เปิดปมปัญหาวัดสวนดอก แดงพื้นที่หนุนวัดพระเจ้าเม็งรายเอาคืนหลังเจ้าคุณนิมิตปลดพระมหารวีวัฒน์เจ้าอาวาสองค์ก่อน ขณะที่คนศรัทธาเจ้าคุณนิมิตมีทุกสีทั้งแดง เหลือง น้ำเงิน ผลงานดีปราบพระตุ๊ด เณรแต๋ว จนสงบ แต่ภาพลักษณ์อิงกับธรรมกายจนถูกเพ่งเล็ง หากคดีสวมบัตรคนตายผิดจริงก็ต้องเป็นไปตามกฎหมาย

ปมปัญหาที่เกิดขึ้นกับพระราชรัชมีนุ(นิมิต สิขรสุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกร้องเรียนในเรื่องการสวมบัตรประชาชนคนอื่นแทนนั้น กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับวงการพระสงฆ์ และขณะนี้มีทั้งฝ่ายญาติและกลุ่มองค์กรพุทธในจังหวัดเชียงใหม่ต่างออกมาชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ รวมทั้งแจ้งความกลับไปยังผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
ที่มาที่ไปของเรื่องดังกล่าวนั้นมาจากตั้งแต่เหตุตั้งเจ้าอาวาสวัดสวนดอก ที่เดิมพระอมรเวที (วรรณ เขมจารี) มรณภาพลง คณะสงฆ์ได้ตั้งพระครูพิพิธสุตาทร (บุญช่วย สิรินฺธโร ป.ธ.5 Ph.D.) สังกัดวัดสวนดอก ขึ้นรักษาการ แต่เกิดปัญหาขึ้นภายในวัด สุดท้ายพระเทพมังคลาจารย์(สมาน กิตฺติโสภโณ) วัดท่าตอน ตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ จึงเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องนี้
จบลงด้วยการแต่งตั้งพระศรีสิทธิมุนี(นิมิต สิขรสุวณฺโณ ป.ธ.9) เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอก และได้เป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง
ต้นเหตุปลดเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย
จากนั้นเกิดปัญหาเรื่องชาวบ้านไม่ยอมรับพระมหารวีวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย เจ้าคุณนิมิต วัดสวนดอก ในฐานะเจ้าคณะอำเภอเมือง ไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ จึงต้องให้พระเทพมังคลาจารย์เข้ามาจัดการปัญหานี้ โดยมีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 013/2560 เมื่อ 7 กรกฎาคม 2560 ปลดพระมหารวีวัฒน์ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและแต่งตั้งเจ้าคุณสมานรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย
เป็นเหตุให้พระมหารวีวัฒน์ ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน ผ่านไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“อาตมาถูกคำสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย ในปี 2555 เป็นเวลา 3 เดือน และผ่านพ้นช่วงระยะเวลามานานแล้ว ก็ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสมาโดยปกติ และยังไม่มีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายน 2560 พระชั้นผู้ใหญ่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ กลับแต่งตั้งให้ พระเทพมังคลาจารย์ มาดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย”
จนกลายเป็นข่าวดังว่าธรรมกายเข้ามายึดเชียงใหม่

สวนดอก ท่าตอน ปากน้ำ ธรรมกาย
เป็นที่ทราบกันว่าพระเทพมังคลาจารย์(สมาน) เคยนำพระและประชาชนไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้สั่งการยกเลิกการบังคับใช้ ม.44 ในการดำเนินการกรณีวัดพระธรรมกาย เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งคณะสงฆ์ในภาคเหนือนั้นขึ้นตรงกับเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ที่มีพระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ดำรงตำแหน่งอยู่
ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุกับวัดสวนดอกและลามไปถึงวัดท่าตอน สายตรงของวัดปากน้ำ ตัวช่วยที่เข้ามาเป็นด่านแรกคือสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย โดยนายกรณ์ มีดี เลขาธิการ ได้โพสต์ข้อความปกป้องเจ้าคุณนิมิต พร้อมทั้งเสนอทางออกด้านกฎหมายต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อ 15 ตุลาคม 2560 ขอร้องให้ท่าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. ช่วยพิจารณาคุณงามความดีของท่านเจ้าคุณที่สั่งสมมา ช่วยหาทางออกดังนี้
1. ใช้มาตรา 44 มอบพลเมืองพิเศษ หรือราษฎรพิเศษ ให้ท่านเจ้าคุณนิมิต พร้อมให้สิทธิต่างๆ เทียบเท่าของเดิมที่ท่านได้รับทุกประการ
2. ใช้มาตรา 44 นิรโทษในความผิดต่างด้าวสวมสิทธิ์(หากท่านทำผิดจริง)
แม้เรื่องนี้เป็นเฉพาะบุคคล แต่ก็สามารถอ้างเหตุที่ท่านทำความดีมาตลอดชีวิต จึงสมควรใช้ ม.44 เฉพาะบุคคล มอบพลเมืองพิเศษ หรือราษฎรพิเศษ เช่นที่ประเทศอื่นๆ เขาให้สำหรับคนต่างชาติที่สร้างคุณูปการต่อประเทศนั้นๆ ให้กับท่านเจ้าคุณด้วยครับ
มาทางลัด-แต่ผลงานดี
พุทธศาสนิกชนในจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ที่เชียงใหม่ก็ต้องยอมรับกันว่าเจ้าคุณนิมิต ข้ามห้วยมาจริง ๆ และเข้ามาคุมอำเภอเมืองด้วย รูปอื่น ๆ ที่เคยเตรียมตัวขึ้นก็หมดหวังไป ทั้งนี้เพราะเจ้าคุณสมานนั้นเป็นที่เคารพของหลายฝ่าย เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเจ้าอาวาสกับชาวบ้านที่ขัดแย้งกันลงได้ หรือในอำเภอเมืองเจ้าคุณนิมิตก็ดูแลเรื่องพระตุ๊ด เณรแต๋ว จนเรื่องเหล่านี้เบาลงไปมาก
คนเชียงใหม่จึงเคารพศรัทธาเจ้าคุณนิมิตอยู่ไม่น้อย เรื่องนี้ไม่มีการแยกเรื่องของสีเหมือนในทางการเมือง ที่วัดสวนดอกมีทั้งสีแดง สีเหลืองและสีน้ำเงิน รวมถึงคนที่ไม่มีสีที่เคารพนับถือท่าน ไม่มีใครข้องใจการประพฤติปฏิบัติของท่านในเรื่องพระธรรมวินัย
แต่เมื่อถูกร้องเรียนในเรื่องการสวมบัตรประชาชนคนอื่น อันนี้ต้องแยกมาพิจารณา ถ้าท่านกระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งยังคงต้องรอการพิสูจน์อีกระยะหนึ่ง
ศิษย์วัดพระเจ้าเม็งรายเอาคืน
ส่วนเรื่องเหตุที่เกิดการร้องเรียนเจ้าคุณนิมิตนั้น สาเหตุหลักน่าจะมาจากเรื่องของวัดพระเจ้าเม็งรายที่มีการถอดเจ้าอาวาสองค์ก่อนออก แล้วให้เจ้าคุณสมานมารักษาการแทน อย่าลืมว่าแต่ละวัดก็มักจะมีลูกศิษย์ลูกหาของตัวเองที่ให้การสนับสนุน
วัดพระเจ้าเม็งราย คนในเชียงใหม่ทราบกันดีว่าเป็นวัดสายแดงล้วน ๆ และหนึ่งในผู้ที่ร้องให้มีการตรวจสอบเจ้าคุณนิมิต คือนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข หรือกระดิ่งน้อยห้อยวิหาร ทีมงานคนสำคัญของนายไพศาล แสนไชย นักนิมิตพิศวงที่ร่ำลือกันว่าสามารถนอนหลับฝันถอดจิตไปพรหมโลกพบกับพญาพิงคราช สอบถามชีวิตประวัติของคนตายทั่วไปว่าไปเกิดที่ใด ชาติที่แล้วเป็นใคร ชาติหน้าเป็นใคร ซึ่งสายนี้จะขึ้นกับวัดพระเจ้าเม็งราย
