สัญญาณเดินทางเริ่มชัดเจนเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ต้องกักตัวแต่มีเงื่อนไขต้องตรวจหาเชื้อก่อนและหลังการเดินทาง เจ้าของบริษัททัวร์ยิ้มมีลูกค้าจองบ้างแล้วแนะอ่านเงื่อนไขให้ดี เหตุเงื่อนไขอาจเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ รับที่ผ่านมาสาหัสต้องทำทุกอย่างให้อยู่รอด เพื่อนๆ ในวงการหายเกือบหมด แนะตอนนี้เที่ยวในประเทศค่าตั๋วเครื่องบินถูก รัฐบาลเปิด 46 ชาติเข้าไทยไม่ต้องกักตัว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดไทยเปิดประเทศ 2 เดือน สร้างรายได้ 1.35 หมื่นล้าน
1 พฤศจิกายน 2564 รัฐบาลไทยกำหนดให้มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ โดยกำหนดประเทศที่มีการควบคุมโควิด-19 ได้ดี ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยได้นำร่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศแบบมีเงื่อนไขมาแล้วในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564
ในหลายประเทศมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้าประเทศได้แบบไม่ต้องกักตัว แต่อาจมีเงื่อนไข เช่น ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และต้องมีใบรับรองการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนการเดินทาง ไม่ต่างไปจากแนวทางของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ทำมาก่อนหน้า ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศว่าจะเปิดรับผู้เดินทางจากประเทศใด และห้ามผู้เดินทางจากประเทศใด เนื่องจากยังคงต้องระมัดระวังเรื่องโควิด-19
ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีของการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์นี้ นอกจากต้องแลกมาด้วยชีวิตของประชาชนในประเทศ ทุ่มงบประมาณจัดหาซื้อวัคซีนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ออกมาตรการเยียวยาด้านการเงินในทุกมิติ ต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ทุกประเทศต่างประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ
แข่งดูดนักท่องเที่ยว
เมื่อแนวทางการควบคุมการแพร่ระบาดในทุกประเทศทำได้กว้างขึ้น ประชากรหลายประเทศมีภูมิคุ้มกันมากขึ้นจากการฉีดวัคซีนที่มากพอ สร้างความมั่นใจทั้งคนในประเทศและคนต่างชาติมากขึ้น ทุกประเทศจึงต้องเร่งหาวิธีที่จะฟื้นเศรษฐกิจภายในประเทศเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
การผลักดันให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ นอกเหนือจากการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศที่นับวันจะเหลือน้อยลงแล้ว การใช้เม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาช่วยให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อถือเป็นปัจจัยสำคัญ
ดังนั้น การท่องเที่ยวจึงถูกจัดให้เป็นความสำคัญลำดับต้นๆ เพราะไม่ต้องลงทุนใดๆ เพิ่ม ขายความงดงามทางธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของแต่ละประเทศ
อีกประการหนึ่งคนทั่วโลกที่ต้องถูกกักตัวจากโควิด-19 เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ทุกคนต่างกระหายอยากเดินทาง เหมือนที่เขาเคยมีอิสระก่อนเกิดโควิด-19 เห็นได้จากประเทศไทยช่วงใดที่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการ จังหวัดชายทะเลใกล้กรุงเทพฯ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องการผ่อนคลายความอัดอั้นที่มีในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ลำพังแล้วการท่องเที่ยวของไทยเที่ยวไทย ย่อมส่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้แค่ระดับหนึ่ง หากต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้มากกว่านี้จำเป็นต้องอาศัยเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามาผลักดัน เพื่อให้เกิดการจ้างงาน เกิดรายได้กับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลต่อการจ้างงาน สร้างรายได้ให้คนในประเทศมากขึ้น
วิธีการนี้จะช่วยลดปัญหาเศรษฐกิจที่ค้างอยู่ เช่น ภาระหนี้สินของผู้คนที่มีกับสถาบันการเงิน บ้าน รถ หรือหนี้สินอื่นๆ ช่วยลดปัญหาทางสังคม เช่น เงินไม่พอใช้ ลูกไม่ได้เรียน ลดเรื่องการหลอกลวงของกลุ่มมิจฉาชีพไปในตัว รวมถึงคดีอาชญากรรมอันเนื่องมาจากรายได้ไม่เพียงพอ
เสี่ยงแต่ประเทศต้องเดินหน้า
ทุกประเทศมองเห็นแนวทางฟื้นเศรษฐกิจไม่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละประเทศว่าควบคุมโควิด-19 ได้ดีมากน้อยเพียงใด สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากแค่ไหน เพราะมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ประเทศในแถบเอเชีย สิงคโปร์ หรืออินโดนีเซียต่างก็เดินหน้าแนวทางนี้ไปบ้างแล้ว
