เผยโฉมทัวร์กลุ่มปิด ELC Tour ยอดขายกว่าพันล้าน งบการเงินไม่แสดงรายการใด ๆ ของทัวร์ แถมกรรมการที่เหลือเป็นเพียงสมาชิก อบต.และเจ้าของไร่อ้อย เดินหน้าออกทัวร์ต่อ ตั้งราคาสูงกว่าท้องตลาด เปิดทางให้ลูกค้าหักหนี้ แต่ต้องจ่ายเงินสดเพิ่ม ซ้ำร้ายขอยืมเงินคนละ 1 หมื่น ส่วนออกเดินทางได้หรือไม่ต้องวัดดวง เพราะขนาดกลุ่มที่จ่ายเพิ่มแล้วหลายกลุ่มยังถูกเท ผุดตัวกลางใหม่รับช่วงแทน ทริปแอฟริกาใต้แพงกว่ากลุ่มนางฟ้าถึง 9 พันบาท
หลังจากมีผู้เสียหายราว 20 คนเดินทางมาแจ้งความทั้งที่กองบังคับการกองปราบปราม เมื่อ 25 เมษายน 2562 เพื่อให้ดำเนินคดีกับทัวร์กลุ่มปิดรายใหญ่ หลังจากที่ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด จากนั้นก็มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก และร้องเรียนที่กรมการท่องเที่ยวเพื่อขอเงินคืนจากการที่ไม่ได้เดินทาง
จากจำนวนผู้เสียหายที่เพิ่มขึ้นและบางส่วนอยู่ต่างจังหวัดอาจไม่สะดวกในการเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี โดยขณะนี้มีการรวมตัวกันในไลน์กลุ่มมากกว่า 1.1 พันคน ทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมที่จะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และจะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงมาดูแลคดีนี้
“บริษัททัวร์กลุ่มปิดที่เคยเป็นข่าวไปนั้น คือบริษัท อีแอลซี กรุ๊ป จํากัด มีนายภัทริคณ์ เรตะกุล เป็นผู้บริหาร ซึ่งมักเรียกตัวเองว่าอาจารย์โหน่ง”แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าว
เว็บไซต์ของ ELC Tour แจ้งถึงรายละเอียดการทำงานของบริษัทว่า เรื่องกําไรและขาดทุนทางเศรษฐศาสตร์มาเป็นประเด็นรอง (จะไม่ค่อยเห็นในบริษัทฯอื่นๆ) จนทำให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่ๆ ในเรื่องราคาทัวร์ที่ย่อมเยาและมีคุณภาพ
การเป็นสมาชิกของ ELC TOUR ก่อนที่จะท่านสมัครสมาชิก ELC MEMBERSHIP ท่านจะต้องเดินทางกับทางบริษัทฯก่อนอย่างน้อย 1 ทริป ภายหลังการเดินทางเสร็จสิ้นแล้ว ท่านสามารถขอสมัครสมาชิก เพื่อรับเลขสมาชิกรวมทั้งรหัสเพื่อทําการ LOG IN เพื่อเข้ามาทราบข่าวสาร ตลอดจนสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากทางบริษัทฯ ของเราได้
ผงะกรรมการร่วม”สมาชิกอบต.-เจ้าของไร่อ้อย”
ทั้งนี้บริษัท อี แอล ซี กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 13 กันยายน 2556 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท สถานที่ตั้งจังหวัดน่าน วัตถุประสงค์เพื่อ ผลิตและจำหน่ายสบู่ เครื่องสำอาง และเคมีภัณฑ์ใช้ทำความสะอาด แต่ภายหลังได้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โดยได้ใบอนุญาตเลขที่ 21/00693 ทำการตลาดทัวร์ราคาที่ทุกคนต้องตะลึงผ่านทางเฟสบุ๊กจนได้รับความนิยมมีผู้เป็นเพื่อนกับทางเฟสบุ๊กดังกล่าวมากกว่า 1 หมื่นคน
