xs
xsm
sm
md
lg

จับตา ‘บิ๊กน้อย’ ปั้นพรรคเศรษฐกิจไทย แจง ‘3 ปัจจัย’ บ่งชี้ ‘บิ๊กตู่’ อยู่ครบวาระ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



‘3 ปัจจัย’ สำคัญบ่งชี้ว่า ‘บิ๊กตู่’ จะเลือกยุบสภาหรืออยู่ครบวาระ และจะเลือกทำรัฐประหารรัฐบาลของตัวเอง เหมือนที่เกิดขึ้นในยุครัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร หรือไม่? แจงความสัมพันธ์พี่น้อง 3 ป.เหนียวแน่น ชูสโลแกน ‘รักบิ๊กป้อม ต้องรักบิ๊กน้อย’ ระบุได้เวลาเหมาะสม ‘บิ๊กน้อย’ ประกาศลาออกจาก พปชร. ไปนั่งหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ส่วนพรรค พปชร.ต้องเขย่าให้สุดใครจะอยู่ใครจะไป โดยเฉพาะกลุ่ม 3 มิตร! ชี้เศรษฐกิจไทย อาจเป็นพรรคใหม่ขึ้นมาแทน พปชร.ที่มีแต่ภาพลบ จับตาบิ๊กน้อย อาจทำหน้าที่แม่เหล็กดูดนักธุรกิจ ไฮโซเข้าร่วมพรรคสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า

สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันเข้าสู่โหมดร้อนแรงสุดๆ ที่อาจนำไปสู่การประกาศยุบสภาของบิ๊กตู่ ได้จริงหรือ? เริ่มตั้งแต่ปมขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ทำให้เกิดความร้าวฉาว และนำไปสู่เหตุการณ์ “ผึ้งแตกรัง” มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นำทีม ส.ส.ออกไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย โดยพรรคนี้จะมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือ บิ๊กน้อย ตท.11 ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรค เพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสม บิ๊กน้อย ก็จะประกาศลาออกจาก พปชร.ให้สังคมได้รับรู้ถึงเหตุผลและความจำเป็นต่อไป

ขณะเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี หรือแรมโบ้อีสาน ได้ลาออกจาก พปชร.แล้ว และไปตั้งพรรคใหม่ชื่อ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ไว้รองรับ ‘บิ๊กตู่’ หาก พปชร.ไม่เสนอบิ๊กตู่นั่งแคนดิเดตนายกฯ แต่การขยับของแรมโบ้อีสานนั้นดูเหมือนว่าสมาชิกพรรค พปชร.จะไม่ให้ราคาก็ตาม

พร้อมจับตาดูกลุ่มสามมิตร ว่า จะมีการขยับหรือไม่ และถ้าขยับจะไปร่วมกับพรรคไหน อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่พี่น้อง 3 ป.เฝ้าประเมินสถานการณ์ใกล้ชิด

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือบิ๊กน้อย
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นใน พปชร.นั้นเท่ากับเป็นการ ‘เขย่า’ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าใครจะอยู่ ใครจะไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของนักการเมือง และพรรคการเมือง

อีกทั้งในการประชุมสภาฯ ก็ปรากฏ ‘สภาล่ม’ อยู่บ่อยๆ

ไม่เพียงเท่านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังต้องมาเผชิญกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ล่าสุด จากการที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำทีม 7 รัฐมนตรีพรรคตบเท้าไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี เพราะประท้วงที่กระทรวงมหาดไทย เสนอขอความเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และขยายสัญญาสัมปทานให้ บมจ.บีทีเอสซี บริษัทในเครือ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ออกไปเพื่อแลกกับการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

ประเด็นนี้น่าสนใจก็คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นความขัดแย้งระหว่างกระทรวงคมนาคมที่ดูแลโดยพรรคภูมิใจไทย กับกระทรวงมหาดไทย ที่มี ‘บิ๊กป๊อก’ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มท.1 ซึ่งเป็นหนึ่งในพี่น้อง 3 ป.ที่บิ๊กตู่ ให้ความสำคัญมาก จนทำให้สมาชิกพรรค พปชร.ส่วนใหญ่ไม่พอใจ ทั้งบิ๊กตู่ และบิ๊กป๊อก แต่คนที่จะตกที่นั่งลำบากที่สุดคือ บิ๊กตู่ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่โดนพรรคภูมิใจไทยบีบไม่เข้าประชุม ครม.

ล่าสุด ยังมีกระแสเรียกร้องจากนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุถึงเสถียรภาพของรัฐบาลไม่มีเอกภาพแล้ว ทำให้ลำบากในการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมากขึ้น หากยุบสภา และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ อาจส่งผลดีกว่าบรรยากาศการเมืองเวลานี้ที่ไม่มีความชัดเจน

“การยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ไม่น่าส่งผลลบด้านจิตวิทยาต่อภาคเอกชน และคงไม่เลวร้ายกว่านี้แล้ว แต่อาจถือเป็นการล้างไพ่ใหม่ และมีรัฐบาลที่มีเอกภาพเข้ามาบริหารประเทศน่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและประชาชน”


จากสถานการณ์ทั้งความแตกแยกในพรรค พปชร. สภาล่มฯ พรรคร่วมรัฐบาลกดดัน และภาคเอกชนเรียกร้องให้มีการยุบสภา จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อได้รัฐบาลใหม่ที่มีเอกภาพนั้นจะเกิดได้จริงหรือไม่เพราะเหตุใด

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า ประการแรกได้มีการหารือกันทั้งในส่วนของ 3 ป. คือ ‘พี่ใหญ่’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. บิ๊กตู่ และบิ๊กป๊อก ร่วมทั้งบิ๊กน้อย ต่างต้องการให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปี คือวันที่ 24 มีนาคม 2566 เพียงแต่ว่าปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายใน พปชร.ต้องหาวิธีจัดการที่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องของผู้กองธรรมนัส ได้ข้อยุติด้วยการออกไปตั้งพรรคใหม่แล้ว

“ถามจริงๆ จะให้บิ๊กตู่ ตั้งธรรมนัส เข้ามาเป็นรัฐมนตรีใหม่ในนาม พปชร.ทำได้หรือเพราะมีพระบรมราชโองการประกาศโปรดเกล้าฯ ให้พ้นตำแหน่งรัฐมนตรีไปแล้วจะไปเสนอให้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกลับเข้ามา บิ๊กตู่จะตอบสังคมอย่างไร การไปอยู่พรรคใหม่ ถ้าจะเสนอก็เป็นเรื่องพรรคเศรษฐกิจไทยไม่เกี่ยวกับบิ๊กตู่”

ที่สำคัญหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยคือ บิ๊กน้อย ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่าบิ๊กน้อย จะดำเนินการอย่างไร เพราะต้องไม่ลืมว่าสโลแกนของทหาร และนักการเมืองที่รู้จักกันดี จะรู้ว่า ‘รักบิ๊กป้อม ก็ต้องรักบิ๊กน้อย’ เพราะ 2 ท่านนี้มีความเหนียวแน่น ผูกพันกันมากและต่างมีบารมีด้วยกันทั้งคู่ เพียงแต่ว่าด้วยนิสัยของบิ๊กน้อย ไม่ต้องการเข้ามายุ่งการเมือง และชอบอยู่เบื้องหลัง แต่เมื่อใดที่บิ๊กป้อม ต้องเผชิญปัญหาและถูกกดดัน บิ๊กน้อย พร้อมที่จะออกมาช่วยทันที

“บิ๊กน้อย ให้ความสำคัญบิ๊กป้อมมาก ไม่เกี่ยวกับบิ๊กตู่ หรือบิ๊กป๊อก จึงต้องแยกความสัมพันธ์ให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่อง 3 ป.ก็ 3 ป. ส่วนบิ๊กน้อยจะมีเพียงบิ๊กป้อมเท่านั้น”

ดังนั้น หากบิ๊กน้อย ประกาศลาออกจาก พปชร.ในเร็วๆ นี้ ต้องดูว่าการเดินเกมทางการเมืองของหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทยจะเป็นอย่างไร แต่ต้องไม่ลืมว่าบิ๊กป้อม ยังมีอิทธิพลในพรรคนี้แน่นอน


“3 ป.และบิ๊กน้อย ต้องการให้อยู่ครบวาระ แต่ถ้ามีเหตุสะดุดไม่เป็นไปตามที่หารือกันไว้ 3 ป.และบิ๊กน้อย อาจให้บิ๊กตู่ เลือกยุบสภาก่อนก็ได้ ซึ่งพรรคเศรษฐกิจไทย อาจถูกออกแบบให้มาแทนที่พรรค พปชร.ในอนาคตก็ได้”

ประการที่ 2 รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม เนื่องจากรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล และ ส.ส.ของพรรคร่วมต่างต้องการให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม ซึ่งจะสามารถนำงบประมาณรายจ่ายไปสร้างผลงานได้ ส่วนความเสี่ยงที่จะมีเหตุให้ยุบสภาจะอยู่ในช่วงการเปิดสมัยประชุมสามัญของรัฐสภาในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน จะมีเรื่องของการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี และการอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น

“เรื่องนี้บิ๊กป้อม บิ๊กน้อย รับภาระหนักเพื่อให้โหวตไปในทิศทางเดียวกัน ทั้ง พปชร.และเศรษฐกิจไทย ส่วนพรรคร่วมดูแลกันเองอยู่แล้ว เชื่อว่าผ่านได้ เพราะในช่วงนั้นประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก ถือเป็นความภาคภูมิใจของพรรคร่วม ต้องประคับประคองให้ผ่านไปให้ได้”

ประการที่ 3 เลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 2564 กำหนดให้ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สัดส่วน ส.ส. เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนจะยุบสภาเมื่อใดนั้นต้องดูว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผ่านความเห็นชอบของทั้ง 2 สภาเมื่อใด ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้เวลาพิจารณานานแค่ไหน แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กติกาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในเรื่องสัดส่วนการคิดคะแนนทั้งประเทศในการได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

“ถ้ากติกาผ่านแล้วไม่ต้องกลัว มีการเรียกร้องให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการจัดการเลือกตั้งใน 45 วัน ต้องไม่ลืมว่า ทั้งพรรคฝ่ายค้าน ประชาชน ติดตามดูว่ากฎหมายอยู่ถึงขั้นตอนไหนแล้ว จะยื้อไม่ได้หรอก”


จากนี้ไปต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของพี่น้อง 3 ป.และบิ๊กน้อย เป็นสำคัญ เพราะการจะส่งพรรค พปชร.ที่มีสภาพช้ำ ดูไม่สด แตกแยกกันรุนแรง อาจประเมินแล้วว่าไม่สามารถสู้กับพรรคการเมืองอื่นโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยได้ จึงจำเป็นต้องหาพรรคการเมืองใหม่ที่ดูสดกว่าออกมาขับเคลื่อนแทนจึงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“ถ้ามองกันผิวเผินจะดูว่าบิ๊กป้อม แตกกับบิ๊กตู่ แต่จริงๆ เขาช่วยกันเต็มที่ พรรคเศรษฐกิจไทยก็มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายบิ๊กป้อม มีบิ๊กน้อย ซึ่งเป็นน้องรัก ไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรค ต้องจับตาให้ดี บิ๊กน้อย อาจเป็นแม่เหล็กในการดึงคนในวงการธุรกิจ ดึงไฮโซที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงเข้ามาอยู่ในพรรคนี้ ที่แตกๆ กันไป เป็นการแยกสาย แยกกอ แต่สุดท้ายหนุนบิ๊กตู่อีกสมัยก็ได้”

แหล่งข่าวจากทำเนียบย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีเจตนาดีต่อการบริหารบ้านเมือง แต่ถึงที่สุดหากสถานการณ์ต่างๆ นำไปสู่ความวุ่นวายและส่งผลกระทบต่อสถาบัน ต่อเศรษฐกิจ และการเมือง รวมไปถึงปัญหาเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงก็อาจเกิดสิ่งที่สังคมไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นย่อมมีความเป็นไปได้ โดยเฉพาะบิ๊กๆ ในวงการทหาร อยากขอให้สังคมย้อนไปมองถึงการทำรัฐประหารรัฐบาลของตนเอง เคยเกิดขึ้นในยุคสมัยใดบ้าง และเกิดแล้วนายกฯ ยังเป็นคนเดิมหรือไม่ หรือหาคนอื่นมานั่งแทน หรือที่ จอมพลถนอม กิตติขจร ได้ทำรัฐประหารรัฐบาลของตัวเอง เป็นต้น

“การทำรัฐประหารรัฐบาลของตนเอง มีทั้งความเป็นไปได้และไม่ได้ แต่ขอเชื่อมั่นว่าบิ๊กตู่ จะเดินหน้าตามกติกาของรัฐธรรมนูญที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ได้รัฐบาลใหม่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม” แหล่งข่าว ระบุ

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebooķ :
https://m.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/?locale2=th_TH

Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline?utm_medium=copy_link

Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4jvNjo/


กำลังโหลดความคิดเห็น