กุนซือเชือดธัมมชโยยันไม่ใช่มวยล้ม แค่ปรับเกมให้โลกของสงฆ์จัดการกันเอง วัดใจเจ้าคณะใหญ่หนกลางจะเลือกทำหน้าที่หรือยอมถูกถอดสมณศักดิ์ ขณะที่พระระดับรองชิงอำนาจกันอุตลุด เริ่มต้นแก้ปัญหาที่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เตรียมดันพระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ รับหน้าที่แบบมีเงื่อนไข หลักคำสอนต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัย
ลุ้นกันหนักเมื่อ 10 มีนาคม 2560 ว่าพระธัมมชโย ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและรับของโจรจากกรณีทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จะถูกจับสึกหรือไม่ เนื่องจากในวันดังกล่าวมีการประชุมมหาเถรสมาคม ที่คาดกันว่าเรื่องของพระธัมมชโยน่าจะมีมติออกมาทางใดทางหนึ่ง
“มหาเถรสมาคมมีมติให้เจ้าคณะปกครอง คือ เจ้าคณะใหญ่หนกลางใช้กฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 21 ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ดำเนินการ ซึ่งการดำเนินการของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในการบังคับใช้กฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 21 สามารถดำเนินการลับหลังได้” พันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าวถึงผลการประชุม
เป็นอันว่ากระบวนการทางสงฆ์กลับไปเริ่มที่ต้นทางคือ เป็นอำนาจของเจ้าอาวาสในการพิจารณา แล้วไล่ลำดับขึ้นมาถึงเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ จังหวัด เจ้าคณะภาค จนถึงเจ้าคณะใหญ่หนกลางที่มีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) วัดพิชยญาติการามวรวิหาร ดำรงตำแหน่งอยู่
ไม่ใช่มวยล้ม-แค่ปรับแผน
หนึ่งในทีมงานที่ตรวจสอบวัดพระธรรมกายกล่าวว่า คนทั่วไปมองว่าที่ผ่านมานั้นเป็นมวยล้มต้มคนดู ต้องบอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นการเปลี่ยนเกม เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมานั้นฝ่ายรัฐไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นพระสงฆ์ หากดำเนินการใด ๆ ที่รุนแรงไปทุกอย่างจะเข้าทางวัดพระธรรมกายทั้งหมด จึงให้ฝ่ายสงฆ์แก้ปัญหาสงฆ์ด้วยกันเอง
ดังนั้นเรื่องของพระธัมมชโยจะอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าคณะใหญ่หนกลางหรือสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ซึ่งเรื่องที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ส่งเรื่องไปนั้นคือให้ดำเนินการสึกพระธัมมชโย ถามว่าในวงการสงฆ์ก็รู้กันดีว่าพระรูปใดอยู่สายใคร แต่ถ้าคราวนี้เจ้าคณะใหญ่หนกลางไม่ดำเนินการ โอกาสที่จะถูกถอดสมณศักดิ์ก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกับพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว
“ก็ต้องวัดใจกันว่าสมเด็จท่านที่รับผิดชอบเรื่องนี้จะเลือกอย่างไร รวมไปถึงสายบังคับบัญชาระดับล่างลงไปจนถึงเจ้าคณะตำบลด้วย”
ส่วนขั้นตอนการพิจารณาที่ต้นทางคือเจ้าอาวาสนั้น ที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายมีการเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสจากพระธัมมชโยมาเป็นพระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสเมื่อ 24 มิถุนายน 2559 และเปลี่ยนตัวอีกครั้งเป็นพระวิเทศภาวนาจารย์ (สมบุญ สมฺมปุญฺโญ) เมื่อ 9 ธันวาคม 2559 เป็นรักษาการเจ้าอาวาส
ขั้นตอนนี้ต้องมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอย่างเป็นทางการเสียก่อน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง เพื่อให้ดำเนินการได้ตามขั้นตอน
ชง‘พระมหาสมชาย’ขึ้นเจ้าอาวาส
ทั้งนี้หลังจากที่มีการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ภายในวัดพระธรรมกายนั้น ระดับของพระในชั้นบริหารต่างก็ต้องการขึ้นมามีอำนาจในการบริหาร เดิมพระทัตตชีโวกุมอำนาจแทนพระธัมมชโย แต่เมื่อทั้ง 2 รูปถูกถอดสมณศักดิ์ ตอนนี้พระที่เหลือต่างก็ช่วงชิงกันเพื่อขึ้นมากุมอำนาจแทน
ในวัดพระธรรมกายนั้นแยกเป็น 2 สาย คือสายของพระธัมมชโยกับสายของพระทัตตชีโว พระในลำดับรอง ๆ ก็จะมีสายของตัวเองสังกัดอยู่ และทั้ง 2 สายก็ไม่ถูกกัน แข่งขันกันสร้างผลงาน
เดิมเคยมีชื่อของพระไพศาล วิสาโล ว่าจะเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น นั่นเป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น เพราะเรื่องของวัดพระธรรมกายต้องให้พระในวัดพระธรรมกายปกครองกันเอง เมื่อตัดพระธัมมชโยและพระทัตตชีโวออกไป
