xs
xsm
sm
md
lg

“เทสโก้”ขู่ฟ้องสนช. รับจ้างให้ข่าวใส่ร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - เทสโก้ฯขู่ฟ้องโฆษกกรรมาธิการพาณิชย์ที่ออกโรงแฉโมเดิร์นเทรดทำลายผู้ประกอบการค้าและผู้ผลิตอิสระคนไทยทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย โอ่ผู้บริโภคแฮปปี้ส่วนคู่ค้าล้วนพอใจในเงื่อนไขข้อตกลง แถมเสียภาษีให้รัฐฯปีที่ผ่านมามากถึง 6,700 ล้านบาท ย้ำเดินหน้าตะลุยขยายสาขาทุกขนาดไม่ยั้งร่วม 90 แห่งในปีหน้า ด้านสนช. พร้อมพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล แจงต้องการให้เกิดความเป็นธรรมและสมดุลในสังคมไทย

จากกรณีว่าที่ร้อยเอก จิตร์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ให้ข้อมูลถึงธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรดที่กำลังขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการค้าปลีกชาวไทยอย่างมาก โดยเฉพาะห้างเทสโก้ ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างเพราะมีการขยายสาขามากที่สุด

วานนี้ (5 ต.ค.) นาย ดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือห้างค้าปลีก เทสโก้ โลตัส แถลงข่าวตอบโต้ว่า ที่ผ่านมาทางห้างถูกกล่าวหาหรือมีการประท้วงเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ครั้งล่าสุดที่ทางว่าที่ร้อยเอก จิตร์ ศิรธรานนท์ ออกมาให้ข้อมูลนั้น สร้างความเสียหายให้แก่ทางห้างฯเป็นอย่างมาก

“ที่ผ่านมาทางบริษัทพอจะทราบว่า จะมีคนอยู่กลุ่มเดียวที่เวียนกันให้ข่าวในลักษณะรับจ้างให้ข่าว เพื่อให้บริษัทฯเกิดความเสียหาย แต่จะมีอยู่คนเดียวที่ออกมาพูดบ่อยที่สุด ซึ่งทางบริษัทฯเชื่อมั่นว่าคนที่ออกมาให้ข้อมูลครั้งนี้ น่าจะเกิดจากการจ้างวานจากผู้ที่ไม่หวังดีกับทางห้างฯ อยากจะพูดอะไรก็พูด เพื่อให้เกิดความเสียหาย
 
"ดังนั้นข้อมูลที่ออกมาเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับของทางห้างฯจึงมีความแตกต่างกันมาก เพราะไม่มีการศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ทั้งที่ข้อมูลนี้ส่วนใหญ่สามารถเปิดดูได้ทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ”

นายดามพ์ กล่าวว่า ทางบริษัทฯเตรียมที่จะยื่นเรื่องฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาท กับบุคคลที่ออกมาให้ข่าวในครั้งนี้ ภายในระยะเวลา 3 เดือนหลังจากที่บุคคลดังกล่าวออกมาให้ข่าว ขณะที่ตอนนี้ทางบริษัทฯเองกำลังประเมินมูลค่าความเสียหายจากการให้ข่าวในครั้งนี้ด้วยว่ามีมูลค่าประมาณเท่าไร

รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ ที่ทำให้บริษัทเสียหาย ดังนี้
 
1.กรณีรายได้ของเทสโก้โลตัสในไทย ที่กล่าวหาว่าคิดเป็น 37% ของรายได้รวมบริษัทแม่ในประเทศอังกฤษ จริงๆ แล้วยอดขายในไทยคิดเป็น 3.5% ของยอดขายรวมทั่วโลกเท่านั้น ขณะที่ยอดขายในเอเชีย คิดเป็น 10% ของรายได้รวมทั้งหมด จึงไม่มีทางเป็นไปได้ที่บริษัทฯจะมีรายได้ถึง 37% จากรายได้รวมทั่วโลก

2.กรณีการฮั้วราคาสินค้า ที่กล่าวหาว่า การขยายสาขาของเทสโก้ โลตัส จะนำไปสู่การเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะจะมีการรวมตัวกันขึ้นราคา ทั้งนี้มองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะทางผู้ผลิตเองไม่มีทางยอมแน่ อีกอย่างห้างค้าปลีกเป็นเพียงช่องทางหนึ่งในการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ผลิตสินค้าเท่านั้น หากขึ้นราคาจริง ผู้ผลิตก็คงไม่ส่งสินค้าให้ ค้าปลีกก็อยู่ไม่ได้

3. สินค้าเฮาส์แบรนด์จะทำให้สินค้าแบรนด์หลักต่างๆ ยอดขายลดลงหรือตายไป ในความเป็นจริงทางห้างฯมีสินค้าเฮาส์แบรนด์อยู่เพียง 2,500 รายการ จาก 35,000 รายการที่วางจำหน่ายทั้งหมด และในแต่ละปีจะมีเฮาส์แบรนด์ใหม่ 300-500 รายการ เข้ามาผลัดเปลี่ยนกับเฮาส์แบรนด์ที่ไม่ได้รับความนิยม
 
ดังนั้น แต่ละปีจึงมีสินค้าเฮาส์แบรนด์ใหม่เกิดขึ้นไม่มากนัก จึงไม่สามารถทำให้สินค้าแบรนด์หลักตายลงไป ซึ่งการที่บริษัทฯผลิตขึ้นมา เพื่อเป็นการรองรับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าในราคาถูกกว่าแต่คุณภาพใกล้เคียงกับแบรนด์หลักเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยให้ผู้ผลิตขนาดกลางและย่อมอยู่ได้ เพราะเป็นการรับจ้างผลิต

4.การเอาเปรียบคู่ค้า ในความเป็นจริงการที่คู่ค้าจะนำสินค้ามาวางจำหน่ายในห้างได้ การดำเนินงานในทุกขั้นตอนล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ข้อกล่าวหาการเอาเปรียบจึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะเป็นการเจรจาที่เกิดจากความพอใจของทั้งสองฝ่าย
 
ขณะที่บริษัทฯมีคู่ค้าอยู่กว่า 7,300 ราย เป็นขนาดกลางและย่อมกว่า 50%โดยทางบริษัทมีการซ้อสินค้าและบริการจากคู่ค้าเหล่านี้ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 98,000 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา

5.ไม่จ่ายภาษี เป็นเรื่องที่มองว่าทางภาครัฐคงไม่ปล่อยปะละเลย เพราะห้างเทสโก้โลตัส ถือเป็นบริษัทฯขนาดใหญ่ และเป็นที่รู้จัก การที่ไม่ยอมจ่ายภาษีเป็นได้ได้ยากมาก ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ทางบริษัทฯจะมีการจ่ายภาษีในส่วนกลาง ซึ่งในปีก่อนบริษัทฯ มีการจ่ายค่าภาษีไปกว่า 6,700 ล้านบาท

นายดามพ์ กล่าวต่อว่า ในปีหน้าบริษัทฯยังมีแผนในการเปิดสาขาต่อเนื่อง เป็นสาขาขนาดใหญ่ 5-6 สาขา แบบซูเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร และร้านคุ้มค่า 6,000-7,000 ตารางเมตร ส่วนโลตัสเอ็กซ์เพรสจะขยายเพิ่มอีกประมาณ 60-80 สาขา จาก 280 สาขาในปัจจุบัน บริเวณพื้นที่เขตปริมณฑลและเมืองท่องเที่ยว โดยแต่ละสาขาของการลงทุนเปิดโลตัส เอ็กซ์เพรส อยู่ที่ 10 ล้านบาท

ทางด้าน ว่าที่ ร.อ.จิตร์ กล่าวถึงการแถลงข่าวตอบโต้ของทางเทสโก้ ว่า ทางเทสโก้ ไม่ได้ระบุชื่อของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม หากทางเทสโก้จะฟ้องก็ฟ้อง เป็นการทำหน้าที่ของเขา หากตนเองถูกฟ้องก็พร้อมจะพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล
 
สำหรับเรื่องที่ตนเองไปบรรยายให้กับผู้ประกอบการค้าปลีกและผู้ประกอบการอิสระคนไทยฟังที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นการทำหน้าที่ให้ข้อมูลให้ความรู้ในฐานะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่ได้รับจ้างใครมาพูดใส่ร้ายใคร การทำงานของตนเองเพื่อต้องการให้เกิดความเป็นธรรมและสร้างสมดุลให้กับสังคม ไม่ใช่ให้รายใหญ่เอาเปรียบและทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยเดือดร้อน

ส่วนประเด็นเรื่องการเสียภาษีนั้น ว่าที่ร.อ.จิตร์ กล่าวว่า ตนอยากให้พิจารณาให้ดีถึงระบบการเสียภาษีของโมเดิร์นเทรดที่รวมเสียภาษี ณ ส่วนกลางเพียงจุดเดียวไม่ได้พูดว่า เทสโก้ ไม่ได้จ่ายภาษีแต่อย่างใด

จากการตรวจสอบเนื้อหาข่าวที่ “ผู้จัดการรายวัน” ตีพิมพ์ คำบรรยายของว่าที่ ร.อ.จิตร์ ฉบับตีพิมพ์เมื่อวันจันทร์และอังคารที่ 1-2 ตุลาคม 2550 ระบุคำบรรยายของเขาในประเด็นเรื่องภาษีว่า “รายได้ของโมเดิร์นเทรด ยังมาจากการประหยัดภาษีเพราะรวมเสียภาษีที่สำนักงานใหญ่” ซึ่งว่าที่ร.อ.จิตร์ ไม่ได้กล่าวว่า เทสโก้ “ไม่จ่ายภาษี” ตามคำแถลงของ นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ แต่อย่างใด

ส่วนสัดส่วนเปอร์เซนต์ของยอดขายของเทสโก้ จากประเทศไทย ได้มีการแก้ไขสัดส่วนจาก 37% เป็น 3.7% ในเว็บไซต์ www. manager.co.th แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น