สมัชชาคนจน ลั่นปักหลักชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าการเจรจาแก้ไขปัญหากับหน่วยงานภาครัฐจะสำเร็จตามคำมั่นสัญญาที่นายกรัฐมนตรีรับปากมั่นเหมาะ รอรัฐบาลนำเรื่องเข้าครม.อังคารนี้ ด้านมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนออกแถลงการณ์หนุนการต่อสู้เพื่อผันเปลี่ยนการพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืนและเป็นธรรม พร้อมทั้งปลุกลงมติคว่ำร่างรธน. 2550 ที่มองไม่เห็นหัวประชาชน
วันนี้ (27 พ.ค.) นายนันทโชติ ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเข้ามาชุมนุมบริเวณด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ เลียบคลองผดุงกรุงเกษมตลอดแนว เพื่อมาทวงสัญญาการเปิดเจรจาเร่งแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนว่า ยังไม่มีกำหนดว่าจะเลิกการชุมนุมเมื่อใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่ผลของเจรจาเป็นสำคัญ สำหรับการเจรจากับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความคืบหน้าในเรื่องประมงพื้นบ้าน โดยกระทรวงฯ รับปากจะยกเลิกซีฟู้ดแบงก์ และการขยายเขตการทำประมงของเรืออวนรุนห่างออกไปจากฝั่ง 3 ไมล์ทะเลหรือ 5.4 กม. ซึ่งในวันจันทร์นี้ (28 พ.ค.) จะมีการลงนามข้อตกลงระหว่างสองฝ่าย ส่วนเรื่องที่ยังค้างอยู่คือร่างพ.ร.บ.เกษตรกรรมทางเลือก และการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.เป็นต้น
ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน กล่าวต่อว่า ในวันจันทร์นี้จะมีการเจรจากับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขในประเด็นเรื่องป่าไม้, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า, ร่างพ.ร.บ.สุขภาพและความปลอดภัยจากการทำงานของแรงงาน และผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ขณะที่การเจรจากับกระทรวงพลังงานในประเด็นเรื่องเขื่อนต่างๆ ทั้งที่สร้างแล้วและยังไม่สร้าง เวลานี้ยังไม่มีความคืบหน้าในการนัดหมายเจรจาแต่อย่างใด
“เราจะรอผลการเจรจาที่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะเข้าครม.อังคารนี้หรือไม่ รวมถึงการเจรจากับกระทรวงพลังงานก่อนว่าผลจะออกมาอย่างไร แล้วจึงจะตัดสินใจอีกทีหนึ่งว่าจะชุมนุมยืดเยื้อต่อหรือไม่” นายนันทโชติ กล่าว
ทางด้านนางผา ชาวบ้านในกลุ่มสมัชชาคนจน เปิดเผยว่า การเดินทางเข้ามาชุมนุมเพื่อเจรจากับนายกรัฐมนตรีของสมัชชาคนจน ตามที่นายกรัฐมนตรี รับปากไว้เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่หอประชุมศาลากลางจ.อุบลฯ ว่าจะมีการเปิดเจรจาสำหรับทุกกรณีปัญหาของสมัชชาฯ ในวันที่ 23-25 พ.ค.นั้น เป็นไปด้วยความยากลำบากมีการสกัดกั้นการเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร จนต้องเดินเท้ากันเข้ามา และถึงเวลานี้เจ้าหน้าที่ทหารยังลงไปพื้นที่เพื่อสอบถามติดตามความเคลื่อนไหวของตนเองจากญาติพี่น้องและกดดันจนลูกๆ โทรศัพท์ตามตัวให้กลับบ้าน แต่ตนเองก็ให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่ามารอเจรจากับนายกรัฐมนตรีอยู่
ในวันนี้ อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ผู้ริเริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน พร้อมด้วยอาจารย์สมเกียรติ ตั้งนโม และคณะ ได้เดินทางมาให้กำลังใจแก่กลุ่มสมัชชาคนจน พร้อมกับอ่านแถลงการณ์ “การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และเป็นธรรม” โดยชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ แต่การพัฒนาที่ไม่ใส่ใจต่อความสมดุล ยั่งยืน และเป็นธรรม เป็นแต่เพียงการอาศัยชื่อของการพัฒนาเข้ามาปล้นสะดมสมบัติของส่วนรวมหรือสมบัติของชาวบ้านมาบำเรอคนมีอำนาจจำนวนน้อยต่างหากที่น่ารังเกียจ
ทั้งนี้ ความสมดุลในการพัฒนาคือการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติในลักษณะที่เปิดให้ธรรมชาติสามารถฟื้นตัวสู่ความยั่งยืน รวมทั้งความสมดุลทางสังคมที่ทุกภาคส่วนต้องได้ประโยชน์ ขณะเดียวกัน ความสมดุลทางเศรษฐกิจต้องมีความหมายมากกว่าความเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวม คนทุกกลุ่มต่างต้องมีเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ มีหลักประกันอนาคตที่ว่าแต่ละคนจะมีโอกาสใช้ทรัพยากรตามกำลังความสามารถ มีอำนาจต่อรองทัดเทียมกับบุคคลอื่นที่เข้ามาร่วมใช้ทรัพยากรนั้น และมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้หรือพัฒนาศักยภาพของตนเองเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
อาจารย์นิธิ ยังกล่าวว่า อำนาจทางการเมืองของประชาชนคือหัวใจสำคัญ ดังนั้นร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่มุ่งเน้นการให้อำนาจแก่ระบบราชการเข้ามาควบคุมการเมืองไทย โดยไม่เห็นหัวคนจนจึงไม่อาจเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ จึงเรียกร้องให้สมัชชาคนจนลงมติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และรณรงค์ให้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ที่ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเปิดเลือกตั้งภายใน 60 วัน และมีสมาชิกจากสองสภามาตั้งสภาร่างรธน.เพื่อแก้ไขรธน. ปี 2540 ในบางมาตราโดยไม่มีอำนาจกระบอกปืนอยู่เบื้องหลัง
อนึ่ง กลุ่มสมัชชาคนจน เดินทางเข้ามาปักหลักบริเวณด้านข้างกระทรวงศึกษาธิการ เป็นวันที่ 4 แล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณพันคน