เพจทะลุแก๊ซหนุนม็อบดินแดงสายปะทะตำรวจ เรียกร้องขบวนม็อบใหญ่เข้าร่วม เชื่อเป็นทีมงานเดิมในม็อบนักศึกษาสามารถประสานทนายสิทธิมนุษยชนว่าความให้ผู้ถูกจับกุม แถมใช้เงินกองทุนราษฎรประสงค์ประกันตัว ด้านม็อบใหญ่สายสันติวิธีเลี่ยงจัดกิจกรรมผ่านดินแดงแยกให้ชัดคนละแนวทาง หารืองดใช้เงินช่วยเหลือประกันตัว ระยะหลังตำรวจปรับเน้นจับกุมม็อบดินแดงเริ่มฝ่อ
การขับเคลื่อนของม็อบที่ออกมาขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ช่วงเดือนสิงหาคมนับได้ว่าถี่ยิบ ทั้งม็อบทางการอย่างเยาวชนปลดแอก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม (ราษฎร) กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มเหล่านี้ถือว่าจัดชุมนุมเป็นกลุ่มทางการมาตั้งแต่ปี 2563 ส่วนกลุ่มใหม่หน้าเก่าจัดกิจกรรม Car Mob ของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และสมบัติ บุญงามอนงค์
กลุ่มที่เป็นทางการเหล่านี้จะมีการนัดหมายล่วงหน้า มีแกนนำในบางกลุ่ม มีมวลชนที่เห็นด้วยกับแนวทางเข้าร่วม แต่ละกลุ่มอาจจัดเพียงบางช่วง บางเวลา หรืออาจมีการชุมนุมต่อเนื่อง แต่จะมีช่วงพักเพื่อไม่ให้มวลชนล้าเกินไป
ที่ผ่านมา ขบวนของแต่ละม็อบอาจมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้างในบางครั้ง อย่างกลุ่มราษฎร แต่แกนนำจะห้ามปรามและประกาศยุติการชุมนุม ส่วนม็อบของเยาวชนปลดแอกหรือ REDEM ในระยะหลังจัดแบบไม่มีแกนนำ ดังนั้น ขาปะทะจึงชอบเข้าไปในม็อบนี้ ส่วนม็อบทะลุฟ้าพยายามเดินแนวทางสันติวิธี เช่นเดียวกับ Car Mob ของเต้น-ณัฐวุฒิ
ทะลุแก๊ซสายปะทะ
เมื่อการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงมีทุกวัน จึงมีการตั้งเพจทะลุแก๊ซขึ้นมา พร้อมโพสต์ข้อความถึงที่มาของกลุ่มนี้ว่า หยุดผูกขาดประชาชนไว้ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง กลุ่มทะลุแก๊ซ อาจเป็นกลุ่มใหม่ที่เกิดจากการรวมตัวกันในระยะสั้นๆ เป็นกลุ่มย่อยที่รวมกันเฉพาะกิจ เป็นผู้ปะทะที่อยู่หน้าแนวมาโดยตลอด อาจไม่เรียกตัวเองว่าการ์ด แต่ก็ไม่เคยทำร้ายมวลชนด้วยกันเอง
แนวทางอาจแตกต่างไปบ้างจากกลุ่มใหญ่ กลุ่มหลัก จนเราต้องยอมรับกันได้แล้วว่าปัจจุบันม็อบเยาวรุ่น ไม่ใช่ม็อบหน่อมแน้มมาตั้งนานแล้ว เราต่างมีความกล้าแกร่งทั้งสติปัญญา กำลังกาย กำลังใจ ที่ล้วนแล้วแต่มาเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน
เปิดใจให้กว้างไม่แสดงความผูกขาดว่าประชาชนจะเป็นของกลุ่มไหน อย่าไปกลัวจนเกินกว่าเหตุ สังเกตให้ดีว่าที่ผ่านๆ มามวลชนกลุ่มนี้สามารถเอาตัวเองรอดปลอดภัยได้เป็นอย่างดี ก็เอาใจช่วยกันและกัน ทะลุแก๊ซก็อย่าลืมฟังเพื่อนที่ห่วงใยแล้วเตือนเราด้วยความหวังดีว่าอย่าเกินเลยไปถึงจุดที่จะให้เป็นเงื่อนไขหรือข้ออ้างของรัฐระยำนี้ให้มาทำร้ายประชาชน
สันติวิธีอาจต้องมาในหลายๆ รูปแบบ การต่อสู้ภายใต้รัฐที่อำมหิตเห็นชีวิตประชาชนเป็นผักปลา อย่าเพิ่งไปกลัวเปลวไฟที่เราเพียงแค่จุดเผาหุ่นฟาง เผารูปทรราชในเชิงสัญลักษณ์ หรือสีที่สาดเข้าใส่พื้นหรือป้ายองค์กรที่สั่งยิงประชาชน
ที่มากกว่าการเดินคล้องแขนและชูสามนิ้ว คือการเดินเข้าหาแก๊สน้ำตาและห่ากระสุน
สันติวิธีเชิงตอบโต้