แต่ทางวัดสวนดอกเองก็มีจุดอ่อน ตรงที่ไปอิงกับวัดท่าตอน เจ้าคุณสมานเป็นสายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเคยสนับสนุนงานของธรรมกาย ทำให้ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ อีกทั้งเจ้าคุณนิมิตก็ยังบารมีไม่มากพอทำให้ต้องอิงกับเจ้าคุณสมานตลอด และการข้ามมาคุมอำเภอเมืองเชียงใหม่แบบมีแรงหนุนนั้น อาจทำให้พระผู้ใหญ่หลายรูปในตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ค่อยพอใจนัก
ไม่ใช่เพียงแค่วัดปากน้ำเท่านั้น แต่ที่วัดสวนดอกยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) วิทยาเขตเชียงใหม่อีกด้วย มจร.กับสายปากน้ำนั้นเดินทางเดียวกัน เห็นได้จากช่วงที่มีการเปลี่ยนตัวพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยได้มีการตั้งนายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนามาทำหน้าที่แทน ซึ่งเป็นศิษย์สาย มจร. รวมไปถึงสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยที่หนุนสายงานนี้มาอย่างต่อเนื่อง ก็ยังหนุนมานัส ทารัตน์ใจ แต่สุดท้ายก็ต้องอกหักเมื่อคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพงศ์พร กลับมานั่งในตำแหน่งเดิม

สวนดอกแบ็กอัพแน่น
กรณีของวัดสวนดอกนี้ถือว่าสายเดียวกันหักกันเอง เพียงแต่กำลังสนับสนุนมีความแตกต่างกัน วัดสวนดอกมีสายปากน้ำคอยหนุน แถมมี มจร.อีกต่างหาก ถือว่าเป็นสายที่กุมอำนาจคณะสงฆ์ทั้งประเทศ ส่วนวัดพระเจ้าเม็งรายเป็นแดงในพื้นที่ แรงหนุนจึงเป็นรอง และการพิจารณาเรื่องของความผิดทางวินัยสงฆ์นั้นก็อยู่ภายในอำนาจของขั้ววัดสวนดอกที่อิงกับวัดท่าตอนและโยงไปถึงคณะสงฆ์ชั้นปกครองระดับประเทศ
แต่เรื่องของเจ้าอาวาสวัดสวนดอกยังไม่พบความผิดในเรื่องวินัยสงฆ์ ตอนนี้คงต้องไปมุ่งตัวคดีสวมบัตรประชาชนบุคคลอื่นว่าจะจบลงอย่างไร
ปมปัญหาที่เกิดขึ้นกับพระราชรัชมีนุ(นิมิต สิขรสุวณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกร้องเรียนในเรื่องการสวมบัตรประชาชนคนอื่นแทนนั้น กลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับวงการพระสงฆ์ และขณะนี้มีทั้งฝ่ายญาติและกลุ่มองค์กรพุทธในจังหวัดเชียงใหม่ต่างออกมาชี้แจงข้อกล่าวหาต่าง ๆ รวมทั้งแจ้งความกลับไปยังผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
ที่มาที่ไปของเรื่องดังกล่าวนั้นมาจากตั้งแต่เหตุตั้งเจ้าอาวาสวัดสวนดอก ที่เดิมพระอมรเวที (วรรณ เขมจารี) มรณภาพลง คณะสงฆ์ได้ตั้งพระครูพิพิธสุตาทร (บุญช่วย สิรินฺธโร ป.ธ.5 Ph.D.) สังกัดวัดสวนดอก ขึ้นรักษาการ แต่เกิดปัญหาขึ้นภายในวัด สุดท้ายพระเทพมังคลาจารย์(สมาน กิตฺติโสภโณ) วัดท่าตอน ตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ จึงเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องนี้
จบลงด้วยการแต่งตั้งพระศรีสิทธิมุนี(นิมิต สิขรสุวณฺโณ ป.ธ.9) เข้ามาเป็นเจ้าอาวาสวัดสวนดอก และได้เป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง
ต้นเหตุปลดเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย
จากนั้นเกิดปัญหาเรื่องชาวบ้านไม่ยอมรับพระมหารวีวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย เจ้าคุณนิมิต วัดสวนดอก ในฐานะเจ้าคณะอำเภอเมือง ไม่สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ จึงต้องให้พระเทพมังคลาจารย์เข้ามาจัดการปัญหานี้ โดยมีคำสั่งเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 013/2560 เมื่อ 7 กรกฎาคม 2560 ปลดพระมหารวีวัฒน์ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและแต่งตั้งเจ้าคุณสมานรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย
เป็นเหตุให้พระมหารวีวัฒน์ ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน ผ่านไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“อาตมาถูกคำสั่งให้พักการปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย ในปี 2555 เป็นเวลา 3 เดือน และผ่านพ้นช่วงระยะเวลามานานแล้ว ก็ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสมาโดยปกติ และยังไม่มีคำสั่งปลดออกจากตำแหน่งแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อเดือนเมษายน 2560 พระชั้นผู้ใหญ่ในอำเภอเมืองเชียงใหม่ กลับแต่งตั้งให้ พระเทพมังคลาจารย์ มาดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย”
จนกลายเป็นข่าวดังว่าธรรมกายเข้ามายึดเชียงใหม่
สวนดอก ท่าตอน ปากน้ำ ธรรมกาย
เป็นที่ทราบกันว่าพระเทพมังคลาจารย์(สมาน) เคยนำพระและประชาชนไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้สั่งการยกเลิกการบังคับใช้ ม.44 ในการดำเนินการกรณีวัดพระธรรมกาย เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งคณะสงฆ์ในภาคเหนือนั้นขึ้นตรงกับเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ที่มีพระวิสุทธิวงศาจารย์ (วิเชียร อโนมคุโณ) รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ดำรงตำแหน่งอยู่
ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุกับวัดสวนดอกและลามไปถึงวัดท่าตอน สายตรงของวัดปากน้ำ ตัวช่วยที่เข้ามาเป็นด่านแรกคือสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย โดยนายกรณ์ มีดี เลขาธิการ ได้โพสต์ข้อความปกป้องเจ้าคุณนิมิต พร้อมทั้งเสนอทางออกด้านกฎหมายต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เมื่อ 15 ตุลาคม 2560 ขอร้องให้ท่าน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. ช่วยพิจารณาคุณงามความดีของท่านเจ้าคุณที่สั่งสมมา ช่วยหาทางออกดังนี้
1. ใช้มาตรา 44 มอบพลเมืองพิเศษ หรือราษฎรพิเศษ ให้ท่านเจ้าคุณนิมิต พร้อมให้สิทธิต่างๆ เทียบเท่าของเดิมที่ท่านได้รับทุกประการ
2. ใช้มาตรา 44 นิรโทษในความผิดต่างด้าวสวมสิทธิ์(หากท่านทำผิดจริง)
แม้เรื่องนี้เป็นเฉพาะบุคคล แต่ก็สามารถอ้างเหตุที่ท่านทำความดีมาตลอดชีวิต จึงสมควรใช้ ม.44 เฉพาะบุคคล มอบพลเมืองพิเศษ หรือราษฎรพิเศษ เช่นที่ประเทศอื่นๆ เขาให้สำหรับคนต่างชาติที่สร้างคุณูปการต่อประเทศนั้นๆ ให้กับท่านเจ้าคุณด้วยครับ
มาทางลัด-แต่ผลงานดี
พุทธศาสนิกชนในจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ที่เชียงใหม่ก็ต้องยอมรับกันว่าเจ้าคุณนิมิต ข้ามห้วยมาจริง ๆ และเข้ามาคุมอำเภอเมืองด้วย รูปอื่น ๆ ที่เคยเตรียมตัวขึ้นก็หมดหวังไป ทั้งนี้เพราะเจ้าคุณสมานนั้นเป็นที่เคารพของหลายฝ่าย เข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเจ้าอาวาสกับชาวบ้านที่ขัดแย้งกันลงได้ หรือในอำเภอเมืองเจ้าคุณนิมิตก็ดูแลเรื่องพระตุ๊ด เณรแต๋ว จนเรื่องเหล่านี้เบาลงไปมาก
