จับตาผลสำรวจของ ‘นิด้าโพล’ 13 พ.ค. จะฟันธงได้หรือไม่ว่า ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ เข้าเส้นชัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.ถึง 98% อีก 2% อาจมีอะไรคาดไม่ถึง ‘ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์’ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ ชี้ประชาชนก้าวผ่านทักษิณได้แล้ว ทำให้กระแสโจมตีชัชชาติ ทั้งเรื่อง ‘ความสัมพันธ์-ICAO-3นิ้ว-#รักใครชอบใคร#ตามสะดวก’ ไม่ได้ผล ส่งผลโพลครั้งที่ 2 คะแนน “ชัชชาติ” นำโด่ง ระบุชัดเกมล้ม ‘ชัชชาติ’ มีเพียง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ คนเดียวเท่านั้นที่จะน็อก ‘ชัชชาติ’ ชวดเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ได้สำเร็จ แจงดีลลับ ‘ทักษิณ-บิ๊กป้อม’ ของจริงหรือแค่ข่าวลือ เผยนิด้าโพลพร้อมส่งผลทำนายใครคือผู้ว่าฯ กทม. ทันทีที่ปิดหีบเลือกตั้ง 22 พ.ค.นี้
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค.นี้ หากติดตามดูผลโพลแต่ละสำนักจะพบว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (อิสระ) ยังคงมีคะแนนนำมาเป็นอันดับ 1 โดยตลอด ทั้งนิด้าโพล ซูเปอร์โพล สวนดุสิตโพล เป็นต้น แต่เมื่อยังไม่มีการหย่อนบัตรก็ใช่ว่าผู้สมัครผู้ว่าฯ คนอื่นๆ จะหมดโอกาสคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
เพียงแต่ว่าจะมีหมัดเด็ดอะไรที่จะ ‘น็อก’ เพื่อดึงคะแนนนายชัชชาติ ให้ร่วงลงมาได้อย่างฉับพลัน พร้อมๆ กับดันคะแนนของตัวเองขึ้นมาให้ได้จึงจะมีโอกาสชนะเลือกตั้ง
เพราะที่ผ่านมาแม้นายชัชชาติ จะถูกกระแสโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ทักษิณ-ชัชชาติ-เพื่อไทย’ และการที่เพื่อไทยเลือกส่งเฉพาะ ส.ก. แต่ไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. รวมไปถึงการโจมตีนายชัชชาติ ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ลงนามอนุมัติให้เปิดสายการบินเอกชนประมาณ 40 สายการบินในระยะเวลาเพียง 1 ปี ซึ่งต่อมาเป็นผลให้ ICAO ปักธงแดงให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน
พร้อมๆ กับการปล่อยภาพคู่แชร์กันสนั่นระหว่างนายชัชชาติ กับแก๊งล้มเจ้า ไม่ว่าจะเป็นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายรังสิมันต์ โรม และผู้ชุมนุมชู 3 นิ้ว หรือรูปกราฟิก # รักใคร ชอบใคร#ตามสะดวก ที่มีการแชร์สนั่นในโลกออนไลน์ก็ตาม
แต่ทั้งหมดยังไม่สามารถทำให้คะแนนนายชัชชาติ ตามผลโพลจากสำนักต่างๆ ร่วงลงมาได้!
