ทะลุแก๊ส กลายเป็นขุมทรัพย์ให้อดีตผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลโกยคะแนนลงพื้นที่หาเสียง แถมคณะก้าวหน้าถล่มซ้ำรัฐบาลใช้ความรุนแรงส่วนเพจตระกูลทะลุแก๊ซ (ส) แย่งกันเคลมม็อบดินแดง คนทำม็อบฟันธงหนีไม่พ้นเรื่องเงิน ชาวแฟลตเริ่มไม่ทนรวมตัวรวบมือระเบิด ม็อบดินแดงอยู่ต่อยาก
สามเหลี่ยมดินแดงนับว่าเป็นพื้นที่แสดงศักยภาพของม็อบสายอิสระ ไม่ขึ้นกับใคร เน้นการแสดงพลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) มีให้เห็นแทบทุกวันเป็นเวลานับมากกว่า 1 เดือน และยังดูเหมือนไม่มีทางออกกับการแก้ปัญหา แม้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประกาศว่าจะแก้ปัญหานี้ให้จบภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกเหนือจากพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงจะเป็นสนามประลองกำลังระหว่างกลุ่มวัยรุ่นกับ คฝ.แล้ว ภายใต้การปะทะกันที่เหมือนดูรุนแรง ทั้งกระสุนยาง แก๊สน้ำตา พลุ ระเบิดปิงปอง หนังสะติ๊ก ลูกแก้ว พื้นที่ดังกล่าวยังมีมูลค่าให้บางกลุ่มเข้ามาช่วงชิงกันอีกหลายกลุ่ม ขึ้นอยู่กับว่าใครจะฉกฉวยจากช่องว่างที่เกิดขึ้น
แยกดินแดงไม่ต่างไปจากการโชว์ มีผู้แสดงหลักอย่างกลุ่มวัยรุ่นกับตำรวจควบคุมฝูงชน มีเวลาทำการแสดงและยุติการแสดง เป็นแบบนี้แทบทุกวัน ขึ้นอยู่กับว่าวันใดรุนแรงมากหรือรุนแรงน้อย
ก้าวไกลช่วย+หาเสียง
ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหนีไม่พ้นผู้พักอาศัยแถวแฟลตดินแดง แม้จะเคยขึ้นป้ายเรียกร้องให้ภาครัฐเห็นใจชาวบ้านบริเวณนั้น แต่ใต้แผ่นป้าย “พวกเราชาวดินแดงไม่ต้องการให้ที่นี่เป็นสนามรบ” หรือแผ่นป้ายอื่นๆ แม้จะลงชื่อคณะกรรมการแฟลต 1-17 ดินแดง 1 แต่พบว่าท้ายแผ่นป้ายมีข้อความ “กลุ่มเรารักเอ๋ อดิศร” เมื่อตรวจสอบกลับไปพบว่า เอ๋ อดิศร คือนายอดิศร โพธิ์อ่าน อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พื้นที่ดินแดง-ห้วยขวาง จากพรรคอนาคตใหม่ (ก้าวไกล) ที่พลาดการเลือกตั้งเมื่อปี 2562
จากนั้นเสียงของชาวแฟลตก็เริ่มอ่อนลง เนื่องจากถูกมองว่าการออกมาเรียกร้องดังกล่าวเจือปนด้วยการเมือง ถัดมามีตัวแทนของแฟลตดินแดงยื่นเรื่องให้รัฐบาลหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เป็นที่ทราบกันดีว่า กลุ่มการเมืองกลุ่มใดที่พยายามเรียกร้องขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะกลุ่มการเมืองนี้เดินเคียงคู่กับม็อบของเยาวชน ที่เรียกร้องไกลกว่าการขับไล่รัฐบาล จนไปถึงเรื่องของสถาบันเบื้องสูง มาตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของแกนนำบางคนในคณะการเมืองดังกล่าว
การปะทะในทุกเย็นจนถึง 3 ทุ่มเกือบทุกวัน กินเวลาเดือนเศษ 14 กันยายน 2564 ทีมงานนายอดิศร โพธิ์อ่าน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล พร้อมมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ตั้งโต๊ะรับเรื่องจากผู้อาศัยบริเวณแฟลตดินแดง 1-4 ที่ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง และรวมตัวเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลดินแดง
ด้านหนึ่งคือการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน อีกด้านคือการทำการตลาดสร้างคะแนนนิยมให้อดีตผู้สมัครและพรรคก้าวไกล หากเกิดการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งๆ ที่พื้นที่ดินแดง-ห้วยขวาง ส.ส.ในพื้นที่คือนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ จากพรรคเพื่อไทย กลายเป็นการช่วงชิงจังหวะทำแต้มระหว่างพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน
คณะก้าวหน้าอัดรัฐบาลอำมหิต
ไม่ใช่เพียงแค่อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่ลงมาช่วยเหลือผู้พักอาศัยย่านแฟลตดินแดง เฟซบุ๊กของคณะก้าวหน้าก็ออกมาใช้เหตุการณ์ที่ดินแดง ที่หลายคนเรียกกันกว่ากลุ่มทะลุแก๊ส โจมตีรัฐบาลด้วยเช่นกัน
คืนวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา การใช้กำลังและอาวุธครบมือบุกแฟลตดินแดงเพื่อค้นหาและจับกุมผู้ชุมนุม รวมถึงระดมยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยางอย่างไม่ยั้งมือเข้าใส่ โดยไม่สนใจว่าเป็นที่พักอาศัยของประชาชนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ คือภาพสะท้อนของ “ตำรวจพิทักษ์ทรราช” มากกว่า “ตำรวจพิทักษ์สันติราษฎร์”
คณะก้าวหน้าขอประณามการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน โดยละเมิดรัฐธรรมนูญและกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือ ICCPR การใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่งโดยไม่ต้องมีความละอาย ต้องยุติทันที และเปิดพื้นที่ให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองได้ตามกฎหมาย
อย่ารอให้ความโกรธแค้นของประชาชนลุกลามจากดินแดงไปทั่วแผ่นดิน
ชาวดินแดงไม่ทนรวบมือระเบิด
แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์อาจพลิกกลับ เมื่อค่ำของวันที่ 16 กันยายน 2564 ชาวแฟลตดินแดงได้รวมตัวกันจับชายต้องสงสัยได้ 2 ราย พร้อมวัตถุระเบิดในกระเป๋า พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมงดใช้เสียงหลังจากเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากเป็นเวลาพักผ่อนและในแฟลตมีคนสูงอายุและผู้ป่วยได้รับความเดือดร้อน
รุ่งขึ้น 17 กันยายน เพจทะลุแก๊ซได้ออกมาชี้แจง การชุมนุมหลายวันที่ผ่านมา มีอาชญากรรมก่อตัวเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ มีการดักทำร้ายร่างกายกัน ทะเลาะวิวาท รวมไปถึงการชิงทรัพย์ ด้วยจุดประสงค์ของผู้ที่ไม่หวังดีที่อาศัยการชุมนุมประท้วงของผู้ชุมนุมที่ดินแดงในการเข้ามาก่อความวุ่นวาย
มีการปาประทัดสร้างความรำคาญ และรวมกลุ่มกันก่อความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน โดยที่ไม่มีเหตุ (ยังไม่มี คฝ. พวกมันก็จุดเล่นกัน โยนประทัดใส่ชาวบ้านที่เขาไม่พอใจการกระทำของคนกลุ่มนี้ รวมกลุ่มเบิ้ลรถก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านแฟลตดินแดง)
ทางชาวบ้านทนการกระทำของพวกที่พวกฉวยโอกาสไม่ไหว ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ทำให้การประท้วงและโต้กลับของกลุ่มผู้ชุมนุมมีกระแสในด้านลบเป็นวงกว้าง และชาวบ้านดินแดงได้รับความเดือดร้อน
กลุ่มพ่อแม่พี่น้องที่ดินแดงเลยรวมตัวกันเพื่อตามล่าคนพวกนี้
พี่น้องดินแดงสนับสนุนทะลุแก๊ซ นั่นคือความจริง และพี่น้องที่นั่นให้การช่วยเหลือเรามาโดยตลอด อย่าตกเป็นเครื่องมือของรัฐในการปราบปรามพวกเรา
ทะลุแก๊สอยู่ต่อยาก
สายก้าวหน้า หรือก้าวไกล ต่างใช้เหตุการณ์ในพื้นที่ดินแดง กลับเข้ามาเป็นประโยชน์กับฝ่ายของตน ทั้งในรูปแบบการให้ความช่วยเหลือและการนำเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตำหนิรัฐบาล ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมที่ดินแดงที่ถูกดำเนินคดีจะมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหัวหน้าทีมทนายสิทธิฯ ก็เป็นทนายให้คดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และมีเงินของกองทุนราษฎรประสงค์ช่วยเหลือในเรื่องการประกันตัว โดยเมื่อไม่นานมานี้ นายธนาธรได้มอบภาพวาดส่วนตัวนำมาประมูลเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือกองทุนดังกล่าว
แม้กระทั่งเพจทะลุแก๊ซก็อ้างอิงโพสต์ของนายอดิศร โพธิ์อ่าน อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล ที่แจ้งว่าชาวดินแดงได้รับบาดเจ็บจากกลุ่มผู้ชุมนุม
ทีมมอนิเตอร์ม็อบที่ดินแดงกล่าวว่า “ที่ผ่านมาผู้ชุมนุมในพื้นที่ดินแดงเป็นที่รู้กันว่าหากถูกตำรวจไล่จับ แล้วหลบหนีมาแถวแฟลตจะต้องไปทางไหน ส่วนใหญ่แล้วมักจะจับไม่ได้ เมื่อตำรวจถอนกำลังออกไป พวกน้องๆ ก็จะกลับเข้ามาใหม่”
เราเคยประเมินว่าถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ชาวบ้านที่พักอาศัยแถบนั้นจะอดทนได้นานแค่ไหน ซึ่งเพจทะลุแก๊ซก็ออกมาโพสต์เองว่า “พี่น้องดินแดงสนับสนุนทะลุแก๊ซ” แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือชาวแฟลตดินแดงเริ่มออกมาแสดงความไม่พอใจกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น หากพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือม็อบทะลุแก๊สคงอยู่ยาก
เพราะยิ่งนานม็อบที่ไม่มีแกนนำ มาจากหลากหลายกลุ่ม เมื่อถึงจุดหนึ่งการทะเลาะกันเองย่อมเกิดขึ้นได้ ซึ่งมีให้เห็นแล้วหลายกรณี เพียงแต่ไม่เป็นข่าวมากนัก หรือการแสดงพลังขว้างระเบิด จุดประทัด หรือจุดไฟเผา เมื่อเกินเลยกว่ากรอบเวลาย่อมกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวแฟลต หรือผู้พักอาศัยบางคนอาจกระทบกระทั่งกับผู้ชุมนุมจนถูกทำร้าย
แฉตั้งเพจเคลมม็อบ
ภายใต้การปะทะกันระหว่างม็อบอิสระกับตำรวจ คฝ. กลับมีการจัดตั้งเพจทะลุแก๊ซขึ้นมา ไม่นานนักก็เกิดเพจเยาวรุ่นทะลุแก๊ส และเพจทะลุแก๊ส ตามมา จนทำเอาหลายคนสับสนในเพจเหล่านี้
หนึ่งในผู้สังเกตการณ์การชุมนุมที่ดินแดงกล่าวว่า ตัวม็อบที่ปะทะกับตำรวจนั้นเกิดขึ้นก่อน เป็นที่รู้กันว่าม็อบที่นี่ไม่มีแกนนำ ส่วนเพจทะลุแก๊ซตามมาทีหลัง เสมือนเป็นการอำนวยความสะดวกในรูปแบบต่างๆ ให้กลุ่มที่มาชุมนุม พร้อมทั้งชูคำว่า "สันติวิธีเชิงตอบโต้" ประกาศตัวไม่ได้นัดชุมนุมหรือแจ้งยกเลิกชุมนุม ไม่รับการบริจาคหากจะบริจาคแนะนำให้ไปที่กองทุนราษฎรประสงค์
ไม่นานนักเพจเยาวรุ่นทะลุแก๊สเกิดตามหลังทะลุแก๊ซ เพจนี้แจ้งนัดชุมนุมและยกเลิกชุมนุม ขอรับบริจาคเป็นอุปกรณ์ในการป้องกันตัว
เราได้ข่าวมาตั้งแต่แรกแล้วว่าทะลุแก๊ซนั้นไม่ได้ลงหน้างาน ส่วนเยาวรุ่นฯ จะแจ้งเสมอว่าทีมเพจลงหน้างาน ทั้ง 2 เพจแขวะกันมาระยะหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่ทะลุแก๊ซจะเป็นฝ่ายแขวะ และยังแขวะมาถึงม็อบใหญ่ด้วยเช่นกัน ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ข้อความว่า
“ฝากข้อความถึงมิตรสหายทีมสันติวิธีทุกทีม พรุ่งนี้ถ้าเรายังไม่เห็นพวกท่านออกมาร่วมกันกดดันเหตุการณ์ในวันนี้ เราจะไม่ขอนับพวกท่านเป็นมิตรสหายอีกต่อไป และจะบันทึกลงหน้าประวัติศาสตร์ว่าพวกท่านเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้รัฐล้อมปราบเรา ซ้ำรอยเดิมคนเสื้อแดง”
ถึงเวลานี้ม็อบใหญ่ที่เลือกเดินเส้นทางสันติวิธีก็ไม่ได้เข้าร่วมที่ดินแดง
ความขัดแย้งระหว่างเพจที่ใช้ชื่อทะลุแก๊ซกับเยาวรุ่นทะลุแก๊ส กับข้อกล่าวหา “เคลมม็อบที่ดินแดง” นั้น สะท้อนให้เห็นว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์
แม้ทางเพจทะลุแก๊ซจะแจ้งว่าถ้าใครจะบริจาคให้ไปที่กองทุนราษฎรประสงค์ หรือเยาวรุ่นทะลุแก๊สขอรับเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัว แต่ในทางปฏิบัติแล้วคนที่เข้ามาสนับสนุนอาจมีข้อจำกัดในเรื่องการไปหาซื้ออุปกรณ์ให้ สะดวกที่สุดคือโอนเป็นเงิน ข้อความที่พูดคุยกันทาง Messenger ไม่มีใครรู้ คนที่อยู่ในแวดวงนี้ก็รู้กันดี
ที่สำคัญคือเมื่อได้รับการสนับสนุนแล้วมีการนำเอาเงินไปจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ให้น้องๆ หน้างานหรือไม่ หรือช่วยเต็มจำนวนเงินบริจาคหรือไม่
การเคลมม็อบว่าเป็นผลงานของตนเองนั้น จะมีผลต่อสปอนเซอร์ที่เข้ามา ถ้าเจ้าของเพจได้รับการสนับสนุนมาแล้วไม่นำไปช่วยน้องๆ หน้างาน ถือว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก เพราะเท่ากับคุณไม่ได้ลงทุนอะไรเลย แค่ตั้งเพจ รายงานเหตุการณ์บ้าง ใครถูกดำเนินคดีใช้ทนายสิทธิฯ กองทุนราษฎรประสงค์ หากได้งบสนับสนุนเข้ามารับไปเต็มๆ ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่มีเจ้าของเงินรายใดจะประกาศตัวหรืออ้างสิทธิเพราะถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายด้วยเช่นกัน