จับตาพรรคพลังประชารัฐ อาจมีหัวหน้าพรรคชื่อ 'สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์' ว่ากันว่าสไตล์การบริหารงานไม่ต่างกับ 'หลงจู๊' บรรหาร ศิลปอาชา มีเสี่ย 'สุรชัย ดนัยตั้งตระกูล' นักธุรกิจ -นักการเมืองซึ่งเคยร่วมงานกับ 'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' สมัยอยู่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่วันนี้เป็นประธานบอร์ด ธอส. ดีลงานการเมืองแบบนิ่มๆ เพื่อระดมพลพรรคอุ้ม 'บิ๊กตู่' เป็นนายก ขณะที่ เพื่อไทย-ปชป.มั่นใจ ทุบ 'สมคิด' สำเร็จ รัฐบาลบิ๊กตู่ สั่นคลอนแน่!
'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' ติดลมบนแล้ว!
นั่นเป็นเสียงจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา รวมไปถึงอดีตนักการเมืองสายทหาร ที่มีความเห็นตรงกันถึงปรากฏการณ์ทางการเมืองที่มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านเศรษฐกิจ เป็นคนเปิดสัญญาณให้พรรคการเมืองได้รับรู้ ถึงขนาดคนกลุ่มนี้ต้องเกาะติดว่า นายสมคิด และคนใกล้ชิดกำลังจะทำอะไร อย่างไร เพื่อผลักดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ตีตั๋วผู้นำรัฐบาลหลังเลือกตั้ง
เท่ากับว่านายสมคิด และพรรคพลังประชารัฐ บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
ถึงวันนี้คนกลุ่มนี้ต่างเชื่อว่า นายสมคิด ติดลมบน ด้วยอำนาจ และบารมีในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาประเทศผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกรูปแบบ และโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ใส่ลงไปในแต่ละพื้นที่ทำให้แต่ละกลุ่มต่างก็ได้ประโยชน์ทั่วหน้า
โดยก่อนหน้านี้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลบิ๊กตู่ มักจะถูกโจมตีว่าเป็นการเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ซึ่งจะเน้นไปที่ตลาดหุ้น การส่งออก การท่องเที่ยว หรือเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะโครงการประชารัฐที่ได้มีการเชื้อเชิญให้นายทุนระดับชาติเป็นผู้ขับเคลื่อน หรือกรณีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ซึงมีวงเงินช่วยเหลือในการดำรงชีพ จำนวน 300 บาท แต่บังคับให้ใช้ได้เฉพาะร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่มีอยู่จำนวนน้อย แทนที่จะเป็นการช่วยเหลือให้คนยากจนได้ใช้เงินเต็มจำนวนที่รัฐให้ กลับต้องแบ่งส่วนหนึ่งประมาณ 60 บาท เพื่อใช้เป็นค่าเหมารถไปใช้บริการยังร้านค้าที่รับบัตรเท่านั้น
รวมถึงโครงการการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่ส่งผลให้ราคาที่ดินภาคตะวันออกสูงขึ้นและคนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดก็เป็นนายทุนที่มีการเข้าไปกว้านซื้อไว้ก่อนที่จะมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเกิดขึ้น ขณะที่พืชผลการเกษตร คนชั้นกลาง ภาคแรงงาน และคนรากหญ้า กลับต้องประสบปัญหาอย่างรุนแรง
ประเด็นต่าง ๆ ที่ถูกโจมตีนั้น เป็นเรื่องที่ นายสมคิด ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเข้าใจเป็นอย่างดี จึงรีบออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยกลุ่มคนระดับกลาง และรากหญ้า ว่ากันว่า ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญทั้งตลาดเงินและตลาดทุน ซึ่งเป็นทีมมันสมองที่สำคัญของ นายสมคิด เป็นผู้มีบทบาทในการปรับยุทธศาสตร์กันใหม่
“งบประมาณ และโครงการต่าง ๆ ได้ถูกผลักดันให้เข้าไปช่วยกลุ่มธุรกิจ SME ทุกระดับ ผ่านหน่วยงานรัฐ ทั้งกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เอสเอ็มอีกแบงก์ สสว. ธ.ก.ส. ออมสิน กระทรวงพาณิชย์ และอีกหลายหน่วยงานช่วยกันดำเนินการ”
นอกจากนี้ ยังมีโครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลเน้นไปที่กลุ่มรากหญ้า โดยเฉพาะโครงไทยนิยมยั่งยืนที่บิ๊กตู่เป็นผู้นำทีมลงพื้นที่ทั่วประเทศ และหากผลการทำงานเป็นไปตามเป้าหมายก็จะทำให้เศรษฐกิจรากหญ้าขับเคลื่อนได้ และมีผลต่อจีดีพีของประเทศให้ดีขึ้นทันที
อย่างไรก็ดี การที่นายสมคิด เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จได้เท่าไร ยิ่งส่งผลดีเนื่องเพราะประชาชนเกิดความเชื่อมั่น ต่อรัฐบาลบิ๊กตู่ เพราะหากรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องให้แก่กลุ่มรากหญ้าได้แล้วจะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้พรรคการเมืองต่าง ๆ นำไปโจมตี และปลุกระดมได้ง่าย
“เราจะเห็นว่า คนกลุ่มหนึ่งวิ่งหาสมคิด เพราะเป็นศูนย์กลางอำนาจ ที่จะเอื้อประโยชน์ให้ได้ แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งต้องโค่นสมคิดให้ได้ ก็จะโค่นรัฐบาลบิ๊กตู่ได้สำเร็จ ”
จากนั้นก็ปรากฎข่าวการดูดกลุ่ม 16 ในอดีตถูกก่อตัวขึ้นมา ทั้งเรื่องการพบปะกลุ่มบ้านริมน้ำของ นายสุชาติ ตันเจริญ กลุ่มสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กลุ่มชลบุรี ของนายสนธยา คุณปลื้ม กลุ่มสะสมทรัพย์ จากนครปฐม เป็นต้น
รวมไปถึงการออกมาตอกย้ำโดย นายสมคิด เอง ที่ออกมาพูดเรื่องการขับเคลื่อนทางการเมืองเพื่ออุ้ม 'บิ๊กตู่' เป็นนายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง มี ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เป็นหัวหน้าพรรค และมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เป็นเลขาธิการพรรค
ตามด้วยข่าวการแต่งตั้ง นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.หลังเข้าพบ รองนายกฯ สมคิด
และในวันที่ 17 เมษายน ก็ได้มีมติ ครม.เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้แต่งตั้งนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งนายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังชล และอดีตนายกเมืองพัทยา เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
ทั้งเรื่องนายสกลธี และการแต่งตั้ง 2 พี่น้องคุณปลื้ม ก็ล้วนเป็นฝีมือของ นายสมคิด จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่นายสมคิด จะถูกถล่ม!
ขณะเดียวกัน การผุดขึ้นของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่เพิ่งจะมาเริ่มเมื่อ นายสมคิด กล่าวถึง แต่ได้มีการเตรียมการมาเป็นอย่างดี มีการวางรากฐานเหมือนกับการสร้างบ้านที่จะต้องเน้นที่ฐานราก ก่อนที่จะขึ้นตัวบ้านมาถึง 2 ปี และคนที่เป็นตัวจักรสำคัญในการขยับทางการเมือง หรือเปิดดีลทางการเมือง ว่ากันว่าเป็นฝีมือของ นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล อดีตรองหัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งเป็นพี่ชายของ นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล อดีต รมช.คลัง ซึ่งนายสมคิด เป็นผู้เสนอตั้งเป็น ประธานคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (บอร์ด ธอส.) ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน
“สุรชัย กับสมคิด เคยร่วมทำงานในพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา มาด้วยกัน สุรชัย เป็นนักธุรกิจ นักการเมือง นักกฎหมาย เป็นอดีต ส.ว.เป็นอดีตสภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) เขาเก่ง และเชียวชาญด้านการเงิน ตลาดทุน นำหุ้นเข้าตลาดฯ เพื่อนมาก บางคนจะมองว่าเขาเป็นเศรษฐีภูธร คลุกคลีกับกลุ่ม 16 กลุ่มนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ “
ขณะเดียวกัน ในฐานะประธานบอร์ด ธอส. นายสุรชัย ก็ได้มีการผลักดันให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย โดยจับมือกับพันธมิตร ทั้งในส่วนของเอสเอ็มอีแบงก์ ธนาคารต่าง ๆ รวมไปถึงสมาคมด้านที่อยู่อาศัยต่าง ๆ จัดทำโครงการ 'คนไทยมีบ้าน' และ 'โครงการสร้างบ้านสร้างอาชีพ' เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน และสินเขื่อที่อยู่อาศัยในระบบ พร้อมอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระที่ต่ำกว่าในตลาด ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่ ธอส.ดำเนินการอยุ่นั่นก็เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย และสร้างความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลบิ๊กตู่
ดังนั้น แม้นายสุรชัย จะถูกมองว่าเป็นคนสำคัญในการเปิดดีลทางการเมือง แต่คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคก็มีความสำคัญเช่นกัน ว่ากันว่า พรรคพลังประชารัฐ อาจมีหัวหน้าพรรค ที่ชื่อ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ซึ่งคนใกล้ชิดต่างเชื่อกันว่า “สนธิรัตน์' มีสไตล์การทำงานที่เรา ๆ ท่าน ๆ อาจนึกถึง 'หลงจู๊การเมือง' บรรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่สามารถนำพรรคให้ประสบความสำเร็จได้
ภายใต้การปิดดีลต่าง ๆ ต้องขึ้นอยู่กับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือไม่?