คนเชียงใหม่จึงเคารพศรัทธาเจ้าคุณนิมิตอยู่ไม่น้อย เรื่องนี้ไม่มีการแยกเรื่องของสีเหมือนในทางการเมือง ที่วัดสวนดอกมีทั้งสีแดง สีเหลืองและสีน้ำเงิน รวมถึงคนที่ไม่มีสีที่เคารพนับถือท่าน ไม่มีใครข้องใจการประพฤติปฏิบัติของท่านในเรื่องพระธรรมวินัย
แต่เมื่อถูกร้องเรียนในเรื่องการสวมบัตรประชาชนคนอื่น อันนี้ต้องแยกมาพิจารณา ถ้าท่านกระทำผิดจริงก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งยังคงต้องรอการพิสูจน์อีกระยะหนึ่ง
ศิษย์วัดพระเจ้าเม็งรายเอาคืน
ส่วนเรื่องเหตุที่เกิดการร้องเรียนเจ้าคุณนิมิตนั้น สาเหตุหลักน่าจะมาจากเรื่องของวัดพระเจ้าเม็งรายที่มีการถอดเจ้าอาวาสองค์ก่อนออก แล้วให้เจ้าคุณสมานมารักษาการแทน อย่าลืมว่าแต่ละวัดก็มักจะมีลูกศิษย์ลูกหาของตัวเองที่ให้การสนับสนุน
วัดพระเจ้าเม็งราย คนในเชียงใหม่ทราบกันดีว่าเป็นวัดสายแดงล้วน ๆ และหนึ่งในผู้ที่ร้องให้มีการตรวจสอบเจ้าคุณนิมิต คือนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข หรือกระดิ่งน้อยห้อยวิหาร ทีมงานคนสำคัญของนายไพศาล แสนไชย นักนิมิตพิศวงที่ร่ำลือกันว่าสามารถนอนหลับฝันถอดจิตไปพรหมโลกพบกับพญาพิงคราช สอบถามชีวิตประวัติของคนตายทั่วไปว่าไปเกิดที่ใด ชาติที่แล้วเป็นใคร ชาติหน้าเป็นใคร ซึ่งสายนี้จะขึ้นกับวัดพระเจ้าเม็งราย
แต่ทางวัดสวนดอกเองก็มีจุดอ่อน ตรงที่ไปอิงกับวัดท่าตอน เจ้าคุณสมานเป็นสายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเคยสนับสนุนงานของธรรมกาย ทำให้ถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ อีกทั้งเจ้าคุณนิมิตก็ยังบารมีไม่มากพอทำให้ต้องอิงกับเจ้าคุณสมานตลอด และการข้ามมาคุมอำเภอเมืองเชียงใหม่แบบมีแรงหนุนนั้น อาจทำให้พระผู้ใหญ่หลายรูปในตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ค่อยพอใจนัก
ไม่ใช่เพียงแค่วัดปากน้ำเท่านั้น แต่ที่วัดสวนดอกยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) วิทยาเขตเชียงใหม่อีกด้วย มจร.กับสายปากน้ำนั้นเดินทางเดียวกัน เห็นได้จากช่วงที่มีการเปลี่ยนตัวพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยได้มีการตั้งนายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนามาทำหน้าที่แทน ซึ่งเป็นศิษย์สาย มจร. รวมไปถึงสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยที่หนุนสายงานนี้มาอย่างต่อเนื่อง ก็ยังหนุนมานัส ทารัตน์ใจ แต่สุดท้ายก็ต้องอกหักเมื่อคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งพงศ์พร กลับมานั่งในตำแหน่งเดิม
สวนดอกแบ็กอัพแน่น
กรณีของวัดสวนดอกนี้ถือว่าสายเดียวกันหักกันเอง เพียงแต่กำลังสนับสนุนมีความแตกต่างกัน วัดสวนดอกมีสายปากน้ำคอยหนุน แถมมี มจร.อีกต่างหาก ถือว่าเป็นสายที่กุมอำนาจคณะสงฆ์ทั้งประเทศ ส่วนวัดพระเจ้าเม็งรายเป็นแดงในพื้นที่ แรงหนุนจึงเป็นรอง และการพิจารณาเรื่องของความผิดทางวินัยสงฆ์นั้นก็อยู่ภายในอำนาจของขั้ววัดสวนดอกที่อิงกับวัดท่าตอนและโยงไปถึงคณะสงฆ์ชั้นปกครองระดับประเทศ
แต่เรื่องของเจ้าอาวาสวัดสวนดอกยังไม่พบความผิดในเรื่องวินัยสงฆ์ ตอนนี้คงต้องไปมุ่งตัวคดีสวมบัตรประชาชนบุคคลอื่นว่าจะจบลงอย่างไร