบการทำงาน ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี แม้ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะออกมากำชับการทำงานของตำรวจในคดีนี้
แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนหนึ่งการทำงานของตำรวจอาจทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แต่ปัญหาคือยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นในการทำคดีให้ประชาชนที่ให้ความสนใจคดีนี้อยู่ได้
ปลายทางรอลงอาญา
เมื่อตำรวจมั่นใจเดินหน้าในพยานหลักฐานที่มี รวมทั้งส่วนเพิ่มเติมตามที่อัยการสั่งอีก 20 ประเด็น แต่มีข้อน่าสังเกตว่า ที่ผ่านมาอัยการได้เชิญแพทย์ที่ชันสูตรร่างแตงโม เข้าพบอัยการต้องนำสิ่งที่พนักงานสอบสวนส่งผลเพิ่มเติมกลับไปพิจารณาอีกครั้ง และยังสามารถสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมได้อีก จากนั้นอาจพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง หากสั่งฟ้องเรื่องจึงเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล ตามเส้นทางนี้ทนายความหลายสำนักเห็นตรงกันว่า ข้อหาที่กระทำการโดยประมาท ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการรอลงอาญา
แม้ระหว่างนี้อาจมีหน่วยงานอื่น อย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ อาจเข้ามาทำคดีนี้ได้ แต่ดูแนวโน้มแล้วคงมีความเป็นไปได้น้อย เดิมเคยมีแนวโน้มจะรับเป็นคดีพิเศษแต่หลังเทศกาลสงกรานต์ทุกอย่างก็เงียบ
คดีของแตงโมแม้จะผ่านชั้นของตำรวจไปแล้ว แต่ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป ทั้งในชั้นอัยการ และชั้นศาล
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4jvNjo/