xs
xsm
sm
md
lg

ความจริง! คดีแตงโมอุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“คดีแตงโม” ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ “แม่น้ำร้อยสาย” ร่วมไขคดี ทั้ง “นักสืบโซเชียล” ชี้พิรุธอื้อ “4 ทนาย” รวมพลังทวงความเป็นธรรม “ส.ส.เต้” ไล่หาหลักฐานจากกล้องวงจรปิด “เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์” ชี้ปมหน้าบวม ฟันหัก นำไปสู่การผ่าชันสูตรรอบ 2 ด้าน “หมอพรทิพย์” ระบุกระบวนการเก็บหลักฐานมีพิรุธแต่แรก แต่ล่าสุด ได้ค้านการผ่าพิสูจน์รอบ 2 ทำงงงัน! กันทั้งประเทศ พร้อมแถลงผลชันสูตรเบื้องต้น ยันฟันไม่หัก “เลขานุการ รมว.ยุติธรรม” ลั่น อีก 2 สัปดาห์รู้ผลโดยละเอียด

จากกรณีการตกเรือและเสียชีวิตของ “แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์” ดาราสาวชื่อดัง หลังจากไปล่องเรือกับผู้จัดการส่วนตัวและเพื่อนใหม่อีก 4 คน เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงใจของสังคมกระทั่งเกิดเป็นกระแส “ทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโม” จากคนไทยทั้งประเทศ อีกทั้งยังเป็นคดีที่กลายเป็นข่าวดังไปทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย ต่างนำเสนอข่าวนี้กันอย่างครึกโครม

อีกทั้งการเสียชีวิตของแตงโม ทำให้เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ ขึ้นมามากมาย และนับเป็นคดีที่ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมของคนไทยทั้งประเทศแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เลขท้ายเรือสปีดโบ๊ต ซึ่งชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตว่าขาไปเลขท้ายเรือคือ 200 แต่ขากลับเลขท้ายเรือกลับเป็น 300 จึงน่าจะเป็นเรือคนละลำกัน
นักสืบโซเชียลแห่ช่วย

หลังจากพฤติกรรมที่น่าเคลือบแคลงของทั้ง 5 คนที่อยู่บนเรือ และการทำคดีที่ถูกมองว่าหละหลวมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้บรรดานักสืบโซเชียลต่างพากันตรวจสอบ ขุดคุ้ย เพื่อช่วยหาหลักฐานมาชี้ให้เห็นถึงความผิดปกติของคดีนี้ว่าอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุเหมือนที่ทั้ง 5 คนกล่าวอ้าง ไม่ว่าจะเป็นกรณีการนั่งปัสสาวะที่ท้ายเรือในชุดบอดี้สูทของแตงโมซึ่งมีชาวเน็ตทดลองโดยสวมชุดบอดี้สูท และทำท่าดังกล่าวก็ไม่สามารถทำได้ การนำคลิปการดำน้ำของกระติก ออกมาเผยแพร่หลังจากเจ้าตัวบอกกับแม่แตงโม ว่า ว่ายน้ำไม่เป็น การตั้งข้อสังเกตเรื่องไฟบนสะพานพระราม 8 ซึ่งเป็นฉากหลังภาพถ่ายสุดท้ายของกระติก และแตงโม ที่ระบุเวลา 21.56 น.ขณะที่เวลาปิดไฟของสะพานพระราม 8 คือ 21.00 น.จึงเกิดข้อสงสัยว่าเป็นการเซ็ตเวลาบนโทรศัพท์ไอโฟนเพื่อสร้างหลักฐานเวลาหรือไม่

นักสืบโซเชียลได้ชี้พิรุธเรื่องรอยขีดข่วนและรอยฟกช้ำตามร่างกายของ ปอ แซน รวมถึงเสื้อของจ็อบ ว่ามีรอยขาด จนนำไปสู่การเปลี่ยนเสื้อโชว์ของจ็อบ ว่าเสื้อตัวนี้ไม่มีรอยขาด ปรากฏว่าตอนถอดเสื้อนักข่าวเห็นรอยฟกช้ำที่หัวไหล่ และรอยขีดข่วนตามตัว นักข่าวจึงถ่ายรูปไว้ แต่จ็อบ ขอให้ลบภาพดังกล่าวทิ้ง และล่าสุด ชาวเน็ตได้สังเกตภาพตอนที่ปอ บวชว่าแขนของปอ มีรอยแผล จึงเกิดคำถามว่าแผลนี้เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแตงโมหรือไม่ มีการจับพิรุธเรื่องแก้วไวน์ที่หายไป โดยคลิปจากท่าเรือที่เติมน้ำมันพบว่ามีการรินไวน์ 5 แก้ว แต่หลังเกิดเหตุพบแก้วไวน์เพียงใบเดียว จนนำไปสู่การงมหาขวดและแก้วไวน์ในแม่น้ำเจ้าพระยา มีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมีเรือที่อยู่ในเหตุการณ์หลายลำ รวมถึงกรณีเลขเรือว่าขาไปเลขเรือคือหมายเลข 200 แต่หลังเกิดเหตุเลขเรือกลับเป็นหมายเลข 300 ล่าสุด โซเชียลสายไอทีได้แชร์คลิปที่ผ่านการซูมและขยายเงาที่ดูเหมือนกับมีการทำร้ายกันบริเวณหัวเรือ และมีการห้ามคนที่อยู่ท้ายเรือซึ่งเหมือนกำลังถ่ายคลิป โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการทะเลาะวิวาทและมีการต่อสู้กันก่อนที่แตงโมจะตกเรือ

