แม่ชีทศพรทิ้งอาณาจักรพระแม่ธรณีองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แห่งสวนทุเรียนแลนด์ จันทบุรี มุ่งหน้าคอร์สปฏิบัติธรรมที่บ้านเพชรบำเพ็ญ จนสวนทุเรียนต้องปรับแผนจากศูนย์ปฏิบัติธรรมเป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์และสร้างที่พักดึงนักท่องเที่ยว เหตุหลักสถานการณ์วัดพิชัยญาติไม่ดี พระราชรัตนมุนี เลขาเจ้าคณะใหญ่หนกลางถูกดำเนินคดี หวั่นลามถึงสมเด็จฯ แถมพ.ร.บ.สงฆ์ใหม่ล้างมหาเถรสมาคมและเจ้าคณะใหญ่ทุกหน ไม่เหลืออำนาจปกป้อง
“ขอเชิญชวนกราบไหว้แม่พระธรณีเพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต ณ สวนทุเรียนแลนด์ ตำบลมะขาม จังหวัดจันทบุรี ขอเรียนเชิญทุกท่านนะคะ เริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมถึง 15 เมษายน 2561 นะคะ” คำเชิญจากเฟซบุ๊ก บ้านเพชรบำเพ็ญ หลังจากที่สวนทุเรียนแห่งนี้ได้มีการก่อสร้างองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผม องค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยแม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ ผู้โด่งดังจากการแก้ปัญหาชีวิตด้วยการสแกนกรรม จากวัดพิชยญาติการาม
สวนทุเรียนเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ ต้นทุเรียนกว่า 15,000 ต้น กลายเป็น Land Mark ใหม่ของเมืองจันทบุรีขึ้นมาทันที เพื่อมากราบไหว้พระแม่ธรณีองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการถวายผลไม้ น้ำดื่ม แผ่นทอง และดิน เพื่อบูชา โดยทีมงานแม่ชีทศพรได้จัดเตรียมเครื่องบูชาเหล่านี้ไว้อำนวยความสะดวกตั้งแต่ชุดละ 99-499 บาท ไม่รวมค่ารถรับส่งไปกลับท่านละ 40 บาท
“คุณแม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ อยู่ทุกวันนะคะ (เว้นวันพระ วันโกน) เรียนเชิญที่สวนทุเรียนแลนด์นะคะ คุณแม่อยู่ช่วง 7.00 น. นะคะ เพื่อนำถวายผลไม้ ท่านใดอยากร่วมถวายผลไม้ร่วมกับคุณแม่ ขอเชิญในเวลาดังกล่าวนะคะ”
บางวันมีการถวายผลไม้แม่พระธรณีถึง 1,000 ชุด สำหรับผลไม้ที่ใช้บูชาเมื่อทำพิธีลาแล้ว ทางแม่ชีทศพรได้นำไปมอบให้กับสถานที่ต่าง ๆ เช่นตามโรงพยาบาลและเรือนจำ ค่ายทหาร สถานสงเคราะห์คนชรา ฯลฯ โดยรายได้จากการบูชาพระแม่ธรณีในครั้งนี้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว บางส่วนจะนำไปสร้างสาธารณกุศล
สถานที่ดังกล่าวมีการวางเป้าหมายไว้เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมในอนาคต
แม่ชีติดคอร์สปฎิบัติธรรม
ขณะเดียวกันฐานที่มั่นของแม่ชีทศพร ที่บ้านเพชรบำเพ็ญ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ได้จัดกิจกรรมคอร์สปฏิบัติธรรมต่าง ๆ โดยนิมนต์พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา มาปฎิบัติธรรมเจริญกรรมฐาน ตามแนวสติปัฎฐานสี่ ณ บ้านเพชรบำเพ็ญ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2561
