อปพส.ขยายวงควานหาเครือข่ายหนุนอิสลาม อาการหนักตั้งข้อสังเกตปฏิทินอิสลามธนาคารออมสิน ไม่คำนึงถึงความรู้สึกคนไทยพุทธทั้งประเทศ ตามมาด้วยปฏิทินของ ธ.ก.ส. และพ่วงด้วยกระปุกออมสินที่แจกงานวันออมแห่งชาติ 31 ตุลาคม 2562 กล่าวหาเป็นลวดลายของอิสลาม ชี้โพสต์ของอปพส.ออกแบบมาเพื่อให้รอดถูกฟ้องร้อง
องค์กรปกป้องพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพ(อปพส.) ยังคงขับเคลื่อนทำกิจกรรมตามจังหวัดต่าง ๆ ด้วยความเชื่อว่าศาสนาพุทธกำลังมีภัยและถูกรุกราน นับเป็นการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีความเชื่อเหมือนกันเข้ามาร่วมกันเดินสายกระตุ้นเตือนความเชื่อของพวกเขาไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เป้าหมายหลักยังคงเป็นการท้วงติงศาสนาอิสลาม ที่เคยยื่นเรื่องให้กรรมาธิการชุดต่าง ๆ ของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 18 ธันวาคม 2562
ขอให้ตรวจสอบพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540 พระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ.2524 พระราชบัญญัติส่งเสริมกิจการฮัจย์(เพิ่มเติม) พ.ศ.2559 โดยยื่นหนังสือต่อพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยประธาน กรรมาธิการ ปปช. นายไชยา พรหมา ประธาน กรรมาธิการศึกษาจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ นายไพจิต ศรีวรขาน ประธาน กรรมาธิการการปกครอง และนายสุชาติ อุสาหะ ประธานกรรมาธิการศาสนา ศิลปะวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา
เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ในการปกครองบริหารจัดการงบประมาณแผ่นดิน ถูกต้อง ชอบธรรม มีความเหลื่อมล้ำหรือไม่อย่างไร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมใจชาวพุทธให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ ดูแลและรักษาความถูกต้องเกี่ยวกับภัยพระพุทธศาสนาในทุกพื้นที่ทั่วทั้งประเทศไทย
หลังจากนั้นจึงมีการโพสต์ตั้งคำถามเรื่องห้องละหมาดในสภาผู้แทนราษฎร ในทำนองว่าต้องการเข้ามายึดรัฐสภาและไปไกลจนถึงว่าจะกลายเป็นรัฐอิสลาม จนเป็นกระแสที่สร้างความฮือฮาได้ในสื่อสังคมออนไลน์ จนศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ออกมาแจ้งว่าเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวเท็จ
เป็นเหตุให้ทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้ออกหนังสือขี้แจง เมื่อ 19 ธันวาคม 2562 ว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยเฉพาะความพยายามเผยแพร่ข้อมูล "แผนการยึดครองประเทศไทย และนำกฎหมายอิสลามมาบังคับใช้กับคนทั่วไปในประเทศไทย" ผ่านกระบวนการทางรัฐสภาและคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เชื่อมโยงกับการสร้างมัสยิดในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย จนนำไปสู่การยึดครองประเทศของมุสลิมนั้น ข้อความลักษณะดังกล่าวห่างไกลจากความเป็นจริงมาก
ซัดปฏิทินออมสินหนุนอิสลาม
ขณะที่ทางกลุ่ม อปพส.ยังคงเดินหน้าตรวจสอบกิจกรรมของหน่วยงานอื่น ๆ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนกับศาสนาอิสลาม โดยเมื่อ 27 ธันวาคม 2562 ทางอปพส.ได้โพสต์ข้อความว่า ธนาคารออมสินปีนี้แจกปฏิทินอิสลาม หมายความว่าอย่างไร เป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศไทย มีคนไทยพุทธเป็นลูกค้าจำนวนมาก และเป็นมาอย่างยาวนาน
แต่แล้ววันนี้ ปีนี้ 2562 ธนาคารออมสินกลับนำปฏิทินอิสลามมาแจกให้คนไทยพุทธ ไม่คำนึงถึงความรู้สึกคนไทยพุทธทั้งประเทศเลยหรือครับ
27 ธันวาคม 2562 ผมจึงได้ไปสอบถามข้อเท็จจริงจากพนักงานธนาคารออมสินสาขาหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งเธอก็ตอบกลับมาว่า ได้แจกปฎิทินอิสลามไปหมดแล้ว สาขานี้ไม่มีแล้ว เป็นคำยืนยันว่ามีปฏิทินอิสลามจริง
