xs
xsm
sm
md
lg

ภาคเอกชนรับไม่ได้คำตอบ “นาฬิกาหรู” ชี้ยุค “บิ๊กตู่” ไม่ต่างจาก “ทักษิณ” โกงมหาศาล!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คำตอบนาฬิกาหรูจากปากบิ๊กตู่ และเลขาธิการ ป.ป.ช สร้างความกังขาให้กับกองหนุน บิ๊กตู่ ล่าสุดองค์กรภาคธุรกิจสรุปชัด ‘รัฐบาล คสช.’ ไม่ต่างจาก ‘ยุคทักษิณ’ ที่มีการคอร์รัปชันมหาศาล ทำลายชาติ ขณะที่ฝ่ายการเมืองชี้หากเป็นฝ่ายค้านเรื่องนาฬิกา น็อกบิ๊กป้อมไม่ได้ เพราะกฎหมาย ป.ป.ช.เอื้อ ด้านการข่าวระบุ ‘บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม’ รู้แล้วว่า ใครอยู่เบื้องหลัง ของจริงกี่เรือนและมีการตัดต่อภาพหรือไม่ โดยเฉพาะภาพตัดต่อโยนคำถามให้ประชาชนช่วยตอบ

ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้ออกมาเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในโอกาสนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผู้บัญชาการเหล่าทัพและหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ เข้าอวยพรเทศกาลปีใหม่ เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2560 ว่า บิ๊กตู่ใช้กองหนุนไปเกือบหมดแล้ว แทบจะไม่มีกองหนุนเหลืออยู่แล้ว แต่หากแสดงให้ประชาชนเห็นถึงความปรารถนาดี จะทำให้มีคนสนับสนุนมากขึ้น

ว่าไปแล้วสิ่งที่ป๋าเปรมกล่าวออกมานั้น แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยที่มีต่อรัฐบาลบิ๊กตู่และประเทศชาติ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการรัฐประหารของ คสช.ที่มีบิ๊กตู่เป็นหัวหน้าคณะ ได้รับการแซ่ซ้องจากทุกกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะบรรดานักธุรกิจรุ่นเก่า รุ่นใหม่ จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย บุคลากรด้านการแพทย์และพยาบาล สหภาพแรงงานจากองค์กรต่าง ๆ นักการเมืองและพรรคการเมือง รวมไปถึงประชาชนจำนวนมาก

ที่สำคัญสุด บิ๊กตู่ สามารถนำคณะรัฐประหารเข้ายึดอำนาจล้มระบอบทักษิณ โดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อแต่อย่างใด   “การรัฐประหารของ คสช. ประเด็นใหญ่ก็คือต้องการเข้ามาปราบโกง ปราบทุจริตที่เกิดขึ้น มีการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องตัวเองจนทำให้รัฐเสียหายจำนวนมาก เมื่อภาพลักษณ์ คสช.คือมือปราบทุจริต แต่อยู่ ๆ ไปก็มีข่าวฉาว มีการทุจริตเกิดขึ้นในรัฐบาลบิ๊กตู่ หลายเรื่องก็ยังหาข้อยุติไม่ได้
 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
โดยแต่ละเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใส มักจะถูกโยงไปที่ 2 บิ๊ก คสช.คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เช่นข่าวที่โด่งดังในเวลานี้ของบิ๊กป้อม กรณีแหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน

ข่าวการเช่าเครื่องบินเหมาลำ TG8886 รุ่น Boeing 747-100 เป็นเครื่องจัมโบ้ลำใหญ่ จุคนได้ 416 คน ไปร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา ที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา กรณี ซุ่มเงียบอนุมัติซื้อเรือดำน้ำจากจีน Yuan Class S26T รุ่นS-26T ว่ามีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ส่วน “บิ๊กป๊อก” กรณีการเซ็นอนุมัติให้บริษัททายาทกระทิงแดง เข้าใช้ที่ดินป่าชุมชนบ้านโคกห้วยเม็ก จังหวัดขอนแก่น เพื่อขยายเขตโรงงาน ทำเป็นที่เก็บน้ำ สำหรับโรงงานน้ำและเครื่องดื่ม แม้จะมีการยกเลิกไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นประเด็นที่สังคมยังเคลือบแคลง

ขณะเดียวกันองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้เปิด 10 ประเด็นคอร์รัปชันปี 2560 ที่คนไทยต้องจับตามอง โดยเฉพาประเด็นข้อสงสัยและเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการคำตอบก็คือเรื่องการครอบครองนาฬิกาหรูและแหวนเพชรของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

สำหรับเรื่องนาฬิกาหรูนั้น นายกฯ ตู่ ได้ออกมาตอบชัดเจนแล้ว เป็นเรื่องส่วนตัว ถือเป็นความบกพร่องส่วนตัว ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมายที่มีอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน อย่านำสองเรื่องมาปนกัน เพราะถ้าใช้งบประมาณแผ่นดินแล้วทำให้เกิดความเสียหาย มีหลักฐานชัดเจนก็ว่าไปอีกแบบ ก็ขอให้ยุติกันได้แล้วปล่อยให้เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. ตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ด้าน นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร ว่า มีการสอบสวนพยานหลักฐานคืบหน้าไปบ้างแล้ว ยังเหลือพยานอีก 1 คนที่เดินทางไปต่างประเทศ พร้อมกับชี้แจงว่าในการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น จะยื่นเฉพาะของตัวเอง คู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยจะยื่นเมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว หากทรัพย์สินใดที่ไม่ใช่ของผู้ดำรงตำแหน่งก็ไม่จำเป็นต้องยื่น

ดังนั้นคำตอบของ บิ๊กตู่ และ ป.ป.ช. จึงเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่านาฬิกาหรูเป็นเรื่องส่วนตัว และเมื่อไม่ใช่เจ้าของจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งก็หมายรวมถึงบิ๊กป้อม ไม่ผิด

แต่เรื่องนี้ไม่ได้จบเพียงแค่นี้ เพราะคำตอบในเรื่องนาฬิกาหรู มีผลต่อบรรดากองหนุนของบิ๊กตู่อย่างยิ่ง โดยเฉพาะความเห็นของนักการเมืองที่เคยเป็นฝ่ายค้านและมือตรวจสอบการทุจริต บอกว่า ในมุมมองของฝ่ายค้านในสภาแล้วเชื่อว่าเรื่องนี้เอาผิดบิ๊กป้อมยาก เพราะนาฬิกาไม่ใช่ของบิ๊กป้อมจึงไม่จำเป็นต้องแจ้งในบัญชีทรัพย์สิน อีกทั้งนาฬิกาที่มีการเปิดในเพจ “CSI LA” จำนวนกว่า 25 เรือนนั้นยังไม่มีการตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่?

สอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานด้านความมั่นคง ที่ได้มีการตรวจสอบเชิงลึกแล้วและรู้ว่าที่มาของข้อมูลเรื่องนาฬิกาหรูที่ส่งไปให้ “CSI LA” นั้นใครเป็นคนดำเนินการ และเรื่องนี้บิ๊กตู่และบิ๊กป้อม ได้รับทราบข้อมูลแล้วจึงขอให้ ป.ป.ช. เป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมาย

เราต้องใช้หลักฐานจากรูปถ่ายมาหาคำตอบว่ามีของจริงอยู่กี่เรือน ที่เหลือจำนวนมากเป็นของปลอมหรือไม่อย่างไร มีการตัดต่อภาพหรือไม่ เพราะการตัดต่อจะเป็นหลักฐานที่ดี ซึ่งจะทำให้สังคมเป็นฝ่ายตั้งคำถามต่อไป แค่นี้ก็ฉายภาพให้สังคมได้รู้แล้ว

