“ธนาธร” หวังเปิดประเด็นวัคซีนโยงสถาบันฯ สุดท้ายเน่า หมอแจงชัดแอสตราเซเนกาเป็นผู้เลือกสยามไบโอไซเอนซ์ พบก่อนธนาธร Live แกนนำม็อบโหมกระแสวัคซีนทุกเครือข่าย สร้างสถานการณ์ให้ถูกจับหวังขยายผล ขณะที่ขบวนม็อบแตก ถีบการ์ด-ตัดหาง “เยล” เฮียบุ้งบอกชัดม็อบมีแกนนำ
นับตั้งแต่ม็อบคณะราษฎรได้หยุดพักการชุมนุมใหญ่ไปตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2563 ท่ามกลางปัญหาภายในของม็อบ ทั้งเรื่องปัญหาการ์ดจนต้องยุบการ์ดทั้งหมด จำนวนคนที่เข้ามาร่วมชุมนุมเริ่มน้อยลง และการตัดกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่เสนอแนวทางที่ผิดเพี้ยนไปจากกลุ่มหลัก
หลังจากนั้นมีการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมบ้างเป็นกลุ่มเล็ก เช่น กลุ่ม WEVO ของนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แต่ที่เริ่มจริงจังมากขึ้นคือวันครู 16 มกราคม 2564 ที่มีกลุ่มนักเรียนเลวออกมาทำกิจกรรมหน้ากระทรวงศึกษาธิการ และกลุ่มการ์ดอาสาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว และมีการประกาศรวมตัวกันที่บริเวณสามย่าน เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมตัวไป
ในวันเดียวกันนั้น น.ส.ปนัสยา (รุ้ง) สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำที่เคลื่อนไหวในนามคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความว่า “ในฐานะโฆษกอย่างเป็นทางการของกลุ่ม “ราษฎร” ขอชี้แจงให้ประชาชนทุกท่านทราบว่าการประกาศรวมตัวที่สามย่าน จากเพจคณะราษฎร ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากกลุ่มราษฎร หรือแกนนำคนใด จึงเรียนมาเพื่อขอให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังข้อมูลข่าวสาร และติดตามการประกาศและการเคลื่อนไหวของเราได้ทางเพจของแกนนำ และเพจ แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration จนกว่าจะมีการประกาศเพจของราษฎรอย่างเป็นทางการเท่านั้นค่ะ
และอย่างไรก็ตาม การชุมนุมการทางเมืองโดยสงบเป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชนที่ผู้ใดจะละเมิดมิได้ และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดใช้ความรุนแรงกับประชาชนโดยทันที”
ถีบหัวส่งการ์ด
กิจกรรมดังกล่าวเป็นการนัดหมายกันของกลุ่มการ์ดอาสาที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสกัดกั้นและถูกจับกุมไปบางส่วน จึงประกาศนัดหมายกันที่บริเวณสามย่าน
ผลของการโพสต์ดังกล่าวกลายเป็นวาทะเดือดสะท้อนความรู้สึกของกลุ่มการ์ดอาสาที่เคยร่วมทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ร่วมชุมนุมของคณะราษฎร 2563
