xs
xsm
sm
md
lg

คดีค้ายา 'ธรรมนัส' บิ๊กตู่ต้องเลือก จับตาอีก 2 ประเด็นรอเช็กบิล!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เกาะติดการออกมาแฉของหนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เคยต้องโทษจำคุย 4 ปี ฐานนำเข้าและค้าเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส แจงไม่ได้เป็นตามที่ข่าวเสนอ ด้าน 'เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส' เตรียมนำคำพิพากษาฉบับเต็มเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญมายืนยัน วงในชี้บิ๊ก พปชร.คุยลับๆ เพื่อไทย อ้างในสภาให้ยกเว้น 'ธรรมนัส' แต่ด่า 'บิ๊กตู่' ได้ พร้อมจับตา ข่าวลืออาจมีคดีดังทั้งจากสรรพากรและดีเอสไอ พัวพัน 'ธรรมนัส' ที่วันนี้บิ๊ก พปชร.บอกให้เก็บไว้ก่อน ส่วนข้าราชการอึดอัดกลัวโดน 157 ฐานละเว้น

เรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แกนนำคนสำคัญของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่เวลานี้โด่งดังและถูกตั้งคำถามมากที่สุดกรณีที่หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ (Sydney Morning Herald) ของประเทศออสเตรเลีย ตีพิมพ์รายงานสืบสวนสอบสวน อ้างบันทึกคดีของตำรวจออสเตรเลียและศาลว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยรับโทษจำคุกเป็นเวลา 4 ปีในเรือนจำออสเตรเลีย ก่อนถูกเนรเทศในปี 2540 เนื่องจากความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับแก๊งอาชญากรลักลอบนำเข้าและค้าเฮโรอีน 3.2 กิโลกรัม

ประเด็นนี้จึงนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เหตุใดจึงนำคนที่พัวพันคดียาเสพติด โดยเฉพาะเป็นเฮโรอีน ซึ่งร้ายแรงเหมือนกับคดีก่อการร้ายมานั่งเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าที่จะมีการตั้งรัฐบาลนั้น ก็มีกระแสโจมตีในตัว ร.อ.ธรรมนัส ในเรื่องคดีเฮโรอีนมาแล้ว แต่ในที่สุดก็ยังคงตั้ง ร.อ.ธรรมนัส เป็น รมช.เกษตรฯ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อย่างไรก็ดี ร.อ.ธรรมนัส เคยชี้แจงเรื่องนี้และยอมรับแล้วว่าเขาเคยถูกจับในประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2536 ในข้อหารู้ว่ามียาเสพติดแต่ไม่ได้แจ้งให้ตำรวจรับทราบ จึงถูกจำคุก 8 เดือน หลังจากได้รับการปล่อยตัว ก็ทำงานในออสเตรเลียอีกระยะหนึ่งจึงกลับเมืองไทย

ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องและไม่กระทบกับคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพราะรัฐธรรมนูญไทยกำหนดข้อห้ามการดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดียาเสพติดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า แต่ตัวเขาไม่ใช่ผู้ผลิต ไม่ใช่ผู้ค้า ทั้งสิ้น อีกทั้งในการตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้นำหลักฐานต่างๆ ไปยืนยันกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นการออกมาแฉของ 'ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์' ครั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส บอกทำนองว่าเป็นข่าวมั่วและอ้างบันทึกของศาลทั้งที่ตัวเขาไม่เคยรับสารภาพ เพราะไม่เคยกระทำความผิด รวมถึงบทความที่นำเสนอนั้นเป็นการเขียนขึ้นภายในประเทศและส่งไปให้นักข่าวที่ต่างประเทศตีพิมพ์ ซึ่งเป็นกระบวนการดิสเครดิตตัวเขา และถ้าหากข้องใจก็เปิดหน้ามาชกเลยดีกว่า ไม่ต้องเป็นอีแอบแบบนี้

“หากใครพูดเรื่องอดีตของผมอีก ผมก็จะไม่พูดต่ออีกแล้วและจะดำเนินคดีกับคนที่พูดถึง ขอยืนยันว่าจะไม่ลาออกเพราะมันเป็นเรื่องในอดีต เมื่อ 30 ปีมาแล้ว ตนเองเป็นลูกผู้ชายอยู่ในโลกของความเป็นจริง”

หลังจากนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก็ออกมาแสดงความชัดเจนว่าเขานี่แหละเป็นคนให้สื่อออสเตรเลียหาข้อมูล ซึ่งสื่อออสเตรเลียก็มีข้อมูลอยู่แล้ว เมื่อรัฐบาลไม่ทำ ในฐานะฝ่ายค้านจึงต้องหาทางอ้อมในการตรวจสอบ เพราะเรื่องของการค้ายาเสพติดก็ชัดเจนอยู่แล้ว อย่ามาอ้างว่าเป็นเรื่องการตัดสินของศาลต่างประเทศ คนค้ายาเสพติดก็ชั่วกันทั้งนั้น คนแบบนี้จะมาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร

โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี อดีตผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทยเป็นผู้ดำเนินการ เพราะ พล.ต.ท.วิศณุ รู้เรื่องความเป็นมาของ ร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างดี

ถ้าผมเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะลาออก เพราะเป็นคนเสนอแต่งตั้งคนชั่วมาเป็นรัฐมนตรีโดยไม่กลั่นกรอง

ส่วนเรื่องของการกลัวถูกฟ้องตามที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุไว้ว่าหากใครพูดถึงเรื่องเขาค้าเฮโรอีนอีกจะดำเนินคดีว่า “นักโทษยาเสพติดจะมาฟ้องคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร” พร้อมกับอธิบายว่าตัวเขาเพียงให้คนไปหาข้อมูลให้ปรากฏ ไม่ได้บอกวิธีว่าต้องทำอย่างไร และก็ไม่ได้จ่ายเงินให้สื่อออสเตรเลียด้วย เพียงแต่ว่าเป็นผู้โยนประเด็นไปให้สื่อออสเตรเลียเท่านั้น

“ผมจะไม่ทนเห็นรัฐบาลอุ้มคนค้ายาเป็นรัฐมนตรีแน่นอน”

ด้านแหล่งข่าวจากพรรค พปชร.บอกว่า พูดกันจริงๆ การที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาเปิดตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการส่งคนต่อสายหาข้อมูลจนเป็นที่มาให้หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ออกมาแฉเรื่องราวของ ร.อ.ธรรมนัส นั้น ว่าไปแล้วเป็นเรื่องที่เป็นตัวตนของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จริงๆ เพราะเป็นคนที่เกลียดบรรดาเจ้าพ่อมาเฟีย ผู้มีอิทธิพลมากที่สุด ซึ่งถ้าเราย้อนไปดูจะพบว่าเขากล้าประกาศท้าชนกำนันเป๊าะ หรือนายสมชาย คุณปลื้ม ผู้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อภาคตะวันออก ที่โด่งดังและยิ่งใหญ่มาก ซึ่งอิทธิพลของกำนันเป๊าะ ไม่ใช่แค่ชลบุรี แต่ขยายอาณาจักรไประยอง จันทบุรี ตราด ปราจีนบุรี

“นักการเมือง ข้าราชการ บรรดาท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านล้วนแต่ต้องพึ่งพาเขาหมด ใครๆ ก็รู้ว่าอิทธิพลกำนันเป๊าะกว้างขวางยิ่งใหญ่แค่ไหน เมื่อท่านถูกย้ายไปเป็นผู้กำกับชลบุรี เมื่อปี 2529 ก็เล่นงานกำนันเป๊าะ ตั้งด่านตรวจคนเข้า-ออกหน้าบ้านกันเลย”

โดยเฉพาะเมื่อปี 2537 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยหัวหน้าตำรวจภาค 2 และกลับมาคุมเมืองชลบุรีอีกครั้ง คราวนี้เดินหน้าชนกำนันเป๊าะแบบเต็มๆ เรื่องการทุจริตที่ดินเขาไม้แก้ว ในการจัดซื้อที่ดินจำนวน 140 ไร่ และคดีนี้ศาลสั่งพิพากษาจำคุก เป็นผลให้กำนันเป๊าะต้องหลบหนีไป ก่อนจะถูกจับกุมในเวลาต่อมา


“เจ้าพ่อตะวันออกอย่างกำนันเป๊าะ ยิ่งใหญ่ โด่งดังขนาดไหน ยังถูก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จัดการเสียอยู่หมัด กรณีของ ร.อ.ธรรมนัส ว่าไปแล้วยังไม่ได้มีอิทธิพลขนาดกำนันเป๊าะ ก็คงต้องตามดูกันต่อไป จริงๆ แล้วแรงผลักดันของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เพราะไม่อยากให้คนต้องคดีค้ายาเสพติดมานั่งเป็นรัฐมนตรีบริหารประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว”

