"ทิดสมปอง" เล่นไม่เลิก ดอด Live พร้อมคู่หู "ไพรวัลย์" แซะเจ๊ติ๋มกัดทุกดอกอย่างสนุกสนาน ทีวีพูลตัดคลิปเทียบล้อเลียนนาย จั่วหัว “สองทิดไม่จบแซะติ๋มทีวีพูลไม่เลิก” แบบนี้เส้นทางในวงการบันเทิงไปต่อยาก "นิพิฏฐ์" แนะจับตาที่ดิน 300 ไร่ เตือน "ทิดสมปอง" ระวังจบไม่สวย คนวงการชี้ยุคนี้คนคือสินค้าต้องสร้างจุดขาย "ไพรวัลย์-มินยง" แค่ Content รับคดีที่ดินชี้ชะตา "สมปอง" ทุนหนุนเริ่มเงียบ วันใดที่หมดประโยชน์-แยกย้าย ฤาต้องกลับไปบวชอีกรอบ
แม้เรื่องที่นายสมปอง นครไธสง หรืออดีตพระมหาสมปอง นักเทศน์ชื่อดังขวัญใจคนรุ่นใหม่ ถูกแฉโดยนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือเจ๊ติ๋ม นายใหญ่ TV Pool เมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ที่กลายเป็นประเด็นมากที่สุดคือหนี้ 10.9 ล้านบาท เป็นหนี้จากการซื้อที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่ ถูกขยายวง ถูกร้องเรียนให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบ
ตามสไตล์ทิดสมปอง Live ชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นข้อๆ ผ่านเพจของตัวเองที่มีแฟนเพจอยู่ราว 1.6 ล้านคน
เรื่องเก่ายังไม่จบ เรื่องใหม่ถูกปูดออกมา กรณีกล่องสุ่มบุญของคนวงการบันเทิง อุ๊บ วิริยะ แถลงข่าว 10 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากเกิดปัญหา Live จบแล้ว เพจสมปอง นครไธสง ลบ Live ออกจนคนที่ประสงค์ร่วมบุญภายหลังไม่สามารถสั่งกล่องสุ่มบุญที่ 499 บาทได้
กลายเป็นภาพลบตามมาอีก ดูเหมือนทิดสมปอง จะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ก่อกรรมใหม่
แต่ในวันเดียวกันนั้น ทั้ง 2 ทิดคนดังแห่งวัดสร้อยทอง กลับหวนคืนมา Live สดร่วมกันอีกครั้ง ก่อชนวนให้เรื่องที่เกิดขึ้นกับ TV Pool น่าจะจบลงยาก โดยเฉพาะกับงานด้านวงการบันเทิง เมื่อทิดทั้ง 2 สนุกสนานกับการแซะเจ๊ติ๋ม เมื่อครั้งแถลงข่าวแฉทิดสมปอง
แนวทางชง-ตบ ตามสไตล์คณะตลกที่ใช้มาตั้งแต่บวชเป็นพระ คราวนี้เป็นทิดก็ใช้อีกครั้ง ด้วยการหยิบยกคำพูดของเจ๊ติ๋ม ขึ้นมาล้อกันอย่างสนุกสนาน “แยะ-ทอดไข่เจียว-ลูบท้อง-ไวน์-ว่ายน้ำ-ธุรกิจสีเทา”
หลังจากนั้นสื่อค่ายทีวีพูลทำคลิป “สองทิดไม่จบ แซะติ๋มทีวีพูลไม่เลิก!” ตัดต่อประเด็นที่เจ๊ติ๋ม กล่าวถึงทิดสมปอง แล้วนำมาเทียบกับ Live ของ 2 ทิด ที่นำมาแขวะอย่างสนุกสนาน ทีวีพูลทิ้งท้าย มองจากนอกโลกก็รู้ว่าแซะใคร
ทุนธุรกิจเริ่มเงียบ
คนเคยใกล้ชิดกับอดีตพระดังทั้ง 2 กล่าวว่า เขามีความคะนอง เชื่อมั่นในตัวเองสูง คิดว่ามีแฟนคลับนับล้านพร้อมให้การสนับสนุน มีนายทุนพร้อมช่วยเหลืออยู่ ทำให้ไม่ปรับตัวให้เข้ากับโลกแห่งความเป็นจริงในโลกฆราวาส ทั้ง 2 เอาแต่ความรู้สึก และความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ไม่คิดถึงวันข้างหน้า
คนที่บวชมาตั้งแต่เป็นสามเณรมักจะเป็นแบบนี้ เล่นสนุกไป เมื่อโตขึ้นเป็นพระก็ยังติดนิสัยเดิมๆ ที่เคยเป็นมา โลกของสงฆ์กับโลกฆราวาสแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พระที่ไม่ Happy กับโลกของสงฆ์มองว่าไม่เป็นธรรมอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อสึกออกมาแล้วจะรู้ว่าทั้ง 2 โลกไม่แตกต่างกัน ว่ากันตามตรงโลกฆราวาสหนักกว่าด้วยซ้ำ เพราะต่างฝ่ายต่างจ้องฉกฉวยผลประโยชน์ของกันและกัน
คุณดัง คนติดตามเยอะ คุณคือสินค้าที่มีค่าในสายตาของกลุ่มทุน เขาเหล่านั้นพร้อมเข้ามาเพื่อเอาสินค้าอย่างคุณไปต่อยอดสร้างรายได้ให้แก่เขา
เท่าที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่เคยออกตัวให้การสนับสนุน ทั้งค่ายเพลงแม่ปอง หรือสินค้าแม่ปอง ตอนนี้เพจเหล่านั้นไม่มีอะไรใหม่เคลื่อนไหว ด้านทนายเก่ง ขณะนี้พุ่งเป้าไปที่การเตรียมตัวเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย
“ไพรวัลย์-มินยง” แค่การตลาด
สิ่งที่เราเห็นพฤติกรรมของ 2 ทิดในวันนี้ในเรื่องของความก้าวร้าวกับคู่กรณี เป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าเป็นเรื่องของอุปนิสัย หรือเป็นเรื่องของการสร้างบุคลิกให้อดีตพระทั้ง 2 ในเมื่อผู้ที่สนับสนุนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุน หรือทีมงานต่างก็หวังใช้ทิดทั้ง 2 เป็นสินค้า ยุคนี้คนก็คือสินค้าประเภทหนึ่ง ปั้นขึ้นมาเพื่อเพิ่มราคา สร้าง Story ให้คนติดตามต่อหากกระแสเริ่มตก
ทุกวันนี้การสร้าง Story ให้ตัวบุคคลถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสร้างจุดขาย เพราะสังคมไทยเปลี่ยนไปจากเดิม คนที่มีข่าวฉาว ข่าวลบ ยังมีเจ้าของสินค้าจ้างออกงานอยู่ไม่น้อย แตกต่างจากยุคก่อน
นักสังเกตการณ์รายหนึ่งที่คลุกคลีทั้งวงการสงฆ์และบันเทิง ตั้งคำถามว่า ช่วงหนึ่งดูเหมือนว่าทิดไพรวัลย์ เปิดตัวหนุ่มเกาหลีคิม มินยง มีกิจกรรมร่วมกันตลอดเวลา โพสต์หวานๆ หยอดกัน คุณว่าเป็นเรื่องจริงเหรอ? เจอกันแป๊บเดียวมาอยู่บ้านเดียวกัน
เครื่องสำอางเกาหลีที่ให้ทิดไพรวัลย์ เป็นพรีเซนเตอร์ ต้องพยายามต่อยอดสินค้าของเขา ไพรวัลย์ ได้เรื่องกระแส แต่การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้เห็นผล ตัวของไพรวัลย์ ย่อมไม่ใช่จุดขาย มินยงจึงเข้ามาต่อยอด เมื่อครบสัญญาจ้างก็จบ
ตอนนี้มินยง ก็ไม่ได้อยู่ร่วมกิจกรรมกับไพรวัลย์ แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เห็นได้จากเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2565 เพจไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์ว่า โอเค เตือนตัวเองแล้ว 1 พร้อมภาพที่เป็นตัวอักษร “พ่อแม่แก่ขึ้นทุกวันนะ อย่ามัวแต่บ้าผู้ชาย” ถือเป็นการปิด event ที่ร่วมงานกัน
ที่ผ่านมามันคือ Content อย่างหนึ่งของนักการตลาด จะเห็นได้ว่าทิดไพรวัลย์ ไม่ได้กล่าวถึงมินยงอีกเลย ส่วนมินยง ก็ไปทำ Content ของตัวเอง
ไม่ต่างไปจากทิดสมปอง ที่อาจถูกวางบุคลิกให้ บวกกับอุปนิสัยส่วนตัวออกแบบมาในแนวนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดศึกท้าชกกับนายศรีสุวรรณ จรรยา คู่ปรับ โลกของการตลาดต้องทำทุกอย่างเพื่อสร้างความสนใจให้บุคคลเป้าหมายและตัวสินค้า หลังจากที่ท้าชกกันและไม่มีการรับคำท้า ช่วงหนึ่งทิดสมปอง ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า แต่ยอมรับ "พี่ศรี" รู้จริงเรื่องหนึ่ง ว่า การท้าชกแบบนี้ถือเป็นงานประชาสัมพันธ์ขายสินค้าในธุรกิจในเครือแม่ปอง
นักกฎหมายตัวจริง-ระวังจบไม่สวย
ส่วนอีกหนึ่งบุคคลที่เคยท้วงติงถึงความไม่เหมาะสมของอดีตพระมหาทั้ง 2 คือ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันสังกัดพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เตือนทิดสมปอง “ระวังจบไม่สวย”