แม้ทางด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะออกมาชี้แจงว่า ภาพเหตุการณ์บนเรือและเลขท้ายเรือที่ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกตนั้นล้วนเกิดจากเงาสะท้อน มุมภาพ และการหักเหของแสง แต่คำชี้แจงดังกล่าวไม่ได้ทำให้สังคมหายคลางแคลงใจ เนื่องจากบางภาพ เช่น เลขท้ายเรือนั้นมีความชัดเจน อีกทั้งที่ผ่านมา การทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกมองว่า 2 มาตรฐาน เช่น กรณีที่ไม่มีการนำเส้นผมของโรเบิร์ต มาตรวจดีเอ็นเอ และไม่มีการตรวจสารเสพติดตั้งแต่พบคนบนเรือครั้งแรก โดยตำรวจระบุว่าเป็นเพราะเจ้าตัวไม่ยินยอม ซึ่งสังคมมองว่าเหตุใดจึงแตกต่างจากกรณีรถบรรทุก หรือรถบัสพลิกคว่ำและมีผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสารเสพติดในตัวคนขับทันทีไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

4 ทนาย ที่ประกาศว่าพร้อมจะช่วยทำคดีเพื่อหาความยุติธรรมให้แตงโม
สุดยอดทนายร่วมไขคดี

การเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติของแตงโม นับเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่มีหลายฝ่ายต่างร่วมกันสืบหาความจริง โดยเฉพาะ 4 ทนายมือดีของเมืองไทยอย่าง ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายรัชพล ศิริสาคร และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ประกาศว่าพร้อมจะช่วยทำคดีเพื่อหาความยุติธรรมให้แตงโม อีกทั้งออกมาแสดงความเห็นถึงประเด็นต่างๆ ในคดี ซึ่งทำให้สังคมมีความหวังว่าหากจะมีการบิดเบือนคดีเพื่อช่วยเหลือผู้กระทำผิดคงไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เนื่องจากมีทนายทั้ง 4 คนตรวจสอบคัดค้าน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้สังคมมองว่าทนายเดชา มีท่าทีเปลี่ยนไปหลังจากเข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้ “นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน” แม่ของแตงโม ในการติดตามคดี จากเดิมที่ทนายเดชา มีข้อสงสัยมากมายทั้งต่อ 5 คนที่อยู่บนเรือ และการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีกทั้งยังยกกรณีข้อสงสัยของชาวโซเชียลที่มีต่อคดีนี้มาเป็นตั้งคำถามถึงตำรวจเจ้าของคดีด้วย แต่หลังจากที่ทนายเดชา เข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้แม่แตงโม เขากลับออกมาไลฟ์สดว่าข้อพิรุธต่างๆ ที่โซเชียลตั้งข้อสังเกตนั้นล้วนเป็นเรื่องมโน รวมถึงกรณีที่ (ไทด์-เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์) บอกว่าแตงโม ฟันหักก็เป็นความเท็จ พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นต่อการรวบรวมพยานหลักฐาน และการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนั้น ทนายเดชา ยังขู่ว่าจะฟ้องคนที่นำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จอีกด้วย ทำให้เกิดกระแสตีกลับต่อตัวทนายเดชา ไม่น้อยทีเดียว

“ส.ส.เต้” นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์
ส.ส.-ดารา-นักวิชาการตามคดี