ขณะเดียวกันการที่ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี พรรคเสรีรวมไทย ตั้งกระทู้สดในสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ถาม ร.อ.ธรรมนัส ถึงประเด็นที่สื่อออสเตรเลียนำเสนอ ก็ทำให้สังคมได้ฟังคำชี้แจงของ ร.อ.ธรรมนัส ถึงความจริงในมุมของ ร.อ.ธรรมนัส เช่นกัน ว่าตัวเขาต้องมีหน้าที่เป็นพยานให้กับผู้ถูกกล่าวหาอีกคนที่เป็นฝรั่ง และเมื่อครบ 4 ปี ก็ไม่คิดจะกลับ เพราะอยากใช้ชีวิตกับครอบครัวที่ออสเตรเลียต่อไป แต่เมื่อรัฐบาลออสเตรเลียให้กลับ ก็ต้องกลับโดยไม่มีโทษติดต่อแต่อย่างใด

ขณะที่ พล.ต.ท.วิศณุ เจ้าของกระทู้ ก็ยืนยันว่าจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป อีกทั้งจะรอคำพิพากษาฉบับเต็มหรือฉบับสมบูรณ์ที่ประเทศออสเตรเลีย ส่วนจะได้มาด้วยวิธีไหนนั้น คงต้องติดตาม ซึ่งคำพิพากษาฉบับเต็มนั้น จะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ได้เห็นว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างไร ระหว่างสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจง กับข้อมูลหลักฐานที่หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ นำเสนอ

ด้านแหล่งข่าวจากพรรค พปชร. เล่าว่า มีประเด็นสำคัญที่ถือเป็นความลับของคนในพรรคก็คือ ได้มีแกนนำคนสำคัญของพรรค มีการคุยกันกับตัวแทนในสภาของพรรคเพื่อไทย ว่าในการอภิปรายหรือการตั้งกระทู้ใดๆ ก็ตาม ขออย่าได้มีประเด็นของ ร.อ.ธรรมนัส แต่ยินดีจะให้มีการพุ่งเป้าไปที่บิ๊กตู่จะดีกว่า ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ยอมรับในเรื่องนี้

“พรรคขอให้เว้นธรรมนัส แต่ให้ด่านายกฯ บิ๊กตู่ได้ ผู้ใหญ่ของพรรคเรา พูดแบบนี้กับฝ่ายค้าน เรื่องนี้ก็คงต้องมีเหตุผลที่รู้กันเฉพาะไม่กี่คนในพรรคเรา ก็มีหลายกลุ่ม บางคนไม่เอาบิ๊กตู่เลย ถึงปล่อยให้ด่าบิ๊กตู่ได้ แต่ด่าธรรมนัสไม่ได้ อาจมีเรื่องของกลุ่มทุนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

แหล่งข่าวบอกว่า ในการพูดคุยของแกนนำ พปชร.และเพื่อไทย จะให้เว้นใครบ้างนั้น ถือเป็นความสัมพันธ์ส่วนตัวที่จะขอเป็นครั้งๆ กันไป และเมื่อคุยได้ข้อสรุปก็ให้เป็นไปตามนั้น
 แต่กรณีของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ 'ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์' นำมาเปิดนั้น ภายในพรรคก็ตั้งข้อสงสัยเหมือนกันว่าทำไมบิ๊กตู่ถึงไม่ตัดสินใจที่จะลอยแพ ร.อ.ธรรมนัส หรือสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เพื่อทำให้ประชาชนมีความมั่นใจและสบายใจว่ารัฐบาลบิ๊กตู่ ไม่ได้สนับสนุนคนค้ายาเสพติดมานั่งเป็นรัฐมนตรีเพราะเท่ากับเป็นการเสริมอำนาจ บารมีให้กับ ร.อ.ธรรมนัสมากขึ้น

  “สังคมก็เห็นใช่มั้ยว่า มีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรค หรือพรรคร่วมก็ส่ง ร.อ.ธรรมนัส ไปเคลียร์ ซึ่งวิธีการไปเคลียร์ของ ร.อ.ธรรมนัส พวกเราก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีการใด เป็นเรื่องของคุณธรรม หรืออิทธิพล ก็ไม่มีใครรู้ แต่ทุกอย่างก็จบไปได้ในทุกๆ เรื่อง