ท่านใดสามารถปฎิบัติจนผ่านการคัดเลือก ตามความเห็นของวิปัสสนาจารย์ว่าสอบผ่าน บ้านเพชรบำเพ็ญและคณะเจ้าภาพมีศรัทธาพาทุกท่านที่ผ่านการคัดเลือก เดินทางไปกราบสังเวชนียสถาน 4 ตำบล เพื่อถวายปฎิบัติบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดีย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เมื่อบ้านเพชรบำเพ็ญมีกิจกรรมดังกล่าว แม่ชีทศพรจึงทุ่มเวลาไปยังกิจกรรมดังกล่าว ไม่ได้ทำหน้าที่รับแขกที่สวนทุเรียนแลนด์จันทบุรี เหมือนในช่วง 1-2 เดือนแรกที่มีการเปิดตัว
“แม่ชีท่านติดงานคอร์สปฏิบัติธรรมของท่าน ถ้าท่านว่างท่านก็จะแวะมา” เจ้าหน้าที่สวนทุเรียนแลนด์กล่าว แต่จากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบว่าแม่ชีทศพรกลับไปที่สวนทุเรียนดังกล่าว
สวนทุเรียนแลนด์ปรับเป็นแอดเวนเจอร์
การห่างหายไปของแม่ชีทศพรราว 4 เดือน พบว่า ขณะนี้สวนทุเรียนแลนด์ จันทบุรี ได้มีกิจกรรมสันทนาการเปิดรับนักท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อสวนทุเรียนแลนด์ แอดเวนเจอร์ พาร์ค จันทบุรี ด้วยฐานกิจกรรมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
“ใครที่ผ่านมาเที่ยวระยอง จันทบุรี ตราด อย่าลืมแวะมาเที่ยวสวนทุเรียนแลนด์กันได้นะคะ ฐานกิจกรรมแอดเวนเจอร์ของเรายังรอผู้กล้าเข้ามาประลองความมันส์ เปิดทุกวันค่ะ 8.00-18.00 ( รอบสุดท้าย 16.00น )”
คอร์สกิจกรรมในราคาโปรโมชั่นถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เริ่มที่ 390-890 บาท ราคานี้รวมรถรางและเครื่องดื่มผลไม้ทานเล่น นอกจากนี้ในกลางเดือนสิงหาคมนี้ทางสวนทุเรียนแลนด์ จะมีห้องพักพร้อมให้บริการ ซึ่งการก่อสร้างเหลือเพียงการติดตั้งระบบไฟฟ้าเท่านั้น
เป็นอันว่าอาณาจักรใหม่ของแม่ชีทศพร ที่เคยวางไว้ให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมและมีสิ่งเคารพบูชาอย่างพระแม่ธรณีองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และหลวงพ่อสมปรารถนาองค์จำลอง จากวัดพิชยญาติการาม มาวันนี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ไปเรียบร้อยแล้ว
สร้างรายได้หลักแสนต่อวัน
ตอนที่แม่ชีทศพรยังเป็นโต้โผหลักที่สวนทุเรียนแลนด์นั้น มีรายได้หลักจากการจำหน่ายชุดสักการะพระแม่ธรณีในแต่ละวันน่าจะอยู่ที่หลักแสนบาท และยังมีการเปิดบัญชีโอนเงินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ไม่ว่างมาสักการะ 300 บาทต่อชุด เมื่อแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้ศรัทธาหายไปยอดคนเข้าไปบูชาย่อมลดลงตามไปด้วย
สวนทุเรียน 1,200 ไร่จึงถูกปรับเปลี่ยนเป็นฐานกิจกรรมสำหรับสันทนาการ เพื่อสร้างรายได้ทดแทนรายได้ที่ขาดหายไป และกลางเดือนสิงหาคมนี้ทางฝ่ายบริหารสวนทุเรียนแลนด์ก็จะเปิดบริการที่พักบริการกับผู้ที่สนใจ นอกเหนือจากลูกค้าทั่วไปแล้วยังมีกลุ่มลูกค้าข้าราชการบางส่วนที่เข้าไปทำกิจกรรมในสวนทุเรียนแลนด์แห่งนี้
