xs
xsm
sm
md
lg

ต้อน “ธัมมชโย” จนมุม! ส่งมือดี DSI กุด “แขน-ขา” องครักษ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ก้าวต่อไปของดีเอสไอ หลังได้ ผอ.พศ. คนใหม่ เดินหน้ากระชับพื้นที่ลดจำนวนองครักษ์พิทักษ์ พระธัมมชโย ชี้ ผอ.พศ. จะเป็นมือไม้สนองพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชได้ และทำให้นโยบายปฏิรูปศาสนาของรัฐบาลบิ๊กตู่เป็นจริง ส่วนพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ถูกต้อนเข้ามุมอับ เลือกหนีก็กลัวถูกจับระหว่างทาง วงในระบุธัมมชโยมีทางเลือกเดียว “ต้องมอบตัว” ถึงวันนั้นกระแสสังคมจะอุ้มให้ “ธัมมชโย” ได้ประกันตัวและไม่ถูกจับสึก แต่จะมีสถานะเดียวเป็นแค่พระสงฆ์ในวัดพระธรรมกาย ขณะที่วัดพระธรรมกายจะได้คณะสงฆ์ชุดใหม่เข้าบริหารวัดต่อไป

ปฏิบัติการตรวจค้นเต็มรูปแบบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตำรวจและทหาร เพื่อเข้าจับกุม พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกคำสั่งมาตรา 44 เข้าควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย ล่วงเลยมาถึง 13 วันแล้ว แม้จะยังไม่สามารถเข้าจับกุมพระธัมมชโยได้ แต่การตรวจค้นในบางพื้นที่ภายในวัดพระธรรมกายที่ผ่านมาก็ทำให้สังคมได้ประจักษ์แล้วว่าภายในวัดมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เหมาะสมที่พระสงฆ์จะพึงมีไว้ครอบครอง

และยิ่งนานวันอุณหภูมิความขัดแย้งก็ยิ่งขยายวงมากขึ้น มีโอกาสนำไปสู่ความรุนแรงได้ทุกขณะ ภาพความเกลียดชัง การเลือกข้างของผู้คนในสังคมก็มีให้เห็น และมีการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตามสื่อต่าง ๆ มากขึ้นโดยเฉพาะการออกเวทีสื่อของนายนที เอกวิจิตร หรือ อุ๋ย บุดด้าเบลส (Buddha bless) กับ นายอัยย์ เพชรทอง ศิษย์วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ประธานองค์กรพลังชาวพุทธ (อพพ.) มีการเปิดโหวตในรายการต่างคนต่างคิด ด้วยคำถามท่านเชื่อใคร? ระหว่างอุ๋ย บุดด้าเบลส กับ อัยย์ เพชรทอง ตอนคำสอนธรรมกาย (ไม่) บิดเบือน ผลออกมาให้ อุ๋ย บุดด้าเบลส ร้อยละ 96.73 ไม่เชื่อใครเลย ร้อยละ 2.19 ส่วนอัยย์ เพชรทอง ได้ร้อยละ 1.08
นายนที เอกวิจิตร หรือ อุ๋ย บุดด้าเบลส (Buddha bless)
“อุ๋ย บุดด้าเบลส“ กลายเป็นบุคคลที่สังคมให้ความสนใจมากขึ้น เพราะสังคมเชื่อว่าเขารู้ลึกและรู้จริงในเรื่องของพุทธศาสนา โดยเฉพาะอุ๋ยจะมาร่วมงานกับวัดสวนโมกข์ของท่านพุทธทาส ภิกขุ และมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนในสิ่งที่เป็นประโยชน์ในสายปฏิบัติอยู่เป็นประจำ แต่ดูเหมือนว่า ตลอด 13 วันของการยึดพื้นที่วัดพระธรรมกายยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร

“จริง ๆ บิ๊กตู่น่าจะย้าย นายพนม ไปตั้งนานแล้ว ก็รู้อยู่ว่า ปัญหาวัดพระธรรมกายที่ไม่สามารถจัดการได้เป็นเพราะสำนักพุทธฯ ร่วมมือกับมหาเถระชุดเดิม โดยมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง   แต่การออกคำสั่งครั้งนี้ของหัวหน้า คสช.ก็ถือว่าได้คนดีเข้ามาแก้ไขปัญหาพุทธศาสนาที่มันบิดเบี้ยวไปเพราะคำสอนของวัดพระธรรมกาย”

นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) บอกว่า การแต่งตั้งให้ พ.ต.ท.พงศ์พร มาเป็น ผอ.พศ.  เป็นเรื่องที่ดี เพราะ ผอ.พศ. ทำหน้าที่เป็นเลขาธิการมหาเถรสมาคม จะได้ทำงานสนองพระบัญชาของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) และทำงานสนองนโยบายของรัฐบาล พล.อ ประยุทธ์ในเรื่องการปฏิรูปกิจการต่าง ๆ ของพระพุทธศาสนา

“ที่ผ่านมา ผอ.พนม ทำงานสนองสมเด็จช่วง และคณะสงฆ์คนเดิม ๆ แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นคนใหม่ จะได้ทำงานสนองพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันได้ดีขึ้น จะได้แก้ปัญหาคณะสงฆ์ จัดการวัดต่าง ๆ ซึ่งหมายรวมถึงเรื่องของวัดพระธรรมกายที่มีเครือข่ายเยอะมาก จะได้เดินหน้าไปพร้อม ๆ กับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการปฏิรูปวงการสงฆ์”
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
ดังนั้นสถานการณ์ในเวลานี้ของพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เพราะก่อนหน้าที่จะประกาศ ม.44 พระธัมมชโยชะล่าใจในสายสัมพันธ์และบารมีที่ตัวเองมีอยู่กับคณะสงฆ์ รวมไปถึงมั่นใจในพลังของพระสงฆ์ที่สังกัดวัดพระธรรมกายทั่วประเทศและทั่วโลก และศิษยานุศิษย์ของวัดจะปกป้องตัวพระธัมมชโยได้ จึงไม่ยอมตัดสินใจไปต่างประเทศแม้จะมีการเตรียมการไว้แล้วก็ตาม

ขณะที่สถานการณ์ตอนนี้แม้ดีเอสไอจะยังไม่สามารถจับกุมพระธัมมชโยได้ แต่ก็พอจะรู้แล้วว่าพระธัมมชโยอยู่บริเวณไม่ไกลจากวัดพระธรรมกายมากนัก

“มีการติดต่อกับดีเอสไอจริง แต่มีเงื่อนไขให้ได้ประกันตัวและไม่จับสึก เป็นเรื่องที่พระธัมมชโยคิดผิดเพราะดีเอสไอไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาในเรื่องนี้ได้ เพราะเป็นเรื่องกระบวนการทางศาลเป็นผู้พิจารณา”

นายไพบูลย์ อธิบายถึงเรื่องการติดต่อขอมอบตัวของพระธัมมชโยกับดีเอสไอ ว่าเป็นเรื่องจริง แต่ต้องเข้าใจด้วยว่าดีเอสไอไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาหรือรับปากให้ประกันตัวได้ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ แต่เป็นขั้นตอนของศาลจะเป็นผู้พิจารณา

“ถ้าธัมมชโยมอบตัว และศาลอนุญาตให้ประกันตัวออกไปได้ ก็คงไม่ต้องสึก แต่ถ้าบังเอิญศาลสั่งขัง ก็ต้องสึกจากความเป็นพระทันที ตรงนี้หรือเปล่าที่ธัมมชโยกลัว เลยไม่ออกมามอบตัว”

นายไพบูลย์ บอกอีกว่า ปัจจุบันทางออกที่ดีที่สุดของพระธัมมชโยคือการเข้ามอบตัว ถ้าจะหลบหนีในเวลานี้เป็นเรื่องที่ลำบากมาก เนื่องจากไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดแม้จะเป็นศิษย์วัดธรรมกายก็คงไม่กล้าพาหลบหนี เพราะหากถูกจับได้ระหว่างการหลบหนี พระธัมมชโยจะต้องถูกดำเนินคดีและจับสึกทันที ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐก็ถูกดำเนินคดีไปด้วย ขณะเดียวกันหากสถานการณ์ยืดเยื้อแบบนี้พระและศิษย์วัดพระธรรมกายจะตกที่นั่งลำบาก

“รัฐบาลไม่มีปัญหาจะล้อมอีกเป็นเดือนก็ไม่เป็นไร สามารถจัดเปลี่ยนกำลังได้ แต่ฝ่ายวัดพระธรรมกายจะอ่อนแอไปเรื่อย ๆ ทั้งพระและศิษย์ก็จะค่อย ๆ ลดน้อยลง ส่วนคณะสงฆ์ อีกไม่นานก็คงจะเข้าไปจัดระเบียบหรือเปลี่ยนตัวผู้บริหารวัดได้”

แหล่งข่าวจากรัฐบาล ระบุว่า หลังจากที่ตั้ง พ.ต.ท.พงศ์พร มาเป็น ผอ.พศ. จะช่วยทำให้การทำงานของดีเอสไอ ทหาร และตำรวจ ในการเข้าจับกุมพระธัมมชโยและการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายสะดวกขึ้น เริ่มตั้งแต่พระสงฆ์ที่เข้ามาอยู่ในบริเวณวัดพระธรรมกายต้องมีใบสุทธิ ถ้าไม่มีก็ต้องออกจากพื้นที่ ส่งผลให้จำนวนพระสงฆ์ที่เป็นกำลังหลักปกป้องพระธัมมชโยลดจำนวนลง ขณะที่การเปลี่ยนตัวผู้บริหารวัดพระธรรมกาย ก็จะเกิดขึ้นได้เมื่อดีเอสไอเข้าไปเคลียร์ทุกอย่างจบ ก็จะยังคงสถานะเป็นวัดพระธรรมกายต่อไป

“มหาเถรสมาคม อาจจะมีการประชุมและมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงโดยส่งพระรูปใด หรือคณะใด ที่มีความเหมาะสมเข้ามาดูแลบริหารวัดธรรมกายต่อไป”

ขณะที่ดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร จะเดินหน้ากระชับพื้นที่วัดพระธรรมกายไปเรื่อย ๆ พร้อม ๆ กับปิดช่องทางการหนี เพื่อบีบให้พระธัมมชโยออกมามอบตัว ตามที่กระแสสังคมเริ่มเรียกร้องเพื่อเป็นการยุติปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด

เห็นได้จาก “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คดีวัดพระธรรมกาย จะจบอย่างไร” ในประเด็นคำถามที่ว่า พระธัมมชโย ควรทำมากที่สุดในขณะนี้ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.76 เห็นควรออกมามอบตัว รองลงมาร้อยละ 11.20 ควรหลบหนีต่อไป ร้อยละ 4.56 ควรสึกจากการเป็นพระ ร้อยละ 0.16 ไม่ต้องการทำอะไร และร้อยละ 2.32 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

“ถ้าพระธัมมชโยออกมามอบตัวเวลานี้ โอกาสที่จะได้ประกันตัวและไม่ต้องสึก จะมีความเป็นไปได้สูง เพราะสังคมเองก็ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในวงการศาสนา และนำไปสู่การเสียเลือดเสียเนื้อ”

แหล่งข่าวย้ำว่า เมื่อพระธัมมชโยยอมมอบตัว ก็จะสามารถดำรงตนเป็นพระสงฆ์ภายในวัดพระธรรมกายต่อไปได้ เพียงแต่จะไม่มีอำนาจ อิทธิพล หรือบารมีในฐานะเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายหรือเข้าบริหารสินทรัพย์ของวัด แต่จะมีสถานะเป็นพระสงฆ์รูปหนึ่งภายในวัด ที่ต้องต่อสู้คดีต่าง ๆ ต่อไปเท่านั้น

กำลังโหลดความคิดเห็น