 ตัวอย่างเช่นความขัดแย้งในเรื่องของการได้ตำแหน่งรัฐมนตรีที่บรรดา ส.ส.อีสานตอนบน 15 จังหวัด และ ส.ส.ใต้ กลุ่มด้ามขวานไทย ออกมาเคลื่อนไหวเพราะผู้ใหญ่ในพรรคไม่เห็นหัว หรือกรณี 10 พรรคเล็ก ที่ออกมาเรียกร้องและจะแยกตัวไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ ไม่ร่วมกับรัฐบาลบิ๊กตู่ ซึ่งในที่สุด ร.อ ธรรมนัส ก็สามารถเป็นกาวใจได้สำเร็จ 

แม้จะมีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ แยกตัวไปก็ตาม และล่าสุดก็มีพรรคประชาธรรมไทย (ปธท.) มีนายพิเชษฐ สถิรชวาล เป็นหัวหน้าพรรค ได้แยกตัวออกไปอีก 1 พรรค เพราะรับไม่ได้ที่ถูก ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเป็นผู้เข้ามาเคลียร์ปัญหา ได้เปรียบตัวเองเป็นคนเลี้ยงลิง เลยต้องเอากล้วยให้ลิงกินตลอดเวลา ขณะนี้น่าจะกินจนอิ่ม ก็น่าจะพอแล้ว


ธรรมนัส โชว์วิทยานิพนธ์พร้อมทรานสคริปต์-ใบปริญญาต่อสื่อมวลชน โต้กระแสดิสเครดิตวุฒิ ปริญญาเอก
แหล่งข่าวบอกอีกว่า เรื่องของ ร.อ.ธรรมนัส ในเวลานี้ดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่เรื่องที่ 'ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์' ออกมาแฉเท่านั้น มีการคุยกันภายในพรรค ว่ากันว่ามีประเด็นปัญหาใหม่อีก 2 ประเด็น ที่อาจจะพัวพันกับ ร.อ.ธรรมนัส คือเรื่องของกรมสรรพากร ที่ข้าราชการมีการบ่นกันว่า ไม่สามารถส่งข้อสรุปเพื่อดำเนินการตามกฎหมายได้ เพราะมีคำสั่งจาก “ผู้มีอำนาจ” ให้ดึงเรื่องนี้ไว้ก่อน

“ก็มีการถามกันภายในว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไร คนที่นำมาบอกก็ได้แต่บอกว่าข้าราชการบ่นว่าถ้าไม่ทำอะไร ก็กลัวว่าพวกเขาจะโดน 157 คือการละเว้น จึงอึดอัดไม่รู้จะทำอย่างไร

ไม่ใช่เพียงแค่นี้ ว่ากันว่า ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็กำลังตามสืบสวนสอบสวนอยู่ว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร

จากนี้ไปคงเป็นเรื่องที่บิ๊กตู่จะต้องทำให้เกิดความชัดเจนกรณีที่ หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ ออกมาแฉ เพราะเรื่องของคดีค้าเฮโรอีนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็นเรื่องที่ทั่วโลกไม่ยอมรับที่นักค้ายาเสพติดมานั่งเป็นรัฐมนตรีบริหารประเทศ

ดังเช่นกรณีของนายณรงค์ วงศ์วรรณ หัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2535 ทั้งที่ชนะเลือกตั้ง แต่ต้องมาเจอมรสุมครั้งใหญ่ ในช่วงที่กำลังจะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เพราะมีข่าวว่าสหรัฐฯ ขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่ให้วีซ่าเข้าประเทศสหรัฐฯ เนื่องจากมีข่าวว่าพัวพันยาเสพติด ทำให้ต้องถอนชื่อนายณรงค์ วงศ์วรรณ ออกไปทันที

“เรื่องของนายณรงค์ แค่สถานทูตไม่ออกวีซ่าให้ ซึ่งยังไม่มีประเด็นให้ศาลพิจารณา และยังไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ก็ยังไปเลย แต่กรณีของ ร.อ.ธรรมนัส มันมีอะไรชัดๆ ที่บิ๊กตู่ต้องคำนึงถึงประเทศชาติเป็นหลัก

เพราะหากรอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นำถ้อยคำพิพากษาฉบับเต็มออกมาตีแผ่ หากทุกอย่างเป็นความจริงตามที่หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ แฉ 'บิ๊กตู่' จะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร

หรือจะให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เร่งนำหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดว่าเขาไม่ผิดออกมายืนยันให้สังคมได้รับรู้ และหักล้างสิ่งที่หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮอรัลด์ นำเสนอ!

ทั้งหมดจึงอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียวว่าจะเลือกเดินทางไหนต่อไป!



กำลังโหลดความคิดเห็น