xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องหลังยื่นยุบพรรค”ไพบูลย์” ที่แท้กลุ่มพุทธขั้วอำนาจเก่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

แฉกลุ่มร้องยุบพรรคประชาชนปฏิรูปของไพบูลย์ นิติตะวัน ที่แท้เป็นสายที่หนุนสมเด็จช่วงและวัดพระธรรมกาย กลุ่มแรกสังกัดสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค เคยถูกเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรเรียกว่า “เปรียญ 9 ตบทรัพย์” กลุ่มหลังเป็นทนายหญิงรับว่าความให้เสื้อแดงและแกนนำโอดีแคปิตอล แชร์ลูกโซ่ศิษย์ธรรมกาย แถมร่วมขบวนเดินสายปลุกพระกับอัยย์ เพชรทอง สบช่องเอาคืนหวังให้ กกต.ยุบพรรค

สมรภูมิการเลือกตั้งที่ร้อนระอุในเวลานี้ พรรคการเมืองและผู้สนับสนุนต่างงัดทุกกลยุทธ์ออกมาชิงความได้เปรียบ หลังจากที่พรรคไทยรักษาชาติได้เปิดตัวว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่แย้มมาก่อนหน้าว่าจะเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์

ในวันดังกล่าวนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เข้ายื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ กกต.พิจารณาและวินิจฉัยการกระทำของพรรคไทยรักษาชาติว่าเข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งข้อ 17 "ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง"

จนมีพระราชโองการ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยุติปัญหาดังกล่าว

11 กุมภาพันธ์ 2562 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ไต่สวนและยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) นั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

“แม้ กกต. จะรับรู้รับทราบอยู่แล้ว แต่ตนต้องการให้เรื่องนี้มีต้นเรื่องที่มีหลักฐานชัดเจน จึงต้องเดินทางมายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อวินิจฉัยและยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติโดยเร็ว”

จากนั้น กกต.มีมติยุบพรรคไทยรักษาชาติเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2562 และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2562
นายเอกภพ เหล่าลาภะ ศูนย์ประสานงานองค์กรชาวพุทธแห่งชาติ ยื่นเรื่องต่อกกต.ให้ยุบพรรคประชาชนปฏิรูป
พุทธเสียประโยชน์ถล่มไพบูลย์

แรงกระเพื่อมจากกรณีพรรคไทยรักษาชาติ ส่งผลให้กลุ่มก้อนที่ให้การสนับสนุนออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ผู้ที่ยื่นเรื่องต่อ กกต.จนนำไปสู่มติยุบพรรค ทษช. เป้าหมายแรกคือการพุ่งไปที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป โดยกลุ่มองค์กรพุทธศาสนาได้ออกมายื่นเรื่องต่อ กกต.เพื่อให้ตรวจสอบพรรคของนายไพบูลย์เช่นกัน

12 กุมภาพันธ์ 2562 นายเอกภพ เหล่าลาภะ เลขาธิการฯ ศูนย์ประสานงานองค์กรชาวพุทธแห่งชาติ ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำความผิด และตัดสิทธิ์เลือกตั้งนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป รวมถึงยุบพรรคประชาชนปฏิรูป กรณีใช้คำว่า "น้อมนำคำสอนพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ เพื่อแก้ปัญหาทุกข์ร้อนให้ประชาชน คืองานของพรรคประชาชนปฏิรูป" ในป้ายโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศ ซึ่งทำให้องค์กรชาวพุทธทั่วประเทศเกิดความไม่สบายใจ

“เพื่อเป็นการระงับยับยั้งต้องการไม่ให้เกิดความเสียหายอันใหญ่หลวงต่อพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์โดยรวม จึงขอให้นายทะเบียนพรรคการเมืองตรวจสอบพรรคประชาชนปฏิรูปว่ากระทำผิดหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดจริงจะต้องตัดสิทธิ์ทางการเมืองกับนายไพบูลย์และร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคการเมืองนี้”

ตามมาด้วยในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 นางสาวเบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความองค์กรปกป้องพุทธศาสนา เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูป (ปชช.) ที่มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นหัวหน้าพรรค ได้จัดทำป้ายหาเสียงเลือกตั้ง โดยมีคำว่า พระพุทธเจ้า เป็นตัวอักษรใหญ่ สะดุดตาของผู้พบเห็น ประกอบกับรูปของนายไพบูลย์ ในป้ายหาเสียง

“การกระทำดังกล่าว ขัดต่อรัฐธรรมนูญพุทธศาสนา 2560 มาตรา 14 คือเป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยอาจก่อให้เกิดความแตกแยกของคนในชาติ เพราะคำว่าพระพุทธเจ้า เป็นพระศาสดาของพระพุทธ?ศาสนา จึงไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งตามจารีตประเพณีของไทยนั้น ไม่เคยปรากฏว่ามีผู้ใดที่กระทำเช่นนี้ จึงอยากให้ กกต.พิจารณาและวินิจฉัยเป็นการด่วน พร้อมยับยั้งและออกคำสั่งให้ยกเลิกการใช้คำว่า พระพุทธเจ้าบนประกาศป้ายหาเสียงดังกล่าว”
ดร.บรรจบ บรรณรุจิ กล่าวถึงสมาคมเปรียญ 9 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2559
แฉ“เปรียญ 9 ตบทรัพย์”

กลุ่มดังกล่าวถือเป็นกลุ่มที่ไม่ชอบการทำงานของนายไพบูลย์ในช่วงที่ผ่านมานัก เพราะข้อเสนอหลายเรื่องกระทบกับขั้วอำนาจเดิมในวงการพระพุทธศาสนา สำหรับกลุ่มที่ยื่นให้มีการตรวจสอบพรรคประชาชนปฏิรูปทั้ง 2 กลุ่ม มีสายที่ให้การสนับสนุนตามแนวทางของตนเอง

กลุ่มแรกที่มีนายเอกภพ เหล่าลาภะ ในนามศูนย์ประสานงานองค์กรชาวพุทธแห่งชาตินั้น สังกัดสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค เป็นที่ทราบกันดีว่ามักให้การสนับสนุนพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม โดยเฉพาะวัดปากน้ำ หนุนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 สนับสนุนสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์หรือสมเด็จช่วง ขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช

กลุ่มนี้เคยทำงานร่วมกับดร.บรรจบ บรรณรุจิ แห่งสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย(ปัจจุบันเป็นพรรคแผ่นดินธรรม) ภายหลังได้แยกตัวออกมาเป็นสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค ทั้งนี้ดร.บรรจบได้กล่าวถึงกลุ่มสมาคมเปรียญ 9 ที่มี ดร.รักสยาม นามานุภาพ เป็นนายกสมาคม และ ดร.เอกภพ เหล่าลาภะ เป็นเลขาธิการ ว่าได้ทำงานแยกกับเราแล้วอย่างเด็ดขาด

ผมขอทำความเข้าใจเพิ่มเติม คือ สมาคมเปรียญ 9 ของ ดร.รักสยาม ไม่ใช่กลุ่มเดียวกับ กลุ่ม ป.ธ. 9 สมาคมเปรียญ 9 แม้ตอนแรกจะดูเหมือนมีสมาชิกมากคึกคักทำงานโดดเด่นจนเป็นความหวังของสถาบันสงฆ์ แต่ขณะนี้เหลือคนทำงานหลักๆอยู่ 2 คน คือ ดร.รักสยาม กับ อ.เอกภพ ส่วนคนอื่น ๆ พากันถอยและถอนตัวก็เพราะไม่สบายใจตรงที่เกิดมีพฤติกรรมที่พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรเรียกว่า “เปรียญ 9 ตบทรัพย์”

กล่าวคือ เมื่อตอนที่วัดกัลยาณมิตรมีคดีพิพาทกับกรมศิลปากรเรื่องการรื้อถอนอาคารในวัดที่กรมศิลป์ลงทะเบียนไว้เป็นโบราณสถาน ดร.รักสยาม ในนามนายกสมาคมเปรียญ ๙ ได้เสนอตัวเข้าช่วยเหลือ และขอค่าใช้จ่ายในการนี้ตามที่เจ้าอาวาสเล่าคือ 5 ล้านบาท แต่เจ้าอาวาสจ่ายให้ก่อนเป็นงวด ๆ รวมแล้ว 2.7 ล้านบาท เนื่องจากศาลตัดสินก่อน ผมได้เคยสอบถามเรื่องนี้กับ ดร.รักสยาม ท่านตอบทำให้เข้าใจได้ว่า มีการจ่ายตามนั้นจริง แต่ตัว ดร.รักสยามได้รับดูจะ 2 ล้านบาท ส่วนที่เหลือหลายฝ่ายได้รับไป

ที่ผมต้องเดือดร้อนก็คือ ในการที่ ดร.รักสยามเสนอตัวเข้าช่วยเหลือนั้นได้อ้างชื่อผมกับผู้ใหญ่ในสังคมอีกท่านหนึ่งว่าสนับสนุนกลุ่มของเขา ทำให้เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรเชื่อถือและให้โอกาส จึงยอมให้เบิกเงินไปได้ แต่แล้ว ดร.รักสยาม ช่วยท่านไม่ได้ ท่านจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกและต้องการได้เงินวัดที่จ่ายให้ดร.รักสยามกับกลุ่มคืน แต่ก็ไม่ได้คืน

นี่คือที่มาที่ไปของกลุ่มศูนย์ประสานงานองค์กรชาวพุทธแห่งชาติ ที่แม้แต่คนในวงการเดียวกันและสายเดียวกัน ออกมาแฉถึงพฤติกรรมที่ผ่านมา และในบางครั้งผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมการก็นำเอาแถลงการณ์ของสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยคออกมาเผยแพร่ด้วยเช่นกัน
น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความองค์กรปกป้องพุทธศาสนา ยื่นเรื่องต่อ กกต.ขอให้ยกเลิกการใช้คำว่า พระพุทธเจ้าบนประกาศป้ายหาเสียงของพรรคประชาชนปฏิรูป
ร่วมขบวนอัยย์ศิษย์ธรรมกาย

ส่วนกลุ่ม น.ส.เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความองค์กรปกป้องพุทธศาสนา เคยเป็นทนายความให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง และยังรับว่าความให้กับแกนนำบางรายของกลุ่มโอดีแคปิตอล แชร์ลูกโซ่ของกลุ่มศิษย์วัดพระธรรมกายที่ถูกจับกุมไปเมื่อปี 2561

โดยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์จับกุมพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคม คดีใช้เงินงบประมาณผิดวัตถุประสงค์ ทนายความท่านนี้ได้มาร่วมงานเสวนาทางวิชาการ จัดโดยสมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ(สพวช.) ที่มีนายวุฒิสาร พนารี เป็นนายกสมาคม และยังมีนายอัยย์ เพชรทอง ร่วมงานด้วย ซึ่งทั้ง 2 เป็นศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ที่พยายามเรียกร้องให้พระลุกขึ้นมาสู้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ฝ่ายแค้นเอาคืน

เรียกว่างานนี้พรรคประชาชนปฏิรูปโดนเอาคืนจากสายของพระผู้ใหญ่และสายของธรรมกายก็ไม่ผิดนัก โดยใช้เรื่องป้ายหาเสียงของพรรคที่มีข้อความน้อมนำคำสอน พระพุทธเจ้ามาปฏิบัติ เป็นเหตุในการยื่นเรื่องต่อ กกต. เพราะที่ผ่านมานายไพบูลย์ได้ประกาศมาตลอดว่าสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และการขับเคลื่อนในหลายเรื่องในวงการสงฆ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไม่น้อยโดยเฉพาะการแก้ไขพระราชบัญญัติสงฆ์ฉบับใหม่

ส่งผลให้สมเด็จช่วงไม่ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช โครงสร้างในมหาเถรสมาคมอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นั่นย่อมกระทบไปถึงวัดพระธรรมกายด้วยเช่นกัน เพราะโครงสร้างของมหาเถรสมาคมเดิมมีส่วนช่วยปกป้องวัดแห่งนี้และคดีสำคัญของพระธัมมชโยรอดพ้นมาได้ ภายใต้ความสัมพันธ์แบบวัดพี่วัดน้องกันมาอย่างยาวนาน และนายไพบูลย์ก็ถูกลูกศิษย์เหล่านี้เล่นงานมาตลอดตั้งแต่ยังไม่ตั้งพรรคการเมือง

เช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ ที่ชูพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ถูกทั้งนายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ทีมกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยื่นเรื่องต่อ กกต.ขอให้พิจารณายุบพรรคพลังประชารัฐเช่นกัน



กำลังโหลดความคิดเห็น