ทัวร์พันล้านเกรงถูกยึดใบอนุญาต รุกกรมการท่องเที่ยวขออยู่ต่อ อ้างลูกทัวร์จำนวนมากยังต้องการเดินทางกับบริษัท ด้านคดีความทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งเรื่องให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ TACTICS ติดตามคดี ขณะที่คนใน TTAA ชี้ถ้าเป็นรายเล็ก กทท.ฟันไปนานแล้ว ชี้ที่ผ่านมาส่อผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์หลายมาตรา

ท่ามกลางกระแสข่าวกรมการท่องเที่ยวเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวของบริษัทอีแอลซีทัวร์ ทัวร์กลุ่มปิดรายใหญ่ที่มีลูกค้ามากกว่า 1 หมื่นคนหรือไม่นั้น หลังจากที่บริษัทแจ้งว่ามีปัญหาด้านสภาพคล่องไม่สามารถออกทัวร์ได้ตามกำหนด และคงค้างการคืนเงินกับลูกทัวร์ที่ปฏิเสธการเดินทาง จนเกิดการร้องเรียนไปที่กรมการท่องเที่ยวจนถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
นำมาสู่คำสั่งพักใช้ใบอนุญาต 30 วันในช่วงเดือนมิถุนายน 2562 และครบกำหนดเมื่อ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยในวันที่ 13 กรกฎาคม ทาง ELC Tour ได้แจ้งต่อลูกค้าว่าใบอนุญาตของ ELC ยังใช้ได้ตามปกติและยังคงดำเนินการออกทัวร์เดือนละ 10-20 ทริปตามปกติ แต่เมื่อตรวจสอบเว็บไซต์ของกรมการท่องเที่ยวพบว่า ELC ยังคงสถานะถูกพักใช้ใบอนุญาต
ขณะที่ผู้เสียหายบางส่วนเริ่มร้องเรียนผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น เพื่ออธิบายถึงวิธีการของบริษัทที่ดำเนินการอยู่จนทำให้เกิดความเสียหาย
ELC ร้อง กทท.อย่ายึดใบอนุญาต
ทั้งนี้เมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 ตัวแทนของ ELC Tour ได้นัดหมายกลุ่มลูกค้าที่ยังต้องการเดินทางกับบริษัททัวร์รายนี้ไปร้องขอต่อกรมการท่องเที่ยวเพื่อให้ระงับการเพิกถอนใบอนุญาต อ้างว่าเพื่อไม่ให้ลูกค้าเดิมได้รับความเดือดร้อน
นางสาวทมิตา กิติรัตน์ชัย ตัวแทนกลุ่มที่ต้องการเดินทางต่อกับ ELC ได้โพสต์สรุปว่า กรมการท่องเที่ยว (กทท.) ไม่ได้เพิกถอนใบอนุญาตของ ELC ปัจจุบัน ELC ยังทำงานทัวร์ได้ตามปกติ
.หาก ELC ถูกยึดใบอนุญาต ก็ยังสามารถออกทัวร์ได้ตามปกติ เพราะเป็นข้อกฎหมายกำหนด ที่จะต้องให้ ELC ออกทัวร์ให้กับลูกทัวร์ที่มีภาระผูกพัน ทัวร์ออกได้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายกำหนดให้ต้องออกทัวร์ให้กับลูกทัวร์
สิ่งที่ Angel ทำไม่ผิดกฎหมาย เพราะทำในฐานะตัวแทนที่ได้รับการมอบหมายจากกลุ่มลูกทัวร์ และจาก ELC ในการประสานงาน จัดทริป คุณภาพ 3 ดาว เพื่อเติมเงินไม่มาก อัตราการเติมเงิน 30-40% หักสลิป 60-70%
มี สคบ. มาร่วมสังเกตการณ์ เพราะได้รับแจ้งว่าวันนี้พวกเราจะไปประท้วงที่ กทท. เค้าเลยส่งเจ้าหน้าที่มาดู และเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่เห็นมีเลย ดูทุกคนสนุกสนานกันและได้อัด VDO ซัง ให้สรุปผลการประชุมให้
ขอให้มีการประสานงานให้ อาจารย์ ออกมาประกาศทริปล่วงหน้า 3 วัน เวลาจะปิดทริปเก่า เพราะ จะได้ให้ทุกคนทราบโดยทั่วกัน เพื่อได้มีการตัดสินใจอย่างทั่วถึง และขอให้ทีมนางฟ้า ช่วยเปิดแบน สว. เพื่อให้สามารถช่วยให้ข้อมูล และจองทริปได้ทันบ้าง

ลูกค้าเก่าไม่ต้องห่วง