ด้วยความที่ม็อบดังกล่าวไร้แกนนำ เมื่อเกิดเพจทะลุแก๊ซขึ้นมา ก็มีการตั้งเพจในลักษณะใกล้เคียงกันเพิ่มขึ้นมา ที่หลายคนจับตาคือเพจเยาวรุ่นทะลุแก๊ซ โพสต์ข้อความว่า เพจนี้ ไม่ใช่ฝั่งของรัฐบาลหรือตำรวจแต่อย่างใด ออกมาเรียกร้องในอุดมการณ์ของเรา ในแนวทางของเรา จริงๆ อยากให้ร่วมงานด้วยกัน ไม่อยากให้แตกแยกว่าอันไหนเพจปลอมอันไหนเพจจริง อยากร่วมงานด้วยกันทักอินบล็อกเพจได้เลย คุยกันได้ร่วมงานกันได้ รวมกันเป็นหนึ่ง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยกลับคืนมาให้พี่น้องชาวไทย
ที่ผ่านมา เพจเยาวรุ่นทะลุแก๊ซ ทำหน้าที่ประกาศนัดหมายรวมถึงแจ้งยุติการชุมนุม ซึ่งสวนทางกับแนวทางของเพจทะลุแก๊ซที่ระบุว่า
“ขอชี้แจงตรงนี้นะครับ #ทะลุแก๊ซ จะไม่มีการนัดแนะสถานที่รวมตัวกัน จะไม่นำขบวนหรือชี้นำใดๆ ทั้งสิ้น เพราะการกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถรับประกันได้เลยว่าจะรับผิดชอบกับชีวิตผู้ชุมนุมได้เพียงพอมั้ย”
ทะลุแก๊ซสนับสนุนการรวมกลุ่มและสร้างฉันทมติร่วมกันเท่านั้น ยืนยันในหลักการต่อต้านด้วยอาวุธที่มีเพียงอย่างเดียวนั่นคือ สันติวิธีเชิงตอบโต้
ทะลุแก๊ซแนะนำแผนตลอดตั้งแต่วันที่ตำรวจย้ายคอนเทนเนอร์ออก เพื่อหวังผลในการเข้าจับกุมและใช้กลยุทธ์ในการเผด็จศึกแบบปิดประตูตีแมวอย่างที่เราเห็นวันสองวันที่ผ่านมาว่ามันเกิดความสูญเสียแค่ไหน
กลุ่มไหนที่ชี้นำมวลชนให้บุกเข้าไปในวันนั้น ทะลุแก๊ซอยากเห็นสปิริตในการรับผิดชอบต่อกลยุทธ์ที่ผิดพลาดของพวกท่าน อาจจะเป็นการสรุปบทเรียน หรือการออกแถลงการณ์ใดๆ ก็ตามที่แสดงให้เห็นถึงความตระหนักในชีวิตของมิตรสหายที่สู้ร่วมกัน
ทะลุแก๊ซขอแจ้งอย่างตรงไปตรงมาว่า ทุกกลุ่มที่พยายามจะพามิตรสหายของพวกเรา เข้าไปให้ตำรวจจับ นั่นคือความพ่ายแพ้ของเรา ที่ต้องเห็นมิตรสหายร่วมอุดมการณ์ถูกจับกุมและได้รับบาดเจ็บอย่างที่ปรากฏในข่าว
หวังว่ามิตรสหายทุกท่านจะตั้งสติแล้วมาคุยกันอย่างเปิดอก ลดวางอีโก้ลงเพื่อแบ่งงานกันทำตามความสามารถ สู้ไปด้วยกัน เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันครับ
ม็อบใหญ่ไม่กล้าร่วม
กลุ่มที่รวมตัวกันที่สามเหลี่ยมดินแดง เน้นปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน มาจากหลายกลุ่มทั้งสายอาชีวะ สายแว้น วัยรุ่นที่คึกคะนอง และเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนหนึ่งอาจมีเรื่องของอุดมการณ์ทางการเมือง ได้รับผลกระทบจากการบริหารของรัฐบาลจริง อีกส่วนแค่มาตามเพื่อน ได้สร้างโปรไฟล์ให้กับตัวเอง
หนึ่งในทีมงานจัดม็อบกล่าวว่า เราพยายามหาว่าใครเป็นแกนนำในแนวหน้า เพื่อจะได้ประสานงานและช่วยกันกำหนดแนวทางเพื่อความปลอดภัยของคนที่เข้ามาชุมนุม แต่ไม่สามารถเข้าถึงได้และความพยายามในการเข้าถึงก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดีไม่ดีอาจเกิดการกระทบกระทั่งกันได้ เพราะเขาก็อาจไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าที่เข้าไป รวมถึงความต้องการที่จะเคลื่อนไหวอย่างอิสระ
ทำให้ฝ่ายที่จัดม็อบอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ลำบากใจ ด้วยยึดแนวทางการต่อสู้แบบสันติวิธี แต่พื้นที่ดินแดงถูกเรียกว่าสันติวิธีเชิงตอบโต้ กลุ่มที่ดินแดงกลายเป็นสายอิสระ
