xs
xsm
sm
md
lg

ลั่นกลองศึก! ชิงผู้ว่าฯ กทม. เดิมพัน ‘34’ ที่นั่ง ใช้ IO ถล่มคู่แข่ง จับตา ‘นิวโหวตเตอร์’ 6 แสนคนเทใคร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.บรรยากาศคึกคัก สายมูเตลู เชื่อ ‘ชัชชาติ’ ได้เบอร์ 8 โชคดีเป็นเลขพระราหู ส่วน ดร.เอ้ แม้ได้เบอร์ 4 แต่พร้อมเดินหน้ารับใช้พี่น้องคน กทม. แจงศึกเลือกตั้งครั้งนี้มีเดิมพันพรรคไหนจะได้ปักธงใน กทม. ส่งผลให้แข่งเดือด และใช้ปฏิบัติการ IO ทุกรูปแบบถล่มคู่ต่อสู้ ชี้ ‘ชัชชาติ-ดร.เอ้’  มีหนาวเผยมีคนไล่เก็บข้อมูลใน สจล.พร้อมถล่มหาก ดร.เอ้ ปลุกกระแสขึ้นมาสู้คู่แข่งได้ ส่วน ‘ชัชชาติ’ ต้องเคลียร์ ‘สัมพันธ์เพื่อไทย-มุสลิม-3 นิ้ว’ ด้าน ‘วิโรจน์’ มีจุดขายชัด ขณะที่ ‘บิ๊กวิน’ อาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด และพลังหนุนอาจจะไปอยู่ที่ ‘สกลธี’ จับตานิวโหวตเตอร์ 5-6 แสนคน จะเทไปที่ผู้สมัครคนใด ส่วนพรรคเจ๊หน่อย ถูกจับตาทำเพื่อใคร หรือต้องการเตะตัดขาใครกันแน่

31 มี.ค.2565  เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) บรรยากาศดูคึกคัก มีรถหาเสียงวิ่งติดรูปผู้สมัครจำนวนมาก และผู้สมัครต่างเดินทางมาพร้อมป้ายหาเสียงที่มีการเว้นช่องหมาย
เลขไว้เพื่อรอผลการจับสลากหมายเลข ซึ่งใครที่เป็นสายมูเตลู ติดตามหมอดูชื่อดังจะได้ยินได้ฟังถึงเรื่องดาวราหูมีการย้ายครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา เช่น หมอช้าง ‘ทศพร ศรีตุลา’ บอกไว้ว่ากลุ่มราศีที่ราหูย้ายออก คือ ราศีพฤษภ และราศีพิจิก หลังโดนจัดหนักมาปีกว่า โดยเฉพาะราศีพฤษภ จะมีข่าวดีหลัง 30 มีนาคม 2565 ไปแล้ว  

“ราศีพฤษภ หลังราหูย้ายออกสิ่งไม่ดีออกไป งานสดใส หลัง 30 มีนาคม ทางสว่าง เริ่มสิ่งใหม่ ทางดีขึ้น”  

อีกทั้งยังมีการพูดถึงเลขของพระราหูและเลขกำลังของพระราหูตามลำดับ โดยชี้ไปที่เลข 8 และ 12


ดังนั้น การจับสลากหมายเลขผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในวันนี้ (31 มี.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ เจ้าของฉายา ‘รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี’ ได้หมายเลข ‘8’  ทำให้นายชัชชาติ และทีมงานเชื่อว่านี่คือเลขนำโชคจากพระราหู ซึ่งตรงกับความเชื่อของคนจีนว่าเลข ‘8’ คือเลขนำโชค ประกอบกับนายชัชชาติ มีเดือนเกิดอยู่ในราศีพฤษภด้วย

ส่วน ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ‘พี่เอ้ - ดร.เอ้’ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะได้หมายเลข 4 ที่คนจีนไม่นิยม มองว่าเลขนี้ไม่มีความเป็นมงคลใดๆ แต่ ดร.เอ้ ได้ประกาศ “จะใช้เบอร์ 4 ให้ได้ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนกรุงเทพมหานครให้ได้” พร้อมเดินหน้าหาเสียงไปยังพื้นที่ต่างๆ ของ กทม.ต่อไป

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่เพิ่งลาออกจากผู้ว่าฯ กทม.เพื่อมาลงสมัครอิสระ ถือเป็นบุคคลที่ได้รับแรงสนับสนุนมากที่สุด ทั้งจากพรรคการเมือง นักการเมือง ข้าราชการ กทม. ทหาร ตำรวจ รวมทั้งคน กทม.เพราะนั่งบริหาร กทม.มาเกือบ 10 ปี ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สุดของเขาที่สามารถเข้าถึงเกือบจะทุกพื้นที่ของ กทม.

วันนี้ ‘บิ๊กวิน’ ได้หมายเลข 6 ในทางศาสตร์ตัวเลขของจีนเลข 6 ถือเป็นเลขนำโชคเช่นกัน และอาจจะเป็นอย่างที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและเคยลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. 2 ครั้ง ได้วิเคราะห์สั้นๆ ว่า “อัศวินจะเป็นม้ามืด” พร้อมเตือนนายชัชชาติ อย่าไปคิดนอนใจในโพล

ด้านผู้สมัครพรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่หาเสียงแบบหวือหวา เช่นกรณีจะทวงคืนสนามหลวงเพื่อให้ประชาชนได้ใช้ ซึ่งถือว่าได้ใจคนบางกลุ่ม วันนี้ได้หมายเลข 1 ซึ่งในศาสตร์ตัวเลขจีนมองว่า ‘1’ ให้ความหมายโดดเดี่ยว จึงจัดว่าเลขไม่เป็นมงคล

แต่ซินแสเป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร กลับมองตรงกันข้าม โดยเคยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงเลข 0-9 ไว้ว่าเลข 1 มีความหมายว่า พบเจอชัยชนะ!


อย่างไรก็ดี นั่นเป็นเพียงหมายเลขประจำตัวของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.เท่านั้น แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่บรรดาพรรคการเมืองและผู้สมัครอิสระเชื่อว่าศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ร้อนแรงและดุเดือดมากแน่นอน

เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีเดิมพันว่าพรรคไหนจะปักธงใน กทม.ได้!

แหล่งข่าวจากพรรคร่วมรัฐบาล บอกว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้มี 2 นัยซ้อนกันอยู่ ซึ่งถือเป็นการมองข้ามช็อต คือ

1.เป็นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2.เป็นการปักธงเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคต่างๆ ใน กทม. ดังนั้น สิ่งที่จะเห็นจากนี้ไปไม่ใช่เพียงรูปแบบการทำลายป้ายหาเสียงของคู่ต่อสู้แบบเดิมๆ หรือการย้ายป้ายคู่แข่งไปในพื้นที่ห้ามหาเสียง แต่จะเป็นการใช้กลยุทธ์ IO : lnformation Operation ซึ่งเป็นยุทธการทางข้อมูลข่าวสารโจมตีคู่ต่อสู้ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่เป็นเครือข่ายสนับสนุนพรรค หรือผู้สมัครของตัวเอง ซึ่งจะมีทั้งปล่อยข่าวลับ แพร่ข่าวลวง และข่าวบิดเบือน เป็นต้น

“IO จะเป็นกลยุทธ์ทำร้ายคู่ต่อสู้ได้ดีที่สุดในยุคนี้ ต้องไปดูกันว่าสื่อเครือข่ายไหนสนับสนุนผู้สมัครคนใด ถ้าพรรคหรือผู้สมัครแก้เกมไม่ทันประชาชนหลงเชื่อที่ถูกปล่อยออกมาโดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายโอกาสพ่ายแพ้มีสูงที่สุด”



ตัวอย่างกรณีที่ ดร.เอ้ โดนมาแล้วมีการขุดเรื่องความร่ำรวยผิดปกติออกมาโจมตีช่วงเปิดตัวลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อว่าปัจจุบันยังมีการส่งคนเข้าไปขุดข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเก็บไว้เวลาจำเป็น ในสมัยที่ ดร.เอ้ เป็นอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ไว้อีก

“ถ้าคะแนน ดร.เอ้ ไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นก็ไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ก.ในพื้นที่ลุยงานหาเสียงจนดันคะแนน ดร.เอ้ ขึ้นมาได้เชื่อว่าข้อมูลพวกนี้ถูกเอาออกมาถล่มอีกแน่”

นอกจากนี้ นายชัชชาติ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่โดน IO มาแล้วและจะโดนหนักขึ้น ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ต้องการจะให้นายชัชชาติ ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. เพราะถ้าได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ก็เป็นโอกาสให้พรรคเพื่อไทยปักธงในพื้นที่ กทม.ได้ด้วย

สำหรับประเด็นต่างๆ ที่ นายชัชชาติ จะถูกโจมตีนั้นจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยที่ถือเป็นจุดอ่อนที่นายชัชชาติ จะต้องแก้ให้ได้เพราะนายชัชชาติ เคยเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยมาก่อน

“3 เรื่องที่ชัชชาติ ต้องชัดเจน คือ เรื่องความสัมพันธ์เพื่อไทย เรื่องหาเสียงพบปะกับชาวไทยมุสลิม มีประชาชนพื้นที่นั้นประกาศให้กำลังใจคณะหาเสียงของนายชัชชาติ ว่าเพื่อไทยสู้ๆ เพื่อไทยชนะอยู่แล้ว และเรื่องความสัมพันธ์กับพวก 3 กีบ ทุกอย่างต้องอธิบายได้”

ว่ากันว่า IO ครั้งนี้จะเป็นการโจมตีว่าหาก นายชัชชาติ แพ้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็จะกลับไปอยู่ในระดับแกนนำของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเรื่องนี้นายชัชชาติ เคยประกาศให้สังคมได้รับรู้แล้วว่าถ้าไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ก็จะยุติบทบาททางการเมือง และจะหันไปทำงานด้านสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมในด้านต่างๆ 


“ปัจจุบัน นายชัชชาติ ยืนยันถ้าไม่ได้รับเลือกตั้งก็จะยุติบทบาท เพราะขนาดลงพื้นที่มากี่ปี เข้าใจเรื่องของท้องถิ่น พร้อมที่จะบริหารเพื่อให้คน กทม.มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นประชาชนยังไม่เอาเลย ผู้ว่าฯ กทม.ยังเป็นไม่ได้แล้วจะไปเป็นอะไรได้อีก”

แหล่งข่าวระดับแกนนำของนายชัชชาติ ยืนยันว่า เป็นเรื่องจริงที่ว่านายชัชชาติ จะวางมือหากไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ เพราะนายชัชชาติ ต้องการแสดงเจตจำนงและบอกกับคน กทม.ทุกคนได้รับรู้ว่าเขาได้ตัดความสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทยเด็ดขาด จึงเลือกที่จะลงในนามอิสระ เพราะการเป็นผู้ว่าฯ กทม.ต้องทำงานกับรัฐบาลได้ทุกพรรคจึงต้องมีความชัดเจน

“เรื่องนี้นายชัชชาติ และพวกเรารู้ว่ามีกลุ่มคนพยายามจะปั่นกระแสให้เราใกล้ชิดเพื่อไทย เพื่อไม่ให้กลุ่มที่ถูกเรียกว่าสลิ่มเลือกนายชัชชาติ และมี IO อีกฝ่ายที่ต้องการให้เราทะเลาะกับเพื่อไทย จะได้ไม่ให้พวกหนุนเพื่อไทยมาเลือกชัชชาติ ก็พอจะรู้ว่าเป็นกลุ่มไหนที่กำลังปล่อยเรื่องนี้ เชื่อว่ายิ่งใกล้ๆ เลือกตั้งนายชัชชาติ ถูกจัดหนักประเด็นนี้แน่”


