xs
xsm
sm
md
lg

3 โหรฟันธงดวงเมืองปี 64 น่าหวาดเสียว มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นักโหราศาสตร์ ชี้ดวงเมืองปี 64 ยังคงมีความขัดแย้ง จับตาเหตุปะทะรุนแรง และ ปัญหาการออกกฎหมาย หวั่น! มีเกณฑ์สูญเสียบุคคลสำคัญ “ภิญโญ พงษ์เจริญ” เผย ดาวเสาร์เข้าสู่ราศีมังกร มักเกิดเหตุร้ายในทุก 30 ปี ระวังภัยพิบัติจากดิน ด้าน “หมอโจ้” ยันดวงเมืองประเทศไทยต้องมีกษัตริย์ เตือนหลัง เม.ย.จะเกิดเรื่องร้อนกับผู้นำประเทศ เป็นปี “ราหูค้นทรัพย์” ขณะที่ “อ.ทศพล” ระบุ มี.ค.-พ.ค.64 การเงินการคลังจะดีขึ้น

ต้องยอมรับว่าตลอดปี 2563 ประเทศไทยมีแต่ปัญหาถาโถมเข้ามา ทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ ภัยพิบัติ ตลอดจนโรคระบาด จากโควิด-19 ที่ทำท่าว่าสิ้นฤทธิ์ลงแล้ว แต่อยู่ๆ ก็กลับมาระบาดรอบใหม่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ดังนั้น คนไทยจึงได้แต่หวังว่า ในปีหน้า คือ 2564 สถานการณ์ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น ส่วนในทางโหราศาสตร์นั้นก็เริ่มมีการตรวจตราดวงชะตาบ้านเมืองในปีขาลที่จะถึงนี้ว่าจะดีร้ายประการใด เพื่อจะได้หาทางแก้ไขได้ทัน

อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ
อาจารย์ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ได้จับเลขจับยามพิเคราะห์ดวงเมืองแล้วชี้ว่า เนื่องจากดาวมฤตยูโคจรอยู่ในราศีเมษ ทับลัคนา และทับพระอาทิตย์ ตนุเศษของดวงเมือง ตั้งแต่ต้นปี 2564 ไปจนถึง ก.ค.2565 ดาวมฤตยูในทางโหราศาสตร์หมายถึงอาเพศ ความเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้บ้านเมืองยังคงยุ่งเหยิง เกิดความเปลี่ยนแปลง และจะเกิดเหตุรุนแรงจากความไม่พอใจเรื่องกฎหมายและวิธีทางการเมืองการปกครอง อีกทั้งอาจนำมาซึ่งอาชญากรรมที่รุนแรงได้ โดยจะเกิดเหตุได้ 2 ช่วง คือ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2563-24 มี.ค.2564 ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวมฤตยูทำมุมสัมพันธ์ดาวอังคารที่จะจรมากุมดาวมฤตยู และช่วงระหว่างวันที่ 21 ต.ค.-4 ธ.ค.2564 ซึ่งดาวอังคารเล็งดาวมฤตยู

ดวงในด้านการเมืองนั้น เนื่องจากดาวพฤหัสกับดาวเสาร์โคจรมาทันกันตรงราศีมังกร ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.2563 ซึ่งพฤหัสกับเสาร์เป็นดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย ดาวพฤหัสเป็นดาวศุภเคราะห์ฝ่ายดี ส่วนดาวเสาร์เป็นดาวบาปเคราะห์ เมื่อดาว 2 ดวงมากุมกัน จึงเข้าสู่ยุคใหม่ เป็นความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย (แต่ละยุคใช้เวลา 20 ปี) ทำให้เกิดภาพเปรียบเทียบระหว่างคนจนกับคนรวย คนมีโอกาสกับคนด้อยโอกาส คนมีการศึกษากับไร้การศึกษา เห็นชัดถึงความเหลื่อมล้ำ จึงมีการปรับตัวเพื่อให้เกิดสมดุล มีความเปลี่ยนแปลงที่เกิดในราศีมังกร ซึ่งเป็นภพที่ 10 ของดวงเมือง เป็นกัมมะ ซึ่งหมายถึงการบริหารราชการแผ่นดิน นายกฯ คณะรัฐมนตรี และในปี 2564 ดาวพฤหัสกุมกับดาวเสาร์ในราศีมังกรเป็นส่วนใหญ่ ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งในทางดีและไม่ดี ทั้งผู้ปกครอง ชนชั้นสูง และประชาชนจึงต้องปรับตัว

ประการสำคัญคือ ดาวพฤหัสอยู่ในภพที่ 10 และภพที่ 11 พฤหัสเป็นดาวที่ให้คุณ เมื่อเข้าภพที่ 10 จะส่งผลให้ผู้ปกครองหรือรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรค นำพาประเทศไปได้ มีการเริ่มต้นกิจการใหม่ๆ ของชาติ โดยเป็นกิจการใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการปกครอง และดาวพฤหัสเข้าภพที่ 11 สองช่วง คือ ระหว่างวันที่ 29 มี.ค.-28 ก.ย.2564 และ 8 พ.ย.2564-2565 ซึ่งหมายถึงช่วงดังกล่าวการออกกฎหมายใหม่ๆ จะประสบความสำเร็จ

แต่ที่น่าห่วงคือ ดาวเสาร์ซึ่งโคจรอยู่ในภพที่ 10 ในราศีมังกร ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564-2565 ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี ส่วนดีคือจะปราศจากภัย รัฐบาลสามารถรักษาอำนาจ และสามารถออกกฎหมายได้ แต่ส่วนที่ตกในเกณฑ์ร้าย คือรัฐบาลจะอับโชค ขาดการสนับสนุนล้มเหลวในการเลือกตั้ง ถ้าเสาร์โยคเกณฑ์ร้ายจากภพที่ 8 ซึ่งเป็นภพมรณะ จะส่งผลให้บุคคลสำคัญเจ็บป่วยหรือถึงแก่มรณกรรม

ดาวเสาร์จะเคลื่อนเข้าสู่ราศีมังกรในทุก 30 ปี ซึ่งจากประวัติศาสตร์ชาติไทยเมื่อดาวเสาร์อยู่ในราศีมังกรจะเกิดปัญหาใหญ่ทุกครั้ง เช่น ดาวเสาร์เข้าสู่ราศีมังกร เมื่อปี 2535 เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2505 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เกิดการช่วงชิงอำนาจ เกิดกองทัพปลดแอกของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย เกิดวันเสียงปืนแตกและมีการปราบปรามอย่างรุนแรง วันที่ 24 มิ.ย.2475 เกิดปฏิวัติสยาม และมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย ปี 2445 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไทยต้องเสียดินแดนฝั่งขวาของแม่น้ำโขง

“ดาวเสาร์เข้าสู่ราศีมังกรในปี 2564 นี้ มีดาวพฤหัสมากุมกับดาวเสาร์ จึงเกิดการถ่วงดุลอยู่ ดาวพฤหัสหมายถึงเสรีชน ดาวพระเสาร์หมายถึงกลุ่มอนุรักษนิยม ซึ่งฝ่ายเสรีชนพยายามสร้างความเปลี่ยนแปลง ขณะที่ฝ่ายอนุรักษนิยมพยายามรักษาสิ่งเดิมไว้เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่ละฝ่ายก็พยายามเดินหน้าในแนวทางของตน ทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งทางออกที่ดีสุดคือทั้ง 2 ฝ่ายต้องพยายามผสมกลมกลืนกันให้ได้ ส่วนช่วงที่น่าห่วงว่าจะรุนแรงคือ ช่วงที่ดาวอังคารกุมมฤตยู ตรงราศีเมษทำมุมฉากกับดาวเสาร์ และดาวพฤหัส คือ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2563-26 ก.พ.2564 ตามด้วยช่วงที่ดาวอังคารจรอยู่ราษศีตุลย์ ระหว่างวันที่ 21 ต.ค.-4 ธ.ค.2564 และช่วงที่อังคารอยู่ตรงราศีกรกฎ คือระหว่างวันที่ 17 ก.ค.-27 ส.ค.2564 ” โหรภิญโญกล่าว


ส่วนด้านเศรษฐกิจนั้น ตั้งแต่ต้นปี ถึงปลายปี 2564 พระราหูยังโคจรอยู่ในราศีพฤษภ ซึ่งเป็นเรือนชะตาที่ 2 ของดวงเมือง เรียกว่า “ราหูค้นทรัพย์” ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การคลัง การธนาคาร ปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชน หมายถึงจะค้นเอาทรัพย์ที่มีอยู่มาใช้จนร่อยหรอ หรือหมดไป จนต้องกู้ยืมทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เป็นหนี้เป็นสินจำนวนมาก เช่น หนี้สาธารณะ หนี้เอกชน หนี้ครัวเรือน ทำให้ปัญหาเศรษฐกิจการเงินการคลังรุนแรงขึ้น ซึ่งราหูค้นทรัพย์จะอยู่ต่อเนื่องจนเข้าสู่ปี 2565 ดังนั้น ในปี 2564-2565 ประชาชนต้องรอบคอบในการใช้จ่ายเงินและการดำเนินชีวิตเพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้

ทั้งนี้ ในปี 2564 จะเกิดอุปราคา หรือคราส ขึ้น 4 ครั้ง โดยเกิดในราศีพฤษภ 2 ครั้ง และเกิดในราศีพิจิก 2 ครั้ง

สำหรับอุปราคาที่เกิดในราศีพฤษภนั้น ครั้งที่ 1 จะเกิดสุริยุปราคาวงแหวน ในวันที่ 10 มิ.ย.2564 เวลา 17.41 น. ศูนย์กลางคราสอยู่ในระยะ 80 องศา 46 ลิปดาเหนือ (เส้นรุ้ง) และระยะ 66 องศา 48 ลิปดาตะวันตก (เส้นแวง) สมผุส (ตำแหน่งของดวงดาว) ราศีพฤษภ ตรงระยะ 25 องศา 37 ลิปดา มองไม่เห็นในที่กรุงเทพฯ และครั้งที่ 2 เกิดจันทรุปราคาบางส่วน ในวันที่ 19 พ.ย.2564 เวลา 16.02 น. สมผุสราศีพฤษภ ที่ระยะ 5 องศา 12 ลิปดา มองไม่เห็นที่กรุงเทพฯ

เนื่องจากราศีพฤษภเป็นราศีธาตุดิน และสถิตรราศี จึงต้องระวังอุบัติภัยที่เกิดจากดิน หรือธรณีพิบัติ เช่น แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก แผ่นดินทรุด ดินถล่ม รวมถึงการเสียดินแดน โดยเหตุที่เกิดขึ้นจะมีความชัดเจนและยาวนาน

อีกทั้งการเกิดอุปราคาในราศีที่ 2 ของพฤษภ ที่สถิตรราศี ส่งผลให้เศรษฐกิจ การเงินการคลัง และการธนาคารของประเทศเสียหาย เกิดความผันผวนทางการเงินและภาษี จะมีปัญหาด้านการค้า และอาจเกิดความล้มเหลวของธุรกิจรายใหญ่ เกิดฝนแล้งและส่งผลต่อดิน โดยเหตุจะเกิดอย่างฉับพลันรุนแรง หรืออยู่เป็นเวลานาน มีอิทธิพลเข้าครอบงำรัฐสภาและการเงินของชาติ นอกจากนั้น ยังทำให้เกิดโรคระบาด และการสูญเสียบุคคลสำคัญ

ส่วนอุปราคาที่เกิดในราศีพิจิกอีก 2 ครั้งนั้น ครั้งแรกจะเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง ในวันที่ 26 พ.ค.2564 เวลา 18.18 น. สมผุสราศีพิจิกตรง 11 องศา 45 ลิปดา มองไม่เห็นจากกรุงเทพฯ และครั้งที่ 2 เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ในวันที่ 4 ธ.ค.2564 เวลา 14.33 น. ศูนย์กลางคราสอยู่ที่ 76 องศา 43 ลิปดาใต้ (เส้นรุ้ง) และ 46 องศา 99 ลิปดาตะวันตก (เส้นแวง) สมผุสราศีพิจิกตรงระยะ 18 องศา 12 ลิปดา มองไม่เห็นที่กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ราศีพิจิกเป็นธาตุน้ำ สถิตรราศี จึงต้องระวังภัยที่เกิดจากน้ำ เช่น อุทกภัย อุบัตุเหตุทางทะเล เกิดปัญหาในกลุ่มอาชีพที่เกิดกับน้ำหรือของเหลว และเหตุเกิดเป็นเวลานานหรือส่งผลยาวนาน ทำให้เกิดภัยพิบัติใหญ่ เกิดความเจ็บไข้จากโรคระบาด อิทธิพลครอบงำไปถึงรัฐสภาและการเงินซึ่งทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้น ราศรีพิจิกยังเป็นราศีแห่งแผ่นดินไหว จึงอาจเกิดแผ่นดินไหวใต้ น้ำหรือสึนามิ ชนชั้นกรรมาชีพเกิดความไม่พอใจ เกิดอาชญากรรมลึกลับซึ่งยากต่อการสืบสวน

ราศีพิจิกเป็นภพที่ 8 ของดวงเมือง ทำให้เกิดปัญหายุ่งยาก ผู้ปกครองเกิดความคับอกคับใจ ต้องระวังจะมีเหตุคนตายจำนวนมาก พิจิกในจันทรุปราคา จะส่งผลให้บุคคลสำคญถึงแก่มรณกรรม

และจากเหตุอุปราคาทั้ง 4 ครั้ง ชี้ชัดว่า สุขภาพของประเทศเสื่อมโทรม เกิดความเจ็บไข้และโรคระบาด เกิดอาชญากรรมร้ายแรง และความปั่นป่วนทางการเงิน

นายอาณณัฐ สรรคชา หรืออาจารย์โจ้ อาจารย์โหราศาสตร์ไทย
ด้าน นายอาณณัฐ สรรคชา หรืออาจารย์โจ้ อาจารย์โหราศาสตร์ไทย ระบุว่า ดวงเมืองในปี 2564 น่าหวาดเสียวมาก เนื่องจากดาวเสาร์ย้ายเข้าราศีมังกรของดวงเมือง เป็นภพกัมมะ เล็งพระจันทร์ในภพพันธุ ความหมายของเสาร์เล็งพระจันทร์คือดาวคู่แห่งความพลัดพราก เสาร์เป็นดาวโทษทุกข์ เข้ามาราศีมังกร ได้ตำแหน่งเป็นเกษตร หมายถึงเจ้าของบ้าน แต่ดวงกำเนิดของดวงเมือง คือวันที่ 21 เม.ย.2325 ฤกษ์ตกฝาก 06.54 น. เป็นวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล จันทร์เจ้าเรือน ราศีกรกฎ เล็งราศีมังกร ซึ่งพระจันทร์ หมายถึง ประชาชน ความเอื้ออาทร ครอบครัว ซึ่งครอบครัวในความหมายนี้ก็คือประเทศ ดังนั้น จึงหมายถึงว่า จะกิดความสูญเสีย พลัดพราก และความทุกข์ระทมขึ้นกับประเทศไทย

“เสาร์ไม่ใช่จะเจอกับพระจันทร์ง่ายๆ แต่เมื่อเจอกันจะเกิดความพลัดพรากสูญเสีย พระจันทร์หมายถึงมารดา หรือบุคคลสำคัญ หมายความว่าจะสูญเสียบุคคลสำสำคัญ” อาจารย์โจ้ กล่าว

ปี 2564 ดวงประเทศอยู่ที่ 238 ปี 7 เดือนกว่า และจะครบ 239 ปีเต็มในวันพุธที่ 14 เม.ย.2564 เวลา 3 นาฬิกา เปลี่ยนจุลศักราชจาก 1382 เป็นจุลศักราช 1383 ปีฉลู นางสงกรานต์มีนามว่า นางรากษสเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารคือโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนูศร เสด็จบรรทมหลับมาเหนือหลังวรวาหะ (สุกร) เป็นพาหนะแปลว่า ผู้บริหารพร้อมรบ แต่ไม่ลืมตา หมายถึงไม่กระตือรือร้น อ่อนแอ และที่น่ากังวลคือกินเลือด

ลัคนาดวงเมืองอยู่ในราศีเมษเป็นธาตุไฟ กรุงรัตนโกสินทร์ครบ 238 ปี เมื่อปี 2563 ซึ่งดวงเมืองเข้าภพมรณะ และมฤตยูเข้ามาใกล้ระหว่างมรณะของดวงเมือง เมื่อดาวมฤตยูเข้ามาจึงเกิดความเดือดร้อนปั่นป่วนที่ผ่านมาจึงมีแต่เรื่อง ได้แค่ประคับประคอง ในปี 2564 กรุงรัตนโกสินทร์ครบ 239 ปี ก็ยังไม่ดีขึ้น เลยเดือน เม.ย.2564 พระอาทิตย์จะเข้าสถิตในดวงเมือง พระอาทิตย์เป็นมหาอุจ จะเกิดเรื่องร้อนกับผู้นำประเทศ “เสาร์ถึงจันทร์จะพันร้าย” แปลว่าปัญหาจะยืดเยื้อ การออกกฎหมายล่าช้า และราหูจะย้ายเข้าดวงเมืองในช่วงปลายปี 2564