ตอนทิดไพรวัลย์ และทิดสมปอง อยู่ในสมณเพศ ผมเคยวิวาทะกับท่านอย่างร้อนแรง เพราะผมนี่ได้รับรางวัลพระราชทานเสาเสมาธรรมจักรนะครับ แต่ครั้นท่านสละสมณเพศ มาเป็นผู้ครองเรือน ผมไม่เคยกล่าวถึงท่านเลย
วันนี้ถือว่าเราถือเพศเหมือนกัน ผมในฐานะ "นักกฎหมาย" เฝ้าติดตามเรื่องการซื้อ หรือ การถือครองที่ดินของทิดสมปอง ข่าวว่า ท่านซื้อที่ดิน ส.ป.ก. 300 ไร่ ด้วยเงิน 10 กว่าล้าน เรื่องนี้จะเท็จจริงอย่างไรก็ยังไม่ยุติ แต่ผมเตือนว่า ท่านอย่าหลงระเริง หรือมองข้ามเรื่องนี้เด็ดขาด เรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์ อยากให้ประชาชนติดตามเป็น "ความรู้" อย่าติดตามทิดทั้งสองแบบว่างเปล่า ไม่เกิดปัญญา
ถ้าผมแนะนำผมก็แนะนำให้ทิดพูดเรื่องที่ดินให้น้อยลง และหาทนายความที่แม่นๆ เรื่องที่ดินไว้สักคน อย่าหาว่าผมหิวแสงนะครับ ผมเคยวิวาทะกับ 2 ทิดนี้เมื่อครั้งครองผ้าเหลืองมาแล้ว อยากให้ประชาชนมีความรู้เรื่องการครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น อยากให้ประชาชนติดตามว่า 1.เงินพระกับ เงินวัดต่างกันอย่างไร 2.การถือครองที่ดินคืออย่างไร 3.ถือครองแทนคืออย่างไร 4.เจตนา คืออย่างไร
โดยเฉพาะข้อ 3 ผมว่าสู้กันหนัก ถึง 3 ศาลล่ะครับ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ ทิดสมปอง อาจจะจบไม่สวยก็ได้นะครับ
โลกฆราวาสหมดประโยชน์-แยกย้าย
นักกฎหมายอีกรายอธิบายว่า คดีนี้ต้องรอผลการตรวจสอบของ ส.ป.ก. และกรมป่าไม้ว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่ฟังจาก รมว.ทรัพย์ฯแล้ว ท่านยึดตามกฎหมายไม่มีการละเว้น หากมีการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดต้องดูว่าจะโยงไปถึงผู้ให้การสนับสนุนด้วยหรือไม่ หรืออาจถูกตีความว่าผู้ครอบครองแทนเป็นตัวการร่วม อัตราโทษเทียบเท่ากับตัวการ
ในเรื่องเดียวกันยังสะท้อนให้เห็นอีกว่า การก่อหนี้ในช่วงที่บวชเป็นพระเท่ากับความเป็นพระสามารถหาเงินมาผ่อนจ่ายภาระหนี้สินได้ ทั้งสำนักพุทธฯ มหาเถรสมาคมคงต้องมาทบทวนในเรื่องเหล่านี้ว่า เป็นการบวชเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธศาสนิกชน หรือใช้การบวชเพื่อสร้างความมั่งคั่งแล้วสึกออกไปตั้งตัว
ส่วนในทางโลกคงต้องเป็นไปตามวิถีของแต่ละภาคส่วน ภาคบันเทิงที่ทิดสมปอง ออกเพลงสมปองเด้อสมปอง 3 สัปดาห์ยอด 1.2 ล้านวิว ถือว่าไปได้ดี แต่การแตกหักกับทางสื่อใหญ่ของวงการบันเทิงไม่ใช่เรื่องดี โอกาสไปต่ออาจไม่ราบรื่นเพราะวงการบันเทิงจะเป็นเครือข่ายที่ถึงกันทั้งหมด เมื่อเบอร์ใหญ่สื่อบันเทิงแฉแบบนี้ ค่ายที่หวังว่าจะปั้นทิดรายนี้คงต้องคิดหนัก
ประเด็นชี้ขาดทั้งหมดคงอยู่ที่เรื่องคดีความเรื่องที่ดิน หากเชื่อมโยงมาถึงตัวทิดสมปอง ในแง่ธุรกิจคงจบ เพราะคงปั้นต่อยาก ถึงเวลานั้นกลุ่มที่เคยให้การสนับสนุนคงต้องแยกย้ายกันต่างคนต่างเดิน นี่คือความจริงของโลกฆราวาส
ฤาทิดสมปอง อาจต้องกลับไปบวชอีกรอบ หลังทางเดินบนโลกฆราวาสเริ่มตีบตัน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Instragram : https://instagram.com/special.scoop.mgronline?utm_medium=copy_link
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSe4jvN