เมื่อตรวจสอบรายชื่อคณะกรรมการของบริษัท ELC พบว่ามี 3 ท่านประกอบด้วย นายภัทริคณ์ เรตะกุล ซึ่งเป็นผู้บริหารและมีบทบาทสำคัญในการจัดทัวร์ให้กับลูกค้าที่สนใจจองซื้อ ทั้งโปรโมชั่นราคาถูกที่ล่อใจ จนกระทั่งการตัดสินใจเลื่อนการออกทัวร์หรือไม่ ทั้งหมดจะอยู่ที่นายภัทริคณ์ ส่วนกรรมการที่เหลือคือนางขันทอง ดีพิชัย เป็น สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน และนายอัครเดช รุ่งโรจน์วิริยะกุล พบว่าเป็นเจ้าของไร่(อ้อย)ตามรอยพ่อ อยู่อย่างพอดี วิถีพอเพียงน่าน ที่บ้านน้ำเกี๋ยน ตำบลน้ำเกี๋ยน
“กรรมการ 2 ท่านดูแล้วแตกต่างจากอาจารย์โหน่งเป็นอย่างมาก คนหนึ่งจบจากต่างประเทศ อีก 2 คนยังทำงานในท้องถิ่นของตัวเอง และที่ผ่านมาลูกทัวร์ทั้งหมดจะรู้จักแต่อาจารย์โหน่งเพียงคนเดียวที่บริหารงานใน ELC”
งบการเงินไม่พบรายการทัวร์
แม้จะมีการประเมินกันว่ายอดขายทัวร์ของ ELC ในช่วงที่ผ่านมามีมากกว่า 1 พันล้านบาท แต่เมื่อย้อนกลับมาดูที่งบการเงินของบริษัท ELC จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กลับไม่พบการบันทึกรายการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการของธุรกิจทัวร์ โดยรายได้หลัก รายได้รวม ต้นทุนในการขาย ไม่มีการแจ้งไว้ พบเพียงยอดขาดทุนสุทธิในปี 2560 อยู่ที่ 13,189.38 บาทและขาดทุนสุทธิปี 2561 อีก 8 พันบาท เหมือนเป็นเพียงรายการค้าขายเล็กน้อยของบริษัทเล็ก ๆ ตามต่างจังหวัดเท่านั้น
ขัดแย้งกับกิจการและยอดขายทัวร์ของทางบริษัท ซึ่งยอดขายในระดับนี้จัดว่าเป็นบริษัทขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ส่วนบริษัทจะมีกำไรหรือไม่ตรงนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่เมื่อมีการบันทึกบัญชีแบบนี้ โชว์ตัวเลขขาดทุน ย่อมไม่ต้องเสียภาษีต่อกรมสรรพากร
พลิกวิกฤติเป็นโอกาส
อย่างไรก็ตามแม้ว่าทาง ELC จะถูกกรมการท่องเที่ยว(กทท.)พักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจนถึง 12 กรกฎาคม 2562 แต่ในระหว่างนี้ทางบริษัทยังสามารถออกทัวร์ในนาม ELC ได้ แต่ต้องขออนุญาตต่อทางกทท.ก่อน และเป็นที่ทราบกันดีว่าลูกทัวร์ของ ELC มีทริปที่ออกเดินทางที่มากกว่าส่วนที่ขออนุญาตต่อ กทท. โดยใช้บริษัททัวร์รายอื่นที่เป็นพันธมิตรของ ELC เป็นผู้ออกแทน
การออกทัวร์ได้ไม่ใช่การออกทัวร์ตามโปรแกรมเดิมของ ELC แต่เป็นการออกทัวร์ใหม่เพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกทัวร์ที่บริษัทไม่สามารถเดินทางกับ ELC ได้ตามกำหนดเดิม ที่มีปัญหามาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และลูกทัวร์จำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้วิธีนี้เพื่อเป็นการหักล้างกับเงินจองทัวร์ที่จ่ายไปล่วงหน้าให้กับบริษัท เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าโอกาสที่บริษัทจะคืนเงินที่จองทัวร์ไว้ทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้ จึงเลือกการเที่ยวล้างหนี้แทนการขอคืนเงิน