นายสมบัติ ทองย้อย หัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง โพสต์แสดงความคิดเห็น “ลอยแพกันแบบนี้ได้ไง เฮ้อออ #เศร้าใจจริงๆ” หรือข้อความ”จะทำม็อบนอกจากจะต้องขอกับตำรวจแล้ว ต้องขอเจ้าของม็อบด้วยนะเฮ้ย ไอ้พวกม็อบเล็กๆ” และอีกหลายข้อความที่สะท้อนถึงความอัดอั้นต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังมีผู้โพสต์ “เพื่อนกูโดนจับที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ยังไม่มีหมาไปช่วยสักตัว เสือกมายุให้ไปที่อื่นอีก ได้งานก็เอาหน้า พลาดท่ามึงซวยกันเอง”
นายเกวลัง ธัญญเจริญ หรือเก่ง อาชีวะ โพสต์แสดงความรู้สึกเช่นกันว่า พวกกูต้องยึดติดกับแกนนำหรือยังไง แล้วบอกเท่าเทียมกัน และตอบกลับเพื่อนที่มาแสดงความคิดเห็น “หลอกใช้งานด้วยคำพูด ตีกรอบความคิด ใครคิดต่างก็ดันออกจากขบวน”
“เขาต้องการที่จะตัดนิ้วที่ไม่ดีทิ้งอยู่แล้วครับ ตั้งแต่ไมค์ประกาศให้ลงทะเบียนการ์ด มธ.ประกาศยุบการ์ด พอการ์ดออกมาจัดกิจกรรมเองประกาศไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตัวเองต้องการเป็นศูนย์กลางคนเดียวละมั้ง และบอกทุกคนคือแกนนนำ”
ไม่ได้เท
ด้านน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ให้สัมภาษณ์กับ The Reporters ยืนยันว่า การประกาศเช่นนั้นไม่ใช่การเท กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่ผ่านมากลุ่มราษฎรไม่ได้เทใคร และไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะทุกกลุ่มมีสิทธิในการเคลื่อนไหว เหตุที่สื่อสารไปเช่นนั้น เพื่อป้องกันการบิดเบือนไปสร้างสถานการณ์ “ทุกกลุ่มอยู่ในขบวนเดียวกัน ไม่มีใครทอดทิ้งกัน”
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมีความชัดเจนอยู่ในตัวว่าเรื่องของม็อบ “ไม่มีแกนนำ” หรือ “ทุกคนเป็นแกนนำ” นั้น เป็นเพียงวาทะกรรมหลอก เชื่อว่าผู้เข้าร่วมชุมนุมเองก็ทราบดีว่าทุกม็อบต้องมีแกนนำ แกนนำหลักที่เห็นกันชัดเจนจะมีเพนกวิน-พริษฐ์ ชีวารักษ์ รุ้ง-ปนัสยา อานนท์ นำภา ไมค์-ภานุพงศ์ จาดนอก ที่เหลือเป็นระดับรองลงไป
คนทั่วไปก็ไม่ได้เชื่อว่าจะมีแค่แกนนำที่เปิดหน้าให้เห็นเท่านั้น ยังมีกลุ่มคนที่อยู่ในระดับสูงขึ้นไปที่คอยกำหนดทิศทาง เนื้อหาและยุทธศาสตร์ในการเคลื่อนไหวของม็อบคณะราษฎร 2563 ปรากฏตัวบ้าง ไม่ปรากฏตัวบ้าง อ้างว่าไปร่วมสังเกตการณ์บ้าง แต่หลายคนก็เห็นคล้าย ๆ กันว่าน่าจะเป็นใคร
เฮียบุ้งบอกชัด “มีแกนนำ”
นายปกรณ์ พรชีวางกูร ทีมงานคนสำคัญด้านเสบียงอาหารของคณะราษฎร ได้โพสต์ข้อความหลังจากที่รุ้ง-ปนัสยา ปฎิเสธไม่เกี่ยวข้องกับม็อบที่สามย่านมิตรทาวน์ สะท้อนถึงโครงสร้างของม็อบว่ามีระบบและมีแกนนำจริง
เดือนที่แล้วที่เชียงใหม่ หนึ่งในหัวข้อการประชุมมันมีเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ คือการทำม็อบย่อย แล้วใช้ชื่อเดียวกับม็อบใหญ่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในภาคใหญ่คือ คนมองว่าม็อบแผ่ว ทั้งๆ ที่ม็อบใหญ่ที่เป็นทางการในแต่ละครั้ง เรามีตัวเลขคนเข้าร่วมยืนพื้นที่ 2-3 หมื่นคนแน่นอนในทุกไฟต์
แต่ม็อบย่อยม็อบเล็กมีคนหลักร้อยหรือหลายๆ ม็อบมีคนหลักสิบ น้อยมากที่จะมีคนเข้าร่วมมากกว่าหลักพันขึ้นไป ทีนี้พอคนข้างนอกมองเข้ามา เค้าไม่รู้หรอก ว่าอันนี้ม็อบเล็กม็อบใหญ่ ม็อบแบบทางการมั้ย น้อง ๆ หัวหอกมาครบหรือป่าว
พอคนในม็อบเล็กมาน้อย สื่อก็ออกข่าวกันระรัวว่าม็อบแผ่วม็อบหมดกระแส บลา ๆ กลายเป็นว่าในภาพรวมขบวนการเราดูแย่ไปอีก
ปัญหานี้เราก็ยกขึ้นมาคุยกันในที่ประชุม ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่า ไม่ควรทำ ถ้าหากใครจะทำ ให้แจ้งกับคณะกรรมการกลาง ถ้ากรรมการเห็นด้วยก็จะส่งแกนนำหลักให้ไปเข้าร่วม จะมีทีมงานในด้านต่างๆ เข้าไปสนับสนุน เพื่อตัดปัญหาไปทำม็อบกันเองแล้วก็เกิดปัญหา
แต่เรายังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการออกไป เพราะตอนนี้น้องๆ หลายๆ ส่วนต่างแยกย้ายไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายหลังจบการประชุม และเราก็ไม่คิดว่าในช่วงโควิดระบาด จะมีใครทำม็อบในช่วงนี้ ก็กะว่ารอน้องๆ จบภารกิจกันก่อน แล้วช่วงสบายๆ จะประกาศในหลายๆ เรื่องให้ได้ทราบกัน
แต่วันนี้ก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เรื่องวันนี้มันมีอะไร ๆ มากเหลือเกิน มันไม่ใช่แค่เท่าที่ทุกคนเห็น ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจในกติกานะครับ อย่าทำอะไรกันเอง เพราะเมื่อมันเกิดเรื่องขึ้นมา มันจะมีคนเจ็บมากเจ็บน้อยแน่นอน
เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ช่วยกันพายไปให้ถึงครับ ไม่ใช่ช่วยกันขึ้น ขึ้นมากันเยอะๆ แต่หาคนช่วยพายแทบไม่มี
สูตรสำเร็จนอกกรอบ “ตัดทิ้ง”
แน่นอนว่าระดับการ์ดอาสาทั่วไปคงไม่สามารถเข้าถึงการประชุมในลักษณะนี้ได้ จึงไม่ทราบแผนหรือทิศทางการขับเคลื่อนของหัวขบวน การ์ดอาสาต่างๆ ที่เข้ามาร่วมงานชุมนุมกับคณะราษฎร ถือว่าเป็นกลุ่มที่มาทีหลัง ไม่ใช่ทีมงานที่บุกเบิกร่วมกันมา
การออกตัวไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ไม่ใช่แนวทางของแกนนำที่ออกมาชุมนุมนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่เคยร่วมงานกันมาในนามคณะราษฎรชูแนวทางของคอมมิวนิสต์ แกนนำอย่างรุ้งและเพนกวินได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่สมาชิกของเยาวชนปลดแอก พวกเขาเป็นสมาชิกของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พูดง่ายๆ คือตัดทีมของเยาวชนปลดแอกออกไป