ส่งผลให้คอการเมืองและวงสภากาแฟ ตั้งคำถามตามมาว่าอะไรคือหมัดเด็ดที่จะซัดนายชัชชาติ ชนิดที่หมัดเดียวจอด คะแนนร่วงในทันที จนทำให้คู่ท้าชิงคนอื่นคว้าชัยชนะครั้งนี้ได้
โดย ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ ซึ่งได้ทำโพลที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาเป็นเวลาหลายครั้ง ตั้งแต่เรื่อง ‘อยากได้ใครเป็นผู้ว่าฯ กทม.” รวม 11 ครั้ง และล่าสุด เรื่อง ‘สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.65 รอบที่ 1’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 5-7 เม.ย. และรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 27-29 เม.ย.ที่ผ่านมา จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิเลือกตั้งใน กทม. ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 50 เขต กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ จำนวน 1,357 หน่วยตัวอย่าง ซึ่งผลโพลทุกครั้งนายชัชชาติ จะยังคงนำมาเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง
“โพลสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ รอบที่ 2 คำถามว่าบุคคลที่ประชาชนจะเลือกให้เป็นผู้ว่าฯ พบว่าคะแนนอาจารย์ชัชชาติ ได้ถึง 44.58% ซึ่งรอบแรกได้เพียง 38.84% แปลว่าคนให้ความสนใจอาจารย์ชัชชาติจริงๆ”
ส่วนการทำโพลรอบที่ 3 จะเก็บข้อมูลในวันที่ 9-11พ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยผลโพลในวันที่ 13 พ.ค. สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้าผลโพลครั้งที่ 3 ออกมาและคะแนนของนายชัชชาติ ขยับขึ้นมาได้ถึง 50% แปลว่าคะแนนนายชัชชาติ เข้าเส้นชัยแล้ว
ผศ.ดร.สุวิชา บอกอีกว่า โพลครั้งที่ 2 พบว่าคะแนนของนายชัชชาติ ขยับขึ้นไปได้อีก 6% จากผลโพลครั้งที่ 1 และทิ้งห่างอันดับที่ 2 เกือบ 4 เท่า ส่วน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เข้าที่ 3 คะแนนครั้งที่ 2 ดีขึ้นเพียง 1% ซึ่งผลคะแนนครั้งที่ 2 ชัดขึ้น และมีการทิ้งห่างมากขึ้นเป็นผลมาจากคนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร เริ่มมีการตัดสินใจแล้วท่ามกลางกระแสโจมตีนายชัชชาติ
“เรื่องที่พูดๆ กันถึงความสัมพันธ์ ชัชชาติ ทักษิณ เพื่อไทย เรื่อง ICAO เรื่อง 3 นิ้ว แต่ก็ยังไม่เห็นทำอะไรอาจารย์ชัชชาติ ได้ เป็นเพราะคนจำนวนมากก้าวข้ามนายทักษิณไปแล้ว รวมทั้งเพื่อนๆ ผมหลายคนในกลุ่ม กปปส.ด้วย ก็ไม่สนใจว่าอาจารย์ชัชชาติ จะสนิทกับนายทักษิณอย่างไร แต่วันนี้อยากได้คนนี้แหละเป็นผู้ว่าฯ กทม. ส่งผลให้คะแนนอาจารย์ชัชชาติ ขึ้นมาจนทิ้งห่างคู่แข่งมาก”
อีกทั้งเป็นความฉลาดของนายชัชชาติ ที่เลี่ยงจะไม่ตอบ ไม่เล่นตามกระแส ไม่ตอบโต้ ปล่อยให้เป็น fakenews ด้วยการใช้ความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวและเดินหน้าหาเสียงโดยไม่สนใจกระแสโจมตีใดๆ จึงทำให้คะแนนของเขาดีขึ้นๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนในช่วงอายุ 26-35 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี เคยได้ 43% ก็ขยับขึ้นเป็น 61%
“บิ๊กวิน จะได้น้อยในกลุ่ม 18-35 ปี แต่กลุ่มคนอายุ 45-60 ปี เป็นฐานของบิ๊กวินไปเต็มๆ โดยเฉพาะคนในชุมชน ซึ่งได้มีการปูฐานเสียงจากทีมรักษ์กรุงเทพไว้ดีมากๆ”