แต่วิธีเที่ยวล้างหนี้นั้นได้กลายเป็นแต้มต่อที่สำคัญให้กับทาง ELC ด้วยจำนวนลูกทัวร์ที่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีอีกราว 80% และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายหน่วยงานรัฐไม่กล้าดำเนินการใด ๆ มากนัก ด้วยเกรงว่าวงเงินความเสียหายจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
หักของเก่า+จ่ายเงินเพิ่ม
จึงกลายเป็นเหตุให้ทางผู้บริหารของ ELC เพิ่มเงื่อนไขของการออกเดินทาง ด้วยการแจ้งราคาปิดหรือราคาทุนของทัวร์ที่จะออกได้ ขณะนี้เส้นทางยุโรปเกือบทั้งหมดจะกำหนดไว้มากกว่า 6 หมื่นบาท นั่นเท่ากับเป็นการยกเลิกโปรโมชั่นที่ ELC เคยประกาศขายไว้ทั้งหมด เช่น ยุโรป 25,000 บาทหรือ 35,000 บาท(รวมวีซ่า)
อย่างลูกทัวร์ที่เคยจองซื้อทัวร์ฝรั่งเศสหรืออิตาลีได้ที่ราคา 35,000 บาท(รวมวีซ่า) แต่ยังไม่ได้เดินทางและจองทริปอื่น ๆ อีกรวมแล้วเป็นเงิน 80,000 บาท ซึ่งตอนนี้ ELC ได้จัดทริปเพื่อใช้หนี้จึงเลือกประเทศที่ไม่ต้องทำวีซ่า ขณะนี้มีทริปจอร์เจีย ราคา 62,500 บาท(รวมทุกอย่างไม่มีจ่ายเพิ่ม) เดินทาง 1-8 กันยายน 2562 เปิดโอกาสนำเอาสลิปโอนเงินมาหักได้ 42,000 บาท
แม้อาจเป็นประเทศที่ไม่ได้ชื่นชอบแต่ต้องไปเพื่อหักหนี้ แต่จะต้องจ่ายเงินสดเพิ่มอีก 20,500 บาท เท่ากับหนี้ของ ELC ต่อลูกทัวร์รายนี้จะเหลือ 38,000 บาท แม้บริษัทจะบอกว่าไม่ต้องจ่ายเพิ่มแต่ก็ต้องเตรียมใจไว้ในช่วงใกล้ ๆ เดินทางอีกเช่นกันว่าจะต้องจ่ายเพิ่มอีกหรือไม่ ส่วนจะเลื่อนการเดินทางอีกหรือไม่ถือว่าเป็นการวัดดวง
หรืออีกกรณีหากลูกทัวร์เคยจองเส้นทางยุโรปไว้ได้ที่ 35,000 บาทเพียงโปรแกรมเดียว แต่ยังไม่ได้เดินทาง หากต้องการล้างหนี้ด้วยทริปจอร์เจียที่ราคา 62,500 บาท ลูกทัวร์รายนี้ก็ต้องจ่ายเงินสดเพิ่มอีก 27,500 บาท
อย่างราคาทัวร์จอร์เจียที่ออกมาที่ราคา 62,500 บาทนี้ ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากราคาทัวร์ทั่วไปสำหรับทริปจอร์เจียจะเริ่มที่ 3 หมื่นบาทปลายๆ จนถึง 4 หมื่นกว่าหรืออาจถึง 5.5 หมื่นบาทเท่านั้น
“การเปรียบเทียบกับทัวร์ทั่วไปในเวลานี้ทำได้ยาก เพราะโปรแกรมการเดินทางของ ELC มักจะออกก่อนเดินทาง 3 วัน ไม่ทราบว่าเดินทางด้วยสายการบินหรือพักโรงแรมอะไร อาหารกี่มื้อ ไปสถานที่ใดบ้าง แต่กรุ๊ปอื่นที่ได้เดินทางกลับมาแล้วก็มีปัญหาเรื่องความไม่สะดวกอยู่บ้าง”
ภาคบังคับ “ยืมเงิน”
