xs
xsm
sm
md
lg

‘ธรรมกาย-นปช.-เพื่อไทย’ เดินสายปลุกกระแสค้านปฏิรูปสงฆ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฆราวาสสายพระผู้ใหญ่เดินหน้าจัดเสวนาครั้งที่ 4 ที่ขอนแก่น หลังเดินหน้าวิพากษ์มาแล้ว 3 ครั้ง พบผู้เข้าร่วมมีทั้ง สายธรรมกาย เสื้อแดง นปช. พรรคเพื่อไทย แสดงความเห็นมาตรา 12 ขัดมาตรา 5 และมาตรา 7 ของเดิม เตรียมยื่นขอแก้ไข แนะพระหากถูกดำเนินคดีพร้อมส่งทีมทนายเข้าไปช่วย วงในชี้แค่จัดเสวนาบังหน้าเดิน เริ่มเดินสายต่างจังหวัดปลุกกระแส

การเคลื่อนไหวของพระผู้ใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากที่มีการจับกุมพระชั้น 3 พรหม 3 รูปซึ่งเป็นกรรมการในมหาเถรสมาคม ตั้งแต่ 24 พฤษภาคม 2561 ถูกส่งไม้ต่อไปยังสานุศิษย์ให้เดินเครื่องแทน ในนามขององค์กรพุทธทั้งหลาย ถล่มพันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐานตามมาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

จากนั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจ้งว่ามติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 19 มิถุนายน 2561รับหลักการให้มีการจัดทําร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ดังนั้นจึงดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นของพระภิกษุและประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับหลักการของร่างพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับใหม่ผ่านทางเว็บไซด์ www.krisdika.go.th ตั้งแต่ 21-27 มิถุนายน 2561

เมื่อเข้าสู่การประชุมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว 3 วาระรวดเมื่อ 5 กรกฎาคม 2561 และประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ 18 กรกฎาคม 2561 สรุปได้ว่าตำแหน่งกรรมการในมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนและเจ้าคณะภาค ต้องเริ่มต้นสรรหากันใหม่

ต้านในรูปเสวนา

ฝากฝั่งของพระผู้ใหญ่ที่ถูกกระทบจากกฎหมายฉบับดังกล่าวต่างนิ่งเงียบ แต่ยังมีองค์กรที่ออกมาเคลื่อนไหวหลังจากร่างพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติคือ สมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ(สพวช.) มาในรูปแบบของงานเสวนาทางวิชาการ

เริ่มจัดครั้งแรกเป็นการเสวนาทางวิชาการ กรณีสถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน เรื่องทิศทางปัญหา ทางออกและการแก้ปัญหา เสาร์ที่ 14 กรกฎาคม 2561 9.00-16.30 น. ณ ห้องประกอบ หุตะสิงห์ ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

หัวข้อการเสวนาและอภิปราย ปาฐกถานำ เรื่อง พระพุทธศาสนากับนัยยะการปฏิรูปให้เหมาะสมกับปัจจุบัน นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ผู้ทรงคุณวุฒิเชี่ยวชาญด้านกิจการพระพุทธศาสนา

วิทยากรชุดที่ 1 เรื่อง พระมหากษัตริย์องค์เอกอัครศาสนูปถัมภก ยอยกพระพุทธศาสนา ผู้ร่วมเสวนา ดร.ประมวล พิมพ์เสน หม่อมหลวงกานตพงศ์ วรวุฒิ และดร.บรรจบ บรรณรุจิ ดำเนินการเสวนาโดย ดร.โฆสิต สุวินิจจิต

วิทยากรชุดที่ 2 เรื่อง พระพุทธศาสนากับนัยยะของการปฏิรูปของรัฐบาล ผู้ร่วมเสวนา ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นายกรณ์ มีดี ดำเนินการเสวนาโดยดร.ณพลเดช มณีลังกา

วิทยากรชุดที่ 3 เรื่อง ปัญหาปฏิรูปคณะสงฆ์และทางออก ผู้ร่วมเสวนาคุณวิชัย ธรรมเจริญ นพ.บัญชา พงษ์พานิช น.อ.ทองย้อย แสงสินชัย ดำเนินการเสวนาโดยคุณพิศิษฐ์ คล้ายสอนเจริญ และมีน.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ เลขาธิการพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม

จัดครั้งที่ 2

จากนั้นจัดงานขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ประชุมอภิปรายและเสวนาเชิงวิชาการ กรณีสถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน เรื่อง "พุทธศาสนาอยู่ตรงไหนในยุคไทยแลนด์ 4.0" อาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2561 เวลา 9.00-14.00 น. ณ ห้องประกอบ หุตะสิงห์ ชั้น 3 อาคารอเนกประสงค์ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

ปาฐกถานำ ภัยศาสนาจากนาลันทาสู่ประเทศไทย พระอาจารย์ดร.ปริญญาโณภิกขุ มหาเถร หัวข้อเสวนา พรบ.สงฆ์ฉบับใหม่วิกฤติหรือโอกาส ผู้ร่วมเสวนานายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล นางสาวเบญจรัตน์ มีเทียน นายวรกร พงศ์ธนากุล

หัวข้อ พุทธศาสนาจะอยู่รอดอย่างไรสายตาพุทธบุตร ผู้ร่วมเสวนาพระอาจารย์อิสรภาพ อาจารสัมปันโน พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธัมโม พระอาจารย์สิทธิศักดิ์ สิรินันโท

หัวข้อทางแก้ปัญหาพุทธศาสนาในประเทศไทย ผู้ร่วมเสวนา โดยตัวแทนกลุ่มพลังชาวพุทธทั่วทุกภาคทั่วประเทศ

จัดครั้งที่ 3

ครั้งล่าสุดจัดการประชุมอภิปรายและเสวนาเชิงวิชาการ กรณีสถานการณ์พระพุทธศาสนาในปัจจุบัน ครั้งที่ 3 เรื่อง แนวทางปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยกฎหมายและการทูลเกล้าฯถวายฏีกา วันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2561 9.00-16.30 น. ณ ห้องประชุมพลวัฒโก วัดชลประทานรังสฤษฏ์ นนทบุรี แต่ได้เปลี่ยนสถานที่เป็นโรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน เวลา 12.00-17.00 น.

หัวข้อการเสวนาปาฐกถานำ ถอดรหัสกฎหมายกู้ภัยศาสนา อาจารย์มานิต จิตต์จันทร์กลับ หัวข้อ ขั้นตอนการทูลเกล้าฯ ถวายที่ถูกต้อง ผู้ร่วมเสวนาโดยตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หัวข้อ เจาะลึกพรบ.สงฆ์ฉบับใหม่ ผู้ร่วมเสวนา นายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล นางสาวเบญจรัตน์ มีเทียน นายวรกร พงศ์ธนากุล

หัวข้อ วิพากษ์การต่อสู้ทางกฎหมายของวัดพระธรรมกาย วัดสระเกศ วัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศ์ ผู้ร่วมเสวนา คุณวันชัย บุนนาค ฝ่ายกฎหมายของวัดพระธรรมกาย วัดสระเกศ วัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศ์ และหัวข้อนักกฎหมายกับภัยพระพุทธศาสนา

จัดหลังรื้อตำแหน่งพระผู้ใหญ่

กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มเดิมที่ออกมาเคลื่อนไหวแทนพระผู้ใหญ่ เพียงแต่เลือกใช้การเสวนาทางวิชาการมาเป็นเครื่องบังหน้า เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรัฐบาลที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาคณะสงฆ์ของไทยจนกระทบไปถึงพระผู้ใหญ่ วิทยากรที่เข้าร่วมเสวนาก็เป็นหน้าเดิมทั้งสิ้น

การจัดครั้งแรกเมื่อ 14 กรกฎาคม เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักงานกฤษฎีกาปิดรับความเห็นเรื่องการแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับใหม่เมื่อปลายเดือนมิถุนายน และหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นชอบกฎหมายฉบับนี้ 3 วาระรวดเมื่อ 5 กรกฎาคม 2561

เมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายเมื่อ 18 กรกฎาคม กลุ่มนี้ก็จัดเสวนาครั้งที่ 2 เมื่อ 22 กรกฎาคม 2561 และยังจัดต่ออีกครั้งในวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา

ธรรมกาย-นปช.-เพื่อไทย มาครบ

2 ครั้งแรกมีอัยย์ เพชรทอง ศิษย์วัดพระธรรมกายมาร่วมด้วย มี ดร.บรรจบ บรรณรุจิ จากสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย เคยทำหน้าที่ปกป้องวัดพระธรรมกายและพระผู้ใหญ่มาโดยตลอด นายโฆสิต สุวินิจจิต จากสายวัดสระเกศ

ดร.จรูญ วรรณกสิณานนท์ กลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน นายกรณ์ มีดี หัวหน้าพรรคแผ่นดินธรรม สมบัติ บุญงามอนงค์ กลุ่มคนเสื้อแดง

นายวรากร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธมโม ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี เป็นทีมที่ยื่นเรื่องเอาผิดผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นายนิทัศน์ ประเสริฐเนติกุล ทนายที่ว่าความให้กับวัดพระธรรมกาย

นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา แกนนำและที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วนพรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้โต้โผหลักในการจัดเสวนาในครั้งนี้คือ สมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ (สพวช.) โดยนายวุฒิสาร พนารี นายกสมาคม เป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ปักหลักชุมนุมที่ตลาดกลางคลองหลวง เมื่อครั้งที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้มาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายเมื่อปี 2560

เรียกว่ามากันครบทั้งสายธรรมกาย เสื้อแดง นปช. เพื่อไทย กับการเสวนาที่ดำเนินการมาแล้ว 3 ครั้งและกำลังจะมีครั้งที่ 4

ภายใต้งานร่วมเสวนา แนวทางการปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทย ณ ห้องประชุม อาคารอาจ อาสภมหาเถระ วัดธาตุ(พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น วันพฤหัสบดี ที่ 16 สิงหาคม 2561 เวลา 13.00 น. โดยสมาคมสื่อมวลชนพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมไทยแห่งชาติ (สพวช)

ในวงเสวนาไม่เห็นด้วยกับมาตรา 12 ของพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับใหม่ โดยมองว่าอาจขัดกับมาตรา 5 และมาตรา 7 ในพระราชบัญญัติฉบับเดิมและเตรียมที่จะยื่นเรื่องขอให้มีการแก้ไข รวมทั้งความเห็นของผู้เข้าร่วมเสวนาที่มองว่าผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาไม่ควรเป็นเลขาในมหาเถรสมาคม

นอกจากนี้ยังได้ให้คำแนะนำพระภิกษุตามวัดต่าง ๆ ว่า หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาดำเนินคดี ต้องให้ทนายความมาเป็นผู้ดำเนินการแทน หากติดขัดเรื่องทนายทางคณะจัดงานมีทีมทนายพร้อมเข้าไปให้ความช่วยเหลือ

ไม่แปลกสายการเมืองโดดหนุน

กลุ่มนี้เคลื่อนไหวมาตั้งแต่เรื่องเงินทอนวัดในช่วงแรกที่พันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เข้ามาตรวจสอบ ขณะนั้นมีพระผู้ใหญ่บางรูปร่วมออกหน้า แต่ช่วงหลังปล่อยให้กลุ่มนี้มาเคลื่อนไหวเต็มตัว เพราะการดำเนินคดีเรื่องเงินทอนวัดรวมถึงการใช้เงินงบประมาณผิดวัตถุประสงค์ทำให้พระชั้นพรหม 3 รูปถูกดำเนินคดีและอาจโยงไปถึงพระชั้นสมเด็จได้หากข้อมูลเชื่อมถึง

หรือก่อนหน้านั้นการแก้ไขมาตรา 7 พ.ร.บ.สงฆ์ ส่งผลให้สมเด็จช่วง วัดปากน้ำ ไม่ได้ขึ้นตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช และการแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ครั้งล่าสุด ตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนและเจ้าคณะภาค ที่เคยผูกขาดกันมาตลอด ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ทำให้อำนาจที่พระผู้ใหญ่เคยมีอยู่นั้นหายไป

พระผู้ใหญ่ชั้นปกครองนั้นในอีกด้านหนึ่งมีความสำคัญต่อการเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่น้อย ไม่เช่นนั้นนายใหญ่จากพรรคเพื่อไทยคงไม่เข้าไปทำบุญที่บางวัดซึ่งมีฐานลูกศิษย์มากว่า 10 ล้านคน และวัดดังกลางกรุงที่ถูกดำเนินคดีไปคนของพรรคเพื่อไทยก็ไปร่วมบุญกับวัดแห่งนี้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นเราจึงได้เห็นฆราวาสของสายพระผู้ใหญ่ สายธรรมกายและสายการเมืองจากพรรคเพื่อไทยเข้าไปร่วมขับเคลื่อนการเสวนาเรื่องพระสงฆ์แทบทุกครั้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น