รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ แฉการปฏิรูปสลากกินแบ่งเพื่อแก้ปัญหา ‘หวยแพง’ เป็นเพียงวาทกรรม ความจริงมีกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์มหาศาล โดยมีคนในกองสลากฯ ร่วมมือผูกขาด จึงเป็นไปไม่ได้ที่กองสลากฯ จะเปลี่ยนระบบขายสลาก แนะวิธีแก้ต้องเปลี่ยนสลากฯ กระดาษ มาขายผ่านระบบออนไลน์แทน และเปิดประมูลแบบโปร่งใสให้เอกชนดำเนินการ โดยสำนักงานสลากฯ เป็นแค่กำกับดูแล ขณะที่รัฐรับส่วนแบ่งอย่างเดียว แต่ถ้ากองสลากฯ ทำเองจะเกิดข่าวฉาว ‘ทุจริต-ล็อกเลข’? ส่วนผู้ค้าสลากรายย่อยไม่ต้องกังวล มีระบบไว้รองรับมีรายได้เหมือนเดิม แถมระบบออนไลน์งวดไหนไม่มีคนถูกจะสะสมรางวัลได้ด้วย
‘หวยแพง-หวยเกินราคา’ เป็นเรื่องที่ทุกรัฐบาลพยายามที่จะแก้ไข แต่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งทำให้ประชาชนซื้อหวยแพงมากขึ้น โดยเฉพาะประชาชนทั่วไปต่างคาดหวังว่ารัฐบาล คสช.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ต่อมาจนเป็นรัฐบาลบิ๊กตู่ ที่มาจากการเลือกตั้งรวมเวลากว่า 7 ปี ก็ยังไม่สามารถจัดการได้ ทั้งที่มีการตั้งคนของตัวเองเข้าไปนั่งเป็นผู้บริหาร เป็นคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล รวมทั้งพิมพ์สลากเพิ่มเป็น 100 ล้านใบ ก็ยังแก้หวยแพงไม่จบ
โดยราคาต่อใบที่กำหนดให้ขาย 80 บาท กลับพุ่งขึ้นเป็นใบละ 100-150 ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเลขดัง เลขเด็ดที่มีการปล่อยข่าวกันออกมาหรือไม่ แต่ถ้าเป็นเลขชุดก็ยิ่งแพงหูฉี่ และเมื่อสอบถามคนขายสลากลอตเตอรี่ตามแผงต่างๆ หรือกลุ่มที่ขี่จักรยาน หรือเดินเร่ขาย จะบอกว่าเพราะต้นทุนมาแพง ใบละ 95 บาทขึ้นไป จะให้ขาย 80 บาทได้อย่างไร
“เราขายเกินราคาก็รู้ว่าเสี่ยง ผิดกฎหมาย แต่รับมาแพงจริงๆ บางคนไปซื้อมาจากแหล่งถนนราชดำเนินที่มีการขายส่ง ก็ให้ไปดูสิว่าที่นั่นส่งกันเท่าไร แต่ละงวดไม่เท่ากัน บางงวดดีหน่อยส่งใบละ78- 85 บาทก็พอได้ แต่งวดนี้ (ออก 30 ธ.ค.) แพงมากๆ รับมา 95-100 เราต้องขายเป็นใบ ใบละ 120 บาท ถ้าไม่รับมางวดนี้เราก็ไม่มีรายได้ ไม่มีจะกิน” แม่ค้าลอตเตอรี่ย่านสะพานสูง เล่าให้ฟัง
ดังนั้น หากรัฐบาลบิ๊กตู่ ต้องการจะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง การไม่ซื้อเลขชุดจะทำให้หวยราคาถูกอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง เพราะความจริงแล้วแม้รัฐบาลจะตัดวงจรของ 5 เสือกองสลากฯ ไปได้แล้ว แต่ทำไมหวยยังแพงเหมือนเดิม จึงจำเป็นต้องรู้ถึงต้นตอของปัญหาและขบวนการเหลือบที่ทำให้หวยแพง แก้เท่าไหร่ก็ไม่จบ และจะมีทางออกอย่างไร
ประเด็นปัญหาดังกล่าวสามารถหาคำตอบได้จาก รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ซึ่งได้ทำการศึกษาและวิจัย ‘เศรษฐกิจการพนัน’ ได้ให้ความเห็นไว้ชัดเจนว่าต้นตอของปัญหาและทางออกอยู่ตรงไหน
รศ.ดร.สังศิต ระบุว่า การจะปฏิรูปสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคา ว่า เป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้น ไม่มีทางที่หน่วยราชการใดจะยอมปฏิรูปตัวเอง และหน่วยงานใดก็ตามที่จะทำการปฏิรูปด้วยตัวเองย่อมไม่มีทางสำเร็จ ยกตัวอย่าง การปฏิรูปตำรวจซึ่งให้ตำรวจดำเนินการกันเอง มีการร่างกฎหมายปฏิรูปตำรวจซึ่งเพิ่มหน่วยงานต่างๆ ขึ้นมามากมาย แต่ปัญหาต่างๆ ไม่ได้ถูกแก้ไข ดังนั้น ต้องให้หน่วยงานอื่นเข้ามาทำหน้าที่ปฏิรูป
จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคามานับครั้งไม่ถ้วน ล่าสุดใช้วิธีเพิ่มจำนวนสลากกินแบ่งฯ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ แต่กลับกลายเป็นว่าราคาสลากแพงขึ้น ผลประโยชน์จากการขายสลากผ่านระบบยี่ปั๊วซาปั๊วยิ่งมากขึ้น ซึ่งตรงนี้มีกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์มหาศาล โดยมีเจ้าหน้าที่ในกองสลากฯ ร่วมมือด้วย เป็นการผูกขาดการขายสลากโดยคนกลุ่มหนึ่งจึงสามารถกำหนดราคาได้ ทำให้เกิดปัญหาการขายสลากเกินราคา เพราะรายย่อยรับมาในราคาสูง ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่กองสลากฯ จะเปลี่ยนระบบการขายสลากเพื่อป้องกันไม่ให้ขายเกินราคา เพราะมีผลประโยชน์มหาศาลรออยู่
อย่างไรก็ดี วิธีแก้ปัญหาสลากกินแบ่งเกินราคาได้สำเร็จนั้นจะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยยกเลิกการขายสลากกินแบ่งฯ ที่เป็นกระดาษ แล้วเปลี่ยนมาขายผ่านระบบออนไลน์แทน เพื่อตัดวงจรยี่ปั๊วซาปั๊วออกไป โดยเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาดำเนินการแทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเห็นได้ว่าสลากกินแบ่ง หรือล็อตโต้ในต่างประเทศ นั้นเอกชนเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ซึ่งเกือบทุกประเทศขายสลากผ่านระบบออนไลน์กันหมดแล้ว แม้แต่ในภูมิภาคอาเซียนก็มีแค่ประเทศไทยกับพม่าเท่านั้นที่ยังขายสลากแบบกระดาษอยู่
“การให้เอกชนเข้ามาดำเนินการขายสลากจะทำให้มีประสิทธิภาพดีกว่า เพราะเอกชนไม่กล้าโกง เนื่องจากต้องรักษาชื่อเสียงทางธุรกิจซึ่งเป็นผลประโยชน์ระยะยาว หากไม่ซื่อสัตย์ลูกค้าก็ไม่ซื้อ ยิ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากมีข่าวในทางไม่ดีจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างรุนแรง”
รศ.ดร.สังศิต ย้ำว่า หากให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเป็นหน่วยราชการทำเองจะเกิดปัญหาตามมามากมาย โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตซึ่งทำให้งบประมาณรั่วไหล เนื่องจากไม่มีการตรวจสอบ ทุกคนช่วยกันปกปิดเพราะได้ประโยชน์ร่วมกัน ทำกันเป็นทีม ถ้าเปลี่ยนมาขายแบบออนไลน์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรลงไปได้มาก กองสลากฯ แทบไม่ต้องทำอะไร รอรับส่วนแบ่งกำไรอย่างเดียว
“ดีที่สุดคือให้บริษัทเอกชนเข้ามาประมูลแข่งกัน สำนักงานสลากฯ ต้องเปิดประมูลอย่างโปร่งใส รัฐบาลจึงจะได้ผลประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย ใครชนะก็ได้สัมปทานการขายสลากออนไลน์ทั่วประเทศไปและแบ่งรายได้ให้สำนักงานกินแบ่งรัฐบาล”
ส่วนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่กำกับดูแล สำหรับในเรื่องการกำหนดส่วนแบ่งรายได้ให้สำนักงานอัยการเข้าไปช่วยดูเพื่อไม่ให้รัฐเสียเปรียบ
