xs
xsm
sm
md
lg

เดิมพัน “วัดท่าไม้” ได้ไม่คุ้มเสีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทัวร์ลงวัดท่าไม้หลังหลวงพี่อุเทนโดดอุ้มบวช “ปอ-โรเบิร์ต” ผู้ต้องหาคดีแตงโมเสียชีวิต ศิษย์ลอกสติกเกอร์ทิ้ง ตรวจสอบรุกที่ธนารักษ์ ถูกขุดประวัติเน้น ดูดวง-แก้กรรม-บูชาราหูแต่รอด เพราะพระผู้ใหญ่หนุน เผยตำแหน่งพระญาณวิกรม (อดีต) พระพรหมดิลก (เอื้อน) เป็นผู้ผลักดันตู้รับบริจาคในวัด “ขอให้ได้สมบัติของคนอื่น” ถูกวิจารณ์ไปทั่ว

งานนี้วัดท่าไม้ได้ไม่คุ้มเสีย

นับเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของวัดท่าไม้ โดยพระญาณวิกรม (พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร) เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ที่ทำพิธีบวชให้นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ (ปอ) และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนา (โรเบิร์ต) 2 ผู้ต้องหาในคดีตกเรือเสียชีวิตของแตงโม นิดา ที่ผู้คนในสังคมมีข้อสงสัยถึงคดีดังกล่าวอาจมีเงื่อนงำ จนบรรดาชาวโซเชียลต้องช่วยกันสืบค้นหลักฐานต่างๆ

ความประสงค์ของผู้ต้องหาที่ระบุว่า ต้องการบวชเพื่ออุทิศบุญกุศลให้ดาราสาวที่เสียชีวิต กลายเป็นที่จับตากันว่าจะมีวัดใดกล้าบวชให้ เนื่องจากมีข้อจำกัดของมหาเถรสมาคมที่ห้ามพระอุปัชฌาย์บวชให้ผู้ที่มีคดีอาญา แต่ไฮโซปอ ระบุว่า จะทำการบวชที่วัดท่าไม้ 16 มีนาคม 2565

บทสรุปที่ออกมาคือ เป็นการบวชพราหมณ์ โกนผม ที่ธรรมสถานวิโมกสิวาลัย อำเภอสวนผึ้ง ราชบุรี สถานที่ปฏิบัติธรรมของวัดท่าไม้

หลวงพี่อุเทน ชี้แจงว่า การบวชไม่ได้จะทำให้ทั้ง 2 คนหนีคดีไปไหนได้ เพราะกระบวนการทางคดีมันมีขั้นตอนของมัน ก็ว่ากันไปในเรื่องกฎหมาย แต่ระหว่างที่เขามีจิตใจที่จะทำความดี จะต้องให้โอกาส ดีกว่าที่จะไม่ให้บวช แล้วให้เขาไปอยู่ข้างนอก มีโอกาสหนีคดีไปต่างประเทศอีก เรื่องนี้ไม่มีใครรู้ความจริงเท่ากับตัวเขาเอง

“จะต้องสนิทกับเขาก่อน ถ้าเขาใจเย็นลง เขาก็จะพูดความจริง”


หลวงพี่จัดให้

ภาพการบวช โกนผมถูกเผยแพร่จากวัดท่าไม้ รวมถึงกิจกรรมระหว่างบวชพราหมณ์มีสื่อติดตาม รวมถึงปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ถูกถ่ายทอดออกสู่สาธารณะ กลายเป็นอีกอีเวนต์หนึ่งของคดีดัง ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายคือผลของคดี เนื่องจากการบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตของผู้ต้องหา เป็นสูตรสำเร็จของทนายความที่มักแนะนำให้ลูกความ เพื่อแสดงให้ศาลเมตตาบรรเทาโทษ

ผลที่ตามมาจึงเกิดความไม่พอใจกับผู้ที่เคยไปทำบุญที่วัดท่าไม้ แกะลอกสติกเกอร์วัดท่าไม้ บริเวณหลังรถออก ตามมาด้วยการตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ของธรรมสถานวิโมกสิวาลัย ที่อำเภอสวนผึ้ง ผลตรวจสอบคือ รุกที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ แต่ทางวัดได้มีการแก้ไขเอกสารแล้วทำเป็นการขอเช่า

นับเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัดท่าไม้ จากผลของการหาทางออกให้ 2 ผู้ต้องหาคดีดัง ที่ต้องการจะบวช ไม่ว่าจะเกิดจากความสำนึกที่ดีหรือเพื่อผลทางคดี เมื่อบวชพระไม่ได้ เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ หาทางออกให้ด้วยการบวชพราหมณ์