แหล่งข่าวบอกอีกว่า จากนี้ไปการหาเสียงจะเริ่มเข้มข้นและดุดันขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้เป็นการวางกลยุทธ์ไปสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเลือกตั้ง ส.ส.และพื้นที่ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และพรรคร่วมรัฐบาลไม่ต้องการที่จะให้พรรคฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย หรือก้าวไกล ยึดพื้นที่ได้ ส่งผลให้พรรคร่วมรัฐบาลต้องลงมาเพื่อช่วยผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นพวกของตัวเองได้ชัยชนะ

“นายกฯ ตู่ หมดกระดานเล่น ต้องสู้ เลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า กทม.มี ส.ส.ได้ 34 คน จะปล่อยให้ชัชชาติ หรือวิโรจน์ จากพรรคก้าวไกลได้ไปหรือ ถ้า 1 ใน 2 คนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ต้องถามต่อว่าพรรคไหนจะได้ปักธงใน กทม.”

ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คือการเดิมพันว่าพรรคไหนจะได้ปักธงใน กทม.คว้าเก้าอี้ ส.ส. 34 ที่นั่งในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นต่อไป

โดยเฉพาะทุกพรรคกำลังประเมินข้อมูลเรื่องจำนวนประชากรที่มีสิทธิเลือกตั้ง หรืออายุ 18 ปีขึ้นไปใน กทม. ซึ่งกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุไว้ มีจำนวนทั้งสิ้น 4,556,776 ราย ในจำนวนนี้เป็นนิวโหวตเตอร์ หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก จำนวน 61,228 ราย กลุ่มนี้จะเทไปที่ผู้สมัครคนใดบ้าง

“เราไม่คิดนิวโหวตเตอร์จะมีแค่ 61,228 ราย เพราะมีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งสุดท้ายปี 2556 เวลานี้จึงมีนิวโหวตเตอร์ที่ยังไม่เคยได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มาแล้ว 9 ปี อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 27 ปี ซี่งทุกพรรค และผู้สมัครมองเห็นตัวเลขประมาณการจะอยู่ที่ 5-6 แสนคน ซึ่งก้าวไกลจะได้ไปบางส่วน แล้วที่เหลือผู้สมัครคนไหนจะได้กลุ่มนี้ไปบ้าง”

แหล่งข่าวประเมินอีกว่า พรรคก้าวไกลมีจุดขายที่ชัดเจนคือ ความเป็นประชาธิปไตยและต้องการขจัดความเหลื่อมล้ำให้ได้ ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงที่โดนใจพวกนิวโหวตเตอร์มาก และถ้าพรรคนี้สามารถดึงสลิ่มกลับใจไปได้อีก จะทำให้นายวิโรจน์ เป็นคู่แข่งที่น่ากังวลของนายชัชชาติ แน่นอน








“มีการประเมินกันเฉพาะตัวเด่นๆ เดิมมองว่าบิ๊กวิน ได้เปรียบจะสู้กับชัชชาติ โดยตรง แต่วันนี้ว่ากันว่าข้อมูลใหม่ พลังประชารัฐ ทหาร จะหันมาหนุน นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และกลุ่ม กปปส. ผู้สมัครอิสระแทนบิ๊กวิน ส่วนพรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ส่ง น.ต.ศิธา ทิวารี เบอร์ 11 ลงมา มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าพรรคนี้ต้องการช่วยพรรคไหนกันแน่”

ส่งผลให้พรรคการเมืองและผู้สมัครบางคน จึงหันไปวิเคราะห์และประเมินเขตพื้นที่ที่เคยถูกระบุว่าเป็นฐานเสียงคุณหญิงสุดารัตน์ โดยเฉพาะโซนเหนือ และตะวันออก ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคเพื่อไทย นั่นต้องการช่วยเหลือใคร หรือ เจตนาจะเตะตัดขาผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนใดกันแน่

จากนี้ไปสมรภูมิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ปฏิบัติการ IO ถล่มคู่ต่อสู้ ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง 22 พฤษภาคม เพราะศึกครั้งนี้ถูกมองข้ามช็อตไปถึงพรรคการเมืองไหนจะสามารถปักธง ส.ส.ใน กทม.ได้


ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่





กำลังโหลดความคิดเห็น