ทัวร์เจ้าดังขายที่ผ่านเฟสบุ๊กเที่ยวต่างประเทศในราคาเหลือเชื่อ แลกจ่ายเต็มล่วงหน้าก่อน 1 ปี เจอปัญหาสภาพคล่องหนัก หลังสถานทูตยกเลิก Schengen วีซ่าทั้งกลุ่ม 600 คน ลูกค้าแห่ขอเงินคืน ผู้บริหารออกโรงเคลียร์แก้ปัญหาเพิ่มเงินค่าทัวร์ที่ยังไม่ออกเดินทางตามโซน ตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท เอ่ยปากยืมเงินลูกค้า 1 หมื่นบาทได้สิทธินำไปหักค่าทัวร์ปี 2020 ได้ 1.5 หมื่นบาท ลูกค้าบางกลุ่มเดือด!! ร้องการท่องเที่ยวฯ-แจ้งความ รับขยาดลุ้นทริปที่ยังค้าง แต่ไม่กล้าจองต่อ
หลังจากที่ MGR Online เคยนำเสนอบริษัททัวร์รายหนึ่งที่ดำเนินการแบบกลุ่มปิดผ่านทางเฟสบุ๊กเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวในราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อ ชนิดที่บริษัททัวร์เบอร์ต้น ๆ ของไทยก็ไม่สามารถทำราคาเท่านี้ได้ แต่ต้องแลกกับการที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าเต็มจำนวนที่ระบุไว้ก่อนเดินทางราว 1 ปี และมีค่าทริปคนขับรถ ไกด์ค่อนข้างสูงกว่าทัวร์เจ้าอื่น ๆ เนื่องจากมีช่างภาพตามไปให้บริการถ่ายรูปคณะที่เดินทางด้วย
อย่างโปรแกรม“เที่ยวฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์ 8 วัน ราคา 35,000 รวมวีซ่า” เปิดขาย 10 ที่นั่ง ใครทันก็โชคดีไป ใครไม่ทันก็ต้องรอรอบต่อไป ผู้ที่สมหวังก็จะเข้ามาโพสต์ถึงความประทับใจที่ได้เดินทางไปให้กับสมาชิกในกลุ่มเฟสบุ๊กได้ทราบ(แลกกับการชิงรางวัลเดินทางฟรีจากการที่เข้ามารีวิวความประทับใจ) ดึงให้มีคนเข้ามาเป็นเพื่อนของทัวร์รายนี้ได้มากกว่า 1 หมื่นคน มีการเดินทางประมาณกันว่า 200-300 ทริปต่อปี
การจองทริป จะมีแค่ปลายทางคร่าว ๆ และวันเดินทาง(ข้ามปี)ให้เท่านั้น โปรแกรมเดินทางละเอียดจะออกก่อนเดินทางราว 3 วันและกำหนดนัดหมายจะทราบก่อนการเดินทาง 1 วัน ส่วนกลุ่มที่ต้องทำวีซ่าจะมีการนัดทำล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
เดิมไม่ง้อลูกค้า
สมาชิกรายใหม่จะต้องได้รับการชักชวนจากสมาชิกเก่า โดยรายเดิมจะได้สิทธิซื้อทัวร์ในราคาโปรโมชั่น รายใหม่ต้องซื้อในราคาสูงกว่ารายลูกค้าเดิม เมื่อเดินทางครั้งแรกแล้วจึงจะได้สิทธิเป็นสมาชิกเก่า
หากลูกค้ารายใดเรื่องเยอะ ปัญหามาก admin จะทำการ unfriend กับลูกค้ารายนั้นทันที หรือทางเจ้าของทัวร์จะยกเลิกโปรแกรมและแจ้งคืนเงินให้กับลูกค้ารายนั้น แต่กว่าจะได้รับเงินคืนอาจต้องใช้เวลาราว 6 เดือนหรือ 9 เดือนหรืออาจนานกว่านั้น หากมีการนำเอาเรื่องของบริษัทไปโพสต์ในทางเสียหายบนสื่อออนไลน์จะมีทั้งมาตรการเจรจาจนถึงมาตรการทางกฎหมาย ดังนั้นเรื่องราวของทัวร์รายดังกล่าวจึงรับทราบกันในวงจำกัด
“คนที่เคยใช้บริการทัวร์เจ้านี้ที่ไม่ชอบก็มีไม่น้อย ส่วนใหญ่เลือกที่จะเลิกใช้บริการแล้วหันไปใช้ทัวร์ปกติ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือการเลื่อนวันเดินทางในระยะกระชั้นชิด หรืออาจต้องเปลี่ยนการเดินทางไปเส้นทางอื่นแทน ทำให้คนในวัยทำงานไม่สะดวกที่จะเลื่อนวันเดินทางบ่อย ๆ”
ถึงอย่างไรลูกค้าใหม่ก็ยังเพิ่มอย่างต่อเนื่องด้วยราคาที่ล่อใจ ผู้ที่เป็นลูกค้ากับทัวร์รายนี้ไม่ใช่คนมีรายได้น้อยที่ต้องการท่องเที่ยวด้วยทัวร์ราคาถูก แต่เป็นคนมีฐานะ มีรายได้ดี เมื่อได้เดินทางไปในราคาที่ถูกและได้รับบริการที่ดีเมื่อกลับมาแล้ว มักจะจองทริปอื่น ๆ เพิ่มอีก เท่าที่ทราบมีบางรายจองต่อเนื่องถึง 7 ทริปหรือมากกว่านั้น
ถูกยกเลิก Schengen+ขอคืนเงิน
แต่สถานการณ์ในวันนี้จากลูกค้าที่เคยเข้ามาชื่นชมผู้บริหารอยู่ตลอดเวลานั้น ได้กลายเป็นการเข้ามาตำหนิการบริหารงาน หลังจากทริปเดินทางที่ลูกค้าจองไว้(ชำระเงินเต็ม)เกิดปัญหาต้องเลื่อนวันเดินทางกันหลายกลุ่ม จนผู้บริหารทัวร์รายนี้ต้องออกมาชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดังนี้
จุดเริ่มต้นของความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เมื่อปีที่แล้ว ครั้งที่วีซ่ามีปัญหา กับสถานทูตเดนมาร์ก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องวีซ่าตามมามากมาย และทำให้เกิดการ “REFUND” เยอะแยะตามมา
การ REFUND .....เองกลับไม่ได้หักรายจ่ายจริงนั้นเอาไว้ก่อนที่จะคืน ทำให้เป็นการกรีดเลือดตัวเองออกจากตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผ่านไปถึง เดือนธันวาคม 2561 คือสิ้นปีที่ผ่าน การดึงเงินออกจากระบบของเงินบริหารนั้น ไปเพื่อ REFUND นั้นเป็นความเสี่ยงมาก เพราะบริษัทต้องรักษาสภาพคล่องไว้
ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทเหนื่อยมากในการประคับประคองให้ลูกค้าได้เดินทางได้ แต่เราก็ประสบปัญหาต่อเนื่องในเรื่องของการ REFUND จนกระทั้งถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นวิกฤตของบริษัทเป็นอย่างมาก
ลูกค้าเริ่มเริ่มมีการแจ้งความ ร้องเรียน และฟ้องร้อง เพื่อจะบังคับให้เราจ่ายเงินทันที ทั้งที่ในเงื่อนไขแจ้งชัดเจนว่าควรต้องทำอย่างไร ทำให้บริษัทต้องจัดการนำเงินสำรองออกมาจากระบบเพื่อจ่ายแทนบุคคลเหล่านี้ไปก่อน ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าอาจจะทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องได้
ประการต่อมาเรามาถูกกล่าวหาเรื่อง การนำลูกค้ายื่นวีซ่า Schengen มากจนเกินไป และมีคนไปแจ้งสถานทูตว่า ควรมีการตรวจสอบบริษัทฯ นี้ อย่างเร่งด่วน เลยทำให้ ลูกค้า 600 กว่าคน ที่ได้ยื่นวีซ่านั้นกับสถานทูตฝรั่งเศส ได้ถูกตรวจสอบ บางคนที่ได้รับวีซ่าแล้ว ก็ยังต้องได้รับการตรวจสอบอีก จนทำให้บริษัทไม่กล้าที่จะปล่อยลูกค้าออกเดินทาง เพราะกลัวจะมีปัญหาตรงหน้าด่าน ตรวจคนเข้าเมือง
ที่เลวร้ายมากกว่านั้น สถานทูตตัดสินใจยกเลิก กลุ่มที่ยื่นวีซ่าทั้งหมด และขอไม่ให้วีซ่า สำหรับคนที่เดินทางช่วงนี้ แต่ว่า ทางบริษัทได้จ่ายเงินค่าวีซ่าไปหมดแล้วเป็นจำนวนเงินที่มากมาย แต่เราไม่สามารถได้รับคืนเลย พอมาถึงขึ้นตอนที่จะต้องหาคิวใหม่ และจัดยื่นใหม่ตามคำแนะนำของสถานทูต บริษัทกลับต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว แต่เราจะหาเงินก้อนนั้นจากไหนมาจ่ายให้ลูกค้า
พร้อมทั้งตอบคำถามเรื่องเงินค่าทัวร์ที่รับไปล่วงหน้าว่า บางคนบอกว่า.....รับเงินมาเยอะแยะ แต่เอาเงินไปไว้ไหนหมด คำตอบคือ เอาไปอุดรอยรั่วหลายจุดที่ลูกค้าพยายามอยากจะเอาคืน หรือเอาไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่อง REFUND และในเรื่อง VISA ที่ต้องมีการขอใหม่
ออกปากยืมเงินลูกค้า
เมื่อทัวร์รายนี้ตกอยู่ในสถานะที่ขาดสภาพคล่อง ทางผู้บริหารได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้กรุ๊ปทัวร์ของลูกค้าสามารถออกเดินทางได้
“มาจนถึงวันนี้ .....ลำบากมาก ถึงแม้จะไม่เลวร้ายที่สุด ณ ตอนนี้ แต่ก็ต้องเข้ามาแก้ไข ระบบเงินของบริษัทให้อยู่ในสภาวะที่ดีขึ้น ทุกบริษัทฯ มีโอกาสเจอปัญหาปรับโครงสร้างหนี้ที่เกิด เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และ.....เชื่อแน่ว่าลูกค้าจะเข้าใจ”
ทางเดียวตอนนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดนั่นคือ ต้องดึงเงินสำรองกลับเข้ามาในระบบให้เร็วที่สุด โดยสามารถกระทำผ่าน
1. สถาบันการเงิน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนอยู่ และกำลังจัดการอยู่
2. หลายคนบอกว่า.....เที่ยวยืมเงินคนอื่น ขอบคุณสำหรับข่าวนี้ที่ทำให้.....เกิดความคิดว่า ถ้าลูกค้าที่เข้าใจบริษัทและเที่ยวกับเรามานานนั้น จะทราบสิ่งที่ท่านได้รับนั้น ได้มากกว่าคำว่าคุ้ม กว่าเงินที่จ่ายมา วันนี้ถึงวันที่.....ลำบากมาก .....ขออนุญาตบอกแบบเปิดอกว่า .....อยากจะขอความช่วยเหลือจากลูกค้าที่เข้าใจ..... ไม่มีการบังคับใดๆ .....อยากจะขอท่านช่วยเหลือ ให้.....ยืมเงินจำนวนท่านละ 10,000 บาท เพื่อที่จะเอาเข้ามาช่วยรักษาสภาพคล่อง และทำให้เดินหน้าต่อไปได้
เงินที่พวกท่านกำลังจะช่วยเหลือ…..มานี้ …..ขออนุญาตตอบแทนท่านคืน โดยท่านสามารถ เก็บสลิปโอนเงินที่ช่วยเหลือ…..ในครั้งนี้ เอามาเป็นเงินส่วนลดค่าทัวร์ทุกรายการ ที่บริษัทเปิดขายรวมไปถึงปี 2020 ได้จำนวน 1.5 เท่า ของเงินที่ช่วยเหลือ…..มา
เร่งแก้ปัญหาอยากเดินทาง-จ่ายเพิ่ม
หนึ่งในลูกค้าของทัวร์รายนี้กล่าวว่า ตอนนี้ลูกค้าที่จองทัวร์ไว้ที่ใกล้กับช่วงเดินทางปั่นป่วนกันมาก ทริปเดือนมีนาคมและเมษายน 2562 หลายเส้นทางถูกเลื่อนออกไป ทางบริษัทได้พยายามแก้ปัญหาเป็นรายกลุ่ม แต่ด้วยเหตุที่กลุ่มเดินทางมีเป็นราว 300 กลุ่มและผู้มีอำนาจตัดสินใจมีเพียงผู้บริหารเพียงคนเดียว ทำให้กลุ่มที่ยังไม่ได้มีการเจรจากันเกิดความวุ่นวายและเริ่มไม่พอใจกับการบริหารงาน บางรายเลือกที่ร้องเรียนต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บางรายเลือกแจ้งความและบางรายยังรอการเจรจา
สำหรับการเจรจากับกลุ่มที่ใกล้ออกเดินทาง ที่ชัดเจนแล้วคือถ้าต้องการให้สามารถเดินทางต่อไปได้ ต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นจากเดิมแบ่งเป็นเส้นทางเอเชียเพิ่ม 2,000-4,000 บาท เส้นทางยุโรปเพิ่มที่ 7,000-8,000 บาท หากเป็นเส้นทางสหรัฐและแคนาดาเพิ่ม 10,000 บาท