ขณะที่กลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพก็เข้ามาติดตามคดีการเสียชีวิตของแตงโม เช่นกัน โดยนอกจากจะแสดงทัศนะมุมมอง และตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว บางคนยังเข้ามาช่วยค้นหาความจริงเกี่ยวกับคดีด้วย โดยคนที่มีบทบาทที่สุดเห็นจะเป็น “ส.ส.เต้” นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ซึ่งมุ่งไปที่การหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้พบหลายประเด็นที่น่าสนใจ เช่น กล้อง cctv แถววัดเทวราชกุญชร พบว่า ขาไปเรือของแตงโม มี 6 คน แต่ขากลับกล้อง cctv ตรงสะพานซังฮี้ (ก่อนถึงสะพานพระราม 7) คนบนเรือเหลือแค่ 5 คน จึงมีความเป็นไปได้ที่แตงโม จะไม่ได้ตกจากเรือแถวพระราม 7 ตามคำให้การของเพื่อนที่อยู่บนเรือ กล้องวงจรปิดของกรมเจ้าท่าบริเวณเทเวศร์ พบว่ามีวัตถุบางอย่างตกจากเรือ และเรือชะลออยู่ 7-8 นาที จึงเป็นไปได้ว่าแตงโม อาจจะตกจากเรือบริเวณเทเวศร์ อีกทั้งพบว่าในวันเกิดเหตุอาจจะมีเรือที่เกี่ยวข้องกับลำที่เกิดเหตุอีก 1-2 ลำ ซึ่งเชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจนำข้อมูลหลักฐานเหล่านี้ไปตรวจสอบน่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

ล่าสุด ส.ส.เต้ ยังได้ประสานไปยังกูเกิลเพื่อขอภาพเคลื่อนไหวบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม ณ เวลา 4 โมงเย็น ถึง 0 นาฬิกา ของวันที่ 24 ก.พ.2565 และ 00.01 โมงเช้า ถึง 6 โมงเช้าของวันที่ 25 ก.พ.2565 จาก Google Earth Pro และอาจขอความช่วยเหลือจากเพื่อนซึ่งทำงานอยู่ที่องค์การนาซาด้วย ซึ่งแม้นักวิชาการบางท่านจะออกมาค้านว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่กระแสสังคมส่วนใหญ่ยังมองว่าสุดท้ายแล้วแม้ได้ข้อมูลก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

“ไทด์” เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ในฐานะอาสากู้ภัยของมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นผู้นำร่างของแตงโมขึ้นจากน้ำ
อีกคนที่มีบทบาทอย่างมากคือ “ไทด์” เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ในฐานะอาสากู้ภัยของมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นผู้นำร่างของแตงโมขึ้นจากน้ำ และอยู่กับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานซึ่งมาถ่ายรูป และเก็บหลักฐานจากร่างของแตงโม ซึ่งหลังจากที่ผลชันสูตรรอบแรก โดยสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ปรากฏว่าแตงโม ฟันหัก และไม่พบบาดแผลหรือรอยช้ำบริเวณใบหน้า เอกพันธ์ จึงได้ออกมาแย้งว่า

"มีตาข้างหนึ่งน่าจะเป็นข้างซ้ายที่ถลนออกมา ข้างขวาปิดบวมช้ำ ช้ำเลือดช้ำหนอง ช้ำเลย ไม่ปูดออกมา แต่โดยปกติธรรมดาโดยที่ไม่โดนอะไรตีหรือของแข็งกระแทกใบหน้า ตา 2 ข้างจะเท่ากัน ปูดออกมาเท่ากันทั้ง 2 ข้าง อีกอย่างคือ ฟันของน้อง ตอนที่อยู่ในรถตู้ด้วยกัน ผมนั่งอยู่ทางด้านขา น้องอีกคนอยู่ทางหัว แล้วเจ้าหน้าที่จะเอาเนื้อเยื่อในกระพุ้งแก้มหา DNA แล้วก็บีบปากน้อง เห็นฟันหักด้วย ฟันหลอเลย ประมาณนั้น แต่ที่ตอนแรกไม่ได้พูดเพราะคิดว่าในกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ผ่าพิสูจน์น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ในวันนี้ยังไม่ได้ยินหรือเห็นคำพูดนั้นออกมาเลย เลยขอพูด" เอกพันธ์ กล่าว

ซึ่งการเปิดประเด็นดังกล่าวทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงต่อผลการชันสูตรร่างแตงโม ของสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงเคลือบแคลงต่อการทำคดีของเจ้าหน้าที่ตรวจที่ระบุว่า “หลักฐานทั้งหมดในขณะนี้ชี้ว่าคดีนี้เป็นคดีอุบัติเหตุ” ซึ่งแรงกดดันจากกระแสสังคมได้นำไปสู่การชันสูตรร่างของแตงโม ครั้งที่ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา หนึ่งในกรรมาธิการ  (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
หมอนิติเวชข้องใจ

ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์อย่าง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา หนึ่งในกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญที่เข้ามามีบทบาทในคดีนี้ โดยแม่ของแตงโม ได้ติดต่อขอคำปรึกษาจากคุณหมอพรทิพย์เนื่องจากยังคลางแคลงใจเกี่ยวกับผลการชันสูตร และขอให้คุณหมอพรทิพย์ ร่วมสังเกตการณ์ในการชันสูตรร่างแตงโม ครั้งที่ 2 ขณะที่คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา มีมติรับเรื่องคดีการเสียชีวิตแตงโม ไว้พิจารณา พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวอีกด้วย

โดยก่อนหน้านี้ หมอพรทิพย์ ชี้ว่า กระบวนการเก็บหลักฐานมีพิรุธแต่แรก

“ส่วนตัวมองว่าการทำงานของแพทย์นิติเวชจะต้องทำงานอยู่บนความอิสระ แต่สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ผลการชันสูตรรอบแรก เพราะผลบางอย่างไม่สามารถชันสูตรรอบสองได้ ส่วนการชันสูตรรอบสองนั้นไม่ได้ตั้งธงอะไรไว้ เพราะกระบวนการดูแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งการไม่เก็บหลักฐานของ 5 คน บนเรือทันที และเรือก็เปลี่ยนไปมา ซึ่งขัดกับหลักนิติวิทยาศาสตร์” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ระบุ

แต่ในช่วงสายของวันที่ 17 มี.ค 2565 ก่อนที่ พญ.พรทิพย์ จะเข้าประชุมกับทีมของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อหารือเรื่องข้อสงสัยเกี่ยวกับการชันสูตรร่างของแตงโม พร้อมทั้งร่วมกันวางกรอบในการผ่าพิสูจน์ พญ.พรทิพย์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 เพราะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์นั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

"ส่วนตัวไม่แนะนำให้ผ่าพิสูจน์รอบ 2 ซึ่งได้แนะนำไปยังทนายความแล้ว เพราะเชื่อว่าทางคุณแม่เห็นรูปถ่ายแล้ว ทางเราอธิบายคุณแม่น่าจะเข้าใจจนไม่ต้องนำไปสู่การผ่ารอบ 2 ซึ่งเราอยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยว่าจริงๆ เราต้องการจะทำเช่นนั้น แต่ว่าไม่รู้เขาไปตกลงอะไรกันก็ไม่ทราบ จึงมีการผ่ารอบ 2 เกิดขึ้น ซึ่งขอชี้แจงว่าไม่ใช่ไม่เห็นด้วย แต่เราควรเดินตามวิถีที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ทำให้มันเกิดความขัดแย้ง ดังนั้น จึงเสนอวิธีแรก ซึ่งไปถามคุณแม่ของน้องแตงโมได้เลย สำหรับการผ่าในครั้งที่ 2 นั้นมันอาจจะตอบอะไรบางอย่างได้ หลังครั้งที่ 1 ยังมีข้อสงสัย เพราะฉะนั้นผลจะออกมาอย่างไรวันนี้ อยากจะให้สื่อถอยกลับไปดูที่ระบบใหญ่ว่าแผลเกิดก่อนตาย หรือแผลเกิดก่อนตกเรือ หรือเกิดในน้ำ โดยขอให้จำไว้นะว่า ศพตอบไม่ได้" พญ.พรทิพย์ ระบุ

ซึ่งคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวได้สร้างความงุนงงให้แก่ผู้คนที่ติดตามคดีการเสียชีวิตของแตงโม เป็นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น?

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ซึ่งกำลังตกเป็นกระแสว่าเปลี่ยนไปหลังจากรับเป็นที่ปรึกษาให้ “นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน” แม่ของแตงโม ในการติดตามคดี
อย่างไรก็ดี หลังการชันสูตรรอบ 2 “พญ.พรทิพย์” ได้แถลงผลการชันสูตรในประเด็นสำคัญที่สังคมให้ความสนใจว่า “ไม่พบรอยช้ำที่มีลักษณะไม่เท่ากันบนใบหน้าทั้ง 2 ด้าน และฟันของแตงโมยังอยู่ครบ ฟันไม่ได้หักแต่อย่างใด ส่วนสมองได้รับการกระทบกระเทือนหรือไม่ต้องรอผลการตรวจสอบโดยละเอียดอีกที”

ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนว่า ทางแม่ของแตงโม ได้มอบหมายให้ทนายความส่งหนังสือถึงกระทรวงยุติธรรม ว่ายังมี 11 เรื่องที่เกิดข้อสงสัย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการหารือเพื่อไขข้อข้องใจในเรื่องดังกล่าว ส่วนผลในการผ่าพิสูจน์ร่างของแตงโม โดยละเอียดนั้นคงต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งจะต้องทำให้ไว เพื่อคลายความสงสัยของพี่น้องประชาชน

กล่าวได้ว่าคดีการเสียชีวิตของแตงโม นั้นเริ่มต้นจากทั้ง 5 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าเป็น “อุบัติเหตุ” แต่ด้วยความผิดปกติที่เกิดขึ้นมากมายทำให้สังคมสงสัยว่าอาจเป็นการ "ฆาตกรรม" แต่ถึงเวลานี้ไม่แน่ว่า...บทสรุปสุดท้ายของคดีนี้อาจจะจบลงที่เป็นคดี “อุบัติเหตุ” ก็เป็นได้?




กำลังโหลดความคิดเห็น