xs
xsm
sm
md
lg

หลวงปู่พุทธะอิสระ แจง “ธรรมกาย” จบได้ใน 3 วัน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


จับตาวันนี้ (10 มี.ค.) มหาเถรสมาคมจะนำเรื่องธัมมชโยเข้าสู่ที่ประชุมและจัดการสึกธัมมชโยได้หรือไม่? ขณะที่หลวงปูพุทธะอิสระ เสนอ 2 แนวทางจัดการ “ธัมมชโย ทัตตชีโวและพระวัดพระธรรมกาย” ที่ละเมิดพระธรรมวินัยได้เบ็ดเสร็จภายใน 3 วัน พร้อมจี้รัฐบาล-ผอ.สำนักงานพระพุทธฯ อย่าหลงกล ธัมมชโย ตั้งศาลสงฆ์ขึ้นมาพิจารณาคดีนี้ เท่ากับเป็นการต่อลมหายใจและได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งหลัง “บิ๊กตู่” หมดอำนาจและได้รัฐบาลใหม่มาปกครอง ระบุ “ธรรมกาย-พรรคเพื่อไทย-เสื้อแดง” ระดมคนพร้อมยกพลเข้า กทม.บีบให้ยกเลิก ม.44

เป็นเวลาล่วงเลยมากว่า 22 วัน ที่รัฐบาลมีคำสั่งใช้มาตรา 44 เข้าควบคุมพื้นที่บริวณวัดพระธรรมกาย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปตรวจค้น พร้อมทั้งจับกุมตัวธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซี่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีพิเศษเลขที่ 27/2559 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร
จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถเข้าไปดำเนินการจับกุมและตรวจค้นได้เพราะมีพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์ระดมคนออกมาปกป้องและต่อต้านการเข้าตรวจค้นของดีเอสไอ ตำรวจและทหาร

แต่วันนี้เริ่มมีความหวังว่าเรื่องของธัมมชโยและวัดพระธรรมกายน่าจะจบลงได้ หลังมีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) และพระราชภาวนาจารย์ (พระทัตตชีโว หรือเผด็จ ทัตตชีโว) รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ออกจากสมณศักดิ์เรียบร้อยแล้ว เพื่อเปิดทางให้ทางคณะสงฆ์ได้ใช้มาตรการทางสงฆ์เข้าดำเนินการกับธัมมชโย และทัตตชีโว พร้อมกับการจัดระเบียบวัดพระธรรมกายใหม่ตามหลักการทางพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องต่อไป

ถึงวันนี้ก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากฝ่ายวัดพระธรรมกายแล้วว่าขอให้รัฐบาลและมหาเถรสมาคม ตั้งศาลสงฆ์เข้ามาชำระความธัมมชโย ทัตตชีโวและพระรูปอื่น ๆ รวมถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย เพื่อสามารถยุติปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด
และวันนี้ (10 มีนาคม) มีการประชุมมหาเถรสมาคม และหลายฝ่ายต่างลุ้นกันว่าจะมีวาระจรพิจารณาเอาผิดทางวินัยกับธัมมชโย ถึงขั้นปาราชิกหรือไม่ ?

อย่างไรก็ดีในระหว่างรอผลการประชุมนั้น หลวงปู่พุทธะอิสระ (พระพุทธะอิสระ) แห่งวัดอ้อน้อย ได้อธิบายความไว้อย่างละเอียด ว่าวิธีการที่จะดำเนินการกับธัมมชโย ที่กระทำผิดพระธรรมวินัย ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ว่าจะมีใครกล้าหรือไม่ พร้อมกันนี้ยังอธิบายให้เห็นถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังที่วัดพระธรรมกายปลุกกระแสขอตั้งศาลสงฆ์ขึ้นมาตัดสินคดีธัมมชโยและวัดพระธรรมกายว่าบิ๊กตู่และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อย่าได้หลงกลเด็ดขาด!

พระพุทธะอิสระ บอกว่า เรื่องของธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ได้มีการพูดคุยกับพันตำรวจโทพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ ถึงการแก้ไขปัญหาว่าในมุมของอาณาจักรก็ให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ในเรื่องของศาสนาจักร ที่ในช่วง 2 วันนี้มีการเรียกร้องของฝ่ายวัดพระธรรมกาย ให้มีการตั้งศาลสงฆ์เพื่อนำคดีธัมมชโย พระรูปอื่น ๆ และวัดพระธรรมกายเข้าสู่กระบวนการทางศาลสงฆ์ ซึ่งหากรัฐบาลทำจริงก็เท่ากับเป็นการยืดลมหายใจให้กับธัมมชโยและวัดพระธรรมกายต่อไปอีกซึ่งไม่รู้ว่า 3 ปีจะจบหรือไม่?

“ศาลสงฆ์ต้องเริ่มจากกฎนิคหกรรม ก่อนเข้าสู่การพิจารณา ต้องไล่จากศาลชั้นต้น ก็มีตำบลอำเภอ ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นลูกน้องวัดพระธรรมกาย ต่อด้วยศาลอุทธรณ์คือเจ้าคณะจังหวัดภาคก็ยิ่งไปกันใหญ่ พอถึงขั้นศาลฎีกา ก็คือเจ้าคณะหน ซึ่งกว่าจะมาถึงศาลฎีกา ก็เท่ากับการประวิงเวลาให้ธัมมชโยและวัดพระธรรมกายได้หายใจและรอให้รัฐบาลบิ๊กตู่พ้นไปเสียก่อน”

พระพุทธะอิสระ บอกว่า ได้เตือนเรื่องนี้กับ ผอ.สำนักงานพระพุทธฯ ว่าอย่าไปหลงประเด็นและอย่านำกฎนิคหกรรมมาใช้ในกรณีของธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย จะทำให้การทำงานล่าช้า และเท่ากับว่ารัฐบาลกำลังหลงประเด็น ซึ่งเดิมวัดพระธรรมกายปฏิเสธศาลสงฆ์มาตลอด แต่เมื่อเห็นว่าไม่มีหนทางแล้วจึงเรียกร้องให้มีการตั้งศาลสงฆ์ขึ้นมา เพระเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำให้ธัมมชโยและวัดพระธรรมกายรอดพ้นจากปัญหาด้วยการประวิงเวลาเพื่อให้มีการเลือกตั้งและได้รัฐบาลใหม่ก็จะเป็นโอกาสของวัดพระธรรมกาย

“พวกนี้เล่นกันเป็น ใช้ศาลสงฆ์ยืดระยะเวลา ขณะที่อีกฝ่ายก็จี้ให้มีการเลือกตั้งเร็ว ๆ ทุกอย่างเป็นเกมไปหมด”
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ส่วนวิธีที่จะทำให้เรื่องนี้จบโดยเร็วนั้น พระพุทธอิสระ บอกมีอยู่ด้วยกัน 2 แนวทาง ประกอบด้วย
แนวทางที่ 1 ให้ใช้อำนาจของสมเด็จพระสังฆราช ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ข้อที่ 44 ที่ระบุไว้ว่า พระสังฆาธิการ เจ้าคณะปกครอง ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชอย่างเคร่งครัด วิธีการก็คือ ผอ.สำนักพุทธ ต้องเป็นคนดำเนินการในฐานะเลขามหาเถรสมาคม และก็เป็นที่ปรึกษาสมเด็จพระสังฆราชด้วย โดยนำเอาข้อวินิจฉัยของสมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 19 ที่ได้มีพระลิขิตไว้ว่าธัมมชโยได้อาบัติปาราชิกขาดจาดความเป็นพระภิกษุมาตั้งแต่ปี 2542 แล้วนำไปถวายต่อสมเด็จพระสังฆราช ได้พิจารณาและให้ทรงเห็นชอบและลงนามสั่งการให้เจ้าคณะหนกลางไปดำเนินการ บังคับให้ธัมมชโย ปฏิบัติตามพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

แต่ในการนำเรื่องไปเสนอให้สมเด็จพระสังฆราชพิจารณานั้น จะต้องนำคดีความต่าง ๆ กว่า 300 คดี รวมทั้งหมายจับธัมมชโย ประกอบไปด้วย เพื่อให้เห็นว่าธัมมชโยเป็นบุคคลผู้ล้มละลายในพระธรรมวินัยซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องสึกไปทันที

ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 9 มี.ค.ก่อนจะมีการประชุมมหาเถรสมาคม หน่วยงานดีเอสไอ ปปง. และตำรวจ ได้ไปยื่นหลักฐานสำนวนคดีที่เกี่ยวข้องกับธัมมชโยกว่า300 คดีและยังมีคดีที่เป็นหมายจับไว้แล้ว

คำวินิจฉัยของพระสังฆราช คือ การขาดจากความเป็นพระ คือ ปาราชิก แต่ถ้าเจ้าคณะหนกลางไม่ปฏิบัติ ก็ปลด เนื่องจากพระบัญชาพระสังฆราช เป็นกฎหมาย

พระพุทธะอิสระ บอกว่าวิธีนี้ พระธัมมชโยต้องปาราชิก และเรื่องนี้พระพุทธะอิสระได้ไปยื่นเรื่องหรือเขี่ยลูกไว้ให้แล้ว สำคัญว่าจะหยิบมาเล่นหรือไม่เท่านั้น ถ้าทำได้ จะใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียวก็ปาราชิกแล้ว และจะใช้วิธีการนี้สึกพระทัตตชีโวและพระรูปอื่นของวัดพระธรรมกายที่กระทำการผิดพระธรรมวินัยได้เช่นกัน หากเป็นพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชโดยมอบหมายเป็นลายลักษร์อักษรให้เจ้าคณะหนกลางไปดำเนินการกับพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติ ปาราชิกตามพระลิขิต ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ว่ายากสอนยาก บุคคลที่ละเลยในพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ สามารถจับสึกได้หมดโดยไม่ต้องไปตั้งคณะทำงาน

ในยุคของสมเด็จช่วง แค่เป็นรักษาการก็ยังปลดกรรมการมหาเถรได้องค์หนึ่งคือ พระพรหมสุธี (เจ้าคุณเสนาะ) วัดสระเกศ และถอดตำแหน่งด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อำนาจของผู้ทำหน้าที่พระสังฆราช มีอำนาจเหมือน รัฏฐาธิปัตย์ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เร็วที่สุด

พระพุทธะอิสระ ระบุชัดว่า ถ้าหากเลือกใช้ศาลสงฆ์ นอกจากจะดำเนินการกับธัมมชโยไม่ได้แล้ว เพราะไม่มีหลักประกันว่าจะดำเนินการได้รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้ออกมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิกมาตรา 44 และถ้าไม่ดำเนินการอาจจะมีการเคลื่อนไหว เนื่องจากมีการระดมคนไว้แล้ว

อาตมาเข้าใจว่าคงมียอดผู้ที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวพอสมควรจึงจะมายื่นหนังสือ มีข้อมูลที่ได้จากเพื่อนพระด้วยกัน คนพวกนี้ได้ไปติดต่อพวกที่เป็นธรรมกายทั้งพระและศิษย์ ที่มีกำลังคนอยู่ในมือ บวกกับพวกแกนนำเสื้อแดง หัวคะแนนพรรค หลายจังหวัด เพื่อระดมไพร่พลเข้ามา

เดิมนั้นจะระดมเข้ามาวัดพระธรรมกาย แต่ถูกทหารและตำรวจ สกัดไว้ได้ ก็หันมายกป้ายในต่างจังหวัดไปก่อน แต่ครั้งนี้จะมีการเคลื่อนกำลังเพื่อมายื่นหนังสือ ซึ่งเชื่อว่าคงมียอดจำนวนคนตามที่ต้องการแล้วจึงกล้าที่จะขู่รัฐบาล

ส่วนแนวทางที่ 2 เนื่องจากปัจจุบันวัดพระธรรมกายยังไม่มีเจ้าอาวาส ดังนั้นสิ่งที่สำนักพุทธจะดำเนินการได้ก็คือต้องรีบเสนอเพื่อจะขอแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ตามกฎหมายคือเจ้าคณะตำบลหรือเจ้าคณะอำเภอ โดยความเห็นชอบของเจ้าคณะจังหวัด เข้าไปรักษาการ จากนั้นดีเอสไอก็ขอความร่วมมือกับรักษาการเจ้าอาวาส ใช้อำนาจให้คณะสงฆ์เปิดทาง เพื่อเข้าไปตรวจค้นภายในวัด ทุกซอกทุกมุม

แต่ถ้าไม่ยอมก็สั่งเป็นลายลักษณ์อักษร 3 ครั้ง และถ้าสั่งแล้ว ไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเป็นพวกนานาสังวาส (ความต่างกันของศีล ความเห็นข้อปฏิบัติ) ก็สามารถประชุมสงฆ์ ลงปัพพาชนียกรรมคือการขับออกจากคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย

“การลงปัพพาชนียกรรม เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย ถือเป็นบุคคลที่ไม่มีสังกัด แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์ ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการที่สามารถทำได้ไม่ยากและทำได้ภายใน 3 วันก็จบ”

พระพุทธะอิสระ ย้ำว่า การเลือกใช้อำนาจผู้รักษาการเจ้าอาวาสเป็นหัวหอกนั้น กระทำได้ตามกฎมหาเถรสมาคมที่ว่าด้วยจรรยาพระสังฆาธิการ ที่ดำเนินการกับบุคคลที่ละเมิด ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยขอความร่วมมือกับเจ้าคณะปกครองเพื่อให้ดำเนินการกับภิกษุที่ต้องคดีอาญา

อย่างไรก็ดีพระพุทธะอิสระ บอกอีกว่า หลักฐานที่ปรากฏอยู่ของพระและศิษย์ที่อยู่ในวัดพระธรรมกาย เป็นคนที่รู้ยุทธวิธี ดูได้จากวิธีการที่ออกมาต่อต้าน เป็นขั้นเป็นตอน เป็นฉาก ซึ่งการจัดแถวจะเป็นการใช้พระนำ และนำผู้หญิง คนแก่ สลับสับเปลี่ยนกัน ซึ่งวิธีการแบบนี้เป็นพวกรู้ยุทธวิธี รู้จิตวิทยามวลชน ไม่ใช่คนไร้เดียงสาที่มาชุมนุมกัน

“วิธีนี้แสดงให้เห็นว่า มีทั้งทหาร ตำรวจ อยู่ในวัดพระธรรมกายอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะธัมมชโยก็มีลูกศิษย์อยู่ทั่วไป”

จากนี้ไปต้องติดตามการประชุมของมหาเถรสมาคมในวันนี้ (10 มี.ค.) ว่าจะนำเรื่องของธัมมชโยเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่? และจะมีการสึกธัมมชโยได้หรือไม่? แต่หากยังไม่มีการพิจารณาจากมหาเถรสมาคมในวันนี้ สิ่งที่พระพุทธะอิสระเป็นห่วงที่สุดก็คือ รัฐบาลและสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ อย่าหลงกลธัมมชโยและวัดพระธรรมกายเลือกใช้วิธีตั้งศาลสงฆ์ เพราะหากกระทำเช่นนั้นจะเป็นอันตรายที่สุดเพราะเป็นการยืดลมหายใจเพื่อให้วัดพระธรรมกายกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในรัฐบาลต่อไป !

กำลังโหลดความคิดเห็น