เจ็บปวดมั๊ยครับ พี่น้องคนไทยพุทธทั้งประเทศ ทำไมต้องเอาเงินธนาคารออมสินที่มาจากคนไทยพุทธทั้งประเทศมาทำปฏิทินอิสลาม แล้วนำมาแจกคนไทยพุทธครับ
โดยโพสต์ดังกล่าวได้มีสมาชิกของกลุ่มได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ที่เห็นคล้อยตามแนวทางความเห็นของผู้โพสต์
แจงปฎิทินมีทั้งคนทั่วไป-อิสลาม-จีน
ด้านธนาคารออมสิน มีรายละเอียดเรื่องปฏิทินธนาคารออมสิน พุทธศักราช 2563 ว่า ในทุกปีธนาคารออมสินจะจัดทำปฏิทินเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ลูกค้าผู้มีอุปการคุณ ในปี 2563 นี้ก็เช่นกัน ธนาคารออมสินได้จัดทำปฏิทินหลากหลายรูปแบบ ทั้งปฏิทินแขวน ปฏิทินตั้งโต๊ะ ปฏิทินอิสลาม และปฏิทินไทย-จีน
โดยปฏิทินแขวนไทย ธนาคารออมสิน พุทธศักราช 2563 นั้น ธนาคารได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งเป็นวาระอันเป็นมงคลยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยการจัดทำปฏิทินอันทรงคุณค่าและงดงามในชื่อชุด “เอกบรมจักริน ทศมินทร์รามา มหาวชิราลงกรณ เป็นภาพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ตามโบราณราชประเพณีในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารคเลียบพระนคร
ผลงานวาดสีน้ำมันบนผ้าใบของคุณทองดี ภานุมาศ ศิลปินผู้รังสรรค์งานจิตรกรรมชื่อดัง โดยด้านมุมขวาบนของปฏิทินประดับตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และในหน้าเดือนแต่ละเดือนมีภาพเครื่องราชกกุธภัณฑ์และเครื่องราชอิสริยยศ พร้อมคำบรรยายแบบย่อ
สำหรับปฏิทิน 2563 “ออม” ซึ่งเป็นปฏิทินตั้งโต๊ะ ธนาคารออมสินได้ชวนพิศพระนคร ย่านประวัติศาสตร์เกาะรัตนโกสินทร์ ถิ่นกำเนิดการออม ด้วยการเรียงร้อยเรื่องราวสถานที่สำคัญรอบเกาะรัตนโกสินทร์ทั้ง 12 แห่ง อันได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระบรมมหาราชวัง ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดเทพธิดารามวรวิหาร โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร บรมบรรพต วัดสระเกศราชวรวิหารและวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมสืบสานตามรอยประวัติศาสตร์ไปยังสถานที่อันทรงคุณค่า เปี่ยมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและศิลปะอันล้ำค่าของประเทศไทย ซึ่งทุกท่านจะได้ออมบุญ ออมธรรม ออมสุขและออมความรู้ไปกับธนาคารออมสินตลอดการเดินทาง
นอกจากนี้ธนาคารออมสินยังได้จัดทำปฏิทินอิสลาม ประจำปีพุทธศักราช 2563 สำหรับลูกค้าประชาชนชาวไทยมุสลิม โดยเป็นภาพมัสยิดโคตาคินาบาลู(Kota Kinabalu City Mosque) ของประเทศมาเลเซีย เป็นมัสยิดกลางน้ำที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามโดดเด่นตามแบบฉบับศิลปะอิสลามร่วมสมัย ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าว Likas และจัดทำปฏิทินไทย-จีนแบบรายวัน โดยเป็นภาพสิ่งมงคลตามความเชื่อ ได้แก่ สิงโต มังกร หยวนเป่า และโคมไฟสีแดง เพื่อความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง ความมั่งคั่ง อำนาจบารมี รวมไปถึงการปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย คุ้มครองให้ร่มเย็นเป็นสุข เป็นต้น
ลาก ธ.ก.ส.ร่วมวง
ไม่เพียงแค่การตรวจสอบเรื่องปฎิทินอิสลามของธนาคารออมสินเท่านั้น แต่ทางกลุ่มยังได้โพสต์ข้อความเมื่อ 11 มกราคม 2563 ดังนี้ เพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ๆ คนไทยพุทธครับ เห็นปฏิทินธนาคาร ธ.ก.ส. ปี 2563 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือยังครับ เป็นแบบอิสลามอีกแล้วครับท่าน ตามธนาคารออมสิน มาติด ๆ ครับ กำลังสื่อว่าสนับสนุนศาสนาอิสลามใช่มั๊ยครับ?
อย่างไรก็ตามปฏิทินสำหรับแจกลูกค้าที่นับถือศาสนาอิสลาม จากการตรวจสอบพบว่า ธนาคารออมสิน ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เฉพาะปีนี้เป็นปีแรก เพื่อแจกให้กับลูกค้าที่นับถือศาสนาอิสลาม นอกจากนี้ยังพบว่าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ก็ยังจัดทำปฏิทินเพื่อแจกสำหรับลูกค้าที่นับถือศาสนาอิสลามด้วยเช่นกัน โดยทั้ง 2 ธนาคารมีการประกาศประกวดราคาในการจัดพิมพ์ปฏิทินอย่างเปิดเผย
กล่าวหากระปุกออมสินลายอิสลาม
จากนั้นกลุ่ม อปพส.ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตุเมื่อ 13 มกราคม 2563 ถึงลวดลายบนกระปุกออมสินที่จัดทำขึ้นเพื่อแจกเนื่องในวันออมแห่งขาติ 31 ตุลาคม 2562 กระปุกออมสินนี้ถูกตั้งชื่อว่า “กระปุกคัมภีร์แห่งการออม” พร้อมแสดงความคิดเห็นว่า กระปุกออมสิน ธนาคารออมสินลายลัทธิอิสฯ ว่าแต่ท่านมีสิทธิอันใด ใช้งบประมาณแผ่นดินไปเผยแพร่ลัทธิทะเลทรายแบบเนียน ๆ หน้าด้าน ๆ เช่นนี้ล่ะ?
“ลวดลายบนกระปุกออมสินดังกล่าวเป็นลายตู้นิรภัย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องทางศาสนาแต่อย่างใด”แหล่งข่าวกล่าว
เหลี่ยมโพสต์รอดคดี
แหล่งข่าวที่ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่ม อปพส.กล่าวว่า นับเป็นการขยายแนวทางในการตรวจสอบของทางอปพส.ที่กว้างขึ้น จากเดิมมุ่งจับตาที่ภาครัฐว่าให้การสนับสนุนการขยายตัวของศาสนาอิสลาม รวมไปถึงการขยายมัสยิดและเรื่องเครื่องหมายฮาลาล แต่ตอนนี้ได้เข้าไปตรวจสอบในภาคอื่น ๆ ด้วย
กลุ่มนี้เคยโฟกัสไปที่ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยมาก่อน ที่ประสบปัญหาขาดทุนจนรัฐบาลต้องเข้าไปฟื้นฟู โดยกล่าวหาว่าใช้เงินของคนไทยทั้งประเทศที่เป็นคนพุทธมาอุ้มธนาคารแห่งนี้ ขณะที่กลุ่มนี้มีข้อค้างคาใจในเรื่องของธนาคารของคนพุทธที่มองว่าไม่มีธนาคารให้กับชาวพุทธ
หากมองตามหลักความเป็นจริงแล้วคนพุทธก็มีธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐให้เลือกใช้บริการได้แล้วทุกแห่ง แต่มีการหยิบยกเอาเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็นในการโจมตีที่เป้าหมายน่าจะพุ่งตรงไปที่รัฐบาลปัจจุบัน
อย่างเรื่องปฏิทินของธนาคารออมสินและ ธกส. ทั้ง 2 แห่งเป็นธนาคารของรัฐบาลและมีลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ ปฏิทินของธนาคารออมสินมีทั้งสำหรับคนทั่วไปที่พิมพ์ในสัดส่วนที่มากกว่า คนที่นับถือศาสนาอิสลามและยังมีปฏิทินสำหรับคนเชื้อสายจีนอีกส่วนหนึ่ง หรือกระป๋องออมสินก็ถูกตีความว่าเป็นลวดลายของศาสนาอิสลาม
กลุ่มอปพส. มักใช้วิธีการตีความนำเพื่อโยงไปสู่เป้าหมาย ลักษณะการโพสต์นั้นออกมาในลักษณะของการแสดงความสงสัยและเป็นการตั้งคำถาม นับได้ว่าเป็นการป้องกันตัวเองมาเป็นอย่างดี เพราะไม่ได้เป็นการแสดงความเห็นหรือกล่าวหาบุคคลอื่นโดยตรง ต้องไม่ลืมว่ากลุ่มนี้มีนักกฎหมายเข้ามาเป็นที่ปรึกษาหลายราย นี่เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาการฟ้องร้อง หรือถ้ามีการฟ้องร้องโอกาสที่จะหลุดข้อกล่าวหาก็มีได้มาก