อย่างไรก็ดี ผศ.ดร.สุวิชา ย้ำว่า จากการเก็บข้อมูลของนิด้าโพลที่ทำมาอย่างต่อเนื่องและโพลสำนักอื่นๆ ซึ่งแม้จะมีวิธีเก็บข้อมูลที่แตกต่างกัน แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันจะเห็นว่ามีความสอดคล้องกันคือ นายชัชชาติ ได้อันดับ 1 ส่วนอันดับที่ 2 จะมีความแตกต่างกันไปบ้าง ตรงนี้ทำให้เราเชื่อว่า 98% นายชัชชาติ ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ส่วนอีก 2% อาจมีอะไรที่เราไม่คาดคิดทำให้นายชัชชาติ ชวดเก้าอี้ก็มีโอกาสเป็นไปได้แม้จะ 2% ก็ตาม
ดังนั้น ผู้สมัครคนอื่นๆ หรือพรรคการเมืองอื่นๆ หากต้องการจะชนะ จะต้องหาวิธีการที่จะดึงคะแนนนายชัชชาติ ลงมาให้ได้ พร้อมๆ กับทำอย่างไรให้คะแนนความนิยมของตัวเองพุ่งสูงขึ้นไปได้ด้วย ปัจจุบันเหลือเวลาเพียง 10 กว่าวันจะมีการหย่อนบัตรแล้ว
สำหรับผลนิด้าโพลรอบที่ 3 ที่จะประกาศในวันที่ 13 พ.ค.นั้นจะสะท้อนว่านายชัชชาติ จะเข้าวินแล้วหรือไม่ ส่วนที่ 2 น่าจะเป็น พล.ต.อ.อัศวิน ส่วนอันดับที่ 3 และ 4 ก็น่าจะสลับกันไปมาระหว่าง นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ‘พี่เอ้’ จากพรรคประชาธิปัตย์ กับนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล ซึ่งนายวิโรจน์ ได้คะแนนของช่วงอายุ 18-25 ปี ประมาณ 6% ส่วนคนอายุ 45 ขึ้นไปไม่เลือกนายวิโรจน์
“เราจะเปิดผลโพลครั้งที่ 3 วันที่ 13 พ.ค. ส่วน 7 วันก่อนการเลือกตั้ง เราจะเปิดผลอะไรไม่ได้อีกตามกฎหมาย แต่เราจะมีการเก็บข้อมูล 3 วันก่อนการเลือกตั้งคือ 19-21 พ.ค. เป็นรอบทายว่าใครได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. คาดว่าจะมีกลุ่มตัวอย่างเพิ่มขึ้นอาจถึง 2,500 ตัวอย่าง แบ่งตามสัดส่วนเขต ประชากร ชาย หญิง อายุ ตามหลักสถิติทั้งสิ้น และจะมีผลวิเคราะห์ชัดเจนใครได้เป็นผู้ว่าฯ และอันดับต่างๆ คะแนนเป็นอย่างไร ซึ่งเราจะส่งผลช่วง 16.00 น ของวันเลือกตั้ง 22 พ.ค. และระบุไว้ชัดว่าให้เปิดเผยหลังมีการปิดหีบเลือกตั้ง เพื่อให้สื่อมวลชนไปทำกราฟิกนำเสนอผลได้ทันทีเช่นกัน”
ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ ได้เคยวิเคราะห์ไว้ในช่วงที่มีการเปิดรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.ไว้ว่าโอกาสที่จะดึงคะแนนนายชัชชาติ ลงมาได้จนทำให้คู่แข่งชนะจะต้องมีคู่แข่งที่มีโปรไฟล์ดี สดใหม่ เป็นนักบริหาร และประชาชนยอมรับ เช่น ผู้ว่าฯ หมูป่า (ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าปทุมธานี) มาลงสมัครให้ได้ หรือมีการเทคะแนนให้กันระหว่าง พล.ต.อ.อัศวิน ดร.สุชัชวีร์ นายสกลธี ภัททิยะกุล ซึ่งเป็นฐานเสียงเดียวกันให้เหลือเพียง 1 คน รวมไปถึงการที่นายชัชชาติ ไม่สามารถตอบข้อโจมตีในเรื่องความสัมพันธ์กับนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทยได้ จะเป็นสาเหตุดึงคะแนนให้ลดลงมาได้ แต่วันนี้ทั้ง 3 ประเด็นไม่ใช่หมัดน็อกนายชัชชาติ อีกต่อไป
โดยจากข้อมูลและการวิเคราะห์ยังไม่เห็นประเด็นที่จะทำให้คะแนนนายชัชชาติ ร่วงลงมาได้ แต่ยังมีช่องที่คนกลุ่มหนึ่งมองว่าอาจเกิดจากประเด็นการเมืองระดับชาติเข้ามาเอี่ยว เพราะสังคมยังไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงที่มีข่าวลือว่ามีดีลสำคัญระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และรองนายกรัฐมนตรีได้มีพบปะหรือพูดคุยอะไร กับนายทักษิณ ชินวัตร จริงหรือไม่? และถ้าจริงมีการพูดถึงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่?
“ถ้ามีจริงใครขอใคร และขออย่างไร ถ้าบิ๊กป้อม ขอเพื่อให้ผู้ว่าฯ กทม.เป็นของฝั่งตัวเอง ทักษิณ จะยอมหรือไม่ หรือทักษิณ ขอให้เป็นชัชชาติ ทุกอย่างก็จบ”
นอกจากนี้ หากมีประเด็นหลุดปากแบบไม่ตั้งใจจากนายทักษิณ ชินวัตร ถึงความสัมพันธ์กับนายชัชชาติ และบอกว่าให้การสนับสนุนนายชัชชาติ เป็นผู้ว่าฯ กทม.เพื่อร่วมมือทำแลนด์สไลด์ด้วยกัน ตรงนี้จะทำให้คนที่เกลียดนายทักษิณ และเคยจะหนุนนายชัชชาติ อาจจะถอยทันทีก็เป็นได้ แม้จะมีความคิดว่าก้าวผ่านนายทักษิณ ไปแล้วก็ตาม จะทำให้นายชัชชาติ ตายได้ทันที!
“ไม่ว่าทักษิณจะหลุดปากถึงความสัมพันธ์กับชัชชาติ หรือสั่งเพื่อไทยไม่ให้หนุนชัชชาติ ก็เป็นเหตุให้คะแนนนายชัชชาติ ดิ่งลงได้แน่ๆ แค่ทำให้ชัชชาติ ร่วงลงมากว่า 10% เหลือแค่ 30% จะทำให้คนที่ได้อันดับ 2 มีโอกาสแซงชัชชาติได้”
ถึงวันนี้จึงเชื่อว่าผู้ที่จะทำให้คะแนนชัชชาติ ร่วงลงมาได้มีเพียงนายทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น แต่โอกาสที่นายทักษิณ จะกระทำเช่นนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ส่งผลให้วันนี้ยังคงเป็นโอกาสของชัชชาติ ที่จะเข้าเส้นชัยเป็นผู้ว่าฯ กทม.
“ชัยชนะของอาจารย์ชัชชาติ อาจเป็นบทเรียนให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองต่างๆ ได้ศึกษาถึงความชัดเจนในการเปิดตัวลงสนามมาร่วม 2 ปี เดินหาเสียงก่อน ลุยกันทุกพื้นที่จนสามารถเข้าไปอยู่ในใจของประชาชนใน กทม.ได้ ขณะที่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองอื่นล่าช้าไม่ตัดสินใจ ทำให้ปลุกคะแนนไม่ขึ้นจนต้องพลาดเก้าอี้ครั้งนี้หรือไม่
จากนี้ไปต้องติดตามว่าจะมีประเด็นการเมืองอะไรออกมาโจมตีเพื่อฉุดคะแนนของชัชชาติ ลงมาได้หรือไม่? รวมทั้งต้องติดตามผลของนิด้าโพลในวันที่ 13 พ.ค.นี้ จะสามารถฟันธงได้หรือไม่ว่าชัชชาติ คือผู้ว่าฯ กทม.แน่นอน พร้อมๆ กับติดตามดูผลโพลของสถาบันพระปกเกล้า หัวข้อ "ศึกษาพฤติกรรมของประชาชนในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร" ซึ่งมีการปิดรับผลศึกษาในวันที่ 9 พ.ค.จะออกมาเช่นไร และนายชัชชาติ จะมีคะแนนนำโด่งอีกหรือไม่?
แต่ที่แน่ๆ วันที่ 22 พ.ค.นี้อย่าลืมไปเข้าคูหาเลือกผู้ว่าฯ กทม.!
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4jvNjo/