ที่จริงก็เป็นเรื่องของการบริหาร เมื่อโพรดักส์หนึ่งไม่ได้รับการสานต่อจะด้วยเหตุใดก็ตาม ก็ต้องหาโพรดักส์ตัวอื่นมา เพื่อสร้างรายได้ทดแทน ไม่เช่นนั้นก็จะเหลือเพียงรายได้จากผลผลิตของทุเรียนเท่านั้น
แม่ชีลบภาพพระแม่ธรณี
ดูเหมือนแม่ชีทศพร ในเวลานี้คงมุ่งไปที่กิจกรรมด้านปฏิบัติธรรมมากกว่า เพราะถือว่าไม่ถูกเพ่งเล็งจากสังคมมากนัก หลังจากที่มีคำสั่งของเจ้าคณะใหญ่ทุกหนเมื่อ ปลายเดือนกันยายน 2560 หนึ่งในนั้นคือเจ้าคณะใหญ่หนกลาง คือสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ซึ่งถือว่าเป็นเจ้านายสายตรงของแม่ชีทศพร
ด้านหนึ่งงานสร้างพระแม่ธรณีเริ่มตั้งแต่ปี 2559 กว่าจะแล้วเสร็จก็เข้าต้นปี 2561 คำสั่งของพระปกครองออกกันยายน 2560 แม้จะดูขัดคำสั่งไปบ้าง แต่คงต้องดันกันจนทำพิธีเปิดได้ในต้นปี 2561 เพราะหากพับโครงการดังกล่าวไป ย่อมกระทบต่อผู้จัดสร้างไม่น้อย ไม่ต่างไปจากแนวทางของการทำธุรกิจทั่วไป เมื่อทุกอย่างเดินต่อไปได้ แม่ชีทศพรก็ถอยออกมาจากสวนทุเรียน แล้วหันมาทำกิจกรรมด้านอบรมปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกเพ่งเล็ง
เมื่อตรวจสอบเฟสบุ๊กบ้านเพชรบำเพ็ญ ที่เคยเป็นแกนหลักในการโพสต์กิจกรรมบูชาพระแม่ธรณี สวนทุเรียนแลนด์ในแต่ละวัน กลับไม่พบภาพกิจกรรมที่เคยโพสต์ไว้ทั้งหมด เหลือเพียงแค่โพสต์เลขพัสดุไปรณีย์ที่ส่งดินให้กับผู้บริจาคผ่านทางบัญชีแม่ชีทศพรอยู่บ้างจนถึงเดือนมิถุนายน 2561
การลบโพสต์กิจกรรมที่แม่ชีทศพรเป็นผู้นำสวดถวายผลไม้บูชาพระแม่ธรณีในทุกเช้า สะท้อนให้เห็นว่าแม่ชีต้องการลดปัญหาที่อาจตามมา หลังจากที่สถานการณ์ของคณะสงฆ์อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ว่าจะมีสายสนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่างวัดพิชัยญาติการาม
มรสุมใหญ่วัดพิชัยญาติ
แต่การที่พระราชรัตนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ถูกกล่าวโทษในคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 2 ช่วงเดือนกันยายน 2560 และได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2561 และถูกออกหมายเรียกเมื่อ 20 กรกฎาคม 2561
อีกทั้งเมื่อ 11 เมษายน 2561 พันตำรวจโทพงศ์พร พราหม์เสน่ห์ ได้เข้าไปยื่นร้องทุกข์ต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) กล่าวโทษต่อพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ในคดีทุจริตเงินทอนวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ในข้อหากระทำความผิดอาญาคดี ทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม
จนนำมาซึ่งการจับกุมพระชั้นพรหมในกรรมการมหาเถรสมาคมเมื่อ 24 พฤษภาคม 2561 โดยมีพระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ เพียงรูปเดียวที่หลบหนีไปประเทศเยอรมัน
เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้คดีเงินทอนวัดของพระราชรัตนมุนีนั้น ท่านเป็นเลขาเจ้าคณะใหญ่หนกลางที่คุมวัดในพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด งบประมาณที่รัฐจัดสรรมาเพื่ออุดหนุนทำนุบำรุงวัดต่าง ๆ ในเขตภาคกลาง ย่อมต้องผ่านการคัดกรองจากเลขาก่อนส่งเรื่องให้เจ้าคณะใหญ่เป็นผู้อนุมัติ และมีความสุ่มเสี่ยงที่คดีความอาจจะเชื่อมโยงไปถึงเจ้าคณะใหญ่หนกลาง
ประกอบกับพระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ 2561 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 18 กรกฎาคม 2561 เนื้อหาหลักคือการนับหนึ่งใหม่ของมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาค จึงเป็นความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นต่อสายที่ขึ้นตรงกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางแห่งวัดพิชัยญาติ เพราะโอกาสกลับมาครองตำแหน่งปกครองสงฆ์เหมือนเดิมจะมีหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ ดังนั้นกิจกรรมหรือพิธีกรรมใดที่สุ่มเสี่ยงจึงต้องเว้นไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
รอบนี้นับเป็นการรื้อระบบคณะสงฆ์ชั้นปกครองเดิม ที่ปฎิบัติกันมานาน จนเกิดข้อครหาต่าง ๆ มากมายจนกลายเป็นระบบอุปถัมภ์ วางตำแหน่งสืบทอดทายาททางการปกครอง รวมถึงเรื่องของการจัดสรรผลประโยชน์ต่าง ๆ จากงบประมาณของรัฐที่เข้าไปสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนา ที่กระจุกตัวเฉพาะวัดในสังกัดของพระปกครอง และยังมีเรื่องของการเลื่อนยศ แต่งตั้งหรือปลดพระใต้ปกครองและส่งพระในสังกัดของตัวเองเข้าไปทำหน้าที่แทน อีกทั้งยังปกป้องบางวัดเป็นพิเศษแม้จะมีการฝ่าฝืนคำสั่งของพระปกครองหรือคดีความต่าง ๆ
นาทีนี้อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่ทุกหนและเจ้าคณะภาค ต่างวางตัวเงียบรอดูสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า
“ขอเชิญชวนกราบไหว้แม่พระธรณีเพื่อความเป็นมงคลแก่ชีวิต ณ สวนทุเรียนแลนด์ ตำบลมะขาม จังหวัดจันทบุรี ขอเรียนเชิญทุกท่านนะคะ เริ่มเปิดตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมถึง 15 เมษายน 2561 นะคะ” คำเชิญจากเฟซบุ๊ก บ้านเพชรบำเพ็ญ หลังจากที่สวนทุเรียนแห่งนี้ได้มีการก่อสร้างองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผม องค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยแม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ ผู้โด่งดังจากการแก้ปัญหาชีวิตด้วยการสแกนกรรม จากวัดพิชยญาติการาม
สวนทุเรียนเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ ต้นทุเรียนกว่า 15,000 ต้น กลายเป็น Land Mark ใหม่ของเมืองจันทบุรีขึ้นมาทันที เพื่อมากราบไหว้พระแม่ธรณีองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการถวายผลไม้ น้ำดื่ม แผ่นทอง และดิน เพื่อบูชา โดยทีมงานแม่ชีทศพรได้จัดเตรียมเครื่องบูชาเหล่านี้ไว้อำนวยความสะดวกตั้งแต่ชุดละ 99-499 บาท ไม่รวมค่ารถรับส่งไปกลับท่านละ 40 บาท