ลามมาจนการขุดประวัติที่มาที่ไปของเจ้าอาวาสคนดัง เน้นเรื่องดูดวง แก้กรรม ต่อบุญ เสริมดวงชะตา พร้อมทั้งเรื่องราวสิ่งปลูกสร้างภายในวัดที่ครบถ้วนในการกราบไหว้ ราหู กวนอิม พระพิฆเนศ พระอินทร์ พระพรหม เจ้าแม่ตะเคียน รวมไปถึงสติกเกอร์วัดท่าไม้ตามท้ายรถ

โตเร็ว-พระผู้ใหญ่หนุน

แหล่งข่าวจากวงการสงฆ์กล่าวว่า ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่าท่านอุเทน ขึ้นเจ้าอาวาสเร็วมาก บวชแค่ 9 พรรษาได้เป็นเจ้าอาวาสแล้ว แถมปลุกให้วัดโนเนมอย่างวัดท่าไม้ กลายเป็นวัดดังระดับประเทศ ว่ากันตามตรงที่จริงท่านอยากอยู่ที่วัดท่ากระบือ ของหลวงพ่อรุ่ง แต่ที่นั่นมีบุคคลที่จะขึ้นเจ้าอาวาสอยู่แล้ว จึงได้รับคำแนะนำจากพระผู้ใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาคร ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ขณะนั้นเป็นวัดเล็กเงียบๆ คนไม่รู้จัก

ท่านอุเทน เข้าหาพระผู้ใหญ่เก่ง จึงได้รับความเมตตา เห็นได้จากเข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร ในปี พ.ศ.2547 แถมได้รับสมณศักดิ์ตั้งแต่ปีที่ครองเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ด้วยการเป็นพระครูสมุห์ ฐานานุกรมในพระราชสิทธิเวที ปี 2549 พระครูปลัด (ชั้นราช) ฐานานุกรมในพระราชสิทธิเวที

ปี 2555 เป็นพระครูปลัด (ชั้นเทพ) ฐานานุกรมในพระเทพสาครมุนี ปี 2558 เป็นพระครูปลัดสุวัฒนดิลกคุณ ฐานานุกรมใน พระพรหมดิลก ปี 2559 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ พระญาณวิกรม

คนในวงการสงฆ์ทราบดีว่าท่านดังมาจากเรื่องการดูดวง ทำให้มีลูกศิษย์ระดับเจ้าสัวเข้ามาที่วัดมากขึ้น ตามมาด้วยทหาร ตำรวจ และดารานักแสดง ที่วัดจะมีพิธีครอบครูประจำปีจึงทำให้คนในวงการบันเทิงเข้ามามากขึ้น

ประกอบกับการทำตลาดของวัดเรื่องสติกเกอร์ กลายเป็นแรงส่งให้วัดนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง รวมไปถึงการขึ้นป้ายงานวัดตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้คนทั่วไปได้เห็น

ดูดวง แก้กรรม สะเดาะห์เคราะห์ บูชาพระราหู เป็นสิ่งที่ถูกจริตคนไทย ที่สำคัญคือไม่เคยถูกเพ่งเล็งจากคณะสงฆ์ชั้นปกครอง ยิ่งทำให้วัดนี้โด่งดังมากขึ้น แต่คนในพื้นที่เองกลับเพิกเฉยกับวัดแห่งนี้ คนที่มาทำบุญส่วนใหญ่จึงเป็นคนต่างพื้นที่


(อดีต) พระพรหมดิลกผลักดัน

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2560 มหาเถรสมาคมมีนโยบายห้ามจำหน่ายวัตถุมงคลในอุโบสถ วัดท่าไม้ก็ถูกจับตาด้วยเช่นกัน แต่สังคมกลับไปเพ่งเล็งที่วัดไผ่ล้อม นครปฐม ของหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งมีกระเป๋าปลุกเสกที่สร้างความฮือฮา ทำให้วัดท่าไม้รอดพ้น

วัดที่มาแนวนี้ย่อมต้องมีพระชั้นปกครองกำกับดูแลอีกที ขึ้นอยู่กับว่าพระผู้ใหญ่นั้นมีบารมีแค่ไหน บางวัดที่ขึ้นกับพระผู้ใหญ่ที่อยู่ในช่วงขาลงก็อาจมีปัญหาได้ แต่ถ้าอยู่กับพระผู้ใหญ่ที่มีอำนาจเต็มในองค์กรสงฆ์ หนักก็เป็นเบาหรือไม่ถูกกล่าวถึงเลย

วัดท่าไม้ในระยะหลังขึ้นกับพระพรหมดิลก (อดีต) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ขณะนั้นดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม ถือว่าเป็นขั้วอำนาจที่มีบทบาทมาก การที่ท่านอุเทนได้รับสมณศักดิ์เป็นพระญาณวิกรม เจ้าคุณเอื้อน (อดีตพระพรหมดิลก) ท่านเป็นผู้ผลักดัน เนื่องจากเป็นพระฐานานุกรมของท่านเมื่อปี 2558

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 5 ธันวาคม 2559 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระบรมราชโองการพระราชทานสมณศักดิ์ให้พระครูปลัดสุวัฒนดิลกคุณ อุเทน วัดท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ มีนามว่า พระญาณวิกรม นับตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2559 เป็นต้นไป

ขบวนใหญ่ช่วง ม.44 ธรรมกาย

จากนั้นวัดท่าไม้ได้จัดพิธีอัญเชิญตราตั้ง หมายรับสั่ง และพัดยศสมณศักดิ์ พร้อมผ้าไตรจีรวรพระราชทานแก่พระญาณวิกรม (พระอาจารย์อุเทน สิริสาโร) เจ้าอาวาสวัดท่าไม้ เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2560

มีขบวนแห่ยิ่งใหญ่ ช้างเผือก 3 เชือก เชือกที่ 1 เป็นช้างเผือกอัญเชิญหมายรับสั่ง มีดีเจพุฒิและจุ๋ยวรัทยา เป็นผู้อัญเชิญ เชือกที่ 2 เป็นช้างเผือกอัญเชิญพัดยศสมณศักดิ์ มีนายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ เป็นผู้อัญเชิญ และเชือกที่ 3 เป็นช้างเผือกอัญเชิญผ้าไตรจีวรพระราชทาน มีป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ เป็นผู้อัญเชิญ

ครั้งนั้นพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยว่า วัดท่าไม้แม้จะเดินออกนอกกรอบแนวทางของพุทธศาสนาไปบ้าง แต่ไม่ถูกทักท้วงหรือตักเตือนจากพระปกครอง อีกทั้งช่วงนั้นเป็นช่วงที่รัฐบาลใช้มาตรา 44 ปิดล้อมวัดพระธรรมกายพอดี ทำให้พิธีแต่งตั้งของท่านอุเทน ไม่เป็นข่าวมากนัก


วัดดังต้องมีสาขา

วัดท่าไม้ดังได้จากเรื่องการดูดวง สะเดาะเคราะห์ แก้กรรม ทำการตลาดโปรโมตวัด วิ่งเข้าหาพระผู้ใหญ่ชั้นปกครอง จนไม่มีใครกล้าแตะต้อง เมื่อวัดดัง ลูกศิษย์มากขึ้น เงินทองมากขึ้น ก็ขยายพื้นที่ไปที่สวนผึ้ง ราชบุรี ในนามธรรมสถานวิโมกสิวาลัย ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของวัดดังๆ จะต้องมีศูนย์ปฏิบัติธรรมเป็นของตัวเอง

ที่ต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะแต่ละวัดจะมีแนวปฏิบัติตามความเชื่อของเจ้าอาวาส บางกิจกรรมอาจแปลกไป ไม่สอดคล้องกับวัดอื่นๆ ดังนั้นการมีพื้นที่เป็นของตัวเองจึงเป็นที่นิยมทำกันสำหรับวัดใหญ่ๆ ปัญหาเรื่องที่ดินกับกรมธนารักษ์คงจบด้วยสัญญาเช่า แม้ต้องจ่ายย้อนหลังคงไม่ใช่ปัญหากับทางวัด

อ่านเกมผิด

การโดดเข้ามาบวชให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ของคดีแตงโม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่งานนี้ถือเป็นการอ่านสถานการณ์ผิดพลาดของทางวัดท่าไม้ เพราะท่านอุเทนคงไม่มีใครคิดว่าเรื่องนี้จะขยายวงไปอย่างมากจนกลายเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ ทางวัดถูกมองว่าช่วยเหลือผู้ต้องหา แต่วัดเองมองว่าช่วยแตงโมที่เป็นลูกศิษย์

วัดอื่นไม่มีเจ้าอาวาสรายใดกล้าบวชให้ แม้จะสามารถเลี่ยงบวชพราหมณ์ให้เช่นเดียวกับวัดท่าไม้ เพราะมีความเสี่ยง ถือเป็นการหาทางออกให้ผู้ต้องหาเลี่ยงจากการบวชพระ ดังนั้น การที่วัดท่าไม้เข้ามารับหน้าที่บวชให้จึงต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างมากและเกิดภาพลบกับทางวัด

เบื้องต้น คงประเมินว่าถ้าทำแล้วเรื่องเบาลง ย่อมเป็นผลดีกับทางวัด อาจต่อยอดฐานลูกศิษย์กลุ่มบนๆ ได้ หรืออาจมั่นใจในลูกศิษย์ที่เป็นใหญ่เป็นโต อาจเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ทางวัดได้ แต่คดีนี้ใหญ่กว่าที่หลายคนคิด ดึงคนส่วนใหญ่ของประเทศให้เข้ามาติดตามได้อย่างใกล้ชิด จนเกิดการลอกสติกเกอร์วัดท่าไม้ออก ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีกับทางวัด

ที่ผ่านมา ทางวัดท่าไม้ มักถูกค่อนแคะจากชาวพุทธสายที่ยึดในหลักธรรมคำสอน เพราะการดูดวง แก้กรรม สะเดาะเคราะห์ไม่ใช่แนวทางของพุทธศาสนา


ขอให้ได้สมบัติของคนอื่น

วันนี้วัดท่าไม้ถูกจับตาจากผู้คนที่สนใจคดีการเสียชีวิตของดาราสาวแตงโม ทำให้วัดแห่งนี้ถูกขุดทั้งเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ เช่น ช่วงปี 2554 ทางวัดท่าไม้เคยมีข่าวว่ากองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เคยเข้าตรวจยึดอุปกรณ์บางอย่างได้ภายในวัด แต่ข่าวนี้ถูกปิดเงียบโดยลูกศิษย์ที่มียศตำแหน่งในวงการตำรวจ แต่คนในพื้นที่ทราบข่าวเรื่องนี้ดี

นอกจากนี้ ช่วงต้นปี 2558 หลวงพี่อุเทน ได้ยื่นหนังสือขอลาหยุดพักปฏิบัติหน้าที่จากตำแหน่งเจ้าอาวาสและฐานานุกรม ต่อเจ้าคณะตำบลบางยาง อำเภอกระทุ่มแบน โดยให้เหตุผลเรื่องการป่วย มีปัญหาญาติโยมขัดแย้งเป็นสองฝ่าย ไม่สามารถให้ปรองดองได้ แต่เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครไม่มีคำสั่งอนุมัติ

เรื่องที่ถูกพูดถึงกันมากในเวลานี้คือตู้รับบริจาคของทางวัด 20 กล่อง มีคำขอพรให้ผู้ศรัทธาเลือก แต่ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตคือ ขอให้ได้สมบัติของคนอื่น ขอให้ได้มรดก ขอให้ถูกหวยเบอร์ใหญ่ ขอให้สบายนั่งกินนอนกิน ขอให้เอนท์ติด แม้จะเป็น
กุศโลบายของทางวัด อาจถูกใจบางคน แต่คำขอพรแบบนี้ค่อนข้างย้อนแย้งกับหลักการทางพุทธศาสนา

หากใครที่ติดตามสื่อออนไลน์ของวัดท่าไม้จะมีคำอวยพร ตื่นมาขอให้รวยแสนล้าน หรืออื่นๆ ที่เน้นเรื่องเงินทองและความร่ำรวย แถมวัดท่าไม้ยังไม่มีเมรุเผาศพ ไปในแนวทางเดียวกับวัดใหญ่แถวปทุมธานี

ไม่นับชาวบ้านในพื้นที่ทั้งที่สมุทรสาครและที่สวนผึ้ง ที่รู้สึกไม่ค่อยดีกับวัดท่าไม้และสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สวนผึ้ง การออกตัวแรงของหลวงพี่อุเทน จึงส่งผลกระทบต่อผู้ศรัทธาของวัดท่าไม้อยู่ไม่น้อย อีกทั้งพระผู้ใหญ่อย่างพระพรหมดิลกเองก็พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว แถมโครงสร้างใหม่ในมหาเถรสมาคมก็ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของคณะสงฆ์แบบเดิมอีกต่อไป จากนี้ไปขึ้นอยู่กับทางวัดท่าไม้ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่






กำลังโหลดความคิดเห็น