แหล่งข่าวบอกอีกว่า ที่ผ่านมาการที่บิ๊กป้อมเงียบไปและไม่ได้ตอบคำถามเรื่องนาฬิกาเพราะรู้อยู่แล้วว่าการแจ้งเรื่องทรัพย์สินต้องแจ้งเมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งและหลังพ้นวาระ อีกทั้งนาฬิกาก็ไม่ใช่ทรัพย์สินของตัวเองจะไปแจ้งในบัญชีได้อย่างไร และเมื่อถึงวันที่ข้อมูลเรื่องนี้ชัดเจน บิ๊กป้อม ก็อาจจะตัดสินใจแถลงให้ทุกคนได้รับรู้ อาจจะมีพูดถึงนาฬิกาไม่กี่เรือนที่เป็นของจริงแบบเปิดอก ส่วนที่ผ่านมาไม่ตอบคำถามเพราะไม่ให้ค่ากับข้อมูลนำเสนอที่เชื่อว่าอาจเป็นเท็จก็เป็นได้

ให้ถึงตอนนั้น บิ๊กป้อม อาจตัดสินใจอะไรบางอย่าง เมื่อทุกอย่างชัดเจนต้องรอดูกันต่อไปนะ

ส่วนในเรื่องของกองหนุนบิ๊กตู่นั้นได้มีการประเมินแล้วเชื่อว่า กองหนุนรัฐบาลก็ยังคงอยู่ เพียงแต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอารมณ์ที่ไม่พอใจกระแสข่าวในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดกับ 'บิ๊กป้อมและบิ๊กป๊อก” แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ จนดูเหมือนว่าบิ๊กตู่พยายามปกป้องคนเหล่านี้ ซึ่งในความเป็นจริงรัฐบาลก็พยายามที่จะทำให้ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้อยู่แล้ว

ต้องยอมรับว่ากองหนุนยังคงอยู่เหมือนเดิม เพราะคนที่เชียร์บิ๊กตู่ คือคนที่ไม่ชอบ ไม่ต้องการระบอบทักษิณ พวกนี้จึงยังไม่มีการย้ายข้างไปเชียร์เพื่อไทยแน่นอน เพียงแต่ว่า พวกเขาอาจจะดูนิ่งเฉย ทั้งกลุ่มแทคโนเครต กลุ่ม 3 สมาคมหอ สมาคมอุตฯ สมาคมธนาคาร ยังมีกลุ่มทุนที่พึ่งแทคโนเครต กลุ่มทุนใหม่ต่าง และที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มชนชั้นกลาง ซึ่ง 2 กลุ่มหลังอาจมีการตั้งคำถามอยู่บ้างว่า ทักษิณและบิ๊กตู่ต่างกันอย่างไร

อย่างไรก็ดีเมื่อสอบถามไปยังสมาคมฯ ต่าง ๆ รวมไปถึงกรรมการในองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร นั้น ได้รับคำตอบว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่นักธุรกิจส่วนใหญ่รับไม่ได้ เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร ไม่สามารถอธิบายได้ และล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี   ได้ออกมาบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน   ซึ่งถ้าทุกรัฐบาลตอบแบบนี้การเมืองไทยก็คงล้มเหลวไร้ธรรมาภิบาลตั้งแต่ระดับประเทศไปจนถึงระดับ อบต. เพราะการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินนั้นเป็นกลไกในการป้องกันการทุจริต เนื่องจากเมื่อมีการแสดงบัญชีทรัพย์สินหากพบความผิดปกติก็ต้องมีการตรวจสอบที่มาที่ไป ได้ทรัพย์สินมาอย่างไร มีผลประประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ร่ำรวยผิดปกติหรือเปล่า หากมีการแจ้งเท็จหรือปกปิดข้อมูลก็ถือว่ามีความผิด

“เรามองว่ารัฐบาล คสช.ก็ไม่ต่างจากยุคทักษิณที่มีการคอร์รัปชันมหาศาล และการคอร์รัปชันนอกจากจะทำลายชาติแล้วยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง ยกตัวอย่างโครงการต่าง ๆ ที่อนุมัติโดยภาครัฐ ใครเข้าถึงผู้มีอำนาจก็มักจะได้โครงการไป ซึ่งระบบแบบนี้เป็นการทำลายศักยภาพในการแข่งขัน เป็นอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจ” แหล่งข่าวระบุ



กำลังโหลดความคิดเห็น