xs
xsm
sm
md
lg

ใช้ “กฎ มส.” สึกธัมมชโยกลางอากาศ ชี้ผู้ชุมนุมยังดื้ออาจเจอข้อหาอั้งยี่!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จับตามหาเถรสมาคม อาจใช้กฎ มส.ฉบับที่ 21(2538) สึกพระธัมมชโยภายใน 10 มีนาคมนี้ ให้มีสถานะเป็นเพียง “นายไชยบูลย์ สุทธิผล” ผู้ต้องหาคดีตามหมายจับ เพื่อยุติปัญหาการชุมนุมของบรรดาพระสงฆ์และศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงหลังพบท่อน้ำเลี้ยง ถังน้ำมัน และการระดมคน ชี้หากผู้ชุมนุมยังปักหลักอยู่ต่อไป อาจเจอข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร เพราะผิดกฎหมายและฝ่าฝืน ม.44 ที่ไปปกป้องผู้ต้องหาตามหมายจับ ระบุ มหาเถระเตรียมส่งพระที่มีคุณสมบัติพร้อมเข้ามาบริหารวัดพระธรรมกายหลังมีการเปลี่ยนพระผู้บริหารวัดกว่า 7 รูป

คดีพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกาย ที่สังคมหวั่นจะนำไปสู่สถานการณ์ความรุนแรง โดยเฉพาะตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศใช้ ม.44 เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา กำลังจะถึงจุดจบลงแล้ว โดยที่พระธัมมชโยจะมีสถานภาพเป็นเพียงนายไชยบูลย์ สุทธิผล ผู้ต้องหาคดีหมายจับต่าง ๆ

เพราะทันทีที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องถอดถอนสมณศักดิ์ ด้วยพระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล) วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีกระทำความผิดข้อหาร่วมกันฟอกเงินและรับของโจร ตามที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับ ที่ ๙๔๒/๒๕๕๙ ลงวันที่ 17 พฤษภาคม ๒๕๕๙ และยังถูกกล่าวหาในคดีอาญาฐานอื่นอีกหลายฐานความผิด ซึ่งอัยการคดีพิเศษมีความเห็นสั่งฟ้องในบางคดีด้วยแล้ว แต่พระเทพญาณมหามุนีไม่ยอมมามอบตัวตามหมายเรียก และได้หลบหนีคดีดังกล่าว จึงไม่สมควรดำรงอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป และได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมต่อไปแล้ว

บัดนี้ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ถอดถอนพระเทพญาณมหามุนี (พระไชยบูลย์ สุทธิผล)ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. 2560 ประกาศ ณ วันที่ 5 มี.ค. 2560 ผู้รับสนองพระราชโองการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ดังนั้นเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอดสมณศักดิ์พระธัมมชโยแล้ว ทำให้สถานภาพของพระธัมมชโยในเวลานี้จึงเป็นเพียงพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ต้องคดีและมีหมายจับอยู่หลายหมาย

แต่การที่พระธัมมชโยยังมีสถานะเป็นพระสงฆ์อยู่นั้นอาจทำให้บรรดาพระสงฆ์ในวัดพระธรรมกายและวัดเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งศิษยานุศิษย์ใช้เป็นข้ออ้างในการชุมนุมต่อไปโดยอ้างเพื่อปกป้องพระธัมมชโยและอาจมีการระดมคนเข้ามาเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ เรื่องนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) บอกว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการสึกพระธัมมชโย แม้จะไม่สามารถจับตัวพระธัมมชโยมาได้ ก็สามารถจัดการสึกได้ และต่อไปก็จะเป็นเพียงนายไชยบูลย์ สุทธิผล ผู้ต้องหาคดีตามหมายจับกว่า 7 หมายและยังมีหมายเรียกอีกจำนวนมาก

“มหาเถรสมาคม สามารถใช้กฎ มส.ฉบับที่ 21 ปี 2538 สั่งให้ธัมมชโย สละสมณเพศ เรียกว่าเป็นการสึกกลางอากาศ เหมือนครั้งหนึ่งเคยดำเนินการกับพระยันตระมาแล้ว โดยที่มหาเถรสมาคมประชุมและมีมติให้พระยันตระพ้นจากการเป็นพระโดยไม่ต้องนำตัวมาดำเนินการ ”

นายไพบูลย์ บอกว่า ก่อนหน้านี้อยากให้สังคมเรียกร้องให้พระธัมมชโยมามอบตัวและได้รับการประกันตัว แต่พระธัมมชโยไม่ยอมที่จะมอบตัวและยังหลบหนีคดี จนนำไปสู่ปัญหามากมายที่เกิดขึ้นบริเวณวัดพระธรรมกาย รวมทั้งอาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง เพราะเจ้าหน้าที่รัฐตรวจพบมีการขุดคูน้ำ วางถังน้ำมันเป็นจำนวนมากภายในวัด มีการขนคนเข้ามา และยังพบเส้นทางการเงินที่ใช้ในการชุมนุมด้วย

ตรงนี้จึงเลยจุดที่จะมีการมอบตัวไปแล้ว ตอนนี้จึงไม่สมควรดำรงอยู่ในสมณเพศต่อไป ซึ่งทางออกที่ดีคือการจับสึก”
 การขุดคูคลองเป็นแนวขวาง 4 แนว ใกล้บริเวณอาคารบุญรักษามีการเติมน้ำเข้าไปบางส่วนลักษณะคล้ายยุทธวิธีทางทหาร รวมถึงพบถังบรรจุน้ำมัน 200 ลิตร และเต็นท์พระ
ดังนั้นจึงเชื่อว่าภายในวันที่ 10 มีนาคม ที่จะมีการประชุมมหาเถรสมาคม จะต้องมีการนำเรื่องกฎ มส.ฉบับที่ 21(2538) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศมาพิจารณา โดยเฉพาะข้อ 3 ระบุไว้ว่า ในกรณีพระภิกษุรูปใดประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกัน หรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ให้พระคณะปกครองสงฆ์มีอำนาจวินิจฉัยให้พระภิกษุรูปนั้นสละสมณเพศได้ มาดำเนินการสั่งให้พระธัมมชโยพ้นจากสมณเพศได้ในทันที

“อาจจะมีคำสั่งก่อนวันที่ 10 มี.ค.ก็ได้ เพื่อให้เรื่องการชุมนุมของวัดพระธรรมกายยุติโดยเร็ว

นายไพบูลย์ บอกว่า หากมหาเถรสมาคมมีคำสั่งดังกล่าวออกมาให้พระธัมมชโยสึก จะช่วยให้สถานการณ์การชุมนุมที่วัดพระธรรมกายคลี่คลายลงได้ เพราะทุกวันนี้บรรดาพระและศิษยานุศิษย์ อ้างว่าการมาชุมนุมที่บริเวณวัดพระธรรมกายก็เพื่อปกป้องพระธัมมชโยและพุทธศาสนาที่กำลังถูกดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร เข้ามาตรวจค้นเพื่อจะยึดวัดพระธรรมกาย ดังนั้นทันทีที่มีคำสั่งสึกกลางอากาศ ก็จะทำให้พระธัมมชโยไม่ใช่พระสงฆ์อีกต่อไป แต่มีสถานะเป็นเพียงนายไชยบูลย์ สุทธิผล ที่ต้องต่อสู้คดีตามหมายจับเท่านั้น

ดังนั้นหากพระสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ จะยังคงปักหลักชุมนุมกันต่อไปอีก ก็จะได้ชื่อว่าคนเหล่านี้ปกป้องคนหนีคดี(นายไชยบูลย์) และผู้ชุมนุมก็จะมีความผิดตามกฎหมาย และยังฝ่าฝืนคำสั่ง ม.44 และอาจโดนข้อหาอั้งยี่หรือซ่องโจรได้ด้วย

ดีเอสไอมีข้อมูลท่อน้ำเลี้ยง ใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับการปลุกระดมมวลชน จึงเชื่อว่าผู้ชุมนุมก็น่าจะยุติและคืนความสงบให้กับคนในพื้นที่และวัดพระธรรมกายได้แล้ว

ขณะเดียวกันมหาเถรสมาคม ก็จะต้องพิจารณาเปลี่ยนตัวผู้บริหารวัดพระธรรมกายตั้งแต่เจ้าอาวาส และพระรูปอื่นอีกประมาณ 7-8 รูป และจัดหาพระที่มีความเหมาะสมเข้ามาบริหารวัดพระธรรมกาย โดยที่พระสงฆ์สังกัดวัดพระธรรมกาย และศิษยานุศิษย์จะยังคงปฏิบัติกิจในทางพุทธศาสนาในวัดพระธรรมกายต่อไปได้เช่นเดิม

กำลังโหลดความคิดเห็น