ด้าน นายภัทริคณ์ เรตะกุล หรือ “อาจารย์โหน่ง” ได้ออกมาชี้แจงต่อลูกค้าผ่านทางโซเชียลฯ เมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 ว่า เรียนท่านลูกค้า ELC ที่ได้จองทัวร์ไว้แล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้
ตั้งแต่นี้ไป ELC จะเริ่มจัดระเบียบทริปเก่าๆ ที่เคยวางแผนไว้ในแต่ละเดือนเท่านั้น โดยหัวหน้าทีม ของทุกทริป ถ้าประสงค์จะเดินทางต่อ ให้ติดต่ออาจารย์โดยเร่งด่วน เพื่อจัดระเบียบทริปให้เรียบร้อย ง่ายต่อการจัดการ ต่อการออกทริปในอนาคตอันใกล้ต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติและเชื่อมั่น ELC แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด ในกรณีที่ในอนาคต ELC อาจจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต แต่การจัดการโยกย้ายลูกค้าให้ไปเดินทางภายใต้ Licences อื่น เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้า กรรมการผู้จัดการของบริษัท จะต้องจัดส่งท่านทุกคนให้เที่ยวให้จบ ตามมูลค่าเงินที่ท่านจ่ายมา
ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่า ELC จะไม่ทิ้งใคร จนกว่าเราจะจบภารกิจเยียวยาทุกท่าน ขอความร่วมมือลูกค้าที่จองทริปเก่าไว้ และอยากจะเดินหน้าต่อรบกวนติดต่ออาจารย์อย่างเร่งด่วน วันนี้ 08.00-16.00 น. รับสรุปทริปนำร่องเดือน 9-12 จำนวน 6 ทริปเท่านั้น
ELC ไม่มีนโยบายขายทริปใหม่ทุกกรณี แต่จะโยกย้ายหรือยุบทริปมารวมกันให้ง่ายต่อการจัดการต่อไป ขอให้ทุกท่านโชคดี ELC จะไม่หายไปไหน แต่จะสู้ต่อไปเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้จบ
สตช.มอบศูนย์ TACTICS ดำเนินการ
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายหลายท่านอาจมองว่าการทำคดีเป็นไปด้วยความล่าช้านั้น ต้องเรียนก่อนว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนและรอบคอบก่อน อีกทั้งมีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี โดยขณะนี้เรื่องดังกล่าวเป็นที่รับทราบของผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว และได้มอบหมายให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าไปติดตามคดีนี้ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.)หรือ TACTICS
ต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ ไม่ต้องเดินทางเข้ามาแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ที่เป็นพื้นที่สาขาของบริษัททัวร์รายนี้เพียงแห่งเดียว
“คดีนี้หากมองเผินๆ จะเป็นแค่คดีแพ่ง ที่สามารถยอมความกันได้ แต่ยังมีอีกหลายมิติที่ส่อเค้าว่าจะเข้าข่ายคดีอาญา ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการหาหลักฐานรวมถึงเส้นทางการเงินเพื่อประกอบสำนวนให้รัดกุม ซึ่งผลของการสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการคืบหน้ามากพอสมควร”
ต้องยอมรับว่าทัวร์รายนี้แตกต่างจากบริษัททัวร์ทั่วไป เหมือนทุกอย่างผ่านการออกแบบและกลั่นกรองโดยฝ่ายกฎหมายมาอย่างดี ตั้งแต่วิธีการเข้าไปเป็นลูกค้าของบริษัทซึ่งเป็นระบบปิด และระบบการขายที่ชำระเต็มเก็บเงินล่วงหน้าเป็นปี อีกทั้งยังไม่ได้สังกัดสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ซึ่งกฎหมายได้เปิดช่องเอาไว้ให้เป็นเรื่องของความสมัครใจ
ดังนั้น วิธีการของการประกอบธุรกิจจึงมีทางออกในด้านกฎหมายอยู่เสมอ และกรณีที่มีการรวมตัวกันที่ กทท.เพื่อขอให้ทัวร์รายนี้ทำธุรกิจต่อไปได้นั้น หากมองในทางกฎหมายแล้วนี่เป็นหนึ่งในวิธีการคัดค้านคำสั่งของ กทท. หากมีคำสั่งยึดใบอนุญาตจริง เชื่อว่าทีมกฎหมายของบริษัทคงดำเนินการยื่นเรื่องร้องขอต่อศาลปกครองเพื่อขอทุเลาหรือขอความคุ้มครอง

ถ้าเป็นรายเล็ก-ไม่รอด
แหล่งข่าวจากสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวกล่าวว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะสังกัด TTAA เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งเป็นการลดปัญหาการร้องเรียนจากลูกค้าและป้องกันภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมนำเที่ยว
อย่างบริษัทที่เป็นสมาชิก TTAA หากประพฤตินอกกรอบ เกิดความเสียหาย ถูกร้องเรียน ก็จะเรียกเข้ามาชี้แจง บทลงโทษหนักสุดคือการขับพ้นออกจากสมาชิก ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านั้นทำธุรกิจต่อไปได้ลำบาก
ที่ผ่านมาหากเกิดปัญหาที่มีการร้องเรียนต่อกรมการท่องเที่ยว แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทาง กทท.มักจะดำเนินการลงโทษทันที แตกต่างจากกรณีนี้ที่เห็นอยู่แล้วว่ามีการกระทำผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ในหลายเรื่อง แต่ทางกรมก็ไม่ได้เข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ปัญหา พูดง่ายๆ ว่าถ้าเป็นทัวร์เล็กๆ กทท.ฟันไปแล้ว แต่นี่เป็นทัวร์ใหญ่ ลูกค้าเยอะและส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีเงินและสถานะทางสังคมสูง เหตุใดจึงปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ประการต่อมาแม้จะมีช่องทางให้บริษัททัวร์ได้เยียวยาผู้เสียหาย แต่เยียวยาด้วยวิธีการเพิ่มเงินเป็นจำนวนมากจนเงินที่เพิ่มนั้นสามารถซื้อทัวร์ใหม่ทั่วไปได้ นี่ถือว่าเป็นการเยียวยาหรือไม่ แถมยังเป็นการเปิดให้ทัวร์รายนี้หาเงินเสริมสภาพคล่องได้ด้วยการเรียกเงินจากลูกทัวร์ และยังหักหนี้เก่าได้โดยไม่ต้องควักเงินออกไป
เข้าข่ายหลายมาตรา
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า เท่าที่เห็นได้ในตอนนี้บริษัททัวร์รายนี้เข้าข่ายกระทำผิดพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 หมวด 2 ธุรกิจนำเที่ยว มาตรา 27 การเปลี่ยนแปลงรายการนำเที่ยวให้ผิดไปจากที่ได้โฆษณาหรือชี้ชวนไว้ตามมาตรา 26 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนรับชำระเงินค่าบริการ
การเปลี่ยนแปลงรายการนำเที่ยวภายหลังที่นักท่องเที่ยวชำระเงินค่าบริการแล้ว หากนักท่องเที่ยวไม่ประสงค์จะเดินทาง ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องคืนเงินที่รับชำระแล้วให้แก่นักท่องเที่ยวโดยไม่ชักช้า และจะหักค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ได้
“ทัวร์เจ้านี้แจ้งแค่ปลายทางแล้วจ่ายเงินเต็มล่วงหน้า 1 ปี โปรแกรมออกก่อนเดินทาง 3 วัน ตรงนี้ก็ชัดเจนแล้ว เมื่อลูกค้าปฏิเสธการเดินทางก็ไม่จ่ายเงินคืนหรือจ่ายคืนก็ชักช้า บางรายรอข้ามปียังไม่ได้เงิน”
มาตรา 28 ในกรณีที่นักท่องเที่ยวชำระเงินค่าบริการแล้วไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถ้ามีเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้เฉพาะตัว หรือมีเหตุให้ต้องยกเลิกการนำเที่ยวตามที่ได้โฆษณาไว้ ทั้งนี้ โดยมิใช่ความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจ่ายเงินคืนให้แก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าอัตราตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าการยกเลิกการนำเที่ยวเกิดจากกรณีมีนักท่องเที่ยวไม่ครบจำนวนตามที่กำหนดในมาตรา 26 (8) หรือเกิดจากเหตุใดๆ อันเป็นความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องคืนเงินทั้งหมดให้แก่นักท่องเที่ยว
“อย่างมาตรานี้มีการยกเลิกการเดินทางหลายกลุ่ม ทางทัวร์รายนี้ก็ยังค้างการจ่ายเงิน และได้มีการเปลี่ยนโปรแกรมการเดินทาง บางคนจองไปประเทศ A เมื่อบริษัทเกิดปัญหาเสนอให้ไปประเทศ B แถมยังต้องเพิ่มเงินสดเข้าไปจนราคาทัวร์สูงกว่าเดิมมาก”
ที่จริงยังมีมาตรา 31 ในเรื่องการเรียกเก็บค่าบริการที่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายอีก แต่ได้มีการแก้ พ.ร.บ.โดยเพิ่มคำว่า ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจัดบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับค่าบริการหรือรับค่าบริการในอัตราที่เห็นได้ว่าไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ทำให้เรื่องการเสนอราคาขายที่ต่ำกว่าทุนอาจไม่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.นี้
อย่างไรก็ตาม ในด้านของสำนวนคดี คงต้องพิจารณาจากกฎหมายฉบับอื่นเข้ามาประกอบอีกว่าทางบริษัทดำเนินการเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายฉบับใดอีกบ้าง
ท่ามกลางกระแสข่าวกรมการท่องเที่ยวเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวของบริษัทอีแอลซีทัวร์ ทัวร์กลุ่มปิดรายใหญ่ที่มีลูกค้ามากกว่า 1 หมื่นคนหรือไม่นั้น หลังจากที่บริษัทแจ้งว่ามีปัญหาด้านสภาพคล่องไม่สามารถออกทัวร์ได้ตามกำหนด และคงค้างการคืนเงินกับลูกทัวร์ที่ปฏิเสธการเดินทาง จนเกิดการร้องเรียนไปที่กรมการท่องเที่ยวจนถึงการแจ้งความดำเนินคดีกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
นำมาสู่คำสั่งพักใช้ใบอนุญาต 30 วันในช่วงเดือนมิถุนายน 2562 และครบกำหนดเมื่อ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยในวันที่ 13 กรกฎาคม ทาง ELC Tour ได้แจ้งต่อลูกค้าว่าใบอนุญาตของ ELC ยังใช้ได้ตามปกติและยังคงดำเนินการออกทัวร์เดือนละ 10-20 ทริปตามปกติ แต่เมื่อตรวจสอบเว็บไซต์ของกรมการท่องเที่ยวพบว่า ELC ยังคงสถานะถูกพักใช้ใบอนุญาต
ขณะที่ผู้เสียหายบางส่วนเริ่มร้องเรียนผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น เพื่ออธิบายถึงวิธีการของบริษัทที่ดำเนินการอยู่จนทำให้เกิดความเสียหาย
ELC ร้อง กทท.อย่ายึดใบอนุญาต
ทั้งนี้เมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 ตัวแทนของ ELC Tour ได้นัดหมายกลุ่มลูกค้าที่ยังต้องการเดินทางกับบริษัททัวร์รายนี้ไปร้องขอต่อกรมการท่องเที่ยวเพื่อให้ระงับการเพิกถอนใบอนุญาต อ้างว่าเพื่อไม่ให้ลูกค้าเดิมได้รับความเดือดร้อน
นางสาวทมิตา กิติรัตน์ชัย ตัวแทนกลุ่มที่ต้องการเดินทางต่อกับ ELC ได้โพสต์สรุปว่า กรมการท่องเที่ยว (กทท.) ไม่ได้เพิกถอนใบอนุญาตของ ELC ปัจจุบัน ELC ยังทำงานทัวร์ได้ตามปกติ
.หาก ELC ถูกยึดใบอนุญาต ก็ยังสามารถออกทัวร์ได้ตามปกติ เพราะเป็นข้อกฎหมายกำหนด ที่จะต้องให้ ELC ออกทัวร์ให้กับลูกทัวร์ที่มีภาระผูกพัน ทัวร์ออกได้ไม่ผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายกำหนดให้ต้องออกทัวร์ให้กับลูกทัวร์
สิ่งที่ Angel ทำไม่ผิดกฎหมาย เพราะทำในฐานะตัวแทนที่ได้รับการมอบหมายจากกลุ่มลูกทัวร์ และจาก ELC ในการประสานงาน จัดทริป คุณภาพ 3 ดาว เพื่อเติมเงินไม่มาก อัตราการเติมเงิน 30-40% หักสลิป 60-70%
มี สคบ. มาร่วมสังเกตการณ์ เพราะได้รับแจ้งว่าวันนี้พวกเราจะไปประท้วงที่ กทท. เค้าเลยส่งเจ้าหน้าที่มาดู และเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่เห็นมีเลย ดูทุกคนสนุกสนานกันและได้อัด VDO ซัง ให้สรุปผลการประชุมให้
ขอให้มีการประสานงานให้ อาจารย์ ออกมาประกาศทริปล่วงหน้า 3 วัน เวลาจะปิดทริปเก่า เพราะ จะได้ให้ทุกคนทราบโดยทั่วกัน เพื่อได้มีการตัดสินใจอย่างทั่วถึง และขอให้ทีมนางฟ้า ช่วยเปิดแบน สว. เพื่อให้สามารถช่วยให้ข้อมูล และจองทริปได้ทันบ้าง
ลูกค้าเก่าไม่ต้องห่วง
ด้าน นายภัทริคณ์ เรตะกุล หรือ “อาจารย์โหน่ง” ได้ออกมาชี้แจงต่อลูกค้าผ่านทางโซเชียลฯ เมื่อ 18 กรกฎาคม 2562 ว่า เรียนท่านลูกค้า ELC ที่ได้จองทัวร์ไว้แล้ว ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้
ตั้งแต่นี้ไป ELC จะเริ่มจัดระเบียบทริปเก่าๆ ที่เคยวางแผนไว้ในแต่ละเดือนเท่านั้น โดยหัวหน้าทีม ของทุกทริป ถ้าประสงค์จะเดินทางต่อ ให้ติดต่ออาจารย์โดยเร่งด่วน เพื่อจัดระเบียบทริปให้เรียบร้อย ง่ายต่อการจัดการ ต่อการออกทริปในอนาคตอันใกล้ต่อไป
ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติและเชื่อมั่น ELC แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด ในกรณีที่ในอนาคต ELC อาจจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต แต่การจัดการโยกย้ายลูกค้าให้ไปเดินทางภายใต้ Licences อื่น เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้า กรรมการผู้จัดการของบริษัท จะต้องจัดส่งท่านทุกคนให้เที่ยวให้จบ ตามมูลค่าเงินที่ท่านจ่ายมา
ขอให้ทุกท่านมั่นใจว่า ELC จะไม่ทิ้งใคร จนกว่าเราจะจบภารกิจเยียวยาทุกท่าน ขอความร่วมมือลูกค้าที่จองทริปเก่าไว้ และอยากจะเดินหน้าต่อรบกวนติดต่ออาจารย์อย่างเร่งด่วน วันนี้ 08.00-16.00 น. รับสรุปทริปนำร่องเดือน 9-12 จำนวน 6 ทริปเท่านั้น
ELC ไม่มีนโยบายขายทริปใหม่ทุกกรณี แต่จะโยกย้ายหรือยุบทริปมารวมกันให้ง่ายต่อการจัดการต่อไป ขอให้ทุกท่านโชคดี ELC จะไม่หายไปไหน แต่จะสู้ต่อไปเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ให้จบ
สตช.มอบศูนย์ TACTICS ดำเนินการ
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายหลายท่านอาจมองว่าการทำคดีเป็นไปด้วยความล่าช้านั้น ต้องเรียนก่อนว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนและรอบคอบก่อน อีกทั้งมีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี โดยขณะนี้เรื่องดังกล่าวเป็นที่รับทราบของผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว และได้มอบหมายให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าไปติดตามคดีนี้ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.)หรือ TACTICS
ต้องรอคำสั่งอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ ไม่ต้องเดินทางเข้ามาแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ที่เป็นพื้นที่สาขาของบริษัททัวร์รายนี้เพียงแห่งเดียว
“คดีนี้หากมองเผินๆ จะเป็นแค่คดีแพ่ง ที่สามารถยอมความกันได้ แต่ยังมีอีกหลายมิติที่ส่อเค้าว่าจะเข้าข่ายคดีอาญา ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการหาหลักฐานรวมถึงเส้นทางการเงินเพื่อประกอบสำนวนให้รัดกุม ซึ่งผลของการสืบสวนสอบสวนได้ดำเนินการคืบหน้ามากพอสมควร”
ต้องยอมรับว่าทัวร์รายนี้แตกต่างจากบริษัททัวร์ทั่วไป เหมือนทุกอย่างผ่านการออกแบบและกลั่นกรองโดยฝ่ายกฎหมายมาอย่างดี ตั้งแต่วิธีการเข้าไปเป็นลูกค้าของบริษัทซึ่งเป็นระบบปิด และระบบการขายที่ชำระเต็มเก็บเงินล่วงหน้าเป็นปี อีกทั้งยังไม่ได้สังกัดสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) ซึ่งกฎหมายได้เปิดช่องเอาไว้ให้เป็นเรื่องของความสมัครใจ
ดังนั้น วิธีการของการประกอบธุรกิจจึงมีทางออกในด้านกฎหมายอยู่เสมอ และกรณีที่มีการรวมตัวกันที่ กทท.เพื่อขอให้ทัวร์รายนี้ทำธุรกิจต่อไปได้นั้น หากมองในทางกฎหมายแล้วนี่เป็นหนึ่งในวิธีการคัดค้านคำสั่งของ กทท. หากมีคำสั่งยึดใบอนุญาตจริง เชื่อว่าทีมกฎหมายของบริษัทคงดำเนินการยื่นเรื่องร้องขอต่อศาลปกครองเพื่อขอทุเลาหรือขอความคุ้มครอง
ถ้าเป็นรายเล็ก-ไม่รอด
แหล่งข่าวจากสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวกล่าวว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะสังกัด TTAA เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันและต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งเป็นการลดปัญหาการร้องเรียนจากลูกค้าและป้องกันภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรมนำเที่ยว
อย่างบริษัทที่เป็นสมาชิก TTAA หากประพฤตินอกกรอบ เกิดความเสียหาย ถูกร้องเรียน ก็จะเรียกเข้ามาชี้แจง บทลงโทษหนักสุดคือการขับพ้นออกจากสมาชิก ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านั้นทำธุรกิจต่อไปได้ลำบาก
ที่ผ่านมาหากเกิดปัญหาที่มีการร้องเรียนต่อกรมการท่องเที่ยว แค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทาง กทท.มักจะดำเนินการลงโทษทันที แตกต่างจากกรณีนี้ที่เห็นอยู่แล้วว่ามีการกระทำผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ในหลายเรื่อง แต่ทางกรมก็ไม่ได้เข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อแก้ปัญหา พูดง่ายๆ ว่าถ้าเป็นทัวร์เล็กๆ กทท.ฟันไปแล้ว แต่นี่เป็นทัวร์ใหญ่ ลูกค้าเยอะและส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีเงินและสถานะทางสังคมสูง เหตุใดจึงปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ประการต่อมาแม้จะมีช่องทางให้บริษัททัวร์ได้เยียวยาผู้เสียหาย แต่เยียวยาด้วยวิธีการเพิ่มเงินเป็นจำนวนมากจนเงินที่เพิ่มนั้นสามารถซื้อทัวร์ใหม่ทั่วไปได้ นี่ถือว่าเป็นการเยียวยาหรือไม่ แถมยังเป็นการเปิดให้ทัวร์รายนี้หาเงินเสริมสภาพคล่องได้ด้วยการเรียกเงินจากลูกทัวร์ และยังหักหนี้เก่าได้โดยไม่ต้องควักเงินออกไป
เข้าข่ายหลายมาตรา
แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า เท่าที่เห็นได้ในตอนนี้บริษัททัวร์รายนี้เข้าข่ายกระทำผิดพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 หมวด 2 ธุรกิจนำเที่ยว มาตรา 27 การเปลี่ยนแปลงรายการนำเที่ยวให้ผิดไปจากที่ได้โฆษณาหรือชี้ชวนไว้ตามมาตรา 26 ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อนรับชำระเงินค่าบริการ
การเปลี่ยนแปลงรายการนำเที่ยวภายหลังที่นักท่องเที่ยวชำระเงินค่าบริการแล้ว หากนักท่องเที่ยวไม่ประสงค์จะเดินทาง ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องคืนเงินที่รับชำระแล้วให้แก่นักท่องเที่ยวโดยไม่ชักช้า และจะหักค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่ได้
“ทัวร์เจ้านี้แจ้งแค่ปลายทางแล้วจ่ายเงินเต็มล่วงหน้า 1 ปี โปรแกรมออกก่อนเดินทาง 3 วัน ตรงนี้ก็ชัดเจนแล้ว เมื่อลูกค้าปฏิเสธการเดินทางก็ไม่จ่ายเงินคืนหรือจ่ายคืนก็ชักช้า บางรายรอข้ามปียังไม่ได้เงิน”
มาตรา 28 ในกรณีที่นักท่องเที่ยวชำระเงินค่าบริการแล้วไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถ้ามีเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้เฉพาะตัว หรือมีเหตุให้ต้องยกเลิกการนำเที่ยวตามที่ได้โฆษณาไว้ ทั้งนี้ โดยมิใช่ความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจ่ายเงินคืนให้แก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าอัตราตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าการยกเลิกการนำเที่ยวเกิดจากกรณีมีนักท่องเที่ยวไม่ครบจำนวนตามที่กำหนดในมาตรา 26 (8) หรือเกิดจากเหตุใดๆ อันเป็นความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องคืนเงินทั้งหมดให้แก่นักท่องเที่ยว
“อย่างมาตรานี้มีการยกเลิกการเดินทางหลายกลุ่ม ทางทัวร์รายนี้ก็ยังค้างการจ่ายเงิน และได้มีการเปลี่ยนโปรแกรมการเดินทาง บางคนจองไปประเทศ A เมื่อบริษัทเกิดปัญหาเสนอให้ไปประเทศ B แถมยังต้องเพิ่มเงินสดเข้าไปจนราคาทัวร์สูงกว่าเดิมมาก”
ที่จริงยังมีมาตรา 31 ในเรื่องการเรียกเก็บค่าบริการที่ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายอีก แต่ได้มีการแก้ พ.ร.บ.โดยเพิ่มคำว่า ห้ามไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจัดบริการนำเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับค่าบริการหรือรับค่าบริการในอัตราที่เห็นได้ว่าไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ทำให้เรื่องการเสนอราคาขายที่ต่ำกว่าทุนอาจไม่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.นี้
อย่างไรก็ตาม ในด้านของสำนวนคดี คงต้องพิจารณาจากกฎหมายฉบับอื่นเข้ามาประกอบอีกว่าทางบริษัทดำเนินการเข้าข่ายขัดต่อกฎหมายฉบับใดอีกบ้าง