เครือข่ายหนุนวัดพระธรรมกายสะดุด แผนจัดม็อบพระถูกสกัดโดยสำนักพุทธฯ ห้ามเคลื่อนไหว แถมเวทียุวพุทธโลกเบรกธรรมกายเป็นเรื่องภายในประเทศ แม้คนในพรรคเพื่อไทย-เสื้อแดงเปิดหน้าค้านมาตรา 44 ปกป้องวัดพระธรรมกาย แต่ภายใต้อำนาจ คสช. ทำได้เพียงแค่ส่งแรงใจ
การปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ในการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายตามคำสั่งมาตรา 44 เพื่อนำตัวพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย มาดำเนินคดี ล่วงเลยมา 13 วัน แต่ก็ยังไม่พบตัวพระธัมมชโย แต่ในการตรวจค้นนั้นทำได้เพียง 2-3 วัน จากนั้นลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายก็ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น ทุกอย่างจึงยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้
แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่รัฐควบคุมพื้นที่ กระบวนการต่อสู้ของพระและศิษย์วัดพระธรรมกายต่างระดมปลุกกระแสให้เครือข่ายของวัดออกมาร่วมกันกดดันการทำหน้าที่ของรัฐบาล แน่นอนว่าเครือข่ายของวัดพระธรรมกายที่ถือว่าเป็นสายตรงต่างร่วมแรงร่วมใจกันออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะการสั่งให้สาขาในต่างประเทศของวัดพระธรรมกายกระจายข่าวออกไปเพื่อดึงให้สื่อมวลชนในต่างประเทศเสนอข่าว เพื่อต้องการฟ้องเรื่องดังกล่าวต่อชาวโลก
จากนั้นบรรดาวัดบางแห่งในประเทศไทยก็เริ่มออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย มีทั้งวัดทางภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง และวัดทางภาคใต้ 323 วัด
วัดส่วนใหญ่ที่ออกมานั้นมีทั้งมาจากสายที่ให้การสนับสนุนสมเด็จช่วงฯ และส่วนที่เคยได้รับประโยชน์จากวัดพระธรรมกาย อย่างวัดในภาคใต้ 300 กว่าวัดนั้นทางวัดพระธรรมกายจะมีถวายสังฆทานให้ทุกปี งานนี้เมื่อทางธรรมกายมีภัยก็ต้องแสดงออกให้ทางวัดเห็น
เป้าเดิมปลุกม็อบพระ
สำหรับกองหนุนวัดพระธรรมกายในกรณีที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ จะเป็นวัดเครือข่ายของธรรมกายที่มีตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ธรรมกายแทรกซึมไปถึงระดับเจ้าคณะจังหวัด ทำหนังสือคัดค้าน ม.44 แต่ก็มีบางจังหวัดที่ไม่เล่นด้วย
นอกจากนี้สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยได้แถลงการณ์ไปในทิศทางเดียวกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งในช่วงที่วัดพระธรรมกายถูกดำเนินคดี สมาพันธ์ฯ ได้เร่งจัดตั้งเครือข่ายในแต่ละจังหวัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งกลุ่มนี้มีหัวเรือใหญ่ของสมาพันธ์ฯ คือ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ มีทิศทางในการเคลื่อนไหวเป็นในทางเดียวกับวัดพระธรรมกาย และมีแนวความคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองเพื่อเข้ามาปกป้องพระพุทธศาสนา ตอนนี้มีนายกรณ์ มีดี เข้ามาเป็นเลขาธิการสมาพันธ์ฯ โดยที่นายกรณ์นั้นเคยเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จังหวัดนนทบุรี
“เดิมทางวัดพระธรรมกายไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสมาพันธ์ฯ มากนัก แต่ตอนนี้จำเป็นต้องจับมือกัน เพราะสมาพันธ์ฯ ออกแถลงการณ์ในนาม 53 องค์กรหนุนทางวัดพระธรรมกาย” แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่แกนนำพระอีกรายตอนนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างพระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย หลังจากที่สมเด็จช่วงฯ หรือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไม่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช
ตัดเกมเปลี่ยนตัว พศ.