ปัญหาก็ยังไม่จบเนื่องจากในทริปการเดินทางเดียวกัน ผู้ซื้อทัวร์จ่ายในราคาที่ต่างกัน บางคนซื้อได้ถูก บางคนซื้อแพง ทำให้ทางบริษัทต้องกำหนดราคากลางออกมา อย่างเช่น ทริปสวิสเซอร์แลนด์ ราคากลางออกมาที่ 49,900 บาท ไม่รวมทิปคนขับ ไกด์และช่างภาพ และค่าวีซ่าหากทำใหม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ใครที่จ่ายต่ำกว่าราคากลางก็ต้องเพิ่มเงินเข้ามา ใครที่ไม่พร้อมขอสละสิทธิ์ก็รอรับเงินคืน
นอกจากการเพิ่มเงินในทริปที่ยังไม่ออกเดินทางแล้ว ทริปที่เดินทางไปก่อนหน้านี้ทางบริษัทก็ขอความร่วมมือให้ชำระเพิ่มเช่นกัน แต่ไม่มีการบังคับ ส่วนการขอยืมเงิน 1 หมื่นบาทแล้วนำมาเป็นส่วนลดได้ 1.5 หมื่นบาทสำหรับทัวร์ปี 2020 นั้นเท่าที่ทราบมีไม่มากนัก เพราะหลายคนกังวลถึงสถานการณ์ในอนาคต
ทางบริษัทพยายามที่จะแก้ปัญหาอีกแนวทางหนึ่งคือการปรับกรุ๊ปเป็นแบบ Intensive เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อให้การจัดการต่าง ๆ ง่ายขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นบ้าง หรือการขอร้องว่าคนที่รอการคืนเงิน อาจช่วยเหลือกันได้ด้วยการเปลี่ยนจากการคืนเงินไปเป็นการจองทริปเดินทางในปี 2563 แทนและย้ำว่าไม่ต้องกลัวว่าบริษัทจะล้ม ตราบใดที่ผู้นำไม่ล้ม จะสู้ต่อไป
บางทริปยังเดินทางได้
เท่าที่เห็นตอนนี้ก็มีทริปที่ออกเดินทางได้ เช่น อังกฤษ กรีซ เกาหลี ไต้หวัน มัลดีฟส์และฮอกไกโด ส่วนกรุ๊ปที่ยังไม่ได้เดินทางก็ต้องดูเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นว่ารับได้หรือไม่ หากไม่มากเกินไปเชื่อว่าเกือบทั้งหมดน่าจะยอมเพื่อให้ได้เดินทาง แม้ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นมาอาจใกล้กับราคาทัวร์ปกติภายนอก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เดินทางและการขอเงินคืนนั้นต้องใช้เวลานานขั้นต่ำน่าจะ 180 วันทำการ(ไม่นับวันหยุด)
ถ้าทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเราก็คงใช้สิทธิ์เดินทางไปกับเขาก่อน แต่ถ้าจะให้จองซื้อทัวร์เพิ่มไม่ว่าจะเป็นของปี 2562 หรือ 2563 ส่วนตัวคงไม่กล้าอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นผู้ที่จองซื้อในปีนี้และต้องการจะเดินทางในปี 2563 ก็ต้องวัดดวงเอา
ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่การบริหารงานของบริษัททัวร์รายนี้เอง โดยเฉพาะโซนยุโรปที่คนไทยนิยมเดินทางไป ตัวโปรโมชั่นที่ออกมานอกจากราคาจะยั่วใจแล้วยังรวมวีซ่าไว้ด้วย เมื่อมีลูกค้ามากการทำวีซ่ายุโรปคราวละ 200-600 คน ทำให้สถานทูตสงสัยจึงปฏิเสธการออกวีซ่า ทำให้เกิดปัญหาตามมาทันที