“พระในระดับบริหารที่เหลือในเวลานี้ที่พอจะเป็นตัวกลางระหว่างสายของพระธัมมชโยกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ คงหนีไม่พ้น พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ชื่อเดิมคือนายแพทย์สมชาย วัชรศรีโรจน์ น้องชายของนายสอง วัชรศรีโรจน์ เซียนหุ้นในอดีต อีกทั้งพระมหาสมชายยังอยู่ในสายของพระทัตตชีโว”
พระในสายของพระธัมมชโยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยชอบพระมหาสมชายนัก แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะสงฆ์ชั้นปกครองจากระดับเจ้าคณะตำบลก่อน
แต่การที่จะแต่งตั้งให้พระรูปใดขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น ย่อมต้องมีข้อแม้บางประการระหว่างกัน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของหลักธรรมคำสอน ที่วัดพระธรรมกายต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้องของพุทธศาสนา หากรับเงื่อนไขได้ก็จะดำเนินเรื่องตามขั้นตอนแต่งตั้ง เมื่อเรื่องตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายจบ ก็เข้าสู่กระบวนการกับพระธัมมชโยตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 21
จากนี้ไป‘ธรรมกาย’ไม่เหมือนเดิม
การปรับแนวทางในการดำเนินการกับพระธัมมชโยวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่นุ่มนวลที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกันระหว่างลูกศิษย์วัดพระธรรมกายกับเจ้าหน้าที่ กระบวนการทางสงฆ์จึงเป็นทางออกที่ดี ส่วนคดีทางโลกนั้นในทางกฎหมายมีอายุความ 15 ปี หากเจอพระธัมมชโยก็สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้
ผลของการปรับเปลี่ยนแนวทางดำเนินการในครั้งนี้ เมื่อได้เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายรูปใหม่ และต้องปฏิบัติตามแนวคำสอนที่ถูกต้องขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เชื่อว่าวัดพระธรรมกายก็จะไม่แตกต่างจากวัดทั่วไป แน่นอนว่าความยิ่งใหญ่ของวัดพระธรรมกายอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รวมไปถึงเรื่องของความศรัทธาเพราะเดิมลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายจะยึดที่ตัวบุคคลคือมองพระธัมมชโยเป็นผู้วิเศษ แต่จากนี้ไปแนวทางจะเป็นไปตามพระธรรมวินัย
ลุ้นกันหนักเมื่อ 10 มีนาคม 2560 ว่าพระธัมมชโย ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและรับของโจรจากกรณีทุจริตในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จะถูกจับสึกหรือไม่ เนื่องจากในวันดังกล่าวมีการประชุมมหาเถรสมาคม ที่คาดกันว่าเรื่องของพระธัมมชโยน่าจะมีมติออกมาทางใดทางหนึ่ง
“มหาเถรสมาคมมีมติให้เจ้าคณะปกครอง คือ เจ้าคณะใหญ่หนกลางใช้กฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 21 ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ดำเนินการ ซึ่งการดำเนินการของเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ในการบังคับใช้กฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 21 สามารถดำเนินการลับหลังได้” พันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกล่าวถึงผลการประชุม
เป็นอันว่ากระบวนการทางสงฆ์กลับไปเริ่มที่ต้นทางคือ เป็นอำนาจของเจ้าอาวาสในการพิจารณา แล้วไล่ลำดับขึ้นมาถึงเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ จังหวัด เจ้าคณะภาค จนถึงเจ้าคณะใหญ่หนกลางที่มีสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม) วัดพิชยญาติการามวรวิหาร ดำรงตำแหน่งอยู่
ไม่ใช่มวยล้ม-แค่ปรับแผน
หนึ่งในทีมงานที่ตรวจสอบวัดพระธรรมกายกล่าวว่า คนทั่วไปมองว่าที่ผ่านมานั้นเป็นมวยล้มต้มคนดู ต้องบอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นการเปลี่ยนเกม เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมานั้นฝ่ายรัฐไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นพระสงฆ์ หากดำเนินการใด ๆ ที่รุนแรงไปทุกอย่างจะเข้าทางวัดพระธรรมกายทั้งหมด จึงให้ฝ่ายสงฆ์แก้ปัญหาสงฆ์ด้วยกันเอง
