วัดพระธรรมกายระดมใบอนุโมทนาบัตร 3 ล้านใบ แสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ สู้คดีหลังถูกอายัดทรัพย์หลายรายการ หวั่นถูกบังคับขายทอดตลาด แต่ศิษย์บางกลุ่มตั้งป้อมต้านเกรงว่าจะนำไปทำลายเพื่อให้ฝายบริหารของวัดพ้นผิด มองไกลไปถึงการใช้ฐานศิษย์นับล้านเป็นเครื่องต่อรอง หวังระหว่างต่อสู้คดีหากได้เพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ เป็นรัฐบาล รูปคดีอาจเปลี่ยนเหมือนยุคทักษิณเมื่อปี 2549
หลังจากจบโครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 7 "รักษ์บวร รักษ์ศีล 5" เมื่อ 31 มกราคม 2562 แต่กิจกรรมสวดธรรมจักรของทางวัดยังคงเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่ 1,070,33 ล้านจบ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวัน กตัญญูบูชาวันมหาปูชนียาจารย์ ของทางวัดพระธรรมกาย และยังตรงกับวันทำบุญใหญ่อาทิตย์ต้นเดือนอีกหนึ่งงาน
แต่ในช่วงที่คณะธรรมยาตรายังอยู่ที่อนุสรณ์สถานบางนางแท่น อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทางสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้ออกประกาศ เรื่อง การรวบรวมใบอนุโมทนาบัตรและใบ MPL(My Papa Love) เมื่อ 29 มกราคม 2562 โดยแจ้งสาเหตุว่า
เนื่องจากมีภารกิจพิเศษเพื่อวัดที่พวกเราเหล่ากัลยาณมิตรทั่วโลกร่วมกันสร้าง จึงขอรับบริจาคใบอนุโมทนาบัตรและใบ MPL ที่ทำบุญกับวัดพระธรรมกายทุกบุญ โดยนำส่งภายในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ห้องแก้วสารพัดนึก สภาธรรมกายสากล
ล่า 3 ล้านใบ
คำประกาศอย่างเป็นทางการของสำนักสื่อสารองค์กรฯ แจ้งว่ามีภารกิจพิเศษในการระดมใบอนุโมทนาบัตรและใบ MPL แต่เป็นที่รับรู้กันในหมู่ศิษย์วัดพระธรรมกายว่า ภารกิจพิเศษนั้นคืออะไร
ต้นเรื่องของการระดมใบอนุโมทนาบัตรครั้งนี้ เริ่มที่พระครูธรรมธรอารักษ์ ญาณารักโข ผู้อำนวยการสำนัก กัลยาณมิตรสากล ได้แจ้งผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่า วันอาทิตย์ต้นเดือนที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ขอเชิญบริจาคใบอนุโมทนาบัตร เพื่อปกป้องอาคาร 100 ปี และมหารัตนวิหารคด (เพราะ DSI ฟ้องมูลนิธิธรรมกาย กับมูลนิธิคุณยาย)
เป้าหมายใบโมฯ 3 ล้านใบ ทั้งหมดตั้งแต่ทำมา ทุกบุญทุกรูปแบบ ถ่ายภาพตัวจริงเก็บไว้ นำแต่ละใบใส่กล่องมา บูชาข้าวพระด้วยใบโมฯ เพื่อเป็นหลักฐานพยาน ส่วนของปีนี้ ที่ทำบุญสุวรรณสิริรัศมียอดรัศมีต้องการนำไปหักภาษี ปีนี้ก่อนก็ไม่ต้องนำมา
แสดงสิทธิเจ้าของวัด
พร้อมด้วยเพจลูกข่ายของทางวัดพระธรรมกาย อย่างเช่น เพจกองการคณะสงฆ์ วัดพระธรรมกาย โพสต์ข้อความว่า ด่วนๆๆ ถึงลูกหลานหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ทุกรูป/ทุกคน
สืบเนื่องจากเรื่องการยึดอาคาร 100 ปี มหารัตนวิหารคด และอาคารบุญรักษา ล่าสุดจะยึดเอาอาคารทุกอาคารและที่ดินทั้งหมดของวัด(ทั้งมูลนิธิคุณยายและมูลนิธิธรรมกาย)
ในวันอาทิตย์ต้นเดือนที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ (วันมหาปูชนียาจารย์) จึงขอเรียนเชิญทุกท่านรวมใจ ร่วมบริจาคใบอนุโมทนาบัตร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ให้ทุกท่านนำใบอนุโมทนาบัตรมาร่วมบูชาข้าวพระ
เป้าหมาย 3 ล้านใบ รับบริจาคใบอนุโมทนาบัตร ทุกใบ ทุกบุญ ทุกยอด ทุกรูปแบบจากทุกคน ทั้งเขตในและเขตนอก ท่านใดอยากเก็บไว้นึกถึงบุญให้ถ่ายรูปไว้ตรึกระลึกนึกถึงบุญก่อนนำมาบริจาค
ขอย้ำ ใบอนุโมทนาบัตรทั้งหมดที่เรามี ตั้งแต่เข้าวัดมา แสดงพลัง เพื่อปกป้องวัดของเราร่วมกัน “จะให้ใครมายึดวัดของเราไม่ได้ พวกเราคือเจ้าของวัดตัวจริง”
หลังพิธีบูชาข้าวพระหลวงพี่อารักษ์ จะนำอธิษฐานตอน 11.00น.พร้อมกันทั้งในห้องแก้วฯและที่รัตนบัลลังก์ จากนั้นจะส่งมอบให้หัวหน้าชั้นนำกล่าวปฏิญาณ/แล้วจึงจะเดินไปหย่อนใส่กล่องที่ด้านหน้าห้องแก้วและด้านนอกด้วยกัน
ที่ใช้ใบอนุโมทนาบัตรตัวจริงเพราะ ถ้า print ใหม่ ถือเป็นการทำสำเนา ต้องมีการเซ็นรับรองสำเนา และรูปแบบใบอนุโมทนาบัตร แต่ละงาน แต่ปี มีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย ใช้แล้วหมดไป ไม่มีเก็บสำรอง มาพิมพ์ใหม่อีก
ภารกิจพิเศษ:สู้คดี
เป็นอันว่าภารกิจพิเศษนั้นคือการระดมหลักฐานการบริจาคเงินให้กับวัดพระธรรมกาย โดยเน้นตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทางวัดเคยเรียกระดมใบอนุโมทนาบัตรมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อคราวที่มีคำสั่งอายัดอาคาร 100 ปีคุณยายจันทร์ และเป็นการเรียกระดมหลังจากที่ถูกอายัดอาคารมหารัตนวิหารคดในช่วงปลายปี 2561
เป้าหมายคือเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีในชั้นศาล เนื่องจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเสนอความเห็นให้ยุบมูลนิธิแม่ชีจันทร์ขนนกยูงและมูลนิธิธรรมกาย
โปรดหยุดคิดสักนิด!
อย่างไรก็ตามยังมีศิษย์วัดพระธรรมกายบางกลุ่ม ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการระดมใบอนุโมทนาบัตรในครั้งนี้พร้อมทั้งทักท้วงว่า
1. ใบอนุโมทนาบัตรทุกใบ ส่วนกลางของวัด สามารถ print ออกมาได้เองจาก server จะเอาเท่าไหร่ก็ได้ เพราะมีผู้บริจาคจริงทุกโครงการตามรหัสผู้นำบุญรหัสผู้บริจาคและตามรหัสบุญด้วย ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดกันเลย ยิ่งเอาแค่ตั้งแต่ปี 2540 ยิ่งทำได้ทันที
2. ทำไมต้องให้สาธุชนนำอนุโมทนาบัตรของตนมาถวาย มาบริจาค เอา 3 ล้านใบเพื่อ? ในเมื่อความจริง แค่ผู้แทนฝ่ายวัด ไปอธิบายระบบการออกใบอนุโมทนาบัตรของวัด และยกตัวอย่างไม่กี่คนไม่กี่โครงการ ก็เป็นการยืนยันความจริงของเงินบริจาคที่เข้ามาได้แล้วว่ามีจริงและมีมากน้อยแค่ไหน
3. และสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่ามีการใช้จริงหรือไม่จริง ได้ใช้ไปตรงกับโครงการที่บอกบุญหรือเบิกจ่ายกองไหนไปใช้อะไร ใครเบิก เบิกเมื่อไหร่ ก็ตรวจสอบได้ทันทีอย่างตรงไปตรงมาจาก server ของวัด
4. ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมวัดต้องมาขอให้สาธุชนเอาหลักฐานตัวจริงกลับมาแสดงตัว? หรือว่าเพราะ
- ส่วนกลางวัดไม่ยอมให้ศาลตรวจสอบ server วัด
- ถ้าให้ตรวจสอบแล้ว จะเจออะไรที่มากไปกว่าการมีผู้บริจาคจริงมากกว่าต้นทุนแต่ละโครงการ
- เช่น เจอว่า มีการเบิกจ่ายทรัพย์บริจาคของโครงการหนึ่งแต่เอาไปใช้ตรงอื่น
- หรือ กลัวพบว่า มีใคร เบิกงบจากกอง... ไปใช้ส่วนตัว ที่ไม่ใช่กิจของวัดมากกว่าไหม?