ตอนนี้การที่จะระดมพระออกมาเคลื่อนไหว กดดันรัฐบาลนั้นคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จากนายพนม ศรศิลป์ มาเป็น พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ หลังจากนั้นออกประกาศขอความร่วมมือไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ในทุกจังหวัด ให้ประชาสัมพันธ์ไปยังพระภิกษุสามเณรในทุกจังหวัดว่า ให้งดการเดินทางมาร่วมชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ วัดพระธรรมกายและบริเวณโดยรอบ เนื่องจากจะมีความผิดตามกฎหมาย
นอกจากนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ติดป้ายประกาศหน้าวัดพระธรรมกาย งดพระภิกษุ สามเณร ชุมนุมขัดขวางเจ้าหน้าที่บริเวณวัดพระธรรมกาย เป็นความผิดตามกฎหมาย
ถือว่าทำให้แผนในการปลุกพระให้เข้ามาร่วมชุมนุมต้องสะดุดลง แม้จะมีพระบางส่วนที่เข้ามาบ้างแต่การใช้พระสังฆาธิการเข้ามาตรวจสอบพระที่เข้ามาร่วมชุมนุมนั้น สามารถสั่งให้กลับวัดได้ หากดื้อดึงอาจถึงขั้นจับสึกได้
ธรรมกายหน้าแหกที่เกาหลี
ขณะที่การเดินเกมในต่างประเทศ แม้จะมีพระวีระธุจากพม่าเข้ามาสนับสนุนวัดพระธรรมกาย แต่คงไม่มีผลเพราะเป็นเรื่องภายในประเทศไทย นอกจากนี้มีความพยายามที่จะนำเอาเรื่องวัดพระธรรมกายเข้าสู่การประชุมสมาคมชาวยุวพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ครั้งที่ 78 ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2560 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพบว่า ในการประชุมดังกล่าวผู้แทนฝ่ายไทยที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวได้เป็นผู้ยกประเด็นเรื่อง วัดพระธรรมกายขึ้นในที่ประชุม Standing Committee โดยขอให้ที่ประชุมเห็นชอบและร่วมกดดันให้รัฐบาลไทยยกเลิกมาตรา 44
ทั้งนี้ ที่ประชุมในฝ่ายผู้แทนพระและวัดของเกาหลีใต้เห็นว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องภายในของประเทศไทย ดังนั้นการดำเนินการควรต้องเคารพและเป็นไปตามกระบวนการภายในและกฎหมายที่เกี่ยวข้องของไทย โดยการหารือเรื่องข้างต้นเป็นเพียงการหารือสั้น ๆ และภายหลังการประชุมมิได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการประชุม หรือเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับการยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติหรือองค์กรอื่น ๆ ผลที่คาดหวังคงไม่มีอะไรมากนัก เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้ใช้ความรุนแรงและเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องภายในประเทศไทย ทำให้น้ำหนักในการเข้ามากดดันเจ้าหน้าที่รัฐน้อยลง
เพื่อไทย-เสื้อแดงออกโรง
อย่างไรก็ตามทางวัดพระธรรมกายยังมีแรงหนุนจากส่วนอื่นอีก โดยเฉพาะการเปิดตัวของอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยอย่างนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นางสาวลีลาวดี วัชโรบล อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายกระทรวง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรี รวมไปถึง พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันทน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย
เช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดงในบางจังหวัดที่เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านมาตรา 44 กรณีวัดพระธรรมกาย ทั้งอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ปทุมธานี นครราชสีมา และนครสวรรค์
ปฏิเสธไม่ได้ว่าวัดพระธรรมกายนั้นจะมีนักการเมืองแทบทุกพรรคเข้ามา เนื่องจากมีลูกศิษย์นับล้านคน จึงมีผลต่อการเลือกตั้ง แต่พรรคเพื่อไทยถือว่าใกล้ชิดกับทางวัดมากกว่าพรรคอื่น ๆ เนื่องจากลูกศิษย์คนสำคัญของวัดพระธรรมกายอย่างนายอนันต์ อัศวโภคิน เคยร่วมงานทางการเมืองกับทักษิณ ชินวัตร มาก่อนตั้งแต่สมัยที่อยู่พรรคพลังธรรม และยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีซึ่งคนในครอบครัวชินวัตรปัจจุบันก็ยังคงทำบุญอยู่ที่วัดพระธรรมกาย
ดังนั้นเราจึงได้เห็นการออกมาเคลื่อนไหวของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่อกรณีวัดพระธรรมกาย เพราะหากวัดพระธรรมกายไม่สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนเดิม ย่อมไม่เป็นผลบวกต่อการเลือกตั้งในครั้งต่อไปของพรรคเพื่อไทย แต่ภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีผลให้การเคลื่อนไหวทำได้น้อยลง
การปฏิบัติหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ในการควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายตามคำสั่งมาตรา 44 เพื่อนำตัวพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย มาดำเนินคดี ล่วงเลยมา 13 วัน แต่ก็ยังไม่พบตัวพระธัมมชโย แต่ในการตรวจค้นนั้นทำได้เพียง 2-3 วัน จากนั้นลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายก็ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น ทุกอย่างจึงยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้
แต่ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่รัฐควบคุมพื้นที่ กระบวนการต่อสู้ของพระและศิษย์วัดพระธรรมกายต่างระดมปลุกกระแสให้เครือข่ายของวัดออกมาร่วมกันกดดันการทำหน้าที่ของรัฐบาล แน่นอนว่าเครือข่ายของวัดพระธรรมกายที่ถือว่าเป็นสายตรงต่างร่วมแรงร่วมใจกันออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะการสั่งให้สาขาในต่างประเทศของวัดพระธรรมกายกระจายข่าวออกไปเพื่อดึงให้สื่อมวลชนในต่างประเทศเสนอข่าว เพื่อต้องการฟ้องเรื่องดังกล่าวต่อชาวโลก
จากนั้นบรรดาวัดบางแห่งในประเทศไทยก็เริ่มออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย มีทั้งวัดทางภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง และวัดทางภาคใต้ 323 วัด
วัดส่วนใหญ่ที่ออกมานั้นมีทั้งมาจากสายที่ให้การสนับสนุนสมเด็จช่วงฯ และส่วนที่เคยได้รับประโยชน์จากวัดพระธรรมกาย อย่างวัดในภาคใต้ 300 กว่าวัดนั้นทางวัดพระธรรมกายจะมีถวายสังฆทานให้ทุกปี งานนี้เมื่อทางธรรมกายมีภัยก็ต้องแสดงออกให้ทางวัดเห็น
เป้าเดิมปลุกม็อบพระ
สำหรับกองหนุนวัดพระธรรมกายในกรณีที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ จะเป็นวัดเครือข่ายของธรรมกายที่มีตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ธรรมกายแทรกซึมไปถึงระดับเจ้าคณะจังหวัด ทำหนังสือคัดค้าน ม.44 แต่ก็มีบางจังหวัดที่ไม่เล่นด้วย
นอกจากนี้สมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยได้แถลงการณ์ไปในทิศทางเดียวกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งในช่วงที่วัดพระธรรมกายถูกดำเนินคดี สมาพันธ์ฯ ได้เร่งจัดตั้งเครือข่ายในแต่ละจังหวัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งกลุ่มนี้มีหัวเรือใหญ่ของสมาพันธ์ฯ คือ ดร.บรรจบ บรรณรุจิ มีทิศทางในการเคลื่อนไหวเป็นในทางเดียวกับวัดพระธรรมกาย และมีแนวความคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองเพื่อเข้ามาปกป้องพระพุทธศาสนา ตอนนี้มีนายกรณ์ มีดี เข้ามาเป็นเลขาธิการสมาพันธ์ฯ โดยที่นายกรณ์นั้นเคยเป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จังหวัดนนทบุรี
“เดิมทางวัดพระธรรมกายไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสมาพันธ์ฯ มากนัก แต่ตอนนี้จำเป็นต้องจับมือกัน เพราะสมาพันธ์ฯ ออกแถลงการณ์ในนาม 53 องค์กรหนุนทางวัดพระธรรมกาย” แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่แกนนำพระอีกรายตอนนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างพระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย หลังจากที่สมเด็จช่วงฯ หรือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไม่ได้เป็นสมเด็จพระสังฆราช
ตัดเกมเปลี่ยนตัว พศ.
ตอนนี้การที่จะระดมพระออกมาเคลื่อนไหว กดดันรัฐบาลนั้นคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จากนายพนม ศรศิลป์ มาเป็น พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ หลังจากนั้นออกประกาศขอความร่วมมือไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ในทุกจังหวัด ให้ประชาสัมพันธ์ไปยังพระภิกษุสามเณรในทุกจังหวัดว่า ให้งดการเดินทางมาร่วมชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ วัดพระธรรมกายและบริเวณโดยรอบ เนื่องจากจะมีความผิดตามกฎหมาย
นอกจากนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ติดป้ายประกาศหน้าวัดพระธรรมกาย งดพระภิกษุ สามเณร ชุมนุมขัดขวางเจ้าหน้าที่บริเวณวัดพระธรรมกาย เป็นความผิดตามกฎหมาย
ถือว่าทำให้แผนในการปลุกพระให้เข้ามาร่วมชุมนุมต้องสะดุดลง แม้จะมีพระบางส่วนที่เข้ามาบ้างแต่การใช้พระสังฆาธิการเข้ามาตรวจสอบพระที่เข้ามาร่วมชุมนุมนั้น สามารถสั่งให้กลับวัดได้ หากดื้อดึงอาจถึงขั้นจับสึกได้
ธรรมกายหน้าแหกที่เกาหลี
ขณะที่การเดินเกมในต่างประเทศ แม้จะมีพระวีระธุจากพม่าเข้ามาสนับสนุนวัดพระธรรมกาย แต่คงไม่มีผลเพราะเป็นเรื่องภายในประเทศไทย นอกจากนี้มีความพยายามที่จะนำเอาเรื่องวัดพระธรรมกายเข้าสู่การประชุมสมาคมชาวยุวพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ครั้งที่ 78 ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2560 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี
กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพบว่า ในการประชุมดังกล่าวผู้แทนฝ่ายไทยที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวได้เป็นผู้ยกประเด็นเรื่อง วัดพระธรรมกายขึ้นในที่ประชุม Standing Committee โดยขอให้ที่ประชุมเห็นชอบและร่วมกดดันให้รัฐบาลไทยยกเลิกมาตรา 44
ทั้งนี้ ที่ประชุมในฝ่ายผู้แทนพระและวัดของเกาหลีใต้เห็นว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องภายในของประเทศไทย ดังนั้นการดำเนินการควรต้องเคารพและเป็นไปตามกระบวนการภายในและกฎหมายที่เกี่ยวข้องของไทย โดยการหารือเรื่องข้างต้นเป็นเพียงการหารือสั้น ๆ และภายหลังการประชุมมิได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการประชุม หรือเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายแต่อย่างใด
เช่นเดียวกับการยื่นหนังสือต่อองค์การสหประชาชาติหรือองค์กรอื่น ๆ ผลที่คาดหวังคงไม่มีอะไรมากนัก เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้ใช้ความรุนแรงและเรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องภายในประเทศไทย ทำให้น้ำหนักในการเข้ามากดดันเจ้าหน้าที่รัฐน้อยลง
เพื่อไทย-เสื้อแดงออกโรง
อย่างไรก็ตามทางวัดพระธรรมกายยังมีแรงหนุนจากส่วนอื่นอีก โดยเฉพาะการเปิดตัวของอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทยอย่างนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นางสาวลีลาวดี วัชโรบล อดีตส.ส.กรุงเทพมหานคร นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายกระทรวง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรัฐมนตรี รวมไปถึง พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันทน์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย
เช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดงในบางจังหวัดที่เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านมาตรา 44 กรณีวัดพระธรรมกาย ทั้งอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ ปทุมธานี นครราชสีมา และนครสวรรค์
ปฏิเสธไม่ได้ว่าวัดพระธรรมกายนั้นจะมีนักการเมืองแทบทุกพรรคเข้ามา เนื่องจากมีลูกศิษย์นับล้านคน จึงมีผลต่อการเลือกตั้ง แต่พรรคเพื่อไทยถือว่าใกล้ชิดกับทางวัดมากกว่าพรรคอื่น ๆ เนื่องจากลูกศิษย์คนสำคัญของวัดพระธรรมกายอย่างนายอนันต์ อัศวโภคิน เคยร่วมงานทางการเมืองกับทักษิณ ชินวัตร มาก่อนตั้งแต่สมัยที่อยู่พรรคพลังธรรม และยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีซึ่งคนในครอบครัวชินวัตรปัจจุบันก็ยังคงทำบุญอยู่ที่วัดพระธรรมกาย
ดังนั้นเราจึงได้เห็นการออกมาเคลื่อนไหวของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่อกรณีวัดพระธรรมกาย เพราะหากวัดพระธรรมกายไม่สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้เหมือนเดิม ย่อมไม่เป็นผลบวกต่อการเลือกตั้งในครั้งต่อไปของพรรคเพื่อไทย แต่ภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีผลให้การเคลื่อนไหวทำได้น้อยลง