ในช่วงท้ายของการชุมนุมเมื่อต้นธันวาคม 2563 แกนนำก็ได้ประกาศยุบการ์ดอาสาทั้งหมด เนื่องจากมีปัญหาในการทำงานร่วมกัน เดิมการ์ดที่ดูแลผู้ชุมนุมเป็นหน้าที่ของโตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ในนาม WEVO เมื่อจำนวนผู้ชุมนุมมากขึ้นจึงมีการ์ดอาสาจากส่วนอื่นเข้ามาทั้งการ์ดอาชีวะและการ์ดคนเสื้อแดง แต่มีการกระทบกระทั่งกันของการ์ดอาชีวะด้วยกัน รวมถึงการ์ดของ WEVO ถูกการ์ดอาชีวะทำร้าย จนโตโต้ต้องยุติบทบาท สุดท้ายคือยุบการ์ดทั้งหมด
ทีม WEVO ถือเป็นสายตรงของพรรคอนาคตใหม่หรือก้าวไกลในปัจจุบัน เขาร่วมงานกับแกนนำมาตั้งแต่ต้น เหตุการณ์ที่การ์ด WEVO ถูกชกเป็นสิ่งที่โตโต้ยอมรับไม่ได้ แน่นอนว่าแกนนำจะเลือกใครระหว่างทีม WEVO กับการ์ดอาชีวะหรือการ์ดเสื้อแดง
หรือแม้แต่เหตุที่การ์ดคนเสื้อแดงถีบรถประชาชน จนดาราสาวอย่างทราย เจริญปุระ ออกมาแสดงความไม่พอใจ สุดท้ายก็ขอโทษกันภายใต้ข้อความ “ปัญญาชนขอโทษคนเสื้อแดง” บ่งบอกถึงความรู้สึกลึก ๆ ของระดับแกนนำที่มีต่อการ์ดจากส่วนอื่น
คณะราษฎรร้าวตั้ง “ราษฎร”
หลังเหตุการณ์การรวมตัวกันทำกิจกรรมของการ์ดอาสาทั้งที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและที่สามย่านมิตรทาวน์ จนรุ้งปนัสยาออกมาโพสต์ว่า การประกาศรวมตัวที่สามย่าน จากเพจ คณะราษฎร ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากกลุ่มราษฎรหรือแกนนำคนใด
จากนั้นมีการจัดตั้งเพจใหม่ชื่อ “ราษฎร” สะท้อนถึงปัญหาที่มีกับแนวร่วมเดิมอย่าง “คณะราษฎร” ที่มีหลายกลุ่มเข้ามาร่วมกันตั้งแต่ 8 ตุลาคม 2563 เราจึงได้เห็นการเข้ามาแขวะของเพจคณะราษฎรต่อเพจราษฎร
รุ้งและเพนกวินมาจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม การแยกตัวออกจากคณะราษฎรแล้วมาใช้ชื่อกลุ่ม ราษฎร นั่นหมายถึงยังต้องมีกลุ่มอื่นเข้ามารวม ที่น่าจะยังรวมอยู่คงมีทนายอานนท์ นำภา จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่รับว่าความให้กับคณะก้าวหน้าและผู้ร่วมชุมนุมที่ถูกดำเนินคดี และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง น่าจะยังคงทำงานร่วมกัน แน่นอนว่าที่ตัดออกไม่ได้นั่นคือทีม WEVO ของโตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนที่ร่วมงานกันมาตั้งแต่แรกและไม่ได้ออกนอกเส้นทางเหมือนกลุ่มเยาวชนปลดแอกของฟอร์ด ทัตเทพ
“เยล” พลาด
ภายใต้สถานการณ์เดียวกันนั้น มีการ์ดราษฎรได้หายตัวไป “เยล” นายมงคล สันติเมธากุล พร้อมทั้งยกหลักฐานต่างๆ ว่าถูกหน่วยงานรัฐอุ้มตัวไป 2 วัน เมื่อพบตัวแล้ว การ์ดคนดังกล่าวได้เข้าไปแจ้งความว่าถูกชายฉกรรจ์อุ้มตัวไป