แน่นอนว่าการเปิดประเทศต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงของเชื้อจากต่างประเทศ แต่หากมีมาตรการควบคุมที่ดีพอ ย่อมช่วยลดข้อกังวลใจเหล่านี้ของฝ่ายที่เป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดลงได้ รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีน ควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศ ลดจำนวนผู้ติดเชื้อในทุกแนวทางเพื่อให้เกิดการติดเชื้อน้อยที่สุด ไม่สร้างปัญหาต่อระบบสาธารณสุขของประเทศเหมือนช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ต้องมีมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปลอดเชื้อ จึงจะสามารถมาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ สร้างความมั่นใจให้คนไทยด้วยเช่นกัน
แต่หากไม่เปิดให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป ปัญหาด้านกำลังซื้อของคนย่อมมีมากขึ้น กลายเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินโดยรวมของประเทศ และยังกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาลจากการเรียกร้องของกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน
บริษัทท่องเที่ยวแทบไม่เหลือ
ที่ผ่านมา ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวต่างประสบปัญหาจากการที่ไม่สามารถเดินทางได้ทั้งขาเข้าและขาออก หลายรายต้องปิดกิจการทั้งรายใหญ่รายเล็ก และส่งผลถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่องอย่างโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร รถบัส-รถตู้ ร้านค้าต่างๆ แรงงานในส่วนนี้จำนวนมากต้องว่างงาน หรือรายได้ลดลง
นิดหน่อยทัวร์ ถือเป็นอีกหนึ่งบริษัทเอเยนต์ทัวร์ ที่แม้จะประสบปัญหาเช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายอื่น แต่ยังเดินหน้าประกอบธุรกิจนี้ต่อไป แม้ในช่วงเกือบ 2 ปี จะไม่มีลูกค้าเลยก็ตาม
ทุกคนต้องปรับตัวทั้งนั้น ตอนนี้เหลือคนที่ยังเปิดบริษัทต่อไม่กี่ราย บางรายที่ต้นทุนน้อยเปิดบริษัทไว้เฉยๆ แต่ไม่ได้ทำอะไร รอให้สถานการณ์คลี่คลายค่อยกลับมาทำใหม่
เพื่อนๆ ในแวดวงนี้หลายคนเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่น ช่วงแรกใช้เฟซบุ๊กของบริษัทที่มีผู้ติดตามมาก (หลักแสนคน) ขายอุปกรณ์ป้องกันตัวจากโควิด-19 ไปจนถึงรับฝากร้านค้าต่างๆ เพื่อสร้างรายได้
บางเจ้าที่ตั้งอยู่ในอาคารสำนักงานต้องทำข้าวกล่องส่งพนักงานบริษัทอื่นในตึกเดียวกัน แต่เมื่อทุกอย่างถูกลากยาวออกไปรายได้เหล่านี้ย่อมไม่เพียงพอ จึงต้องปิดกิจการ ไปทำงานอื่น เพื่อเลี้ยงตัวให้ผ่านพ้นไปให้ได้
“เราต้องสร้างรายได้ในรูปแบบอื่น เช่น ขายสินค้าอื่นตามสถานการณ์ รับฝากขายสินค้าจากต่างประเทศที่เพื่อนในธุรกิจเดียวกันมีอยู่ ขายตั๋วดินเนอร์ล่องเรือ บุฟเฟต์โรงแรมหรู ตลอดจนขายแพกเกจที่พักตามโรงแรมหรือรีสอร์ตต่างๆ รายได้มาจากค่าคอมมิชชัน ขณะเดียวกัน ยังต้องแก้ปัญหาลูกทัวร์ที่ตกค้างที่ไม่สามารถเดินทางได้ช่วงเกิดโควิด-19”
ตอนนี้เริ่มมีโปรแกรมทัวร์ไปต่างประเทศออกมาบ้างแล้ว เช่น จอร์เจีย ตุรกี อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เราในฐานะเอเยนต์ก็เสนอขายเหมือนที่ผ่านมา และมีคนไทยสนใจจองโปรแกรมเหล่านี้กันบ้างแล้ว ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีแล้วสำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ยิ่งหลายประเทศเริ่มเปิดให้เดินทางได้แบบไม่ต้องกักตัว นับว่าเป็นทิศทางที่ดีที่พร้อมจะไปเที่ยวต่างประเทศ แน่นอนว่าภายใต้สถานการณ์นี้ อาจต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของประเทศปลายทาง รวมถึงเงื่อนไขของรัฐบาลไทยตอนเดินทางกลับด้วยว่าสามารถปฏิบัติตามได้หรือไม่ ถ้าพร้อมก็สามารถเดินทางได้
ราคาขึ้นเพราะตั๋วเครื่องบิน
จากการสำรวจราคาทัวร์ต่างประเทศที่โพสต์กันตามตัวแทนต่างๆ พบว่า ราคาที่กำหนดไว้ตอนนี้ค่อนข้างสูงกว่าราคาในช่วงก่อนเกิดโควิด-19 บางโปรแกรมอย่างจอร์เจียนั้นมีการเพิ่มวันในการเดินทางทำให้ราคาสูงกว่าเดิม 6 วัน 3 คืน เคยอยู่ที่ประมาณ 29,900 บาท
หรือโปรแกรมตุรกี ราคาขยับขึ้นกว่าเดิมอีก 10,000 บาท เดิม 29,900 บาท ด้วยระยะเวลาในการท่องเที่ยวเท่าเดิม กลุ่มประเทศยุโรปอย่างอิตาลี-สวิตเซอร์แลนด์ 7 วัน 4 คืน 39,900 บาท อันนี้ราคาจะใกล้เคียงกับราคาที่เคยขายในช่วงหน้าร้อน ซึ่งไม่รวมค่าทำวีซ่า ค่าทิปไกด์ปลายทาง-ทิปไกด์ไทย เบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายส่วนนี้น่าจะอยู่ราว 5,000 บาท ส่วนโปรแกรมแถบเอเชียตอนนี้ยังไม่ออกมา
