ฟันธง!!พรรคการเมืองสายธรรมกาย-ไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง

อดีตคนเพื่อไทยประเมิน ‘พรรคแผ่นดินธรรม-ประชาภิวัฒน์’ ไม่มีพลังพอพลิกโฉมการเลือกตั้ง ส่วนศิษย์อย่างสุชาติ ธาดาธำรงเวช แห่งไทยรักษาชาติและลีลาวดี วัชโรบล แห่งเพื่อไทย ปลุกเสียงในธรรมกายยาก แจงในวัดมีทั้งเอาทักษิณ-ไม่เอาทักษิณ และเหตุพระธัมมชโยถูกดำเนินคดี ฐานศิษย์หายไปไม่น้อย แถมความขัดแย้งระหว่างลูกศิษย์ สายอัยย์เมินประชาภิวัฒน์หลังทนายวัดซบที่ปรึกษา

ท่ามกลางการเดินหน้าสู่โหมดการเลือกตั้งที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศเปิดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 และภายใต้การเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเมื่อปี 2557 วัดพระธรรมกายได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากคดีการทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่เงินจำนวนหนึ่งได้ไหลเข้ามาที่วัดพระธรรมกาย

ส่งผลให้พระธัมมชโย เจ้าอาวาส ถูกดำเนินคดีรับของโจรไปด้วย แม้จะมีการใช้มาตรา 44 ระดมสรรพกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ก็ไม่สามารถหาตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีได้ แต่ส่งผลให้วัดพระธรรมกายไม่มีพระธัมมชโยอยู่ประจำวัดเป็นผู้นำอีกต่อไป

แน่นอนว่าศิษย์วัดพระธรรมกายจำนวนไม่น้อยมองว่า ภาครัฐกลั่นแกล้งพระที่พวกเขาเคารพบูชา และไม่พอใจกับสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะหาทางช่วยเหลือวัดพระธรรมกายจากบรรดาลูกศิษย์ในทุกช่องทาง

พรรคแผ่นดินธรรม

หนึ่งในนั้นคือแนวคิดหากต้องการปกป้องวัดพระธรรมกายต้องมีอำนาจรัฐในมือ โดย ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ได้เดินแนวคิดนี้มาในช่วงที่เริ่มเกิดวิกฤติกับวัดพระธรรมกาย พร้อมทั้งดึงเอานายกรณ์ มีดี อดีต นปช. เข้ามาเป็นเลขาธิการ

เมื่อมีการขับเคลื่อนที่จะพอสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นพรรคการเมือง ดร.บรรจบ ขอถอยตัวเองออกจากงานนี้ ปล่อยให้กรณ์ มีดี เป็นหัวเรือใหญ่ ยกระดับขึ้นเป็นพรรคพลังแผ่นดิน และขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค

พร้อมชูนโยบายพรรค 39 ข้อ แต่ได้คัดออกมาเป็น นโยบายหลัก คือ ธนาคารพุทธ ธนาคารเพื่อชาวพุทธ บัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เพิ่มวิชาสมาธิภาวนาเป็นวิชาบังคับในโรงเรียนทุกระดับ ยกเลิกกองทุนน้ำมันดีเซลและลดราคาน้ำมันทุกชนิด หนึ่งจังหวัดหนึ่งโรงพยาบาลแพทย์แผนไทย ตั้งกระทรวงชาวนาและกระทรวงยางพารา เพื่อแก้ปัญหาข้าวหรือยางพาราทั้งระบบ แก้กฎหมายความเร็วรถให้เหมาะสมกับสภาพรถและถนนปัจจุบัน(เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่อ้างแสวงหาผลประโยชน์) พักเครดิตบูโร 1 ปี(เพื่อเข้าถึงแหล่งทุนง่าย)

และมีนโยบายเฉพาะ นิคมไทยพุทธ 3 จังหวัดชายแดนใต้(โครงการไทยพุทธคืนถิ่น พร้อมที่อยู่ ที่ทำกินและปลอดภัย) ให้โรงเรียนพระปริยัติสามัญเป็นโรงเรียนในกำกับของของรัฐ