งานนี้ นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.จากพรรคก้าวไกล ต่างโดดเข้ามาขยายเรื่องดังกล่าวให้ใหญ่ขึ้น เพราะสามารถสร้างภาพลบให้กับรัฐบาลได้เป็นอย่างดี แต่ตำรวจสมุทรปราการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าการ์ดคนดังกล่าวอยู่แถวบ้านพัก จึงดำเนินคดีข้อหาแจ้งความเท็จ เล่นเอาทั้งโตโต้ เจี๊ยบ อมรัตน์ รังสิมันต์ เงียบกริบ พร้อมด้วยการโยนความรับผิดชอบว่าไม่เกี่ยวข้อง แม้กระทั่งการ์ดคนเสื้อแดงอย่างนายสมบัติ ทองย้อย โพสต์แสดงความเหนื่อยหน่าย
“ธนาธร” เน่า
ระหว่างที่เรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขบวนของม็อบราษฎรยังไม่จบ ด้วยการโยนเรื่องความรับผิดชอบกันไปมา แต่ดูเหมือนกลุ่มแกนนำม็อบจะได้รับภารกิจใหม่เมื่อทุกเครือข่ายต่างปูพรมเรื่องการจัดหาวัคซีนของรัฐบาล พร้อมด้วยกิจกรรมติดป้ายผ้าตามสถานที่ต่างๆ เมื่อถูกจับกุมก็นำเอามาขยายผล
ก่อนที่จะมีการเฉลยออกมาว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ประกาศจะออกมาพูดถึงเรื่องวัคซีนที่รัฐบาลไทยดำเนินการจัดซื้อเพื่อเชื่อมโยงไปถึงสถาบันฯ
ทั้งนี้ นายธนาธรกำหนด Live ผ่านเฟซบุ๊ก 21.00 น.ของวันที่ 18 มกราคม 2564 เมื่อธนาธร Live สดผ่านไป เพียงไม่กี่นาทีBBC Thai ก็นำเสนอเรื่องที่ธนาธรพูดทันที และมีการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวเรื่องวัคซีนฯ ของกลุ่มราษฎรต่อเนื่องในวันรุ่งขึ้น เช่น ที่ห้างไอคอนสยาม จนเป็นเหตุกระทบกระทั่งระหว่างทีมงานของห้างกับผู้เข้าไปทำกิจกรรม
แม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาวัคซีนจะออกมาชี้แจงด้วยบุคคลและข้อมูลที่น่าเชื่อถือสร้างความเข้าใจให้กับสังคมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะแอสตร้าเซเนก้าเป็นผู้เลือกสยามไบโอไซเอนซ์เองให้ร่วมผลิตวัคซีน
ขณะที่กระทรวงดีอีเอส เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อธนาธรทั้งมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่นายธนาธรยังคงเรียกร้องเพิ่มให้แสดงเอกสารสัญญาระหว่างบริษัทแอสตร้าเซเนก้ากับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ รวมถึงงบประมาณที่รัฐสนับสนุน
ทุกอย่างดูเหมือนเป็นแผนที่เตรียมการกันไว้เป็นอย่างดีด้วยการให้ทีมม็อบปูพรมเรื่องวัคซีนก่อนจนเป็นกระแส หลังจากนั้นตัวใหญ่เปิดเกมแล้วเดินกิจกรรมต่อเนื่อง นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนว่าแกนนำม็อบกับนักการเมืองบางกลุ่มเคลื่อนไหวในแนวทางเดียวกันมีรูปแบบขั้นตอนอย่างเป็นระบบ
แต่ผลของการ Live ครั้งนี้เนื้อหาในการมุ่งโจมตีสถาบันมีความน่าเชื่อถือต่ำ กลายเป็นการลดความน่าเชื่อถือของตัวนายธนาธรและเครือข่ายลงไปอีก
ขณะที่การเคลื่อนไหวของม็อบราษฎรที่หลายฝ่ายมองว่าเดินไปในทิศทางเดียวกับนายธนาธรนั้นตอนนี้พบความแตกแยกภายในกลุ่มหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการ์ด และแนวร่วมบางส่วนที่เริ่มไม่เห็นด้วยกับแนวทางของการเคลื่อนไหว