- ตัวผู้เบิกจะตกที่นั่งเป็นผู้กระทำผิด ในการยักยอกทรัพย์ ไปใช้ส่วนตัว
- และ/หรือ พบว่า มีใคร นำส่วนเกินงบของแต่ละโครงการเอาไปใช้ทำการซิกแซ็กอะไร จนถึงฟอกเงิน เพื่อประโยชน์ส่วนตนมากขนาดไหน
5. ถ้าเหตุผลตามข้อ 4 จริง จึงไม่ยินยอมให้ตรวจสอบ server เพื่อเอาตัวรอด ไม่ให้ตรวจสอบเจอพวกตน และเป็นการทำลายหลักฐานจากผู้บริจาคจริง ไม่ให้เอาไปใช้ยื่นฟ้องเอาผิดพวกตนที่ทำการยักยอกฟอกเงินได้ด้วย
6. มีจุดน่าสนใจว่า การระดมสาธุชนจำนวน 1 ล้านคน สมมติว่าคาดหวังแค่ 3 ใบต่อคน หรือ 1 แสนคน คนละ 30 ใบ ให้มาต้นเดือน ก.พ.นี้ พร้อมกัน เป็นการแก้ปัญหาคนไม่เข้าวัด เพราะความเสื่อมศรัทธาพระเมื่อวัดไม่มีหลวงพ่อ 01(พระธัมมชโย) ให้กลับมารักษาสิทธิ์ของตน เพื่อเช็คว่ายังเหลือคนที่รักวัดจริงๆ เท่าไหร่
ผลทางการเมือง
7. เพื่อเป็นโอกาสให้พวก 06 (พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ)ที่คิดเล่นการเมือง ใช้ชื่อของเจ้าของใบอนุโมทนาบัตรทั้ง 3 ล้านใบ เป็นข้อต่อรองกับผู้มีอิทธิพลทางพรรคต่างๆ ที่ต้องการคะแนนเสียง เป็นการอ้างเพื่อสร้างภาพให้ตัวมีอิทธิพล ที่จะให้สาธุชนเทคะแนนเสียงให้พรรคไหนที่ยินยอมให้อำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองการปกครองประเทศให้กับตนมากที่สุด
8. และส่งเสริมให้ตนมีอำนาจชี้นำผลการเลือกตั้งได้ ยังได้ผลประโยชน์จากพรรคต่างๆ ที่อยากได้คะแนนเสียงจากตนอีกมากมาย ก่อนจะรู้จริงๆ ว่า ตนมีหรือไม่มีอำนาจชี้นำคนวัดให้เลือกใครจริงหรือไม่ เพราะมันไม่สำคัญเท่าการที่ตนทำอยู่แล้วตลอดมาคือ การอ้างกับชาววัดและสาธุชนว่าเป็นคำสั่งของ 01 ง่ายที่สุดกับคนวัดที่ขาดปัญญาจำนวนมาก และได้ผลตลอดมา
9. ผู้รู้บอกว่าศาลไม่ได้สนใจจำนวนใบอนุโมทนาบัตรเป็นล้านๆ เพราะศาลย่อมมีสติปัญญาวินิจฉัยจากข้อมูลที่โหลดจาก server ของวัดไปเปิดแสดงต่อศาลได้ และมีตัวตนจริงของพยานและตัวอย่างใบโมของจริงบ้าง พอเป็นแบบ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว เรื่องนี้จึงไม่ใช่เจตนาปกป้องสิทธิ์ของทุกคนในการป้องกันวัด แต่อ้างเพื่อให้เกิดความร่วมมือเพื่อการอื่นนั่นเอง
จึงน่าคิดว่า จะขนใบโม 3 ล้านใบไปศาลเพื่อประโยชน์ใด ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้ข้างต้นนี้
แค่นี้มากพอหรือไม่ที่จะทำให้ชาววัดคิดออกและยอมรับว่า มีการทำทุจริตด้านการเงินของวัดจริงโดยผู้มีอำนาจตัวจริงทำเองเท่านั้น จึงจะสั่งการให้ร่วมมือได้ทั้งระบบ ในการทำการหลอกลวงสาธุชนนับล้านๆ อย่างไม่ถูกเรื่องไม่สมเหตุผลแบบนี้
MPL ใช้ตามประสงค์พระธัมมชโย
ทั้งนี้การทำบุญกับวัดพระธรรมกาย ใบเสร็จในการทำบุญจะมี 2 รูปแบบคือใบอนุโมทนาบัตร จะระบุถึงวัตถุประสงค์ว่าทำบุญให้กับทางวัดเพื่อสิ่งใด เช่นสร้างอาคารมหารัตนวิหารคด หรือสร้างพระประจำตัว หรือสร้างพระมหาเจดีย์ ส่วนนี้นำมาใช้เป็นหลักฐานในการหักลดหย่อนภาษีได้
อีกรูปแบบหนึ่งทางวัดเรียกว่า MPL ย่อมาจาก My Papa Love ซึ่งทางวัดจะเขียนไว้ว่า บูชาธรรมพระเดชพระคุณพระธัมมชโย เพื่อนำไปใช้ตามความประสงค์ของหลวงพ่อ ส่วนนี้ไม่ถือเป็นใบอนุโมทนาบัตร ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานการหักลดหย่อนภาษีได้
จะเห็นได้ว่าใบ MPL นั้น ระบุไว้ชัดเจนว่า เพื่อนำไปใช้ตามความประสงค์ของหลวงพ่อ หมายความว่าทางพระธัมมชโยจะนำไปใช้จ่ายในกิจการใดก็ได้ สามารถใช้เงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ ยากต่อการตรวจสอบจากทุกฝ่าย ด้านหนึ่งเป็นเรื่องของความสะดวกของทางวัดที่มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่หลายโครงการ แต่อีกด้านหนึ่งทำให้รัฐไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินบริจาคจริง ๆ ในแต่ละปีมีเท่าไหร่ วัดนำไปใช้อะไรบ้าง เป็นไปเพื่อกิจการของทางวัดหรือถูกนำไปใช้ส่วนตัว
ส่วนใบอนุโมทนาบัตรนั้น ยังพอตรวจสอบได้ว่าผู้บริจาคทำบุญจริงตามยอดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนไม่น้อยที่ใช้ช่องทางของใบอนุโมทนาบัตรมาใช้เป็นรายการในการหักลดหย่อนภาษี หากวัดออกใบอนุโมทนาบัตรสูงกว่าเงินบริจาคจริง ย่อมกลายเป็นการร่วมมือกับผู้ทุจริตหลีกเลี่ยงภาษี ทำให้รัฐเสียประโยชน์
รอเพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ
การฮึดขึ้นมาต่อสู้ทางคดีของวัดพระธรรมกายรอบนี้ อยู่ในช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 งานนี้นับเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ว่าพรรคการเมืองใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาล หากพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ได้เข้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล คดีความต่าง ๆ ของทางวัดที่ถูกหน่วยงานรัฐดำเนินการฟ้องร้องอยู่นั้น ย่อมอยู่ภายใต้รัฐบาลใหม่
ผลของคดีที่ออกมาอาจกลายเป็นบวกกับวัดพระธรรมกายก็เป็นได้ อย่างเช่นคดีพระธัมมชโยที่มีคดียักยอกเงินวัดและปาราชิก สุดท้ายอัยการถอนฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปี 2549 ช่วงรัฐบาลพรรคไทยรักไทย(ขณะนั้น) ที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และยังมีมหาเถรสมาคมอุ้มพระธัมมชโยที่ไม่ต้องปาราชิก
นับเป็นการชิงจังหวะของวัดที่มีลูกศิษย์มากที่สุดและมีทุนบริจาคมหาศาล โดยลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยที่ต้องการเห็นพระที่พวกเขาเคารพศรัทธาและตัววัดของพวกเขาพ้นจากคดีความต่าง ๆ ดังนั้นการเลือกตั้งในครั้งนี้ลูกศิษย์สายธรรมกายนับล้านคนต่างรู้คำตอบในตัวเองดี และเฝ้ารอพรรคการเมืองที่เกื้อหนุนกันมาให้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
หลังจากจบโครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 7 "รักษ์บวร รักษ์ศีล 5" เมื่อ 31 มกราคม 2562 แต่กิจกรรมสวดธรรมจักรของทางวัดยังคงเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่ 1,070,33 ล้านจบ ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวัน กตัญญูบูชาวันมหาปูชนียาจารย์ ของทางวัดพระธรรมกาย และยังตรงกับวันทำบุญใหญ่อาทิตย์ต้นเดือนอีกหนึ่งงาน
แต่ในช่วงที่คณะธรรมยาตรายังอยู่ที่อนุสรณ์สถานบางนางแท่น อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทางสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้ออกประกาศ เรื่อง การรวบรวมใบอนุโมทนาบัตรและใบ MPL(My Papa Love) เมื่อ 29 มกราคม 2562 โดยแจ้งสาเหตุว่า
เนื่องจากมีภารกิจพิเศษเพื่อวัดที่พวกเราเหล่ากัลยาณมิตรทั่วโลกร่วมกันสร้าง จึงขอรับบริจาคใบอนุโมทนาบัตรและใบ MPL ที่ทำบุญกับวัดพระธรรมกายทุกบุญ โดยนำส่งภายในวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ ห้องแก้วสารพัดนึก สภาธรรมกายสากล
ล่า 3 ล้านใบ
คำประกาศอย่างเป็นทางการของสำนักสื่อสารองค์กรฯ แจ้งว่ามีภารกิจพิเศษในการระดมใบอนุโมทนาบัตรและใบ MPL แต่เป็นที่รับรู้กันในหมู่ศิษย์วัดพระธรรมกายว่า ภารกิจพิเศษนั้นคืออะไร
ต้นเรื่องของการระดมใบอนุโมทนาบัตรครั้งนี้ เริ่มที่พระครูธรรมธรอารักษ์ ญาณารักโข ผู้อำนวยการสำนัก กัลยาณมิตรสากล ได้แจ้งผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่า วันอาทิตย์ต้นเดือนที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562 ขอเชิญบริจาคใบอนุโมทนาบัตร เพื่อปกป้องอาคาร 100 ปี และมหารัตนวิหารคด (เพราะ DSI ฟ้องมูลนิธิธรรมกาย กับมูลนิธิคุณยาย)
เป้าหมายใบโมฯ 3 ล้านใบ ทั้งหมดตั้งแต่ทำมา ทุกบุญทุกรูปแบบ ถ่ายภาพตัวจริงเก็บไว้ นำแต่ละใบใส่กล่องมา บูชาข้าวพระด้วยใบโมฯ เพื่อเป็นหลักฐานพยาน ส่วนของปีนี้ ที่ทำบุญสุวรรณสิริรัศมียอดรัศมีต้องการนำไปหักภาษี ปีนี้ก่อนก็ไม่ต้องนำมา
แสดงสิทธิเจ้าของวัด
พร้อมด้วยเพจลูกข่ายของทางวัดพระธรรมกาย อย่างเช่น เพจกองการคณะสงฆ์ วัดพระธรรมกาย โพสต์ข้อความว่า ด่วนๆๆ ถึงลูกหลานหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ทุกรูป/ทุกคน
สืบเนื่องจากเรื่องการยึดอาคาร 100 ปี มหารัตนวิหารคด และอาคารบุญรักษา ล่าสุดจะยึดเอาอาคารทุกอาคารและที่ดินทั้งหมดของวัด(ทั้งมูลนิธิคุณยายและมูลนิธิธรรมกาย)
ในวันอาทิตย์ต้นเดือนที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ (วันมหาปูชนียาจารย์) จึงขอเรียนเชิญทุกท่านรวมใจ ร่วมบริจาคใบอนุโมทนาบัตร ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ให้ทุกท่านนำใบอนุโมทนาบัตรมาร่วมบูชาข้าวพระ
เป้าหมาย 3 ล้านใบ รับบริจาคใบอนุโมทนาบัตร ทุกใบ ทุกบุญ ทุกยอด ทุกรูปแบบจากทุกคน ทั้งเขตในและเขตนอก ท่านใดอยากเก็บไว้นึกถึงบุญให้ถ่ายรูปไว้ตรึกระลึกนึกถึงบุญก่อนนำมาบริจาค
ขอย้ำ ใบอนุโมทนาบัตรทั้งหมดที่เรามี ตั้งแต่เข้าวัดมา แสดงพลัง เพื่อปกป้องวัดของเราร่วมกัน “จะให้ใครมายึดวัดของเราไม่ได้ พวกเราคือเจ้าของวัดตัวจริง”
หลังพิธีบูชาข้าวพระหลวงพี่อารักษ์ จะนำอธิษฐานตอน 11.00น.พร้อมกันทั้งในห้องแก้วฯและที่รัตนบัลลังก์ จากนั้นจะส่งมอบให้หัวหน้าชั้นนำกล่าวปฏิญาณ/แล้วจึงจะเดินไปหย่อนใส่กล่องที่ด้านหน้าห้องแก้วและด้านนอกด้วยกัน
ที่ใช้ใบอนุโมทนาบัตรตัวจริงเพราะ ถ้า print ใหม่ ถือเป็นการทำสำเนา ต้องมีการเซ็นรับรองสำเนา และรูปแบบใบอนุโมทนาบัตร แต่ละงาน แต่ปี มีการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย ใช้แล้วหมดไป ไม่มีเก็บสำรอง มาพิมพ์ใหม่อีก
ภารกิจพิเศษ:สู้คดี
เป็นอันว่าภารกิจพิเศษนั้นคือการระดมหลักฐานการบริจาคเงินให้กับวัดพระธรรมกาย โดยเน้นตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทางวัดเคยเรียกระดมใบอนุโมทนาบัตรมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อคราวที่มีคำสั่งอายัดอาคาร 100 ปีคุณยายจันทร์ และเป็นการเรียกระดมหลังจากที่ถูกอายัดอาคารมหารัตนวิหารคดในช่วงปลายปี 2561
เป้าหมายคือเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีในชั้นศาล เนื่องจากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมีการเสนอความเห็นให้ยุบมูลนิธิแม่ชีจันทร์ขนนกยูงและมูลนิธิธรรมกาย
โปรดหยุดคิดสักนิด!
อย่างไรก็ตามยังมีศิษย์วัดพระธรรมกายบางกลุ่ม ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการระดมใบอนุโมทนาบัตรในครั้งนี้พร้อมทั้งทักท้วงว่า
1. ใบอนุโมทนาบัตรทุกใบ ส่วนกลางของวัด สามารถ print ออกมาได้เองจาก server จะเอาเท่าไหร่ก็ได้ เพราะมีผู้บริจาคจริงทุกโครงการตามรหัสผู้นำบุญรหัสผู้บริจาคและตามรหัสบุญด้วย ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดกันเลย ยิ่งเอาแค่ตั้งแต่ปี 2540 ยิ่งทำได้ทันที
2. ทำไมต้องให้สาธุชนนำอนุโมทนาบัตรของตนมาถวาย มาบริจาค เอา 3 ล้านใบเพื่อ? ในเมื่อความจริง แค่ผู้แทนฝ่ายวัด ไปอธิบายระบบการออกใบอนุโมทนาบัตรของวัด และยกตัวอย่างไม่กี่คนไม่กี่โครงการ ก็เป็นการยืนยันความจริงของเงินบริจาคที่เข้ามาได้แล้วว่ามีจริงและมีมากน้อยแค่ไหน
3. และสามารถตรวจสอบได้ทันทีว่ามีการใช้จริงหรือไม่จริง ได้ใช้ไปตรงกับโครงการที่บอกบุญหรือเบิกจ่ายกองไหนไปใช้อะไร ใครเบิก เบิกเมื่อไหร่ ก็ตรวจสอบได้ทันทีอย่างตรงไปตรงมาจาก server ของวัด
4. ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมวัดต้องมาขอให้สาธุชนเอาหลักฐานตัวจริงกลับมาแสดงตัว? หรือว่าเพราะ
- ส่วนกลางวัดไม่ยอมให้ศาลตรวจสอบ server วัด
- ถ้าให้ตรวจสอบแล้ว จะเจออะไรที่มากไปกว่าการมีผู้บริจาคจริงมากกว่าต้นทุนแต่ละโครงการ
- เช่น เจอว่า มีการเบิกจ่ายทรัพย์บริจาคของโครงการหนึ่งแต่เอาไปใช้ตรงอื่น
- หรือ กลัวพบว่า มีใคร เบิกงบจากกอง... ไปใช้ส่วนตัว ที่ไม่ใช่กิจของวัดมากกว่าไหม?