การขับเคลื่อนของพรรคแผ่นดินธรรมได้จัดงานเสวนาวิชาการเรื่องภัยพระพุทธศาสนายุคปัจจุบัน คดีเงินทอนวัดและทำไมจับพระติดคุกโดยไม่ยอมให้ประกัน วิทยากรที่มาร่วมงานประกอบด้วย ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช ดร.บรรจบ บรรณรุจิ รวมถึงนายกรณ์ มีดี เมื่อ 22 ธันวาคม 2561 ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ห้องนอร์ธวิง

พรรคประชาภิวัฒน์

ขณะเดียวกันศิษย์ของวัดพระธรรมกายที่มีบทบาทสำคัญในช่วงที่เกิดวิกฤติกับวัดพระธรรมกายเมื่อต้นปี 2560 อีกรายคือนายสมเกียรติ ศรลัมพ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทยจากนครสวรรค์ ที่ถูกหมายตาจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แยกออกมาตั้งพรรคประชาภิวัฒน์ โดยมีพล.ต.ไชยนาจ ญาติฉิมพลี อดีตนายกเปรียญธรรมสมาคมแห่งประเทศไทยเป็นผู้ยื่นขอจดทะเบียนพรรคประชาภิวัฒน์

ที่ผ่านมาเคยร่วมกิจกรรมกับวัดพระธรรมกายหลายครั้ง เช่น เดินทางไปร่วมเปิดวัดพระธรรมกาย สาขาประเทศแอฟริกาใต้ และเมื่อครั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการเดินธุดงค์ธรรมชัย ปีที่ 2 และยังเคยเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้เรียกร้องให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ไทยรักษาชาติ-เพื่อไทย

อีกรายที่อดีตสังกัดพรรคเพื่อไทย ตอนนี้สังกัดพรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกมองกันว่าเป็นพรรคสาขาของเพื่อไทย และได้ออกมาปกป้องวัดพระธรรมกายหลายครั้งอย่าง ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเมื่อ 4 ธันวาคม 2561 ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่า

รัฐบาลได้ใช้กำลังตำรวจทหาร บุกยึดวัดพระธรรมกายมาแล้วหลายครั้ง ด้วยข้อหาฟอกเงิน รับของโจร ทั้งๆ ที่พระไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินสิ่งของบริจาค ผู้ใดมาใส่บาตร มาทำบุญวัดก็ต้องรับไว้เสมอไม่สอบถาม

เนื่องจาก พระและวัดมีหน้าที่รับเงินทองสิ่งของ ของผู้สร้างบุญเหล่านี้ เพื่อส่งทรัพย์ของเขาในชาตินี้ เป็นบุญเป็นทรัพย์สินของเขาในชาติต่อๆ ไป เป็นหน้าที่ของพระของวัดครับ ไม่ใช่ฟอกเงินครับ

กลุุ่มผู้กล่าวหาหลายคนก็ได้รับผลบาปเห็นทันตา บางคนเครือญาติเสียชีวิต ด้วยโรคแปลกๆ แต่เขาเหล่านั้น ก็ยังไม่เห็นผลแห่งกรรมของตนเอง

วันนี้ รัฐบาลจะฟ้องยึดทรัพย์ของมูลนิธิฯของวัดพระธรรมกายอีกแล้ว ด้วยข้อหาเดิมๆ ที่ยัดเยียดไว้

วัดยังคงยึดมั่นในการทำความดี อย่างสม่ำเสมอมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน คือไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไปและให้อภัย เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของวัดพระธรรมกาย ของหลวงพ่อธัมมชโยครับ ขอพี่น้องประชาชน ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาครับ

ส่วน ดร.ลีลาวดี วัชโรบล แห่งพรรคเพื่อไทย ศิษย์คนสำคัญของวัดพระธรรมกายอีกราย ยังคงลงพื้นที่พบปะประชาชน ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย กรุงเทพ เขต 7 บางซื่อ ดุสิต

นอกจากนี้ยังมีพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน (ปพป.) ที่มีนายประมวล พิมพ์เสน ประธานสมัชชาชาวพุทธเพื่อความมั่นคงของชาติ เป็นหัวหน้าพรรค และนายรักสยาม นามานุภาพ นายกสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค เป็นเลขาธิการพรรค

แค่แนวร่วม

อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า กลุ่มที่สนับสนุนแนวทางของวัดพระธรรมกายที่มาตั้งพรรคการเมือง มีทั้งหนุนโดยตรงและหนุนทางอ้อม พรรคแผ่นดินธรรมอาจไม่ใช่ศิษย์ธรรมกายโดยตรง แต่เป็นนักวิชาการด้านพุทธศาสนาที่เข้ามาปกป้องวัดพระธรรมกายและพระเถรผู้ใหญ่ เป้าหมายหลักโฟกัสไปที่พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

พรรคประชาภิวัฒน์ของสมเกียรติ ศรลัมพ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทย รายนี้เปิดตัวเป็นศิษย์วัดพระธรรมกายและเคลื่อนไหวในช่วงที่วัดถูกมาตรา 44 ควบคุมพื้นที่ ร่วมกิจกรรมกับทางวัดมาหลายครั้ง น่าจะเป็นศิษย์สายตรงที่สุด

ส่วนพรรคประชาธิปไตยเพื่อประชาชน น่าจะเป็นเพียงแค่แนวร่วมไม่ต่างจากพรรคแผ่นดินธรรม แต่สมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค ค่อนข้างอยู่วงนอกกว่า ที่เปิดตัวชัดและเพิ่งโพสต์ตำหนิรัฐบาลคือดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตเพื่อไทยที่ย้ายไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติ และที่ยังคงอยู่กับพรรคเพื่อไทยคือนางสาวลีลาวดี วัชโรบล

ไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง

ที่ผ่านมาศิษย์วัดพระธรรมกายได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ในหลากหลายช่องทาง ตอนนี้มีค่อนข้างมากในไลน์กรุ๊ปของสาวกธรรมกาย พร้อมทั้งยกย่องผลงานของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยให้งานด้านศาสนาของวัดพระธรรมกายขยายออกไปกว้างไกล

เราไม่ได้กังวลว่าสายของธรรมกายจะมีผลต่อผลการเลือกตั้งเหมือนครั้งก่อน ๆ เพราะศิษย์วัดพระธรรมกายหดหายไปจำนวนหนึ่งจากวิกฤตการณ์ที่ผ่านมา ประกอบกับศิษย์ธรรมกายมีหลากหลายกลุ่ม บางส่วนเอียงไปทางเพื่อไทย บางส่วนเลือกเป็นกลาง บางส่วนไปขั้วตรงข้าม

นอกจากนี้ฝ่ายที่ไม่ชอบรัฐบาลชุดนี้ก็ขัดแย้งกันภายในอีก เพราะทนายวัดพระธรรมกาย อย่างนายสัมพันธ์ เสริมชีพ ได้เป็นที่ปรึกษากับพรรคประชาภิวัฒน์ ซึ่งสายของนายอัยย์ เพชรทอง ต่างไม่สนับสนุนกลุ่มนี้
พูดตรง ๆ เราไม่ได้กังวลคะแนนเสียงจากสายธรรมกายเลย เพราะประเมินแล้วว่าพรรคเกิดใหม่เหล่านี้คงไม่มีพลังพอที่จะดึงศรัทธาคนของธรรมกายได้ อีกทั้งพรรคเหล่านี้ถือเป็นพรรคเล็ก เชื่อว่าหลายคนในวัดก็ไม่รู้จักพรรคเหล่านี้

“เราประเมินแล้วว่า พรรคการเมืองในสายของธรรมกายโดยเฉพาะพรรคที่ตั้งใหม่อย่างแผ่นดินธรรมและประชาภิวัฒน์ ไม่มีผลต่อเรื่องคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้แน่นอน”