“คุณแม่ชีทศพร วชิระบำเพ็ญ อยู่ทุกวันนะคะ (เว้นวันพระ วันโกน) เรียนเชิญที่สวนทุเรียนแลนด์นะคะ คุณแม่อยู่ช่วง 7.00 น. นะคะ เพื่อนำถวายผลไม้ ท่านใดอยากร่วมถวายผลไม้ร่วมกับคุณแม่ ขอเชิญในเวลาดังกล่าวนะคะ”
บางวันมีการถวายผลไม้แม่พระธรณีถึง 1,000 ชุด สำหรับผลไม้ที่ใช้บูชาเมื่อทำพิธีลาแล้ว ทางแม่ชีทศพรได้นำไปมอบให้กับสถานที่ต่าง ๆ เช่นตามโรงพยาบาลและเรือนจำ ค่ายทหาร สถานสงเคราะห์คนชรา ฯลฯ โดยรายได้จากการบูชาพระแม่ธรณีในครั้งนี้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว บางส่วนจะนำไปสร้างสาธารณกุศล
สถานที่ดังกล่าวมีการวางเป้าหมายไว้เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมในอนาคต
แม่ชีติดคอร์สปฎิบัติธรรม
ขณะเดียวกันฐานที่มั่นของแม่ชีทศพร ที่บ้านเพชรบำเพ็ญ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ได้จัดกิจกรรมคอร์สปฏิบัติธรรมต่าง ๆ โดยนิมนต์พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา มาปฎิบัติธรรมเจริญกรรมฐาน ตามแนวสติปัฎฐานสี่ ณ บ้านเพชรบำเพ็ญ ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2561
ท่านใดสามารถปฎิบัติจนผ่านการคัดเลือก ตามความเห็นของวิปัสสนาจารย์ว่าสอบผ่าน บ้านเพชรบำเพ็ญและคณะเจ้าภาพมีศรัทธาพาทุกท่านที่ผ่านการคัดเลือก เดินทางไปกราบสังเวชนียสถาน 4 ตำบล เพื่อถวายปฎิบัติบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดีย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
เมื่อบ้านเพชรบำเพ็ญมีกิจกรรมดังกล่าว แม่ชีทศพรจึงทุ่มเวลาไปยังกิจกรรมดังกล่าว ไม่ได้ทำหน้าที่รับแขกที่สวนทุเรียนแลนด์จันทบุรี เหมือนในช่วง 1-2 เดือนแรกที่มีการเปิดตัว
“แม่ชีท่านติดงานคอร์สปฏิบัติธรรมของท่าน ถ้าท่านว่างท่านก็จะแวะมา” เจ้าหน้าที่สวนทุเรียนแลนด์กล่าว แต่จากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบว่าแม่ชีทศพรกลับไปที่สวนทุเรียนดังกล่าว
สวนทุเรียนแลนด์ปรับเป็นแอดเวนเจอร์
การห่างหายไปของแม่ชีทศพรราว 4 เดือน พบว่า ขณะนี้สวนทุเรียนแลนด์ จันทบุรี ได้มีกิจกรรมสันทนาการเปิดรับนักท่องเที่ยว ภายใต้ชื่อสวนทุเรียนแลนด์ แอดเวนเจอร์ พาร์ค จันทบุรี ด้วยฐานกิจกรรมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
“ใครที่ผ่านมาเที่ยวระยอง จันทบุรี ตราด อย่าลืมแวะมาเที่ยวสวนทุเรียนแลนด์กันได้นะคะ ฐานกิจกรรมแอดเวนเจอร์ของเรายังรอผู้กล้าเข้ามาประลองความมันส์ เปิดทุกวันค่ะ 8.00-18.00 ( รอบสุดท้าย 16.00น )”
คอร์สกิจกรรมในราคาโปรโมชั่นถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เริ่มที่ 390-890 บาท ราคานี้รวมรถรางและเครื่องดื่มผลไม้ทานเล่น นอกจากนี้ในกลางเดือนสิงหาคมนี้ทางสวนทุเรียนแลนด์ จะมีห้องพักพร้อมให้บริการ ซึ่งการก่อสร้างเหลือเพียงการติดตั้งระบบไฟฟ้าเท่านั้น
เป็นอันว่าอาณาจักรใหม่ของแม่ชีทศพร ที่เคยวางไว้ให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมและมีสิ่งเคารพบูชาอย่างพระแม่ธรณีองค์ใหญ่ที่สุดในโลก และหลวงพ่อสมปรารถนาองค์จำลอง จากวัดพิชยญาติการาม มาวันนี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ไปเรียบร้อยแล้ว
สร้างรายได้หลักแสนต่อวัน
ตอนที่แม่ชีทศพรยังเป็นโต้โผหลักที่สวนทุเรียนแลนด์นั้น มีรายได้หลักจากการจำหน่ายชุดสักการะพระแม่ธรณีในแต่ละวันน่าจะอยู่ที่หลักแสนบาท และยังมีการเปิดบัญชีโอนเงินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ไม่ว่างมาสักการะ 300 บาทต่อชุด เมื่อแม่เหล็กที่ดึงดูดผู้ศรัทธาหายไปยอดคนเข้าไปบูชาย่อมลดลงตามไปด้วย
สวนทุเรียน 1,200 ไร่จึงถูกปรับเปลี่ยนเป็นฐานกิจกรรมสำหรับสันทนาการ เพื่อสร้างรายได้ทดแทนรายได้ที่ขาดหายไป และกลางเดือนสิงหาคมนี้ทางฝ่ายบริหารสวนทุเรียนแลนด์ก็จะเปิดบริการที่พักบริการกับผู้ที่สนใจ นอกเหนือจากลูกค้าทั่วไปแล้วยังมีกลุ่มลูกค้าข้าราชการบางส่วนที่เข้าไปทำกิจกรรมในสวนทุเรียนแลนด์แห่งนี้
ที่จริงก็เป็นเรื่องของการบริหาร เมื่อโพรดักส์หนึ่งไม่ได้รับการสานต่อจะด้วยเหตุใดก็ตาม ก็ต้องหาโพรดักส์ตัวอื่นมา เพื่อสร้างรายได้ทดแทน ไม่เช่นนั้นก็จะเหลือเพียงรายได้จากผลผลิตของทุเรียนเท่านั้น
แม่ชีลบภาพพระแม่ธรณี
ดูเหมือนแม่ชีทศพร ในเวลานี้คงมุ่งไปที่กิจกรรมด้านปฏิบัติธรรมมากกว่า เพราะถือว่าไม่ถูกเพ่งเล็งจากสังคมมากนัก หลังจากที่มีคำสั่งของเจ้าคณะใหญ่ทุกหนเมื่อ ปลายเดือนกันยายน 2560 หนึ่งในนั้นคือเจ้าคณะใหญ่หนกลาง คือสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ซึ่งถือว่าเป็นเจ้านายสายตรงของแม่ชีทศพร
ด้านหนึ่งงานสร้างพระแม่ธรณีเริ่มตั้งแต่ปี 2559 กว่าจะแล้วเสร็จก็เข้าต้นปี 2561 คำสั่งของพระปกครองออกกันยายน 2560 แม้จะดูขัดคำสั่งไปบ้าง แต่คงต้องดันกันจนทำพิธีเปิดได้ในต้นปี 2561 เพราะหากพับโครงการดังกล่าวไป ย่อมกระทบต่อผู้จัดสร้างไม่น้อย ไม่ต่างไปจากแนวทางของการทำธุรกิจทั่วไป เมื่อทุกอย่างเดินต่อไปได้ แม่ชีทศพรก็ถอยออกมาจากสวนทุเรียน แล้วหันมาทำกิจกรรมด้านอบรมปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกเพ่งเล็ง
เมื่อตรวจสอบเฟสบุ๊กบ้านเพชรบำเพ็ญ ที่เคยเป็นแกนหลักในการโพสต์กิจกรรมบูชาพระแม่ธรณี สวนทุเรียนแลนด์ในแต่ละวัน กลับไม่พบภาพกิจกรรมที่เคยโพสต์ไว้ทั้งหมด เหลือเพียงแค่โพสต์เลขพัสดุไปรณีย์ที่ส่งดินให้กับผู้บริจาคผ่านทางบัญชีแม่ชีทศพรอยู่บ้างจนถึงเดือนมิถุนายน 2561
การลบโพสต์กิจกรรมที่แม่ชีทศพรเป็นผู้นำสวดถวายผลไม้บูชาพระแม่ธรณีในทุกเช้า สะท้อนให้เห็นว่าแม่ชีต้องการลดปัญหาที่อาจตามมา หลังจากที่สถานการณ์ของคณะสงฆ์อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ว่าจะมีสายสนับสนุนที่แข็งแกร่งอย่างวัดพิชัยญาติการาม
มรสุมใหญ่วัดพิชัยญาติ
แต่การที่พระราชรัตนมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ถูกกล่าวโทษในคดีเงินทอนวัดล็อตที่ 2 ช่วงเดือนกันยายน 2560 และได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2561 และถูกออกหมายเรียกเมื่อ 20 กรกฎาคม 2561
อีกทั้งเมื่อ 11 เมษายน 2561 พันตำรวจโทพงศ์พร พราหม์เสน่ห์ ได้เข้าไปยื่นร้องทุกข์ต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) กล่าวโทษต่อพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ในคดีทุจริตเงินทอนวัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร พระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. พระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 พระเมธีสุทธิกร (สังคม ญาณวฑฺฒโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และพระวิจิตรธรรมาภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ในข้อหากระทำความผิดอาญาคดี ทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม
จนนำมาซึ่งการจับกุมพระชั้นพรหมในกรรมการมหาเถรสมาคมเมื่อ 24 พฤษภาคม 2561 โดยมีพระพรหมเมธี วัดสัมพันธวงศ์ เพียงรูปเดียวที่หลบหนีไปประเทศเยอรมัน
เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้คดีเงินทอนวัดของพระราชรัตนมุนีนั้น ท่านเป็นเลขาเจ้าคณะใหญ่หนกลางที่คุมวัดในพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด งบประมาณที่รัฐจัดสรรมาเพื่ออุดหนุนทำนุบำรุงวัดต่าง ๆ ในเขตภาคกลาง ย่อมต้องผ่านการคัดกรองจากเลขาก่อนส่งเรื่องให้เจ้าคณะใหญ่เป็นผู้อนุมัติ และมีความสุ่มเสี่ยงที่คดีความอาจจะเชื่อมโยงไปถึงเจ้าคณะใหญ่หนกลาง
ประกอบกับพระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ 2561 ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 18 กรกฎาคม 2561 เนื้อหาหลักคือการนับหนึ่งใหม่ของมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาค จึงเป็นความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นต่อสายที่ขึ้นตรงกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางแห่งวัดพิชัยญาติ เพราะโอกาสกลับมาครองตำแหน่งปกครองสงฆ์เหมือนเดิมจะมีหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ ดังนั้นกิจกรรมหรือพิธีกรรมใดที่สุ่มเสี่ยงจึงต้องเว้นไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
รอบนี้นับเป็นการรื้อระบบคณะสงฆ์ชั้นปกครองเดิม ที่ปฎิบัติกันมานาน จนเกิดข้อครหาต่าง ๆ มากมายจนกลายเป็นระบบอุปถัมภ์ วางตำแหน่งสืบทอดทายาททางการปกครอง รวมถึงเรื่องของการจัดสรรผลประโยชน์ต่าง ๆ จากงบประมาณของรัฐที่เข้าไปสนับสนุนกิจการพระพุทธศาสนา ที่กระจุกตัวเฉพาะวัดในสังกัดของพระปกครอง และยังมีเรื่องของการเลื่อนยศ แต่งตั้งหรือปลดพระใต้ปกครองและส่งพระในสังกัดของตัวเองเข้าไปทำหน้าที่แทน อีกทั้งยังปกป้องบางวัดเป็นพิเศษแม้จะมีการฝ่าฝืนคำสั่งของพระปกครองหรือคดีความต่าง ๆ
นาทีนี้อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่ทุกหนและเจ้าคณะภาค ต่างวางตัวเงียบรอดูสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า