“แต่ถ้าสำนักงานสลากฯ ขายสลากออนไลน์เอง รับรองได้ว่าจะเต็มไปด้วยข่าวอื้อฉาว อาจจะมีการล็อกเลขที่ออก มีการทุจริตสารพัดรูปแบบ เพราะตรวจสอบไม่ได้ ส่วนการหมุนเลขในการออกรางวัลในแต่ละงวดจะให้เอกชนหรือสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการก็ได้ ไม่น่ามีปัญหาเพราะมีคนนอกเข้าไปร่วมเป็นสักขีพยาน”
รศ.ดร.สังศิต บอกอีกว่า ในการให้เอกชนเข้ามาดำเนินการขายสลากออนไลน์นั้น รัฐควรเปิดประมูลอย่างเป็นธรรมและคัดเลือกเพียงรายเดียวให้เป็นผู้ขายสลากได้ทั่วประเทศ เพราะหากมีหลายราย การตรวจสอบจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้ามีเพียงรายเดียวประชาชนจะช่วยกันเป็นหูเป็นตา เช่น หากมีการล็อกประมูล จะมีไม่กี่บริษัทที่เข้ารอบ ประชาชนก็ช่วยกันตรวจสอบได้
สำหรับวิธีการขายสลากออนไลน์นั้นในต่างประเทศจะตั้งเป็นร้านแบบเคาน์เตอร์เล็กๆ ที่เรียกว่าคีออสก์ ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขที่จะซื้อได้ คนขายก็จะบันทึกเลขลงในระบบและพรินต์ออกมาให้ ตรงนี้จะช่วยตัดปัญหาเลขเต็งเลขดังที่ผู้ขายสลากฯ มักขายในราคาแพงได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน ที่หวั่นเกรงว่าหากเปลี่ยนมาขายสลากออนไลน์จะกระทบต่อผู้ค้ารายย่อยซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปนั้น ยืนยันว่าผู้ค้ารายย่อยทั้งหมดไม่ต้องวิตกว่าจะขาดรายได้หรือขาดอาชีพขายสลากฯ ไป เพราะผู้ค้ารายย่อยสามารถเปลี่ยนวิธีการขายจากการขายสลากเป็นใบมาเป็นรับออเดอร์เลขที่ผู้ซื้อต้องการแล้วนำมาซื้อผ่านคีออสก์ที่ขายแบบระบบออนไลน์ หรือจะมาตั้งคีออสก์ขายสลากฯ เองก็ได้
“การออกรางวัลของสลากฯ จะใช้วิธีเฉลี่ยรางวัล คือไม่ต้องกลัวว่าถ้าเป็นเลขเต็งเลขดังแล้วจะหาซื้อยาก ใครอยากได้เลขไหนซื้อได้หมด ถ้าเลขนั้นถูกรางวัลแล้วมีจำนวนผู้ซื้อเยอะก็จะนำรางวัลมาเฉลี่ยตามจำนวนผู้ซื้อ เช่น สมมติรางวัลที่ 1 อยู่ที่ 50 ล้านบาท ถ้ามีคนถูก 10 คน ก็ได้คนละ 5 ล้านบาท แต่ถ้าถูกรางวัลคนเดียวก็รับไปเลย 50 ล้านบาท และหากเลขไหนไม่มีคนถูกรางวัลก็จะสะสมเงินรางวัลไว้งวดหน้า รางวัลงวดถัดไปก็จะเพิ่มขึ้น หากไม่มีคนถูกหลายๆ งวดก็จะสะสมไปเรื่อยๆ มูลค่ารางวัลก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งหากใครถูกก็เท่ากับได้รางวัลแจ็กพอตใหญ่ไปเลย ระบบนี้ผู้ซื้อได้ประโยชน์ล้วนๆ” รศ.ดร.สังศิต ระบุ
จากนี้ไปก็คงจะต้องจับตาดูว่าเงื่อนไขและทางออกที่ รศ.ดร.สังศิต เชื่อว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาหวยแพงได้ดีที่สุด และตรงกับที่ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลประกาศจะปฏิรูปการออกสลากฯ ครั้งใหญ่เพื่อแก้หวยแพง หลากหลายช่องทาง รวมทั้งช่องทางการขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งในแผนจะเริ่มในปี 2565 เป็นเฟสๆ ไปนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะอนุมัติให้มีการขายผ่านระบบออนไลน์ได้หรือไม่?
โดยเฉพาะสิ่งที่จะเกิดตามมาคือกระแสโจมตีว่าการขายผ่านระบบออนไลน์เป็นการมอมเมาประชาชน ทั้งเด็ก เยาวชน รวมทั้งปัญหาสังคมที่จะเกิดขึ้นตามมา!
นี่คือโจทย์ที่รัฐบาลบิ๊กตู่ ต้องตัดสินใจ!