อีกทั้งเรื่องการคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามที่ผู้บริหารโอดครวญนั้น เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะการเลื่อนทัวร์หลายครั้งเกิดขึ้นจากทางบริษัทเป็นฝ่ายเลื่อนเอง และเป็นการเลื่อนแบบใกล้วันเดินทาง จึงเป็นสิ่งที่บริษัททัวร์ต้องรับผิดชอบ บางครั้งการเลื่อนวันเดินทางออกไป ทำให้วีซ่าของลูกทัวร์บางคนหมดอายุลง เมื่อต้องขอวีซ่าใหม่ลูกทัวร์ต้องรับผิดชอบเอง คนที่ไม่พร้อมทั้งวันเดินทางที่เลื่อนออกไปและค่าใช้จ่ายวีซ่าที่เพิ่มขึ้นจึงเลือกที่จะขอคืนเงิน จึงกลายเป็นปัญหางูกินหางในตอนนี้
หลังจากที่ MGR Online เคยนำเสนอบริษัททัวร์รายหนึ่งที่ดำเนินการแบบกลุ่มปิดผ่านทางเฟสบุ๊กเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวในราคาที่ถูกอย่างเหลือเชื่อ ชนิดที่บริษัททัวร์เบอร์ต้น ๆ ของไทยก็ไม่สามารถทำราคาเท่านี้ได้ แต่ต้องแลกกับการที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าเต็มจำนวนที่ระบุไว้ก่อนเดินทางราว 1 ปี และมีค่าทริปคนขับรถ ไกด์ค่อนข้างสูงกว่าทัวร์เจ้าอื่น ๆ เนื่องจากมีช่างภาพตามไปให้บริการถ่ายรูปคณะที่เดินทางด้วย
อย่างโปรแกรม“เที่ยวฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์ 8 วัน ราคา 35,000 รวมวีซ่า” เปิดขาย 10 ที่นั่ง ใครทันก็โชคดีไป ใครไม่ทันก็ต้องรอรอบต่อไป ผู้ที่สมหวังก็จะเข้ามาโพสต์ถึงความประทับใจที่ได้เดินทางไปให้กับสมาชิกในกลุ่มเฟสบุ๊กได้ทราบ(แลกกับการชิงรางวัลเดินทางฟรีจากการที่เข้ามารีวิวความประทับใจ) ดึงให้มีคนเข้ามาเป็นเพื่อนของทัวร์รายนี้ได้มากกว่า 1 หมื่นคน มีการเดินทางประมาณกันว่า 200-300 ทริปต่อปี
การจองทริป จะมีแค่ปลายทางคร่าว ๆ และวันเดินทาง(ข้ามปี)ให้เท่านั้น โปรแกรมเดินทางละเอียดจะออกก่อนเดินทางราว 3 วันและกำหนดนัดหมายจะทราบก่อนการเดินทาง 1 วัน ส่วนกลุ่มที่ต้องทำวีซ่าจะมีการนัดทำล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
เดิมไม่ง้อลูกค้า
สมาชิกรายใหม่จะต้องได้รับการชักชวนจากสมาชิกเก่า โดยรายเดิมจะได้สิทธิซื้อทัวร์ในราคาโปรโมชั่น รายใหม่ต้องซื้อในราคาสูงกว่ารายลูกค้าเดิม เมื่อเดินทางครั้งแรกแล้วจึงจะได้สิทธิเป็นสมาชิกเก่า
หากลูกค้ารายใดเรื่องเยอะ ปัญหามาก admin จะทำการ unfriend กับลูกค้ารายนั้นทันที หรือทางเจ้าของทัวร์จะยกเลิกโปรแกรมและแจ้งคืนเงินให้กับลูกค้ารายนั้น แต่กว่าจะได้รับเงินคืนอาจต้องใช้เวลาราว 6 เดือนหรือ 9 เดือนหรืออาจนานกว่านั้น หากมีการนำเอาเรื่องของบริษัทไปโพสต์ในทางเสียหายบนสื่อออนไลน์จะมีทั้งมาตรการเจรจาจนถึงมาตรการทางกฎหมาย ดังนั้นเรื่องราวของทัวร์รายดังกล่าวจึงรับทราบกันในวงจำกัด
“คนที่เคยใช้บริการทัวร์เจ้านี้ที่ไม่ชอบก็มีไม่น้อย ส่วนใหญ่เลือกที่จะเลิกใช้บริการแล้วหันไปใช้ทัวร์ปกติ ปัญหาที่พบส่วนใหญ่คือการเลื่อนวันเดินทางในระยะกระชั้นชิด หรืออาจต้องเปลี่ยนการเดินทางไปเส้นทางอื่นแทน ทำให้คนในวัยทำงานไม่สะดวกที่จะเลื่อนวันเดินทางบ่อย ๆ”
ถึงอย่างไรลูกค้าใหม่ก็ยังเพิ่มอย่างต่อเนื่องด้วยราคาที่ล่อใจ ผู้ที่เป็นลูกค้ากับทัวร์รายนี้ไม่ใช่คนมีรายได้น้อยที่ต้องการท่องเที่ยวด้วยทัวร์ราคาถูก แต่เป็นคนมีฐานะ มีรายได้ดี เมื่อได้เดินทางไปในราคาที่ถูกและได้รับบริการที่ดีเมื่อกลับมาแล้ว มักจะจองทริปอื่น ๆ เพิ่มอีก เท่าที่ทราบมีบางรายจองต่อเนื่องถึง 7 ทริปหรือมากกว่านั้น
