เปิดกลยุทธ์ “พรรคใหญ่” แก้เกมโกงเลือกตั้ง

ทุกพรรคท้าชนกลโกงเลือกตั้ง “ประชาธิปัตย์” ตั้งคอลเซ็นเตอร์ทุกเขต ประสานงานกับผู้สังเกตการณ์ที่ส่งประกบหน่วยเลือกตั้งละ 2 คน ฝ่าย “เพื่อไทย” เร่งยื่นหนังสือถึง กกต. ตรวจสอบหน่วยที่มีปัญหาในการเลือกตั้งล่วงหน้า ขณะที่ “อนาคตใหม่” ขอประชาชนร่วมจับตา เหตุกฎหมายใหม่ห้ามตัวแทนพรรคทักท้วงการนับคะแนน “บุญยอด” เผย ปชป.เจอทหารกดดัน ตั้งจุดตรวจหน้าบ้านผู้สมัคร ส่วน “สมคิด เชื้อคง” ระบุนายสั่งพลทหารเลือก “พลังประชารัฐ” ด้าน “อ.คมสัน” หวั่น ทุจริต ทำประชาชนฮือต้านผลเลือกตั้ง

เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยทีเดียวสำหรับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ การแจกบัตรผิดเขต ไม่มีข้อมูลของผู้สมัครบางพรรค รวมถึงกังวลในการจัดส่งและเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งก่อนถึงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 เนื่องจากมีการเปิดหีบเลือกตั้งนำบัตรออกมามัดรวมก่อนจัดส่งไปรษณีย์ไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะมีการสูญหายหรือสับเปลี่ยนบัตร และประเด็นที่วิตกกันมากที่สุดคือปัญหาดังกล่าวล้วนเป็นช่องทางที่สามารถนำไปสู่การทุจริตการเลือกตั้ง!

ทุกพรรคท้าชนกลโกงเลือกตั้ง “ประชาธิปัตย์” ตั้งคอลเซ็นเตอร์ทุกเขต ประสานงานกับผู้สังเกตการณ์ที่ส่งประกบหน่วยเลือกตั้งละ 2 คน ฝ่าย “เพื่อไทย” เร่งยื่นหนังสือถึง กกต.ตรวจสอบหน่วยที่มีปัญหาในการเลือกตั้งล่วงหน้า ขณะที่ “อนาคตใหม่” ขอประชาชนร่วมจับตา เหตุกฎหมายใหม่ห้ามตัวแทนพรรคทักท้วงการนับคะแนน “บุญยอด” เผย ปชป.เจอทหารกดดัน ตั้งจุดตรวจหน้าบ้านผู้สมัคร ส่วน “สมคิด เชื้อคง” ระบุนายสั่งพลทหารเลือก “พลังประชารัฐ” ด้าน “อ.คมสัน” หวั่น ทุจริต ทำประชาชนฮือต้านผลเลือกตั้ง

เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยทีเดียวสำหรับการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาซึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ การแจกบัตรผิดเขต ไม่มีข้อมูลของผู้สมัครบางพรรค รวมถึงกังวลในการจัดส่งและเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งก่อนถึงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 เนื่องจากมีการเปิดหีบเลือกตั้งนำบัตรออกมามัดรวมก่อนจัดส่งไปรษณีย์ไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าอาจจะมีการสูญหายหรือสับเปลี่ยนบัตร และประเด็นที่วิตกกันมากที่สุดคือปัญหาดังกล่าวล้วนเป็นช่องทางที่สามารถนำไปสู่การทุจริตการเลือกตั้ง!

ด้านพรรคการเมืองใหญ่ที่มีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทยก็เตรียมพร้อมในเรื่องนี้เช่นกัน นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สังเกตการณ์ของพรรคไปประจำหน่วยเลือกตั้งละ 1 คน ส่วนปัญหาในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมานั้นเลขาธิการพรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะยื่นหนังสือเพื่อให้ กกต.ดำเนินการตรวจสอบเขตเลือกตั้งที่มีปัญหา นอกจากนั้น พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ฝ่ายตรวจสอบการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย จะดำเนินการตรวจสอบกรณีที่กองทัพจัดรถขนส่งทหารไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

ขณะที่พรรคอนาคตใหม่มองว่าการตรวจสอบการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคอนาคตใหม่ ชี้ว่า เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้งฉบับปัจจุบันไม่อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์ที่เห็นการทุจริตหรือความผิดปกติในหน่วยเลือกตั้งทักท้วง โดยกฎหมายระบุว่าหากตัวแทนพรรคมีการโต้แย้งทักท้วง เจ้าหน้าที่ กกต. หรือเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งสามารถเชิญให้ออกจากหน่วยเลือกตั้งได้ ดังนั้น ทางพรรคจึงไม่เห็นประโยชน์ในการส่งผู้สังเกตการณ์ของพรรคลงไปประจำหน่วยเลือกตั้ง แต่ขอเชิญชวนประชาชนให้ช่วยกันจับตาทุกหน่วยเลือกตั้ง เพราะประชาชนที่อยู่นอกหน่วยถ้าพบความผิดปกติ สามารถถ่ายคลิปและทำการทักท้วงได้

ทั้งนี้ ประเด็นหนึ่งที่หลายพรรคให้ข้อมูลตรงกันคือท่าทีของกองทัพที่เข้ามีบทบาทในการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม นายบุญยอด ผู้สมัครรับเลือกตั้งระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้รับแจ้งจากผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรค จ.พิษณุโลก ว่ามีทหารมาตั้งจุดตรวจหน้าบ้านผู้สมัครของพรรคแต่ละคนซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดปกติ เชื่อว่าน่าจะเป็นความพยายามในการใช้อำนาจกดดันผู้สมัครของพรรคให้เกรงกลัว ไม่กล้าลงพื้นที่หาเสียง

ด้านนายสมคิด อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ระบุว่า จากการพูดคุยกับพลทหารในพื้นที่เลือกตั้งที่เป็นเขตทหาร ทราบว่าในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมามีคำสั่งจากนายทหารระดับสูงให้บรรดาพลทหารลงคะแนนให้ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ

“พลทหารบอกผมว่า นายสั่งให้เลือกพลังประชารัฐ ไม่งั้นจะไม่ได้กลับบ้าน ซึ่งเรื่องนี้ กกต.ต้องเข้าไปตรวจสอบ” นายสมคิดกล่าว

อย่างไรก็ดี ประเด็นที่หลายฝ่ายหวั่นวิตกอย่างมากก็คือหากการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.ที่จะถึงนี้ มีปัญหาการทุจริตไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม อันนำไปสู่การร้องเรียนเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ในหลายเขต และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งหากมีการทุจริตกันอย่างโจ่งแจ้งอาจทำให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

นายบุญยอดกล่าวว่า เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้คะแนนของระบบบัญชีรายชื่อถูกนำไปผูกกับคะแนน ส.ส.ระบบเขต ดังนั้นหากมีการร้องเรียนเรื่องการทุจริตจนต้องมีการเลือกตั้งใหม่ในหลายเขต จะส่งผลให้ไม่สามารถคำนวณคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคได้ ซึ่งหาก ส.ส.ที่มีปัญหามีมากกว่า 5% ก็จะทำให้จำนวน ส.ส.ที่ได้รับการรับรองมีไม่ถึง 95% ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

ด้านอาจารย์คมสัน โพธิ์คง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความวิตกว่า เนื่องจากกฎกติกาในการเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้เกิดความสับสนในการลงคะแนน ขณะเดียวกันมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าระเบียบและขั้นตอนหลายอย่างเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้งเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่พรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งหากมีการทุจริตกันอย่างโจ่งแจ้ง ประชาชนก็อาจจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง และเกิดการเคลื่อนไหวคัดค้าน กระทั่งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ อาทิ ในการเลือกตั้งล่วงหน้า มีการเปิดหีบเลือกตั้งเพื่อนำบัตรออกไปจัดส่งยังจังหวัดต่างๆ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าระหว่างจัดส่งจะไม่มีการเปลี่ยนบัตร และในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. 2562 ก็มีแนวโน้มว่าอาจมีการเปิดกล่องที่หน่วยเลือกตั้งเพื่อนำบัตรไปนับคะแนนรวมที่เขตเลือกตั้ง ซึ่งระหว่างที่เปิดหีบและขนย้ายก็จะมีการใส่บัตรเพิ่มเข้ามาเพื่อเติมคะแนนให้บางพรรค ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนจับตาอยู่

“การเลือกตั้งครั้งนี้มีการออกแบบมาเพื่อเอื้อให้เกิดการโกงการเลือกตั้ง เราเห็นตัวอย่างการเลือกตั้งเมื่อปี 2500 ที่โกงกันอย่างโจ๋งครึ่ม จนประชาชนออกมาเดินขบวนประท้วง ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้น” อาจารย์คมสันระบุ