รูปแบบการเติมเงินเพื่อให้ได้เดินทางจะเปลี่ยนไปมา อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเชิญชวนร่วมทริปสเปนและตอนใต้ของฝรั่งเศส กำหนดเดินทาง 21-30 กรกฎาคม 2562 กำหนดค่าปิดทริปไว้ที่ 52,500 บาท บวกเงินช่วยเหลือ 15,000 บาทและเงินยืมอีก 10,000 บาท(คืนให้ที่สนามบิน) ลูกค้า 25 ท่าน
หากนับเฉพาะเงินยืมที่ได้จากกรุ๊ปนี้ 250,000 บาท ได้เงินช่วยเหลืออีก 375,000 บาท ถ้าใน 1 เดือนมีกรุ๊ปที่สามารถเดินทางได้ 4 กรุ๊ป จะมีเงินยืม 1 ล้านบาท บวกกับเงินช่วยเหลืออีก 1.5 ล้านบาท จะมีเงินยืมหมุนเวียนได้เดือนละ 2.5 ล้านบาท
แม้ว่าเงินยืมทาง ELC สัญญาว่าจะคืนให้ แต่หากสามารถออกทัวร์ใหม่ได้อย่างต่อเนื่องบริษัทก็จะมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ใช้แก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วทาง ELC ออกโปรแกรมการเดินทางหลายทริป อย่างทริปตกค้างต่าง ๆ ก็มีการขอเงินเพิ่มในลักษณะนี้เช่นกัน บางทริปได้เงินเพิ่มไปเกือบ 1 ล้านบาท และหลายโปรแกรมก็ไม่ออกเดินทาง
“คนที่จ่ายเงินเพิ่มเพื่อหวังให้ได้เดินทาง เมื่อทางบริษัทได้เงินไปแล้ว ทุกอย่างก็เงียบ ลูกทัวร์ต้องลุ้นกันว่าจะได้เดินทางหรือไม่ แม้ว่าทริปนั้นจะเป็นทริป Incentive ที่ต้องจ่ายเพิ่มค่อนข้างมาก สุดท้ายก็ถูกเท”
สำหรับกรุ๊ปที่สามารถออกเดินทางได้ในระยะนี้ ถือเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ยังเหลือส่วนที่ตกค้างอีกมาก สาเหตุที่ออกเดินทางได้นั้นคนในกรุ๊ปต้องมีบารมีพอที่จะให้คุณให้โทษกับเจ้าของบริษัททัวร์ได้ ไม่ว่าจะมาจากตำแหน่งหน้าที่การงานของลูกทัวร์เองหรือมีเครือญาติที่ใหญ่พอ แต่กรุ๊ปเหล่านี้ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มทั้งนั้น
ปั้นคนกลางเพิ่ม-แพงกว่านางฟ้า
ขณะนี้พบว่า ลูกตัวบางคนที่มีความสนิทสนมกับผู้บริหารของ ELC มีการตั้งตัวขึ้นมาเป็นคนกลางในการประสานงานการออกทัวร์รอบต่อไป จากเดิมเคยมีเพียงกลุ่มนางฟ้าที่รับเคลียร์ปัญหา ตอนนี้เห็นมีคนอื่นขึ้นมาเป็นตัวกลางเพิ่มขึ้น แน่นอนว่ากลุ่มเหล่านี้สามารถประสานกับทางเจ้าของบริษัททัวร์นี้ได้ เพื่อนำเงินของลูกทัวร์จำนวนหนึ่งมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แล้วเรียกเงินสดเพิ่มจากลูกทัวร์
กลุ่มนางฟ้าเคยประกาศว่าจะลดบทบาทลงในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนจะจริงหรือไม่ต้องรอพิสูจน์กัน แต่ตอนนี้เราได้เห็นแล้วว่ามีบุคคลอื่นได้เข้ามาเปิดรับลูกทัวร์ที่ยังค้างการเดินทางอยู่ ด้วยการเปิดทัวร์แอฟริกาใต้(ไม่ต้องใช้วีซ่า) ที่ราคา 69,500 บาท หักสลิป 1 ใบได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จ่ายเพิ่ม 19,500 บาทขณะที่กลุ่มนางฟ้าก็ออกแอฟริกาใต้เช่นเดียวกันแต่ออกมาก่อนกลุ่มใหม่ กำหนดไว้ที่ราคา 60,500 หักสลิบได้ 5 หมื่น จ่ายเพิ่มอีก 10,500 บาท โดยแจ้งว่ารวมทุกอย่างแล้ว
“เบื้องต้นจะเห็นได้ว่าราคาของกรุ๊ปใหม่สูงกว่าของกลุ่มนางฟ้าอยู่ 9 พันบาท ส่วนจะมีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติมในภายหลังอีกหรือไม่ เดินทางได้จริงหรือไม่ คงต้องให้อาจารย์โหน่งเป็นคนให้คำตอบ”
หลังจากมีผู้เสียหายราว 20 คนเดินทางมาแจ้งความทั้งที่กองบังคับการกองปราบปราม เมื่อ 25 เมษายน 2562 เพื่อให้ดำเนินคดีกับทัวร์กลุ่มปิดรายใหญ่ หลังจากที่ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด จากนั้นก็มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก และร้องเรียนที่กรมการท่องเที่ยวเพื่อขอเงินคืนจากการที่ไม่ได้เดินทาง
จากจำนวนผู้เสียหายที่เพิ่มขึ้นและบางส่วนอยู่ต่างจังหวัดอาจไม่สะดวกในการเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดี โดยขณะนี้มีการรวมตัวกันในไลน์กลุ่มมากกว่า 1.1 พันคน ทำให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมที่จะเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และจะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงมาดูแลคดีนี้
“บริษัททัวร์กลุ่มปิดที่เคยเป็นข่าวไปนั้น คือบริษัท อีแอลซี กรุ๊ป จํากัด มีนายภัทริคณ์ เรตะกุล เป็นผู้บริหาร ซึ่งมักเรียกตัวเองว่าอาจารย์โหน่ง”แหล่งข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าว
เว็บไซต์ของ ELC Tour แจ้งถึงรายละเอียดการทำงานของบริษัทว่า เรื่องกําไรและขาดทุนทางเศรษฐศาสตร์มาเป็นประเด็นรอง (จะไม่ค่อยเห็นในบริษัทฯอื่นๆ) จนทำให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่ๆ ในเรื่องราคาทัวร์ที่ย่อมเยาและมีคุณภาพ
การเป็นสมาชิกของ ELC TOUR ก่อนที่จะท่านสมัครสมาชิก ELC MEMBERSHIP ท่านจะต้องเดินทางกับทางบริษัทฯก่อนอย่างน้อย 1 ทริป ภายหลังการเดินทางเสร็จสิ้นแล้ว ท่านสามารถขอสมัครสมาชิก เพื่อรับเลขสมาชิกรวมทั้งรหัสเพื่อทําการ LOG IN เพื่อเข้ามาทราบข่าวสาร ตลอดจนสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากทางบริษัทฯ ของเราได้
ผงะกรรมการร่วม”สมาชิกอบต.-เจ้าของไร่อ้อย”
ทั้งนี้บริษัท อี แอล ซี กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 13 กันยายน 2556 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท สถานที่ตั้งจังหวัดน่าน วัตถุประสงค์เพื่อ ผลิตและจำหน่ายสบู่ เครื่องสำอาง และเคมีภัณฑ์ใช้ทำความสะอาด แต่ภายหลังได้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โดยได้ใบอนุญาตเลขที่ 21/00693 ทำการตลาดทัวร์ราคาที่ทุกคนต้องตะลึงผ่านทางเฟสบุ๊กจนได้รับความนิยมมีผู้เป็นเพื่อนกับทางเฟสบุ๊กดังกล่าวมากกว่า 1 หมื่นคน
เมื่อตรวจสอบรายชื่อคณะกรรมการของบริษัท ELC พบว่ามี 3 ท่านประกอบด้วย นายภัทริคณ์ เรตะกุล ซึ่งเป็นผู้บริหารและมีบทบาทสำคัญในการจัดทัวร์ให้กับลูกค้าที่สนใจจองซื้อ ทั้งโปรโมชั่นราคาถูกที่ล่อใจ จนกระทั่งการตัดสินใจเลื่อนการออกทัวร์หรือไม่ ทั้งหมดจะอยู่ที่นายภัทริคณ์ ส่วนกรรมการที่เหลือคือนางขันทอง ดีพิชัย เป็น สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน และนายอัครเดช รุ่งโรจน์วิริยะกุล พบว่าเป็นเจ้าของไร่(อ้อย)ตามรอยพ่อ อยู่อย่างพอดี วิถีพอเพียงน่าน ที่บ้านน้ำเกี๋ยน ตำบลน้ำเกี๋ยน
“กรรมการ 2 ท่านดูแล้วแตกต่างจากอาจารย์โหน่งเป็นอย่างมาก คนหนึ่งจบจากต่างประเทศ อีก 2 คนยังทำงานในท้องถิ่นของตัวเอง และที่ผ่านมาลูกทัวร์ทั้งหมดจะรู้จักแต่อาจารย์โหน่งเพียงคนเดียวที่บริหารงานใน ELC”
งบการเงินไม่พบรายการทัวร์
แม้จะมีการประเมินกันว่ายอดขายทัวร์ของ ELC ในช่วงที่ผ่านมามีมากกว่า 1 พันล้านบาท แต่เมื่อย้อนกลับมาดูที่งบการเงินของบริษัท ELC จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กลับไม่พบการบันทึกรายการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายการของธุรกิจทัวร์ โดยรายได้หลัก รายได้รวม ต้นทุนในการขาย ไม่มีการแจ้งไว้ พบเพียงยอดขาดทุนสุทธิในปี 2560 อยู่ที่ 13,189.38 บาทและขาดทุนสุทธิปี 2561 อีก 8 พันบาท เหมือนเป็นเพียงรายการค้าขายเล็กน้อยของบริษัทเล็ก ๆ ตามต่างจังหวัดเท่านั้น
ขัดแย้งกับกิจการและยอดขายทัวร์ของทางบริษัท ซึ่งยอดขายในระดับนี้จัดว่าเป็นบริษัทขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ส่วนบริษัทจะมีกำไรหรือไม่ตรงนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่เมื่อมีการบันทึกบัญชีแบบนี้ โชว์ตัวเลขขาดทุน ย่อมไม่ต้องเสียภาษีต่อกรมสรรพากร
พลิกวิกฤติเป็นโอกาส
อย่างไรก็ตามแม้ว่าทาง ELC จะถูกกรมการท่องเที่ยว(กทท.)พักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวจนถึง 12 กรกฎาคม 2562 แต่ในระหว่างนี้ทางบริษัทยังสามารถออกทัวร์ในนาม ELC ได้ แต่ต้องขออนุญาตต่อทางกทท.ก่อน และเป็นที่ทราบกันดีว่าลูกทัวร์ของ ELC มีทริปที่ออกเดินทางที่มากกว่าส่วนที่ขออนุญาตต่อ กทท. โดยใช้บริษัททัวร์รายอื่นที่เป็นพันธมิตรของ ELC เป็นผู้ออกแทน
การออกทัวร์ได้ไม่ใช่การออกทัวร์ตามโปรแกรมเดิมของ ELC แต่เป็นการออกทัวร์ใหม่เพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกทัวร์ที่บริษัทไม่สามารถเดินทางกับ ELC ได้ตามกำหนดเดิม ที่มีปัญหามาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และลูกทัวร์จำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้วิธีนี้เพื่อเป็นการหักล้างกับเงินจองทัวร์ที่จ่ายไปล่วงหน้าให้กับบริษัท เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าโอกาสที่บริษัทจะคืนเงินที่จองทัวร์ไว้ทั้งหมดนั้นคงเป็นไปไม่ได้ จึงเลือกการเที่ยวล้างหนี้แทนการขอคืนเงิน
แต่วิธีเที่ยวล้างหนี้นั้นได้กลายเป็นแต้มต่อที่สำคัญให้กับทาง ELC ด้วยจำนวนลูกทัวร์ที่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีอีกราว 80% และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่หลายหน่วยงานรัฐไม่กล้าดำเนินการใด ๆ มากนัก ด้วยเกรงว่าวงเงินความเสียหายจะเพิ่มขึ้นมหาศาล
หักของเก่า+จ่ายเงินเพิ่ม
จึงกลายเป็นเหตุให้ทางผู้บริหารของ ELC เพิ่มเงื่อนไขของการออกเดินทาง ด้วยการแจ้งราคาปิดหรือราคาทุนของทัวร์ที่จะออกได้ ขณะนี้เส้นทางยุโรปเกือบทั้งหมดจะกำหนดไว้มากกว่า 6 หมื่นบาท นั่นเท่ากับเป็นการยกเลิกโปรโมชั่นที่ ELC เคยประกาศขายไว้ทั้งหมด เช่น ยุโรป 25,000 บาทหรือ 35,000 บาท(รวมวีซ่า)
อย่างลูกทัวร์ที่เคยจองซื้อทัวร์ฝรั่งเศสหรืออิตาลีได้ที่ราคา 35,000 บาท(รวมวีซ่า) แต่ยังไม่ได้เดินทางและจองทริปอื่น ๆ อีกรวมแล้วเป็นเงิน 80,000 บาท ซึ่งตอนนี้ ELC ได้จัดทริปเพื่อใช้หนี้จึงเลือกประเทศที่ไม่ต้องทำวีซ่า ขณะนี้มีทริปจอร์เจีย ราคา 62,500 บาท(รวมทุกอย่างไม่มีจ่ายเพิ่ม) เดินทาง 1-8 กันยายน 2562 เปิดโอกาสนำเอาสลิปโอนเงินมาหักได้ 42,000 บาท
แม้อาจเป็นประเทศที่ไม่ได้ชื่นชอบแต่ต้องไปเพื่อหักหนี้ แต่จะต้องจ่ายเงินสดเพิ่มอีก 20,500 บาท เท่ากับหนี้ของ ELC ต่อลูกทัวร์รายนี้จะเหลือ 38,000 บาท แม้บริษัทจะบอกว่าไม่ต้องจ่ายเพิ่มแต่ก็ต้องเตรียมใจไว้ในช่วงใกล้ ๆ เดินทางอีกเช่นกันว่าจะต้องจ่ายเพิ่มอีกหรือไม่ ส่วนจะเลื่อนการเดินทางอีกหรือไม่ถือว่าเป็นการวัดดวง
หรืออีกกรณีหากลูกทัวร์เคยจองเส้นทางยุโรปไว้ได้ที่ 35,000 บาทเพียงโปรแกรมเดียว แต่ยังไม่ได้เดินทาง หากต้องการล้างหนี้ด้วยทริปจอร์เจียที่ราคา 62,500 บาท ลูกทัวร์รายนี้ก็ต้องจ่ายเงินสดเพิ่มอีก 27,500 บาท
อย่างราคาทัวร์จอร์เจียที่ออกมาที่ราคา 62,500 บาทนี้ ถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากราคาทัวร์ทั่วไปสำหรับทริปจอร์เจียจะเริ่มที่ 3 หมื่นบาทปลายๆ จนถึง 4 หมื่นกว่าหรืออาจถึง 5.5 หมื่นบาทเท่านั้น
“การเปรียบเทียบกับทัวร์ทั่วไปในเวลานี้ทำได้ยาก เพราะโปรแกรมการเดินทางของ ELC มักจะออกก่อนเดินทาง 3 วัน ไม่ทราบว่าเดินทางด้วยสายการบินหรือพักโรงแรมอะไร อาหารกี่มื้อ ไปสถานที่ใดบ้าง แต่กรุ๊ปอื่นที่ได้เดินทางกลับมาแล้วก็มีปัญหาเรื่องความไม่สะดวกอยู่บ้าง”
ภาคบังคับ “ยืมเงิน”
รูปแบบการเติมเงินเพื่อให้ได้เดินทางจะเปลี่ยนไปมา อย่างสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเชิญชวนร่วมทริปสเปนและตอนใต้ของฝรั่งเศส กำหนดเดินทาง 21-30 กรกฎาคม 2562 กำหนดค่าปิดทริปไว้ที่ 52,500 บาท บวกเงินช่วยเหลือ 15,000 บาทและเงินยืมอีก 10,000 บาท(คืนให้ที่สนามบิน) ลูกค้า 25 ท่าน
หากนับเฉพาะเงินยืมที่ได้จากกรุ๊ปนี้ 250,000 บาท ได้เงินช่วยเหลืออีก 375,000 บาท ถ้าใน 1 เดือนมีกรุ๊ปที่สามารถเดินทางได้ 4 กรุ๊ป จะมีเงินยืม 1 ล้านบาท บวกกับเงินช่วยเหลืออีก 1.5 ล้านบาท จะมีเงินยืมหมุนเวียนได้เดือนละ 2.5 ล้านบาท
แม้ว่าเงินยืมทาง ELC สัญญาว่าจะคืนให้ แต่หากสามารถออกทัวร์ใหม่ได้อย่างต่อเนื่องบริษัทก็จะมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ใช้แก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วทาง ELC ออกโปรแกรมการเดินทางหลายทริป อย่างทริปตกค้างต่าง ๆ ก็มีการขอเงินเพิ่มในลักษณะนี้เช่นกัน บางทริปได้เงินเพิ่มไปเกือบ 1 ล้านบาท และหลายโปรแกรมก็ไม่ออกเดินทาง
“คนที่จ่ายเงินเพิ่มเพื่อหวังให้ได้เดินทาง เมื่อทางบริษัทได้เงินไปแล้ว ทุกอย่างก็เงียบ ลูกทัวร์ต้องลุ้นกันว่าจะได้เดินทางหรือไม่ แม้ว่าทริปนั้นจะเป็นทริป Incentive ที่ต้องจ่ายเพิ่มค่อนข้างมาก สุดท้ายก็ถูกเท”
สำหรับกรุ๊ปที่สามารถออกเดินทางได้ในระยะนี้ ถือเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ยังเหลือส่วนที่ตกค้างอีกมาก สาเหตุที่ออกเดินทางได้นั้นคนในกรุ๊ปต้องมีบารมีพอที่จะให้คุณให้โทษกับเจ้าของบริษัททัวร์ได้ ไม่ว่าจะมาจากตำแหน่งหน้าที่การงานของลูกทัวร์เองหรือมีเครือญาติที่ใหญ่พอ แต่กรุ๊ปเหล่านี้ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มทั้งนั้น
ปั้นคนกลางเพิ่ม-แพงกว่านางฟ้า
ขณะนี้พบว่า ลูกตัวบางคนที่มีความสนิทสนมกับผู้บริหารของ ELC มีการตั้งตัวขึ้นมาเป็นคนกลางในการประสานงานการออกทัวร์รอบต่อไป จากเดิมเคยมีเพียงกลุ่มนางฟ้าที่รับเคลียร์ปัญหา ตอนนี้เห็นมีคนอื่นขึ้นมาเป็นตัวกลางเพิ่มขึ้น แน่นอนว่ากลุ่มเหล่านี้สามารถประสานกับทางเจ้าของบริษัททัวร์นี้ได้ เพื่อนำเงินของลูกทัวร์จำนวนหนึ่งมาหักเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แล้วเรียกเงินสดเพิ่มจากลูกทัวร์
กลุ่มนางฟ้าเคยประกาศว่าจะลดบทบาทลงในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนจะจริงหรือไม่ต้องรอพิสูจน์กัน แต่ตอนนี้เราได้เห็นแล้วว่ามีบุคคลอื่นได้เข้ามาเปิดรับลูกทัวร์ที่ยังค้างการเดินทางอยู่ ด้วยการเปิดทัวร์แอฟริกาใต้(ไม่ต้องใช้วีซ่า) ที่ราคา 69,500 บาท หักสลิป 1 ใบได้ไม่เกิน 5 หมื่นบาท จ่ายเพิ่ม 19,500 บาทขณะที่กลุ่มนางฟ้าก็ออกแอฟริกาใต้เช่นเดียวกันแต่ออกมาก่อนกลุ่มใหม่ กำหนดไว้ที่ราคา 60,500 หักสลิบได้ 5 หมื่น จ่ายเพิ่มอีก 10,500 บาท โดยแจ้งว่ารวมทุกอย่างแล้ว
“เบื้องต้นจะเห็นได้ว่าราคาของกรุ๊ปใหม่สูงกว่าของกลุ่มนางฟ้าอยู่ 9 พันบาท ส่วนจะมีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติมในภายหลังอีกหรือไม่ เดินทางได้จริงหรือไม่ คงต้องให้อาจารย์โหน่งเป็นคนให้คำตอบ”