ดังนั้นเรื่องของพระธัมมชโยจะอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าคณะใหญ่หนกลางหรือสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ ซึ่งเรื่องที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ส่งเรื่องไปนั้นคือให้ดำเนินการสึกพระธัมมชโย ถามว่าในวงการสงฆ์ก็รู้กันดีว่าพระรูปใดอยู่สายใคร แต่ถ้าคราวนี้เจ้าคณะใหญ่หนกลางไม่ดำเนินการ โอกาสที่จะถูกถอดสมณศักดิ์ก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกับพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว
“ก็ต้องวัดใจกันว่าสมเด็จท่านที่รับผิดชอบเรื่องนี้จะเลือกอย่างไร รวมไปถึงสายบังคับบัญชาระดับล่างลงไปจนถึงเจ้าคณะตำบลด้วย”
ส่วนขั้นตอนการพิจารณาที่ต้นทางคือเจ้าอาวาสนั้น ที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายมีการเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาสจากพระธัมมชโยมาเป็นพระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสเมื่อ 24 มิถุนายน 2559 และเปลี่ยนตัวอีกครั้งเป็นพระวิเทศภาวนาจารย์ (สมบุญ สมฺมปุญฺโญ) เมื่อ 9 ธันวาคม 2559 เป็นรักษาการเจ้าอาวาส
ขั้นตอนนี้ต้องมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอย่างเป็นทางการเสียก่อน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง เพื่อให้ดำเนินการได้ตามขั้นตอน
ชง‘พระมหาสมชาย’ขึ้นเจ้าอาวาส
ทั้งนี้หลังจากที่มีการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ภายในวัดพระธรรมกายนั้น ระดับของพระในชั้นบริหารต่างก็ต้องการขึ้นมามีอำนาจในการบริหาร เดิมพระทัตตชีโวกุมอำนาจแทนพระธัมมชโย แต่เมื่อทั้ง 2 รูปถูกถอดสมณศักดิ์ ตอนนี้พระที่เหลือต่างก็ช่วงชิงกันเพื่อขึ้นมากุมอำนาจแทน
ในวัดพระธรรมกายนั้นแยกเป็น 2 สาย คือสายของพระธัมมชโยกับสายของพระทัตตชีโว พระในลำดับรอง ๆ ก็จะมีสายของตัวเองสังกัดอยู่ และทั้ง 2 สายก็ไม่ถูกกัน แข่งขันกันสร้างผลงาน
เดิมเคยมีชื่อของพระไพศาล วิสาโล ว่าจะเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น นั่นเป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น เพราะเรื่องของวัดพระธรรมกายต้องให้พระในวัดพระธรรมกายปกครองกันเอง เมื่อตัดพระธัมมชโยและพระทัตตชีโวออกไป
“พระในระดับบริหารที่เหลือในเวลานี้ที่พอจะเป็นตัวกลางระหว่างสายของพระธัมมชโยกับเจ้าหน้าที่รัฐได้ คงหนีไม่พ้น พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ชื่อเดิมคือนายแพทย์สมชาย วัชรศรีโรจน์ น้องชายของนายสอง วัชรศรีโรจน์ เซียนหุ้นในอดีต อีกทั้งพระมหาสมชายยังอยู่ในสายของพระทัตตชีโว”
พระในสายของพระธัมมชโยส่วนใหญ่มักไม่ค่อยชอบพระมหาสมชายนัก แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะสงฆ์ชั้นปกครองจากระดับเจ้าคณะตำบลก่อน
แต่การที่จะแต่งตั้งให้พระรูปใดขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น ย่อมต้องมีข้อแม้บางประการระหว่างกัน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของหลักธรรมคำสอน ที่วัดพระธรรมกายต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้องของพุทธศาสนา หากรับเงื่อนไขได้ก็จะดำเนินเรื่องตามขั้นตอนแต่งตั้ง เมื่อเรื่องตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายจบ ก็เข้าสู่กระบวนการกับพระธัมมชโยตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 21
จากนี้ไป‘ธรรมกาย’ไม่เหมือนเดิม
การปรับแนวทางในการดำเนินการกับพระธัมมชโยวิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่นุ่มนวลที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกันระหว่างลูกศิษย์วัดพระธรรมกายกับเจ้าหน้าที่ กระบวนการทางสงฆ์จึงเป็นทางออกที่ดี ส่วนคดีทางโลกนั้นในทางกฎหมายมีอายุความ 15 ปี หากเจอพระธัมมชโยก็สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้
ผลของการปรับเปลี่ยนแนวทางดำเนินการในครั้งนี้ เมื่อได้เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายรูปใหม่ และต้องปฏิบัติตามแนวคำสอนที่ถูกต้องขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เชื่อว่าวัดพระธรรมกายก็จะไม่แตกต่างจากวัดทั่วไป แน่นอนว่าความยิ่งใหญ่ของวัดพระธรรมกายอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รวมไปถึงเรื่องของความศรัทธาเพราะเดิมลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายจะยึดที่ตัวบุคคลคือมองพระธัมมชโยเป็นผู้วิเศษ แต่จากนี้ไปแนวทางจะเป็นไปตามพระธรรมวินัย