สำหรับดวงเหตุบ้านการเมืองในปี 2564 ถือว่าไม่ดี โดยจะเริ่มร้อนแรงตั้งแต่ เม.ย.2564 เนื่องจากดาวพระอาทิตย์ทับลัคนา และกลางเดือน เม.ย.ดาวอังคารเดินเข้าราศีเมถุนทับมฤตยูเดิม เล็งดาวพฤหัวกับพระเสาร์ในราศีธนู ซึ่งอังคารกับเสาร์เป็นคู่แตกหัก สาเหตุเกิดจากถอยไม่เป็น มีความกังวลเรื่องการกระทบกระทั่งของมวลชน อังคาร หมายถึงคดีความ พฤหัสหมายถึงกฎหมาย จึงเกิดการฟ้องร้องกันระเบิดเถิดเทิง พุธเป็นกาลากิณีจร พุธ หมายถึง สังคม การสื่อสาร มวลชน แปลว่ามีเกณฑ์เกิดเหตุรุนแรง เกิดความสูญเสีย ยืนยันว่าดวงเมืองประเทศไทยเป็นดวงที่ต้องมีกษตริย์

ดาวเสาร์กับดาวพฤหัสกอดกันแน่น พฤหัสหมายถึงกฎหมาย พฤหัสเร่งเดินตามเสาร์ กุมกันในราศีธนู ซึ่งหมายถึงการปฏิรูป แปลว่า การพิจารณากฎหมายมีลักษณะถอยหลัง มีการชักเข้าชักออก จะใส่ของใหม่แต่ก็ยังจะเอาของเก่า พฤหัสเดินถอยหลังแต่เร่งเดิน แปลว่าถ้ารีบร้อนเกินไปการพิจารณากฎหมายอาจสะดุดหรือผิดพลาดได้

ด้านเศรษฐกิจ ดวงเมืองอยู่ในช่วงถดถอย ราหูย้ายเข้าราศีพฤษภ ตั้งแต่ ต.ค.2563 เป็นราหูค้นทรัพย์ ส่งผลให้การลงทุนในภาคธุรกิจต่างๆ ยังเดินไม่ได้ การเงินการคลังจะมีปัญหา ซึ่งกว่าจะย้ายออกต้องใช้เวลาอีกปีครึ่ง และเมื่อขึ้นจุลศักราชใหม่ พุธเป็นโลกาวินาศ พระเสาร์เป็นอุบาทว์ เสาร์ คือเกษตร ภาคอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ แปลว่ากิจการดังกล่าวจะมีปัญหา

ด้านโรคภัยไข้เจ็บ เกี่ยวข้องกับดาวมฤตยู ซึ่งเข้ามาหลายปีแล้ว และจะย้ายออกในช่วงกลางปี 2566 แต่ก่อนจะย้ายออก จะทำการกวาดล้างเสียก่อน เดินวิปริตเดินถอยหลัง ช่วงที่ต้องระวังคือระหว่าง 20 ธ.ค.2563-ต้น ก.พ.2564 จะมีอุบัติเหตุเภทภัย ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางสัญจร

อาจารย์ทศพล วงศ์ทอง หมอดูด้านโหราศาสตร์ไทย และโหราศาสตร์พม่า
ขณะที่ อาจารย์ทศพล วงศ์ทอง หมอดูด้านโหราศาสตร์ไทย และโหราศาสตร์พม่า ดูดวงเมืองในปี 2564 ว่า ดาวอังคารจะโคจรทับลัคนาดวงเมือง และทับดาวพระอาทิตย์ ตั้งแต่ช่วง 27 ธ.ค.2563-24 ก.พ.2564 ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างรัฐบาลกับประชาชน รัฐบาลจึงต้องระมัดระวังในการให้ข่าว อย่างไรก็ดี การเมืองไทยในช่วง ม.ค.-ก.พ. ก็ยังประคับประคองไปได้ และในปี 2564 ไม่มีเกณฑ์รุนแรงถึงขั้นนองเลือด

ปี 2564 ดาวเสาร์และดาวพฤหัสอยู่ในราศีมังกร มีผลให้รัฐบาลทำการปฏิรูปกฎหมายและการบริหารงาน จึงมีโอกาสที่จะปรับ ครม. โดยดาวพฤหัสโคจรเข้าราศีมังกร ช่วงวันที่ 14 พ.ย.2563-29 มี.ค.2564 ดาวพฤหัสเป็นดาวแห่งผู้มีความรู้ แปลว่าจะมีคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแสดงความเห็นในการบริหารประเทศให้ดีขึ้น

การเงินการคลังในปี 2564 ราหูอยู่ราศีพฤษภ ทับอังคารซึ่งเป็นดาวประจำดวงเมือง ส่งผลกระทบด้านลบต่อการเงิน การคลัง เศรษฐกิจ การลงทุน และรายได้ของประชาชน อย่างไรก็ดี อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศยังมีความมั่นคง แต่ช่วง มี.ค.-พ.ค.2564 การเงินการคลังจะดีขึ้น มีสภาพคล่อง การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนก็ดีขึ้น






กำลังโหลดความคิดเห็น