จับตาพรรคภูมิใจไทย กำลังเนื้อหอมก๊วนการเมืองทั้งเก่าและใหม่อยากเข้าสังกัด หลังมีข่าวแพลม ๆ ออกมาว่า ‘บิ๊กตู่’ นั่งเป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ส่วนอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นอันดับ 2 ด้านคนในพรรคยันมีคำสั่งให้สมาชิกทุกคนเหนียวแน่น และมั่นใจในหัวหน้าพรรคที่มีความพร้อมทุกด้านโดยเฉพาะคอนเนกชันบิ๊กกองทัพ รวมไปถึงมีกองหนุนอย่าง ‘เนวิน ชิดชอบ’ ขณะที่ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล บอกไม่แปลกที่ใครก็อยากจับมือกับภูมิใจไทย ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ไม่ถือเป็นนายกฯ คนนอก เพราะ รธน.กำหนดไว้นายกฯ ไม่ต้องเป็นส.ส.ได้
ต้องยอมรับว่าพรรคภูมิใจไทย ที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค กำลังเนื้อหอมและเป็นที่จับตาในฐานะพรรคอันดับที่ 3 ที่จะกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ถึงขนาดสามารถนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
แต่ตรงนั้นไม่สำคัญเท่ากับอะไรคือสิ่งดึงดูดให้บรรดากลุ่มการเมืองต่าง ๆ อยากเข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะมีข่าวกระเส็นกระสายออกมานอกพรรคภูมิใจไทยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 ของพรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นเบอร์ 2 จึงกลายเป็นจุดดึงดูดให้บรรดาพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองต่าง ๆ ขอเข้ามาอยู่พรรคภูมิใจไทย
“พวกเราก็พยายามตรวจสอบกันว่า บิ๊กตู่จะไปอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองใด ถ้าอยู่พรรคใดพรรคนั้นก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบ ซึ่งตอนนี้เรารู้กันมาว่าอยู่ในบัญชีพรรคภูมิใจไทย ส่วนเสี่ยหนู (อนุทิน) ก็กลายเป็นชื่อที่ 2 ซึ่งคนในพรรคหลายคนอาจไม่ค่อยพอใจ แต่เชื่อว่าเสี่ยหนูคุมสถานการณ์ได้ทุกอย่างก็จบ”
ขณะเดียวกันพรรคภูมิใจไทย ก็มีอดีต ส.ส.มากกว่า 25 คนอยู่ในนั้น และแต่ละคนเท่าที่มีการพูดคุยกันทุกคนก็ยังอยู่ในพรรคครบถ้วน ไม่มีใครจะแยกไปไหน และเป้าหมายของพรรคก็คือการเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้งให้ได้
ว่าไปแล้วการที่ปรากฏข่าวลือว่ามีชื่อบิ๊กตู่ในบัญชีพรรคภูมิใจไทย จึงเป็นจุดแข็งที่สุดของพรรคฯ แต่ในความเป็นจริงแล้วจุดแข็งของพรรคอยู่ที่ตัวนายอนุทิน และนายเนวิน ชิดชอบ ที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะทั้ง 2 คนนี้เป็นคนที่มากบารมี ใจถึง พึ่งได้
“ทั้ง 2 คน สามารถเข้าถึงศูนย์กลางอำนาจได้ เขามีความสัมพันธ์กับกองทัพเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะกลุ่มวงศ์เทวัญ หรือบูรพาพยัคฆ์ สามารถพูดคุย ไว้วางใจกันได้ และยุคนี้ใครเข้าถึงทหารได้ก็จะเป็นปัจจัยหนุนที่ดี”
ส่วนในด้านความสัมพันธ์กับบรรดาพรรคการเมือง นายอนุทินจะสามารถประสานได้กับทุกพรรค แต่นายเนวิน จะมีปัญหาในส่วนของนายทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย เพราะเคยสร้างความบาดหมางใจด้วยการยกก๊วนมัชฌิมาธิปไตย และกลุ่มเพื่อนเนวิน จากพรรคไทยรักไทย เข้ามาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายเนวิน เป็นคนสำคัญในการตั้งพรรคนี้ไว้รองรับ จนถึงขนาดที่ นายทักษิณ โจมตีว่านายเนวินเป็นคนเนรคุณหลายต่อหลายครั้ง
แต่ในด้านความสามารถทั้งในการบริหารแล้วลูกพรรคต่างเชื่อมั่น และยอมรับว่านายอนุทิน มีความสามารถเหนือหัวหน้าพรรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน เพราะด้วยประสบการณ์ในการบริหารบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC จากบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดเล็ก ในยุคของ ‘พ่อ’ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล และได้ช่วยนายชวรัตน์ บริหารจากธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องและประสบปัญหาทางการเงินให้สามารถเติบโต จนวันนี้ STEC กลายเป็นบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ที่มีรายได้เป็น 1 ใน 3 ของประเทศ สามารถกวาดงานภาครัฐได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่หลายคนเชื่อว่าเพราะคอนเนกชันทำให้งานนี้ได้ทั้งงบเพิ่มและเดินหน้าได้อย่างสะดวกสบาย
ขณะที่นายเนวิน แม้จะหยุดพักงานการเมืองไปทำธุรกิจ ทั้งด้านกีฬา และสุขภาพ เขาก็สามารถทำให้ ‘ปราสาทสายฟ้า’ สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โด่งดังได้ รวมไปถึงการสร้างสนามแข่งรถ ‘บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต’ พร้อมธุรกิจสุขภาพ สปา จนทำให้เมืองบุรีรัมย์จากเมืองเล็ก ๆ เงียบ ๆ กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ส่งผลให้รายได้ของคนบุรีรัมย์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนประสบการณ์ด้านการเมืองนั้น ทั้งนายอนุทิน และนายเนวิน ต่างก็ผ่านการเป็นรัฐมนตรีมาด้วยกันหลากหลายกระทรวง รวมไปถึงในด้านทุนแล้วเรียกว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่มีด้อยกว่าพรรคการเมืองอื่น ๆ แน่นอน
“หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ย้ำกับสมาชิกทุกคนว่า ตอนนี้ให้อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องไปให้ความเห็นอะไร ขอให้เชื่อมั่นในตัวพรรค หัวหน้า สมาชิกและคอนเนกชันที่เรามีจะนำพาให้พรรคเดินหน้าได้ตามที่กฎหมายกำหนด และจะทำให้กลุ่มการเมืองต่าง ๆ อยากจะเข้ามาเป็นพันธมิตรกับพรรคเราเอง”
อีกทั้งการเมืองไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ทั้งหมดและอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ตลอด จึงอยากให้สมาชิกเหนียวแน่น เพราะอนาคตยังไม่รู้ว่าพรรคไหนจะมีคะแนนนำ และบิ๊กตู่ จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่? แต่มั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทย จะเป็นพันธมิตรกับทุกพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ และวันนี้เราก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตรองนายกรัฐมนตรีและแกนนำกลุ่มวาดะห์ จากพรรคเพื่อไทยก็อาจจะย้ายไปอยู่ที่พรรคภูมิใจไทยเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับภูมิใจไทยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ว่ากันว่าในบางพื้นที่ที่กลุ่มวาดะห์เข้าไม่ถึงจะมีทหารคอยให้การสนับสนุนเช่นกัน ส่วนในจังหวัดสตูล ก็เป็นฐานเสียงของนายเนวิน อยู่แล้ว
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ว่าบางฝ่ายมองว่าพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคภูมิใจไทยซึ่งมีแนวทางการเมืองคล้ายกันอาจจะจับมือกันในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ถ้าดูจากประวัติที่ผ่านมาตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นพรรคชาติไทยจนกระทั่งมาเป็นพรรคชาติไทยพัฒนาจะเห็นว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่ไม่เคยเป็นศัตรูกับใคร เราทำงานร่วมกับทุกพรรคได้หมด ไม่ได้มีข้อแม้เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่าอุดมการณ์การเมืองต่างกันไม่สามารถร่วมงานกัน ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการปลดล็อกทางการเมือง ยังทำอะไรไม่ได้
“ตอนนี้ก็คุยกันทุกพรรค คุยกันว่าทำไม คสช.เป็นอย่างนี้ และพวกเราจะทำยังไง แต่เรายังไม่สามารถบอกได้ว่าชาติไทยพัฒนาจะจับมือกับพรรคการเมืองใด เพราะการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็ยังไม่รู้เลยว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล ขณะที่พรรคเราเองยังไม่รู้จะส่งใครลงเขตไหน และจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง”
สำหรับพรรคภูมิใจไทยซึ่งถูกมองว่าให้การสนับสนุนพรรคการเมืองในสังกัด คสช. นั้น โดยส่วนตัวมองว่าเนื่องจากภูมิใจไทยถือเป็นพรรคอันดับ 3 และมีแนวทางคล้ายชาติไทยพัฒนาคือร่วมงานกับใครก็ได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ไม่ว่าพรรคไหนก็อยากจับมือกับภูมิใจไทย
“เราไม่เชื่อว่าภูมิใจไทยจะสนับสนุนนายกฯ คนนอก เพราะพรรคภูมิใจไทยมีนายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรคจะไปเสนอคนอื่นเป็นนายกฯ ได้อย่างไร ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนาเองถ้าเราตอบตกลงกับใครแล้วก็จะไม่บิดพลิ้ว แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพรรคไหนจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ดังนั้นวันนี้ยังไกลเกินกว่าจะพูดเรื่องนี้
อีกทั้งในการเลือกตั้งครั้งหน้าแต่ละพรรคสามารถเสนอชื่อนายกฯ ได้ 3 คน ซึ่งหาก คสช.เข้าสู่สนามการเมืองโดยการลงเลือกตั้งแล้วเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ก็ไม่ถือว่าเป็นนายกฯ คนนอก เพราะรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุว่า นายกฯ ไม่ต้องเป็น ส.ส.ก็ได้"
