xs
xsm
sm
md
lg

ธรรมยาตราฉลุย สบช่องรัฐบาลขาลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธรรมกายเดินเครื่องยาตราทัพ ทางสงฆ์ไร้ปัญหาเสียงข้างมากในมหาเถรสมาคมไฟเขียว สายหนุนวัดปากน้ำยังเหนียวแน่น แถมสมเด็จช่วง ออกงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 สอดรับ “รักษ์ศีล 5” ของวัดพระธรรมกาย ขณะที่ ผอ.สำนักพุทธฯ เปลี่ยนสไตล์หันมาทำงานร่วมกับพระผู้ใหญ่ แถมรัฐบาลกำลังขาลงมุ่งเรื่องเลือกตั้ง ชี้ธรรมกายฟื้นเต็มรูปแบบกุมชะตาการเลือกตั้งได้ทันที

นาทีนี้กิจกรรมธรรมยาตราเริ่มขึ้นแล้ว และเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของวัดพระธรรมกายที่ต้องจัดขึ้นทุกปี เว้นเพียงปี 2560 ที่ว่างเว้นไปจากสถานการณ์ที่พระธัมมชโย เจ้าอาวาสในขณะนั้นถูกดำเนินคดี เมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปโดยที่ทางการไม่สามารถนำพระธัมมชโยมาดำเนินคดีได้ ทางวัดพระธรรมกายได้เร่งฟื้นความศรัทธาโดยได้พระทัตตชีโวขึ้นเป็นผู้นำ ส่วนเจ้าอาวาสรูปใหม่เป็นเพียงพระอาวุโสในวัดเท่านั้น

บัดนี้แม้จะไม่ใช้คำว่าธุดงค์ธรรมยาตรา หรือธุดงค์ธรรมชัย มีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นธรรมยาตรา ด้วยการนำพระขึ้นรถยนต์ไปและเดินเพียงระยะสั้น ๆ หรือเดินภายในอนุสรณ์สถานของหลวงปู่สดตามพื้นที่ต่าง ๆ แต่นั่นคือเครื่องบ่งบอกว่าธรรมกายได้กลับขึ้นมายืนบนความมั่นคงได้อีกครั้ง

แม้ศรัทธาที่เคยหายไปทั้งที่ไม่มีผู้นำอย่างพระธัมมชโย หรือข่าวคดีความต่าง ๆ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากที่จะฟื้นศรัทธา ตราบใดที่คนไทยยังทำบุญแบบหวังผลตอบแทน

“โครงการธรรมยาตรา เส้นทางพระผู้ปราบมาร ปีที่ 6 รักษ์บวร รักษ์ศีล 5 เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชาและบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา พุทธศักราช 2561” ระหว่าง 2-31 มีนาคม 2561 บนเส้นทางธรรมยาตราในพื้นที่ 6 จังหวัดได้แก่ สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร

ปีนี้จัดเป็นพิเศษให้กับพี่น้องชาวพม่าที่มาทำงานในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่นอกเหนืออนุสรณ์สถานของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ถือเป็นแขกพิเศษของทางวัด ก่อนหน้านี้มีการเปิดรอบให้ชาวพม่าเข้ามาทำบุญครั้งใหญ่ที่วัดพระธรรมกาย และยังมีกิจกรรมงานบุญข้ามประเทศไปยังประเทศพม่า
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานอำนวยการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เดินทางมาให้กำลังใจคณะทำงาน (ภาพ:วัดไร่ขิง พระอารามหลวง)
กุมเสียงข้างมากในมหาเถรสมาคม

ปีนี้เป็นการฉลองครบ 48 ปีวัดพระธรรมกาย โครงการธรรมยาตราของวัดพระธรรมกายคงผ่านฉลุย ด้วยดุลอำนาจของวัดพระธรรมกายที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เสียงข้างมากในมหาเถรสมาคมเฉพาะพระชั้นระดับสมเด็จที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่งมีถึง 7 เสียง มีเพียง 3 เสียงที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกับวัดพระธรรมกาย ส่วนกรรมการที่มาจากการแต่งตั้งอีก 10 รูป ต่างเทน้ำหนักไปใน 7 เสียงของกรรมการโดยตำแหน่ง ดังนั้นเมื่อโหวตครั้งใดก็แพ้ทุกครั้ง

แม้สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์หรือสมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ จะไม่ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช แต่ยังกุมเสียงข้างมากในมหาเถรสมาคมไว้ตามเดิม ทั้งสายสระเกศ พิชยญาติฯ ไตรมิตร สัมพันธวงศ์ เทพศิรินทร์ ฯลฯ ยิ่งทางวัดพระธรรมกายอ้างว่ากิจกรรมครั้งนี้สนองตามแนวทางมติของมหาเถรสมาคม และหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่จะมาทำกิจกรรมก็คือวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ แล้วอย่างนี้ใครหน้าไหนจะกล้ามาคัดค้าน

นอกจากนี้ชื่อโครงการยังมีคำว่า รักษ์บวร โครงการของพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี รักษ์ศีล 5 โครงการเดิมของสมเด็จช่วง วัดปากน้ำ เคยเป็นประธานโครงการ ก่อนส่งต่อให้เจ้าคุณพิมพ์ วัดปทุมคงคา และเพิ่งจัดงานสัมมนาใหญ่ที่วัดไร่ขิงเมื่อ 19-20 กุมภาพันธ์ 2561 โดยสมเด็จช่วงได้ไปในงานดังกล่าวด้วย

อีกทั้งพื้นที่ทั้ง 6 จังหวัดในการจัดกิจกรรมอยู่ในภาคกลางทั้งหมด อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสมเด็จพระพุทธชินวงศ์(สมศักดิ์) วัดพิชยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่เคยรับเรื่องสึกพระธัมมชโยจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่มอบหมายให้พระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ไปดำเนินการ สุดท้ายทำเพียงแต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ของวัดพระธรรมกายแทนพระธัมมชโย

จะเห็นได้ว่าพระผู้ใหญ่ชั้นปกครอง ล้วนแล้วแต่มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับวัดพระธรรมกายทั้งสิ้น ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องการท้วงติงกิจกรรมนี้

หากย้อนกลับไปในช่วงเวลานี้ของปี 2560 เป็นช่วงที่รัฐบาลใช้มาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย เพื่อควานหาพระธัมมชโยมาดำเนินคดี ถ้าจะนับเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปีของมาตรา 44 ก็ดูไม่ผิดนัก
พันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ภาพ:www.sila5.com)
สำนักพุทธฯ หาย

ประการต่อมาบทบาทของพันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อได้กลับเข้ามารับตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 เมื่อตุลาคม 2560 จากบทบาทที่เคยเอาจริงเอาจังในการเปลี่ยนแปลงวงการพระพุทธศาสนา ทุกอย่างกลับเงียบหายไป รวมถึงไม่มีเสียงตำหนิติเตียนจากพระผู้ใหญ่ออกมาเหมือนครั้งก่อน และดูเหมือนการทำงานร่วมกันเป็นไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหา

สอดคล้องกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี ต้นทางของวัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลถึงกิจกรรมธรรมยาตราในครั้งนี้ว่า เขาเดินแค่ระยะสั้น ๆ ก่อนถึงวัดที่จะไป จึงไม่ได้สร้างความเดือดร้อนในการสัญจรของประชาชน อีกทั้งภายใต้รัฐบาลนี้คงเดินธุดงค์แบบเดิมไม่ได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด

ไม่นานนักนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายได้ชี้แจงในลักษณะเดียวกัน พร้อมทั้งยังเดินสายไปพบกับสื่อมวลชนหลายแห่งอธิบายถึงกิจกรรมนี้

ขณะที่นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีของวัดพระธรรมกายว่า เราจะไม่เห็นภาพที่เดินโปรยดอกไม้ริมถนนอีกแล้ว เพราะหากมีการทำกิจกรรมทางวัดจะแจ้งให้ทราบว่าจะทำกิจกรรมใดบ้าง เช่น การนั่งรถบัสเข้าไปแล้วทำกิจกรรมในพื้นที่อะไรบ้าง เป็นต้น โดยสิ่งที่ทำจะต้องไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย สังคมและประชาชนไม่เดือดร้อน

สบโอกาสรัฐบาลขาลง

แหล่งข่าวที่ติดตามเรื่องวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่องกล่าวว่า น่าสังเกตว่าตอนนี้ฝ่ายรัฐที่ดูแลเรื่องคดีวัดพระธรรมกายและคดีเงินทอนวัดค่อนข้างเงียบมาก ท่านพงศ์พรก็เงียบสนิท ได้มีการสอบถามไปยังหน่วยงานต่าง ๆ อย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับคำตอบว่ายังทำคดีเหล่านี้อยู่

เท่าที่เห็นความคืบหน้ามีเพียงอัยการสั่งฟ้อง อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ และเจ้าอาวาสวัดลาดแค อายุ 54 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ

ในส่วนของรัฐบาลยิ่งเงียบ แม้คุณสุวพันธุ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะออกมากล่าวถึงวัดพระธรรมกาย แต่ดูแล้วไม่มีอะไรที่คืบหน้าหรือมีความชัดเจน

ทุกคนก็พอจะอ่านสถานการณ์ออกว่าตอนนี้รัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง หลังจากที่มีการตรวจสอบเรื่องนาฬิกาของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่สามารถให้ความกระจ่างต่อสังคมได้ อีกทั้งอยู่ในช่วงที่เตรียมการให้มีการเลือกตั้ง รวมถึงยังมีข่าวใหญ่อีกหลายคดี ทั้งหวย 30 ล้าน คดีขวานฟันรถ และคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ที่กำลังถูกตั้งข้อสังเกตจากฝ่ายอนุรักษ์ว่าคดีนี้อาจจะไม่สามารถเอาผิดได้ ยิ่งทำให้ความนิยมในรัฐบาลลดน้อยลงไปอีก
กิจกรรมธรรมยาตราวัดพระธรรมกาย
ธรรมกายฟื้น-กุมชะตาเลือกตั้ง

เมื่อฝ่ายศาสนจักรไฟเขียวโดยพฤตินัย ฝ่ายอาณาจักรอ่อนแรงและสาละวนกับการเลือกตั้ง ทุกอย่างจึงเป็นใจให้กับวัดพระธรรมกายเดินหน้าทำกิจการเชิงสัญลักษณ์ได้อย่างสะดวก กิจกรรมดังกล่าวนอกจากเป็นการฟื้นให้วัดพระธรรมกายกลับมาแข็งแกร่งดังเดิมแล้ว ในอีกมิติหนึ่งฝ่ายการเมืองไม่ว่าจะเป็นพรรคใดก็ต้องหันกลับมาที่วัดนี้อีกครั้ง เพราะฐานลูกศิษย์ของวัดนี้นับล้านคนมีผลต่อการเลือกตั้งและชี้เป็นชี้ตายโอกาสของการเป็นรัฐบาลได้เช่นกัน

ในอดีตก็เห็นกันมาแล้วว่าทางพรรคเพื่อไทยได้ให้ความสำคัญกับวัดพระธรรมกายไม่น้อย ครอบครัวคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ภรรยาทักษิณ ชินวัตร ก็ทำบุญที่วัดแห่งนี้บ่อยครั้ง หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เองก็ไม่กล้าแตะวัดพระธรรมกาย เพราะฐานเสียงจำนวนหนึ่งของพรรคก็ศรัทธาต่อวัดนี้เช่นกัน

หากฝ่ายคณะรักษาความสงบต้องการสานงานในทางการเมืองต่อ ผ่านรูปแบบของพรรคใดพรรคหนึ่ง คะแนนเสียงจากฐานลูกศิษย์วัดพระธรรมกายย่อมเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่มิอาจมองข้ามได้



กำลังโหลดความคิดเห็น