- ตัวผู้เบิกจะตกที่นั่งเป็นผู้กระทำผิด ในการยักยอกทรัพย์ ไปใช้ส่วนตัว
- และ/หรือ พบว่า มีใคร นำส่วนเกินงบของแต่ละโครงการเอาไปใช้ทำการซิกแซ็กอะไร จนถึงฟอกเงิน เพื่อประโยชน์ส่วนตนมากขนาดไหน
5. ถ้าเหตุผลตามข้อ 4 จริง จึงไม่ยินยอมให้ตรวจสอบ server เพื่อเอาตัวรอด ไม่ให้ตรวจสอบเจอพวกตน และเป็นการทำลายหลักฐานจากผู้บริจาคจริง ไม่ให้เอาไปใช้ยื่นฟ้องเอาผิดพวกตนที่ทำการยักยอกฟอกเงินได้ด้วย
6. มีจุดน่าสนใจว่า การระดมสาธุชนจำนวน 1 ล้านคน สมมติว่าคาดหวังแค่ 3 ใบต่อคน หรือ 1 แสนคน คนละ 30 ใบ ให้มาต้นเดือน ก.พ.นี้ พร้อมกัน เป็นการแก้ปัญหาคนไม่เข้าวัด เพราะความเสื่อมศรัทธาพระเมื่อวัดไม่มีหลวงพ่อ 01(พระธัมมชโย) ให้กลับมารักษาสิทธิ์ของตน เพื่อเช็คว่ายังเหลือคนที่รักวัดจริงๆ เท่าไหร่
ผลทางการเมือง
7. เพื่อเป็นโอกาสให้พวก 06 (พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ)ที่คิดเล่นการเมือง ใช้ชื่อของเจ้าของใบอนุโมทนาบัตรทั้ง 3 ล้านใบ เป็นข้อต่อรองกับผู้มีอิทธิพลทางพรรคต่างๆ ที่ต้องการคะแนนเสียง เป็นการอ้างเพื่อสร้างภาพให้ตัวมีอิทธิพล ที่จะให้สาธุชนเทคะแนนเสียงให้พรรคไหนที่ยินยอมให้อำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองการปกครองประเทศให้กับตนมากที่สุด
8. และส่งเสริมให้ตนมีอำนาจชี้นำผลการเลือกตั้งได้ ยังได้ผลประโยชน์จากพรรคต่างๆ ที่อยากได้คะแนนเสียงจากตนอีกมากมาย ก่อนจะรู้จริงๆ ว่า ตนมีหรือไม่มีอำนาจชี้นำคนวัดให้เลือกใครจริงหรือไม่ เพราะมันไม่สำคัญเท่าการที่ตนทำอยู่แล้วตลอดมาคือ การอ้างกับชาววัดและสาธุชนว่าเป็นคำสั่งของ 01 ง่ายที่สุดกับคนวัดที่ขาดปัญญาจำนวนมาก และได้ผลตลอดมา
9. ผู้รู้บอกว่าศาลไม่ได้สนใจจำนวนใบอนุโมทนาบัตรเป็นล้านๆ เพราะศาลย่อมมีสติปัญญาวินิจฉัยจากข้อมูลที่โหลดจาก server ของวัดไปเปิดแสดงต่อศาลได้ และมีตัวตนจริงของพยานและตัวอย่างใบโมของจริงบ้าง พอเป็นแบบ เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว เรื่องนี้จึงไม่ใช่เจตนาปกป้องสิทธิ์ของทุกคนในการป้องกันวัด แต่อ้างเพื่อให้เกิดความร่วมมือเพื่อการอื่นนั่นเอง
จึงน่าคิดว่า จะขนใบโม 3 ล้านใบไปศาลเพื่อประโยชน์ใด ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้ข้างต้นนี้
แค่นี้มากพอหรือไม่ที่จะทำให้ชาววัดคิดออกและยอมรับว่า มีการทำทุจริตด้านการเงินของวัดจริงโดยผู้มีอำนาจตัวจริงทำเองเท่านั้น จึงจะสั่งการให้ร่วมมือได้ทั้งระบบ ในการทำการหลอกลวงสาธุชนนับล้านๆ อย่างไม่ถูกเรื่องไม่สมเหตุผลแบบนี้
MPL ใช้ตามประสงค์พระธัมมชโย
ทั้งนี้การทำบุญกับวัดพระธรรมกาย ใบเสร็จในการทำบุญจะมี 2 รูปแบบคือใบอนุโมทนาบัตร จะระบุถึงวัตถุประสงค์ว่าทำบุญให้กับทางวัดเพื่อสิ่งใด เช่นสร้างอาคารมหารัตนวิหารคด หรือสร้างพระประจำตัว หรือสร้างพระมหาเจดีย์ ส่วนนี้นำมาใช้เป็นหลักฐานในการหักลดหย่อนภาษีได้