จะเห็นได้ว่าในระยะหลังม็อบที่ทำอย่างเป็นทางการ พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ด้วยเกรงจะเสียภาพลักษณ์ของม็อบที่เรียกร้องมาก่อนหน้านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการแยกให้ชัดเจนระหว่างม็อบที่เป็นทางการกับผู้ชุมนุมที่ดินแดง เช่น ม็อบทะลุฟ้า ที่ระยะหลังนัดชุมนุมแถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นหลัก
ขณะที่เพจทะลุแก๊ซเองพยายามเรียกร้องให้ม็อบที่มีอยู่ ที่เรียกว่าสายประชาธิปไตยเข้ามาร่วมกันทำงาน เพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เนื่องจากวิธีการเรียกร้องถือว่าเป็นคนละแนวทางกับม็อบใหญ่ที่ทำมา
ทะลุแก๊ซขอร่วมม็อบใหญ่
ล่าสุด เมื่อ 27 สิงหาคม 2564 แอดมินเพจทะลุแก๊ซ โพสต์ข้อความสื่อสารไปถึงม็อบใหญ่ ดังนี้ ทะลุแก๊ซจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าม็อบสันติวิธีมีพื้นที่ให้พวกเขาได้แสดงตัวตน ได้แสดงออกทางความคิด ไม่ได้เป็นพื้นที่สำหรับปัญญาชนหรือลูกหลานชนชั้นกลางไปจนถึงค่อนล่างเท่านั้น
ต้องยอมรับกันนะครับว่าตอนนี้ปัญหาเศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด เป็นปัญหาหลักที่กระทบกับพวกเขาเหล่านี้โดยตรง และการที่พวกเขาเหล่านี้มีความหวังได้ก็เพราะขบวนการของพวกท่านให้ความหวังเขา จนกระทั่งพวกเขาถูกปฏิเสธและกีดกันออกจากพื้นที่ในม็อบสันติวิธีของพวกท่าน เพียงแค่เค้าเลือกทางเดินที่แตกต่างออกไป
เป็นเรื่องที่ตลกร้าย ขณะที่ขบวนการประชาธิปไตยกำลังจะสร้างสังคมในอุดมคติ แต่กลับมีเพียงพื้นที่ให้แค่ชนชั้นกลางค่อนล่าง จวบจนชนชั้นกลางค่อนบนเท่านั้น แต่ผู้ที่เป็นฐานรากของพีระมิดทุนนิยม พวกท่านกลับทอดทิ้งพวกเขาในสถานการณ์ที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการความช่วยเหลือที่สุด
แอดมินขอเถอะครับ ต้อนรับพวกเขาในฐานะผู้ชุมนุม เอาใจใส่เขาที่ปัญหา สร้างพื้นที่พูดคุยหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก็ได้ ขอแค่ให้พวกเขาได้มีที่ยืนในสังคมบ้าง ไม่ใช่ดีแต่พ่นความรักความห่วงใยแต่ปราศจากการเอาใจใส่พวกเขาดั่งเช่นคำพูดอันสวยหรูของพวกท่าน
ตามที่บอกไป สันติวิธี โลกนี้เค้าคุยจบกันไปแล้วหลายภพหลายชาติ ไม่ว่าจะเรื่องคานธีที่สมาทานสันติวิธี แต่กลับซุกซ่อนชนชั้นวรรณะไว้สร้างโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร แย่งชิงและกดขี่ชนชั้นวรรณะที่ต้อยต่ำกว่าอย่างไม่เป็นธรรม จวบจนไปถึงสันติวิธีของพวกชนชั้นกลางผิวขาวอเมริกันที่มีต่อคนผิวดำ พร่ำบอกว่าคนดำอย่าใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ความอยุติธรรมในสังคม
แอดมินคงไม่กล้าที่จะสอนพวกท่านเหล่าปัญญาชนทั้งหลายผู้มากด้วยศีลธรรมอันสูงส่งหรอกครับว่า เพดานของสันติวิธีอยู่ตรงไหน และอะไรคือขอบเขต หากพวกท่านมีต้นทุนในการขับเคลื่อนการเมืองของพวกท่าน เพียงแค่ชีวิต พวกท่านคงจะเข้าใจทะลุแก๊ซกว่าเดิมแน่นอนครับ
หากพวกท่านทำไม่ได้ พวกเราคือกำปั้นข้างซ้ายที่จะลุกมาชูแทนสามนิ้วของพวกท่านในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน
หวั่นใจไร้ทิศทาง
คนหน้างานที่ทำม็อบส่วนใหญ่แล้วไม่เห็นด้วยแนวทางการปะทะ เพราะอาจเกิดความสูญเสียและบาดเจ็บได้ ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะตัวผู้เข้ามาชุมนุมเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงบุคคลในครอบครัวอีกด้วย ที่สำคัญคือม็อบที่มีการปะทะท้ายที่สุดมวลชนก็จะค่อยๆ หายไป แต่เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของพวกเขา
ที่เราเป็นห่วงคือกลุ่มที่รวมตัวกันอิสระแบบนี้อาจตัดสินใจก่อความรุนแรงได้ หากเกิดอารมณ์โมโห และอาจใช้อาวุธทำร้ายตำรวจควบคุมฝูงชน นอกจากนี้ ภายใต้ม็อบอิสระอาจมีมือที่สามหรือสายของเจ้าหน้าที่รัฐแฝงเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้ง่าย
แต่จากการสังเกตการณ์ชุมนุมพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง ก็เบาใจระดับหนึ่ง แม้ว่าจะมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ คฝ. แทบทุกวัน หนังสะติ๊กที่ยิงลูกแก้ว หรือหัวนอต หากโดนเข้าก็บาดเจ็บได้เช่นกัน พลุหรือระเบิดปิงปอง ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าเน้นไปที่ทำให้เสียงดัง ไม่ได้ใส่สารประกอบภายในที่หวังให้เกิดการบาดเจ็บ ที่ผ่านมาอาจมี 2-3 รายที่ถูกกระสุนจริง ซึ่งยังไม่ทราบว่ามาจากฝ่ายใด
ส่วนการเผาทำลายทรัพย์สินทางราชการ เน้นไปที่ป้อมจราจรหรือรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัดไม่บานปลายไปถึงทรัพย์สินของบุคคลอื่น
ราษฎรประสงค์อาจถอนความช่วยเหลือ
“ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบว่าสายทะลุแก๊ซมีใครเป็นแกนนำ แต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลโดยรอบแล้ว น่าจะเป็นคนที่เคยเข้าร่วมชุมนุมกับม็อบที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำม็อบจะมีสายฮาร์ดคอร์เข้ามาร่วมด้วยเสมอ หลายครั้งที่ถูกห้ามปรามจากแกนนำ จนอาจทำให้เกิดความไม่พอใจ แยกตัวเองออกไป”
ต้องแยกระหว่างผู้ชุมนุมหน้างานกับเพจทะลุแก๊ซออกจากกัน ตัวเพจเป็นเพียงสายสนับสนุน แต่พบว่าผู้ชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงที่ถูกจับกุมไปนั้น มีทนายของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนดูแลเรื่องคดีให้ มีการใช้เงินของกองทุนราษฎรประสงค์เพื่อนำมาใช้ประกันตัวผู้ต้องหา มีสายงานของแอมเนสตี้เข้ามาประสานงานด้วย
สะท้อนให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่มีการประสานงานกับระดับแกนนำของม็อบนักศึกษา เพราะการใช้เงินกองทุนราษฎรประสงค์เดิมนั้น ใช้กับผู้ที่ถูกดำเนินคดีของม็อบเยาวชนปลดแอก ม็อบราษฎร และม็อบทะลุฟ้า
เท่าที่ทราบมาขณะนี้ม็อบใหญ่ที่เป็นต้นทางของกองทุนราษฎรประสงค์ กำลังหารือกันเรื่องของการใช้เงินกองทุนในการประกันตัวผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง เพราะถ้าที่ดินแดงถูกจับวันละ 10 คน ค่าประกันตัวคนละ 2 หมื่นบาท เท่ากับต้องเบิกเงินกองทุนวันละ 2 แสน ซึ่งบางคดีค่าประกันจะสูงกว่านี้ เช่น ครอบครองวัตถุระเบิดต้องใช้เงินหลักแสน
ที่สำคัญคือการให้ความช่วยเหลือด้านคดีในพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง อาจขัดแย้งกับแนวทางการทำม็อบของกลุ่มน้องๆ นักศึกษาที่ยึดแนวทางชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ อาจไม่สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงได้ แต่คงต้องรอผลสรุปกันอีกครั้ง
ถึงเวลาทบทวน
นายสมบัติ ทองย้อย อดีตหัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดงและเคยร่วมชุมนุมกับม็อบเยาวชน แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ว่า อันดับแรกต้องขอขอบคุณทีมทะลุแก๊ซ ที่เสียสละอะไรหลายๆ อย่างในช่วงหลายวันที่ผ่านมา แต่มันได้พิสูจน์แล้วว่า ม็อบมาถึงทางตันแล้วจริงๆ (หรืออาจไม่จริง)
ทางตันคือ ห้วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เป็นเวลา 1 ปี ม็อบได้ทำทุกอย่างในการต่อสู้เพื่อล้มล้างรัฐบาลชุดนี้ ม็อบเดินมาทุกทาง ไม่ว่าจะสันติวิธี เนื้อหาและข้อมูลต่างๆ ที่จะเอามาโจมตีรัฐบาล จนมาถึงยกระดับมาใช้ความรุนแรง สายพิราบไม่สำเร็จ จนมาสายเหยี่ยวก็ไม่สำเร็จ รัฐรับมือม็อบได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ด้วยการปราบปรามอย่างหนักหน่วง ทั้งในภาคสนามและกฎหมาย จนทุกภาคส่วนของผู้ปฏิบัติงานและเกี่ยวข้องขยับยากเสียเหลือเกิน
น่าจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องมานั่งคิดว่า เราจะไปยังไงกันต่อกับขบวนการต่อสู้ในครั้งนี้ จะไปต่อหรือจะพอแค่นี้ ถ้าจะไปต่อจะไปยังไงคงต้องนั่งโต๊ะคุยกัน เพราะถ้าปล่อยไปแบบนี้ กำลังคนมีแต่จะเจ็บตัวและโดนคดีกันระนาว นั่นคือทำให้คนเราน้อยลง และน้อยลงเรื่อยๆ
แหล่งข่าวจากม็อบกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า เราผ่านประสบการณ์การชุมนุมมาทั้งยุคก่อนและยุคนี้ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา เรามองออกว่าพื้นที่ดินแดงไม่ว่าจะมารวมตัวกันด้วยเหตุผลใดก็ตาม คุณไม่มีทางที่จะเอาชนะเจ้าหน้าที่รัฐได้เลย ทั้งอุปกรณ์สลายการชุมนุมและยุทธวิธีต่างๆ แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ระยะแรกตำรวจอาจใช้วิธีผลักดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ การยั่วยุจนปะทะกันจึงเกิดขึ้นแทบทุกวัน ส่วนใครเริ่มต้นก่อนก็ขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดเป็นคนพูด ตัวที่เป็นอุปสรรคถูกมองว่าเป็นตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อตำรวจรื้อออกไป เงื่อนไขของการปะทะก็ลดลง แถมทำให้ คฝ.ปฏิบัติงานได้ง่ายขึ้น และได้ปรับเปลี่ยนด้วยชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าควบคุมสถานการณ์ จับกุมผู้ฝ่าฝืนกฎหมายหลายราย
คนที่ยุเขาไม่ได้ถูกจับหรือเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บเหมือนน้องๆ ถ้าเป็นอะไรไปแล้วครอบครัวจะเป็นอย่างไร เราไม่ได้เข้าข้างรัฐเพราะเราก็ไล่รัฐบาลเหมือนกัน เพียงแต่ต้องเลือกวิธีการที่เหมาะสม คุณยังอยากไล่รัฐบาลในคุกหรือนอกคุกล่ะ
ระยะหลังตำรวจ คฝ. ปรับยุทธวิธีเป็นการตั้งรับในที่ตั้ง ปล่อยให้ผู้ชุมนุมออกมาแสดงศักยภาพ ชิงจังหวะให้สื่อเห็นภาพการเริ่มใช้ความรุนแรง เมื่อม็อบใหญ่ไม่เคลื่อนไปเส้นทางดินแดงหรือไม่จัดการชุมนุม ประกอบกับที่ผ่านมาเริ่มมีการจับกุมผู้ชุมนุมได้เป็นจำนวนมาก ผู้ชุมนุมในพื้นที่ดินแดงเริ่มลดลง จนบางวันก็ไม่มีการชุมนุม