ถูกยกเลิก Schengen+ขอคืนเงิน
แต่สถานการณ์ในวันนี้จากลูกค้าที่เคยเข้ามาชื่นชมผู้บริหารอยู่ตลอดเวลานั้น ได้กลายเป็นการเข้ามาตำหนิการบริหารงาน หลังจากทริปเดินทางที่ลูกค้าจองไว้(ชำระเงินเต็ม)เกิดปัญหาต้องเลื่อนวันเดินทางกันหลายกลุ่ม จนผู้บริหารทัวร์รายนี้ต้องออกมาชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดังนี้
จุดเริ่มต้นของความผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เมื่อปีที่แล้ว ครั้งที่วีซ่ามีปัญหา กับสถานทูตเดนมาร์ก ทำให้เกิดปัญหาเรื่องวีซ่าตามมามากมาย และทำให้เกิดการ “REFUND” เยอะแยะตามมา
การ REFUND .....เองกลับไม่ได้หักรายจ่ายจริงนั้นเอาไว้ก่อนที่จะคืน ทำให้เป็นการกรีดเลือดตัวเองออกจากตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผ่านไปถึง เดือนธันวาคม 2561 คือสิ้นปีที่ผ่าน การดึงเงินออกจากระบบของเงินบริหารนั้น ไปเพื่อ REFUND นั้นเป็นความเสี่ยงมาก เพราะบริษัทต้องรักษาสภาพคล่องไว้
ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา บริษัทเหนื่อยมากในการประคับประคองให้ลูกค้าได้เดินทางได้ แต่เราก็ประสบปัญหาต่อเนื่องในเรื่องของการ REFUND จนกระทั้งถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นวิกฤตของบริษัทเป็นอย่างมาก
ลูกค้าเริ่มเริ่มมีการแจ้งความ ร้องเรียน และฟ้องร้อง เพื่อจะบังคับให้เราจ่ายเงินทันที ทั้งที่ในเงื่อนไขแจ้งชัดเจนว่าควรต้องทำอย่างไร ทำให้บริษัทต้องจัดการนำเงินสำรองออกมาจากระบบเพื่อจ่ายแทนบุคคลเหล่านี้ไปก่อน ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าอาจจะทำให้เกิดภาวะขาดสภาพคล่องได้
ประการต่อมาเรามาถูกกล่าวหาเรื่อง การนำลูกค้ายื่นวีซ่า Schengen มากจนเกินไป และมีคนไปแจ้งสถานทูตว่า ควรมีการตรวจสอบบริษัทฯ นี้ อย่างเร่งด่วน เลยทำให้ ลูกค้า 600 กว่าคน ที่ได้ยื่นวีซ่านั้นกับสถานทูตฝรั่งเศส ได้ถูกตรวจสอบ บางคนที่ได้รับวีซ่าแล้ว ก็ยังต้องได้รับการตรวจสอบอีก จนทำให้บริษัทไม่กล้าที่จะปล่อยลูกค้าออกเดินทาง เพราะกลัวจะมีปัญหาตรงหน้าด่าน ตรวจคนเข้าเมือง
ที่เลวร้ายมากกว่านั้น สถานทูตตัดสินใจยกเลิก กลุ่มที่ยื่นวีซ่าทั้งหมด และขอไม่ให้วีซ่า สำหรับคนที่เดินทางช่วงนี้ แต่ว่า ทางบริษัทได้จ่ายเงินค่าวีซ่าไปหมดแล้วเป็นจำนวนเงินที่มากมาย แต่เราไม่สามารถได้รับคืนเลย พอมาถึงขึ้นตอนที่จะต้องหาคิวใหม่ และจัดยื่นใหม่ตามคำแนะนำของสถานทูต บริษัทกลับต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีกเท่าตัว แต่เราจะหาเงินก้อนนั้นจากไหนมาจ่ายให้ลูกค้า
พร้อมทั้งตอบคำถามเรื่องเงินค่าทัวร์ที่รับไปล่วงหน้าว่า บางคนบอกว่า.....รับเงินมาเยอะแยะ แต่เอาเงินไปไว้ไหนหมด คำตอบคือ เอาไปอุดรอยรั่วหลายจุดที่ลูกค้าพยายามอยากจะเอาคืน หรือเอาไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่อง REFUND และในเรื่อง VISA ที่ต้องมีการขอใหม่
ออกปากยืมเงินลูกค้า
เมื่อทัวร์รายนี้ตกอยู่ในสถานะที่ขาดสภาพคล่อง ทางผู้บริหารได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อให้กรุ๊ปทัวร์ของลูกค้าสามารถออกเดินทางได้
“มาจนถึงวันนี้ .....ลำบากมาก ถึงแม้จะไม่เลวร้ายที่สุด ณ ตอนนี้ แต่ก็ต้องเข้ามาแก้ไข ระบบเงินของบริษัทให้อยู่ในสภาวะที่ดีขึ้น ทุกบริษัทฯ มีโอกาสเจอปัญหาปรับโครงสร้างหนี้ที่เกิด เพื่อให้บริษัทฯ สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และ.....เชื่อแน่ว่าลูกค้าจะเข้าใจ”
ทางเดียวตอนนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุดนั่นคือ ต้องดึงเงินสำรองกลับเข้ามาในระบบให้เร็วที่สุด โดยสามารถกระทำผ่าน
1. สถาบันการเงิน ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือนอยู่ และกำลังจัดการอยู่
2. หลายคนบอกว่า.....เที่ยวยืมเงินคนอื่น ขอบคุณสำหรับข่าวนี้ที่ทำให้.....เกิดความคิดว่า ถ้าลูกค้าที่เข้าใจบริษัทและเที่ยวกับเรามานานนั้น จะทราบสิ่งที่ท่านได้รับนั้น ได้มากกว่าคำว่าคุ้ม กว่าเงินที่จ่ายมา วันนี้ถึงวันที่.....ลำบากมาก .....ขออนุญาตบอกแบบเปิดอกว่า .....อยากจะขอความช่วยเหลือจากลูกค้าที่เข้าใจ..... ไม่มีการบังคับใดๆ .....อยากจะขอท่านช่วยเหลือ ให้.....ยืมเงินจำนวนท่านละ 10,000 บาท เพื่อที่จะเอาเข้ามาช่วยรักษาสภาพคล่อง และทำให้เดินหน้าต่อไปได้
เงินที่พวกท่านกำลังจะช่วยเหลือ…..มานี้ …..ขออนุญาตตอบแทนท่านคืน โดยท่านสามารถ เก็บสลิปโอนเงินที่ช่วยเหลือ…..ในครั้งนี้ เอามาเป็นเงินส่วนลดค่าทัวร์ทุกรายการ ที่บริษัทเปิดขายรวมไปถึงปี 2020 ได้จำนวน 1.5 เท่า ของเงินที่ช่วยเหลือ…..มา
เร่งแก้ปัญหาอยากเดินทาง-จ่ายเพิ่ม
หนึ่งในลูกค้าของทัวร์รายนี้กล่าวว่า ตอนนี้ลูกค้าที่จองทัวร์ไว้ที่ใกล้กับช่วงเดินทางปั่นป่วนกันมาก ทริปเดือนมีนาคมและเมษายน 2562 หลายเส้นทางถูกเลื่อนออกไป ทางบริษัทได้พยายามแก้ปัญหาเป็นรายกลุ่ม แต่ด้วยเหตุที่กลุ่มเดินทางมีเป็นราว 300 กลุ่มและผู้มีอำนาจตัดสินใจมีเพียงผู้บริหารเพียงคนเดียว ทำให้กลุ่มที่ยังไม่ได้มีการเจรจากันเกิดความวุ่นวายและเริ่มไม่พอใจกับการบริหารงาน บางรายเลือกที่ร้องเรียนต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บางรายเลือกแจ้งความและบางรายยังรอการเจรจา
สำหรับการเจรจากับกลุ่มที่ใกล้ออกเดินทาง ที่ชัดเจนแล้วคือถ้าต้องการให้สามารถเดินทางต่อไปได้ ต้องมีการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นจากเดิมแบ่งเป็นเส้นทางเอเชียเพิ่ม 2,000-4,000 บาท เส้นทางยุโรปเพิ่มที่ 7,000-8,000 บาท หากเป็นเส้นทางสหรัฐและแคนาดาเพิ่ม 10,000 บาท
ปัญหาก็ยังไม่จบเนื่องจากในทริปการเดินทางเดียวกัน ผู้ซื้อทัวร์จ่ายในราคาที่ต่างกัน บางคนซื้อได้ถูก บางคนซื้อแพง ทำให้ทางบริษัทต้องกำหนดราคากลางออกมา อย่างเช่น ทริปสวิสเซอร์แลนด์ ราคากลางออกมาที่ 49,900 บาท ไม่รวมทิปคนขับ ไกด์และช่างภาพ และค่าวีซ่าหากทำใหม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ใครที่จ่ายต่ำกว่าราคากลางก็ต้องเพิ่มเงินเข้ามา ใครที่ไม่พร้อมขอสละสิทธิ์ก็รอรับเงินคืน
นอกจากการเพิ่มเงินในทริปที่ยังไม่ออกเดินทางแล้ว ทริปที่เดินทางไปก่อนหน้านี้ทางบริษัทก็ขอความร่วมมือให้ชำระเพิ่มเช่นกัน แต่ไม่มีการบังคับ ส่วนการขอยืมเงิน 1 หมื่นบาทแล้วนำมาเป็นส่วนลดได้ 1.5 หมื่นบาทสำหรับทัวร์ปี 2020 นั้นเท่าที่ทราบมีไม่มากนัก เพราะหลายคนกังวลถึงสถานการณ์ในอนาคต
ทางบริษัทพยายามที่จะแก้ปัญหาอีกแนวทางหนึ่งคือการปรับกรุ๊ปเป็นแบบ Intensive เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อให้การจัดการต่าง ๆ ง่ายขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นบ้าง หรือการขอร้องว่าคนที่รอการคืนเงิน อาจช่วยเหลือกันได้ด้วยการเปลี่ยนจากการคืนเงินไปเป็นการจองทริปเดินทางในปี 2563 แทนและย้ำว่าไม่ต้องกลัวว่าบริษัทจะล้ม ตราบใดที่ผู้นำไม่ล้ม จะสู้ต่อไป
บางทริปยังเดินทางได้
เท่าที่เห็นตอนนี้ก็มีทริปที่ออกเดินทางได้ เช่น อังกฤษ กรีซ เกาหลี ไต้หวัน มัลดีฟส์และฮอกไกโด ส่วนกรุ๊ปที่ยังไม่ได้เดินทางก็ต้องดูเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้นว่ารับได้หรือไม่ หากไม่มากเกินไปเชื่อว่าเกือบทั้งหมดน่าจะยอมเพื่อให้ได้เดินทาง แม้ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นมาอาจใกล้กับราคาทัวร์ปกติภายนอก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้เดินทางและการขอเงินคืนนั้นต้องใช้เวลานานขั้นต่ำน่าจะ 180 วันทำการ(ไม่นับวันหยุด)
ถ้าทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเราก็คงใช้สิทธิ์เดินทางไปกับเขาก่อน แต่ถ้าจะให้จองซื้อทัวร์เพิ่มไม่ว่าจะเป็นของปี 2562 หรือ 2563 ส่วนตัวคงไม่กล้าอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นผู้ที่จองซื้อในปีนี้และต้องการจะเดินทางในปี 2563 ก็ต้องวัดดวงเอา
ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่การบริหารงานของบริษัททัวร์รายนี้เอง โดยเฉพาะโซนยุโรปที่คนไทยนิยมเดินทางไป ตัวโปรโมชั่นที่ออกมานอกจากราคาจะยั่วใจแล้วยังรวมวีซ่าไว้ด้วย เมื่อมีลูกค้ามากการทำวีซ่ายุโรปคราวละ 200-600 คน ทำให้สถานทูตสงสัยจึงปฏิเสธการออกวีซ่า ทำให้เกิดปัญหาตามมาทันที
อีกทั้งเรื่องการคืนเงินเต็มจำนวน โดยไม่หักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามที่ผู้บริหารโอดครวญนั้น เป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะการเลื่อนทัวร์หลายครั้งเกิดขึ้นจากทางบริษัทเป็นฝ่ายเลื่อนเอง และเป็นการเลื่อนแบบใกล้วันเดินทาง จึงเป็นสิ่งที่บริษัททัวร์ต้องรับผิดชอบ บางครั้งการเลื่อนวันเดินทางออกไป ทำให้วีซ่าของลูกทัวร์บางคนหมดอายุลง เมื่อต้องขอวีซ่าใหม่ลูกทัวร์ต้องรับผิดชอบเอง คนที่ไม่พร้อมทั้งวันเดินทางที่เลื่อนออกไปและค่าใช้จ่ายวีซ่าที่เพิ่มขึ้นจึงเลือกที่จะขอคืนเงิน จึงกลายเป็นปัญหางูกินหางในตอนนี้