เมื่อสอบถามถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่าทุกประเทศจะดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการทำสงครามราคาหรือไม่
ที่พัก โรงแรม อาหาร หรือบริการท่องเที่ยวในต่างประเทศราคาอาจลดลงด้วยซ้ำ ที่เราเห็นขณะนี้ว่าแพงกว่าเดิมนั้นเป็นเรื่องของราคาตั๋วเครื่องบินเป็นหลัก เนื่องจากต้นทุนการบินขณะนี้ถือว่าสูงขึ้น ทั้งราคาน้ำมัน ค่าใช้จ่ายต่างๆ เนื่องจากผู้เดินทางยังมีจำนวนน้อย อาจต้องรอให้สถานการณ์คลี่คลายอีกระยะ
สำหรับคนไทยที่อยากเที่ยว แนะนำว่าตอนนี้ควรเที่ยวในประเทศไปก่อน เงื่อนไขน้อยกว่าไปต่างประเทศ จะเดินทางไปเอง ซื้อแพกเกจโรงแรม ตั๋วเดินทาง หรือใช้บริการทัวร์ก็ได้ เนื่องจากเวลานี้ตั๋วเครื่องบินในประเทศค่อนข้างถูก จะเห็นได้ว่าราคาทัวร์ในประเทศที่ออกมา เดินทางด้วยเครื่องบินกับระยะเวลาท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาทต่อคนเท่านั้น
คาด 2 เดือนสร้างเงิน 1.35 หมื่นล้าน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2564 นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความพยายามจากทุกภาคส่วนที่จะพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาเดินหน้าต่อได้ หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่ยาวนาน อีกทั้งในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีคาบเกี่ยวไปถึงช่วงต้นปีถัดไป นับว่าเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเวลาอื่นๆ
คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาไทยในช่วง พ.ย.-ธ.ค.64 อาจจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยน่าจะเห็นผลที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วงปลายเดือน ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ ผลจากการเปิดประเทศน่าจะช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 64% เมื่อเทียบกับที่ไม่มีมาตรการ ซึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งปี 2564 ขยับขึ้นมาที่ประมาณ 1.8 แสนคน (จากคาดการณ์เดิมที่ 1.5 แสนคน) สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.35 หมื่นล้านบาท โดยรายได้การท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังกระจายอยู่ในเฉพาะพื้นที่ที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ ในกรณีที่สถานการณ์ต่างๆ ปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง คงจะช่วยหนุนให้การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทยมีความชัดเจนมากขึ้นอีกในช่วงปี 2565 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติสำคัญอย่างจีน และกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนกลับมาท่องเที่ยว
โดยชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาน่าจะได้แก่ นักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ ยุโรป บางประเทศในเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งนอกจากมาจากประเทศที่เข้าข่ายตามเงื่อนไขของทางการแล้ว (เช่น อัตราการฉีดวัคซีนสูงหรือจัดการโควิด-19 ได้ดี) น่าจะเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนมากในจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทยนับตั้งแต่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม STV (Special Tourist Visa) จนมาถึง Phuket Sandbox รวมทั้งเป็นกลุ่มที่ให้ความสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งสะท้อนผ่านเครื่องชี้การค้นหาโรงแรมและที่พักในไทยผ่านเว็บไซต์ต่างๆ
จากข้อมูลของ Google Destination Insight (Travel Insights with Google) พบว่า ตั้งแต่เดือน ก.ย.64 จนถึงต้นเดือน ต.ค.64 มีภาพที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยประเทศที่มีการค้นหาโรงแรมและที่พักในไทยสูง ได้แก่ รัสเซีย สหรัฐฯ อินเดีย สหราชอาณาจักร และเยอรมนี เป็นต้น ขณะที่โรงแรมและที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการค้นหาสูงสุด เช่น กรุงเทพฯ ป่าตอง (ภูเก็ต) พัทยา (ชลบุรี) เกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี) และกะรน (ภูเก็ต) เป็นต้น
ล่าสุด ประเทศไทยเปิดให้ 46 ชาติความเสี่ยงต่ำเข้ามาประเทศไทยได้ไม่ต้องกักตัว เพียงแต่ต้องฉีดวัคซีนครบโดส มีผล 1 พฤศจิกายน 2564 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจประเทศ