xs
xsm
sm
md
lg

หมอมโน แฉนายตำรวจยศพันเอกพา “องอาจ” หนีเข้าลาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หมอมโน อดีตศิษย์วัดพระธรรมกาย ชี้ มีนายตำรวจยศพันเอก ช่วยพา “องอาจ ธรรมนิทา” หลบหนีเข้า “ลาว” เพื่อใช้เป็นเส้นทางบินต่อไปยังยุโรปได้อย่างสะดวกสบายเพราะมี SCHENGEN VISA ส่วนพระธัมมชโย หมอมโนยืนยันไม่อยู่ในวัดพระธรรมกาย 100% แต่อาจอยู่ในเซฟเฮาส์ในไทย หรือ ลูกศิษย์พาขึ้นเครื่องบิน JET บินออกนอกไปแล้ว ด้านแหล่งข่าวดีเอสไอ ชี้ภาพอาร์ทในร้านอาหารที่มีการส่งต่อโลกออนไลน์ เป็นของเก่า พร้อมการข่าวระบุ พระธัมมชโย เดินทางออกนอกประเทศผ่านเส้นทางชายแดนกัมพูชา แต่ไม่ระบุเป้าหมายที่อยู่ชัดเจน

ชื่อนายองอาจ ธรรมนิทา กำลังได้รับความสนใจและขุดคุ้ยกันในวงการข่าวอีกครั้ง หลังจากปรากฏภาพนายองอาจ นั่งทานอาหารอย่างสบายใจ ที่แชร์กันในโลกออนไลน์ ว่าเป็นภาพถ่ายปัจจุบันหรือไม่? รวมไปถึงนายองอาจ เดินทางออกนอกประเทศได้อย่างไร

ที่สำคัญพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย อยู่ในเซฟเฮาส์ที่ยากต่อการเข้าไปตรวจสอบในเมืองไทย หรือบินไปอยู่เมืองนอกเหมือนนายองอาจ กันแน่

เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก ดร.นพ.มโน เลาหาวณิช อาจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติ จุฬาภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อดีตพระเถระที่เคยบวชเรียนที่วัดพระธรรมกาย เคยได้รับทุนจากวัดพระธรรมกายไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นหนึ่งในคนสำคัญที่เปิดโปงกรณีพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย เนื่องจากล่วงรู้ตื้นลึกหนาบางเป็นอย่างดีและยังเกาะติดเรื่องนี้มาโดยตลอด ระบุว่า นายองอาจ ธรรมนิทา หรือนายอาร์ท โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้วหลังจากที่ศาลอนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2559 ในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง ทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) หลังแถลงจุดยืน 9 ข้อ

“จากการข่าวและหลักฐานที่เชื่อถือได้ มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยศพันเอก ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย เป็นคนช่วยพานายองอาจ หนีเข้าฝั่งลาว“
นายองอาจ ธรรมนิทา แถลงข่าวเมื่อ 11 ธันวาคม 2559 เป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดียุยงปลุกปั่น จนถูกออกหมายจับ
เมื่อข้ามชายแดนไทยเข้าสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้แล้ว จากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินซึ่งเป็นสายการบินของนักธุรกิจใหญ่ของไทย ไปลงที่สิงคโปร์ จากนั้นก็บินต่อไปที่แฟรงก์เพิร์ต ประเทศเยอรมนี และต่อไปยังปารีส ประเทศฝรั่งเศสได้โดยสะดวก

หมอมโน บอกว่า การที่นายองอาจหนีออกนอกประเทศได้ง่าย ก็เพราะนายตำรวจผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือ เพราะเมื่อออกนอกประเทศแล้ว นายองอาจจะเข้าประเทศต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก เพราะมี SCHENGEN VISA MULTIPLE ENTRY ซึ่งสามารถเข้าออกได้หลายครั้ง

“องอาจได้ SCHENGEN VISA เพราะอยู่ธรรมกาย ตอนนี้เขาสามารถเข้าทางอังกฤษและเข้าไปในประเทศแถบยุโรปได้ทั้งหมด”

อย่างไรก็ดีภาพที่มีการส่งต่อในโลกออนไลน์ ที่มีนายองอาจ พร้อมพระสงฆ์ 2 รูปและโยม 6 คน ไปนั่งทานอาหารบุฟเฟต์ญี่ปุ่น ที่ร้าน Restaurant Sushi a Torcy banlieue de Paris นั้น แหล่งข่าวจากดีเอสไอยืนยันว่า รูปนั้นน่าจะเป็นภาพเก่า ไม่ใช่รูปปัจจุบันแน่นอน แต่การหนีออกนอกประเทศนั้นในด้านการข่าวเชื่อมั่นว่าทั้งพระธัมมชโยและนายองอาจ ต่างก็ออกไปแล้ว แต่อาจจะคนละเส้นทาง
การถ่ายทอดสดอาการอาพาธพระธัมมชโย เมื่อ 22 พฤษภาคม 2559
ในทางการข่าวของดีเอสไอ แจ้งว่า พระธัมมชโย ได้เดินทางออกนอกประเทศ โดยใช้รถตู้ของศิษยานุศิษย์ ผ่านเข้าประเทศกัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้เข้าใจว่าจะเดินทางเข้าไปยังออสเตรเลีย และจุดหมายอยู่ที่แถบประเทศแคนาดา ที่วัดพระธรรมกายมีสาขาอยู่ที่นั่น แต่รายงานข่าวล่าสุด สายข่าวแจ้งมาว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศและยังคงเดินทางผ่านไปทางกัมพูชา แต่ไม่ได้ระบุเป้าหมายว่าปัจจุบันอยู่ที่ประเทศใด

ปัจจุบันสาขาต่างประเทศของวัดพระธรรมกาย ได้เผยแพร่ไปยังทวีปต่างๆ ไม่ว่าในทวีปเอเชีย (รวมไทย) 81 แห่ง, ทวีปออสเตรเลียและโอเชียเนีย 9 แห่ง, ทวีปอเมริกา 16 แห่ง, ทวีปยุโรป 23 แห่ง และทวีปแอฟริกา 2 แห่ง

ขณะที่หมอมโน บอกว่า พระธัมมชโย น่าจะออกจากประเทศไทยหลังวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพราะมีสิ่งบอกเหตุบางอย่างคือตรงบริเวณอาคารดาวดึงส์ ซึ่งเป็นกุฏิพระธัมมชโย เดิมเป็นกุฏิที่มีการป้องกันแน่นหนา มีเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง แต่หลังจากวันที่ 27 เป็นต้นมา กลับพบว่าไม่มีการเฝ้าเวรยามอย่างที่เคยปฏิบัติกันมา อีกทั้งตู้คอนเทนเนอร์ 5 ตู้ หายไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าภายในตู้คอนเทนเนอร์นั้นมีอะไรอยู่บ้าง แต่คาดว่าน่าจะเป็นที่เก็บทรัพย์สินมหาศาลที่มีการบริจาคมาตลอด

“เชื่อว่าพระธัมมชโยไม่ได้อยู่ในวัดพระธรรมกาย แต่จะอยู่ในเซฟเฮาส์ในเมืองไทยที่ใครล่ะจะกล้าเข้าไปค้น หรือออกนอกประเทศแล้วมีความเป็นไปได้ทั้งหมด”

หมอมโน บอกว่า พระธัมมชโย ไม่ได้อยู่ในวัดพระธรรมกายแน่นอน แต่อาจเดินทางโดยเครื่องบิน JET ส่วนตัวของศิษยานุศิษย์ ออกนอกประเทศไปแล้ว และที่ว่าอาจใช้เส้นทางชายแดนประเทศกัมพูชาก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน ซึ่งอีกสายข่าวแจ้งว่า อาจจะอยู่ที่เซฟเฮาส์ของนักการเมืองระดับใหญ่ที่ใครก็ไม่กล้าเข้าไปค้น ซึ่งตรงนี้ก็ต้องตรวจสอบติดตามกันต่อไป

เวลานี้จึงมีคำถามเกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เคยให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ดีเอสไอ ตำรวจและฝ่ายปกครอง เตรียมปฏิบัติการเข้าไปตรวจค้นวัดพระธรรมกายในทำนองที่ว่า แม้จะยังเชื่อว่า พระธัมมชโย อยู่ในวัดพระธรรมกาย แต่ก็ไม่อาจที่จะรับประกันได้ว่าจะหลบหนีออกไปต่างประเทศแล้วหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าเส้นทางที่สามารถใช้หลบหนีได้ ก็มีหลายช่องทาง แต่สิ่งที่หน่วยงานรัฐจะกระทำได้ก็คือการควบคุมช่องทางการหลบหนีให้แคบที่สุดเท่านั้น

ดังนั้นสิ่งที่ พล.อ ไพบูลย์ เคยปรารภไว้นั้น กลับเกิดขึ้นได้ จึงมีคำถามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องอธิบายให้สังคมได้รับรู้ว่าเจ้าของวลีเด็ด “อย่าทำให้ตกใจ...คนเป็นแสนอะไรก็เกิดขึ้นได้” อย่างนายอาร์ท ที่ถูกออกหมายจับข้อหายุยง ปลุกปั่น ทำไมจึงหนีออกนอกประเทศไปได้ รวมไปถึงพระธัมมชโย ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ทั้งดีเอสไอ ตำรวจ และหน่วยข่าวคอยติดตามประกบตัวอยู่ตลอดเวลา ล่องหนหายไปไหนได้อย่างไร!

กำลังโหลดความคิดเห็น