อีกรูปแบบหนึ่งทางวัดเรียกว่า MPL ย่อมาจาก My Papa Love ซึ่งทางวัดจะเขียนไว้ว่า บูชาธรรมพระเดชพระคุณพระธัมมชโย เพื่อนำไปใช้ตามความประสงค์ของหลวงพ่อ ส่วนนี้ไม่ถือเป็นใบอนุโมทนาบัตร ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานการหักลดหย่อนภาษีได้
จะเห็นได้ว่าใบ MPL นั้น ระบุไว้ชัดเจนว่า เพื่อนำไปใช้ตามความประสงค์ของหลวงพ่อ หมายความว่าทางพระธัมมชโยจะนำไปใช้จ่ายในกิจการใดก็ได้ สามารถใช้เงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ ยากต่อการตรวจสอบจากทุกฝ่าย ด้านหนึ่งเป็นเรื่องของความสะดวกของทางวัดที่มีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่หลายโครงการ แต่อีกด้านหนึ่งทำให้รัฐไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเงินบริจาคจริง ๆ ในแต่ละปีมีเท่าไหร่ วัดนำไปใช้อะไรบ้าง เป็นไปเพื่อกิจการของทางวัดหรือถูกนำไปใช้ส่วนตัว
ส่วนใบอนุโมทนาบัตรนั้น ยังพอตรวจสอบได้ว่าผู้บริจาคทำบุญจริงตามยอดหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนไม่น้อยที่ใช้ช่องทางของใบอนุโมทนาบัตรมาใช้เป็นรายการในการหักลดหย่อนภาษี หากวัดออกใบอนุโมทนาบัตรสูงกว่าเงินบริจาคจริง ย่อมกลายเป็นการร่วมมือกับผู้ทุจริตหลีกเลี่ยงภาษี ทำให้รัฐเสียประโยชน์
รอเพื่อไทย-ไทยรักษาชาติ
การฮึดขึ้นมาต่อสู้ทางคดีของวัดพระธรรมกายรอบนี้ อยู่ในช่วงเวลาที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 งานนี้นับเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ว่าพรรคการเมืองใดจะเข้ามาเป็นรัฐบาล หากพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักษาชาติ ได้เข้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล คดีความต่าง ๆ ของทางวัดที่ถูกหน่วยงานรัฐดำเนินการฟ้องร้องอยู่นั้น ย่อมอยู่ภายใต้รัฐบาลใหม่
ผลของคดีที่ออกมาอาจกลายเป็นบวกกับวัดพระธรรมกายก็เป็นได้ อย่างเช่นคดีพระธัมมชโยที่มีคดียักยอกเงินวัดและปาราชิก สุดท้ายอัยการถอนฟ้อง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปี 2549 ช่วงรัฐบาลพรรคไทยรักไทย(ขณะนั้น) ที่มีทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และยังมีมหาเถรสมาคมอุ้มพระธัมมชโยที่ไม่ต้องปาราชิก
นับเป็นการชิงจังหวะของวัดที่มีลูกศิษย์มากที่สุดและมีทุนบริจาคมหาศาล โดยลูกศิษย์จำนวนไม่น้อยที่ต้องการเห็นพระที่พวกเขาเคารพศรัทธาและตัววัดของพวกเขาพ้นจากคดีความต่าง ๆ ดังนั้นการเลือกตั้งในครั้งนี้ลูกศิษย์สายธรรมกายนับล้านคนต่างรู้คำตอบในตัวเองดี และเฝ้ารอพรรคการเมืองที่เกื้อหนุนกันมาให้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง