ครม.ลงมติโละทิ้งคณะกรรมการที่ตั้งในยุคครม.ทักษิณทั้งหมด 293 ชุด ขีดเส้นสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ 30 พ.ย.นี้ พร้อมให้ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองรายชื่อผู้ที่เหมาะสมใหม่ คลังเผยแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ลาออกแล้วอย่าถึงขั้นต้องไล่ คมนาคมล้างบางรื้อทุกบอร์ดรัฐวิสาหกิจปัดกวาดคอร์รัปชั่น แถมดัน “สุรชัย” ขึ้นปลัดคมนาคมแทน “ปิยะพันธ์” เด็กเพ้งที่ครม.แม้วเห็นชอบ ขณะที่ประธานการบินไทยยังกอดเก้าอี้แน่น สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจฯ นัดหารือ19 ต.ค.นี้ ยื่นข้อเสนอปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจดึงนักวิชาการ-องค์กรภาคประชาชน –ตัวแทนสหภาพฯ เข้าร่วมถ่วงดุลสายการเมือง-ข้าราชการ
วานนี้ (17 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.น.พ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอขอความเห็นชอบจาก ครม. เรื่องการให้คณะกรรมการต่างๆ ที่ ครม.ชุดเดิมแต่งตั้งไว้ จำนวน 293 คณะ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2549 โดยให้กระทรวง กรม พิจารณาความจำเป็นว่าจะให้คณะกรรมการใดคงอยู่ ภายในวันที่ 30 พ.ย. 2549 ซึ่ง ครม. มีมติเห็นชอบตามที่เสนอ
นอกจากนั้น ครม.ยังมีความเห็นเพิ่มเติมว่า การยืนยันคณะกรรมการต่างๆ ควรสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของกระทรวง และขอให้มีคณะกรรมการกลั่นกรอง เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยให้เสนอรายชื่อบุคคลที่เป็นกรรมการ และรายละเอียดการดำเนินการมาพร้อมกันเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองด้วย
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในชุดพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีแล้ว ภารกิจสำคัญและเร่งด่วนที่คณะรัฐบาลได้หารือกันก็คือ การเข้าไปปรับรื้อคณะกรรมการในรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่รัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่งตั้งพรรคพวกและคนใกล้ชิดเข้าไปเป็นกรรมการและที่ปรึกษาในรัฐวิสาหกิจของกระทรวงต่างๆ ซึ่งผ่านมาเกิดข้อครหาเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นมากมายหลายหน่วยงาน
*** แจ้งให้รีบยื่นใบลาออกก่อนถูกไล่
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จากการหารือข้างต้น รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จึงได้มอบหมายให้สำนักรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลัง ซึ่งดูแลหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ของทุกกระทรวง เป็นผู้พิจารณา และมอบหมายให้แต่ละกระทรวงแจ้งอย่างไม่เป็นทางการไปยังคณะกรรมการต่างๆ ให้ยื่นใบลาออกโดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจที่มีข้อมูลหลักฐานว่ามีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น
“การที่จะเข้าไปจัดการอย่างเด็ดขาดนั้นทำได้ยากและมีข้อจำกัดเรื่องของเวลา 1 ปี เพราะบางหน่วยงานมีการวางรากฐานแต่งตั้งคนของตัวเองขึ้นมาดำรงตำแหน่งในระดับผู้บริหาร ดังนั้นการจัดการอันดันแรก คือรื้อบอร์ดที่เป็นตัวแทนของนักการเมืองชุดเก่า และตั้งคนดีที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปสะสางและรื้อระบบที่นำไปสู่การทุจริตต่างๆ จากนั้นจะต้องไปจัดการในส่วนของผู้บริหารองค์กรบางแห่งที่มีการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจต่างๆ นั้นจะมีการพิจารณาบุคคลที่ดีมีความรู้ความสามารถเป็นหลัก โดยมีภารกิจสำคัญคือการเข้ามารื้อการทุจริตต่างๆ ซึ่งในแต่ละกระทรวงจะมีการสืบหาข้อมูลของผู้บริหารในแต่ละหน่วยงานด้วย โดยเฉพาะผู้บริหารที่มีสัญญาว่าจ้างและเคยตกเป็นข่าวว่าพัวพันการทุจริตในโครงการต่างๆ หรือถูกสอบสวนก็มีความเป็นไปได้ที่จะต้องถูกจับตามองเป็นพิเศษ ซึ่งกระบวนการที่เป็นไปได้ ก็คือการประเมินผลการทำงานไม่ผ่านเกณฑ์
***คมนาคม ล้างบางทุกบอร์ด
พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจในกระทรวงคมนาคม ที่เริ่มทยอยส่งใบลาออกนั้นถือว่าเป็นการแสดงมารยาททางการเมือง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการแต่งตั้งกรรมการที่ลาออกไปแล้วกลับเข้ามาใหม่หากเห็นว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสม โดยจะเร่งรัดแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้
พลเรือเอกธีระ กล่าวต่อว่า การลาออกของบอร์ดชุดต่างๆ นั้น ตนยังไม่เห็นหนังสือยืนยันชัดเจน ยกเว้นนายเทิดศักดิ์ เศรษฐมานพ ประธานบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และพลโทหม่อมหลวงกิตติมาศ สุขสวัสดิ์ ประธานบอร์ดองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งก็ต้องขอบคุณกรรมการบอร์ดทุกคนที่มีความตั้งใจจริงในการทำงานที่ผ่านมา โดยยอมรับว่ามีการพิจารณาบุคคลที่เหมาะสมในรัฐวิสาหกิจบางแห่ง และจะต้องคัดเลือกกรรมการที่มีความรู้ความสามารถเหมาะกับในแต่ละหน่วยงานด้วย เพื่อเข้ามาทำงานต่อได้ทันที ดังนั้น ในช่วงที่มีการลาออกจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงาน เพราะมีผู้บริหารรับผิดชอบดำเนินการได้อยู่แล้ว
สำหรับคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่ได้แจ้งเรื่องการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งแล้ว ได้แก่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.), ขสมก., การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานบอร์ด บวท.และกรรมการบอร์ด ทอท.และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เพราะถือว่าเป็นมารยาททางการเมือง เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีเหมาะสมเข้ามาใหม่
ส่วน นางอัญชลี ชวนิตย์ ประธานบอร์ด รฟม.กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกไปเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2549 เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสม และเป็นไปตามมารยาทเมื่อมีการเปลี่ยน ครม.ด้วย โดยชี้แจงกับรมว.คมนาคมในเบื้องต้นแล้ว
ขณะที่ นายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากประธานบอร์ด บขส. และ กรรมการบอร์ด กทพ.แล้ว และแจ้งให้กรรมการบขส.ได้ยื่นลาออกเพื่อเปิดทางให้รมว.คมนาคมพิจารณาแต่งตั้งบอร์ดใหม่
*** เด็กระบอบแม้ว กอดเก้าอี้แน่น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานบอร์ดการบินไทย กล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องลาออก เพราะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อการบริหารงานได้ อีกทั้งในเดือนพ.ย.นี้จะมีการประชุมสามัญ และเดือน ธ.ค.จะประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญ ซึ่งจะต้องพ้นจากตำแหน่งอยู่แล้ว
นอกจากนั้น ยังมีนายวันชัย จัยสิน ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรมว.คมนาคม ซึ่งเป็นกรรมการบอร์ด บขส. และ กทพ. ไม่แสดงท่าทีในการยื่นหนังสือลาออกแต่อย่างใด
*** เด็กเพ้งปิ๋ว “สุรชัย” เต็งปลัดคมนาคม
ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงคมนาคมในตำแหน่งสำคัญคือ ปลัดกระทรวง ซึ่งจะเป็นผู้ที่ไปนั่งเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ โดยตำแหน่งนั้น แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมแทนนายวันชัย ศารทูลทัต ซึ่งเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
คณะกรรมการชุดดังกล่าว ประกอบด้วย นายศรีภูมิ สุขเนตร อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้าคณะ นายเสถียร วงศ์วิเชียร อดีตรองปลัดกระทรวงคมนาคม นายบุญปลูก ชายเกตุ รองเลขาธิการ ก.พ. นายลิขิต ขาวเธียร อดีตอธิบดีกรมทางหลวง และนางสินีนาฎ โสตสถิตย์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้เรียกบุคคลที่ได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นดำรงตำแหน่งดังกล่าวรวม 5 คน เข้ามาสัมภาษณ์เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ได้แก่ นายชลอ คชรัตน์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ นายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ อธิบดีกรมทางหลวงและนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ซึ่งคณะกรรมการจะคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดเสนอต่อ รมว.คมนาคม และคาดว่าจะเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในวันที่ 24 ต.ค. นี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ก่อนที่นายวันชัย ศารทูลทัต จะพ้นจากตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม ได้เสนอชื่อนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เป็นผู้เหมาะสม ในขณะที่นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อธิบดีกรมการขนส่งทางบกนั้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.ในสมัยที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็น รมว.คมนาคม
“มีการยืนยันจากคนในรัฐบาลปัจจุบันว่า บุคคลที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์และนายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ์ ส่วนนายปิยะพันธ์และนายชัยสวัสดิ์ นั้นมีสายสัมพันธ์กับนายพงษ์ศักดิ์มาก นายชลอ นั้นความสามารถในการบริหารงานยังด้อยกว่าคนอื่น” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการคัดเลือกผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมว่า นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำ และนายไมตรี ศรีนราวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) มีตำแหน่งและระดับอาวุโสที่ใกล้เคียง แต่ไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกในครั้งนี้แต่อย่างใด
จากกระแสข่าวข้างต้น พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวยอมรับว่า มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ แทนคนเดิมที่ครม.ชุดเก่าเห็นชอบจริง ซึ่งจะต้องรอผลสรุปจากทางคณะกรรมการประกอบการพิจารณาตัดสินใจ เพื่อเข้ามาเร่งและสานงานต่อโดยเร็ว
***สรส. หาข้อสรุปปรับบอร์ดรสก.19ต.ค.
ทางด้านนายศิริชัย ไม้งาม เลขาธิการสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) กล่าวว่า วันที่ 19 ต.ค.นี้ทางสรส.จะหารือเพื่อสรุปแนวทางการปรับบอร์ดรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเพื่อที่จะยื่นหนังสือต่อไปยังรัฐบาลในการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะมาเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจว่าควรจะมีความเหมาะสม โดยเฉพาะบุคคลที่มาจากการเมืองและไม่มีคุณสมบัติที่จะทำงานเข้ากับบอร์ดรัฐวิสาหกิจนั้นๆ ได้
“ บอร์ดรัฐวิสาหกิจปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อยที่มาจากนักการเมือง ไม่มีความรู้ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เลย ซึ่งจำเป็นที่รัฐบาลใหม่ควรจะมีการแต่งตั้งบุคคลใหม่แทนที่มีความเหมาะสมเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติอย่างแท้จริง” นายศิริชัยกล่าว
ทั้งนี้ บอร์ดรัฐวิสาหกิจที่เหมาะสมควรมีตัวแทนจากข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ มีตัวแทนจากนักวิชาการ องค์กรภาคประชาชน และตัวแทนที่สหภาพรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ เห็นชอบเข้ามาทำหน้าที่แทน เป็นต้น
***สร.กฟภ.เล็ง 5 ชื่อไล่พ้นบอร์ด
แหล่งข่าวจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) กล่าวว่า ขณะนี้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจหรือสร.กฟภ.กำลังรวบรวมรายชื่อบอร์ดกฟภ.ที่มีคุณสมบัติไม่เหมาะสมเพื่อที่จะเข้าร่วมกับสรส.ในการยื่นหนังสือถึงนายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแลกฟภ.เพื่อให้พิจารณาคนที่เหมาะสมเข้ามาเป็นบอร์ดแทนคาดว่าจะสามารถเข้าพบได้ในเร็ว ๆนี้
“ ขณะนี้มีตัวแทนที่กำลังพิจารณาคุณสมบัติอยู่ซึ่งเบื้องต้นมีประมาณ 4-5 คนที่เข้าข่ายว่าจะไม่เหมาะสม อาทิ พลเอก ชัยสิทธิ์ ชินวัตร,พลตำรวจโทชลอ ชูวงษ์,นายวรวุฒิ บุปผาเจริญสุข เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประธานคือนายสุจริต ปัจฉิมนันท์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ข่าวเบื้องต้นว่าท่านเองอาจจะลาออกเพราะว่าท่านได้เกษียณอายุ แต่จริงๆ คุณสมบัติของท่านก็ไม่ได้ผิดอะไร”แหล่งข่าวกล่าว
*** “พรชัย” ขึ้นประธานบอร์ดกฟผ.
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากที่ครม.วานนี้(17ต.ค.)ได้อนุมัติให้พรชัย รุจิประภา รองปลัดกระทรวงพลังงานขึ้นเป็นปลัดกระทรวงพลังงานแทนนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ที่ครม.ทักษิณตั้งขึ้นแทนนายเชิดพงษ์ สิริวิชน์ จะส่งผลให้นายพรชัย จะเข้าไปเป็นประธานบอร์ดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)โดยตำแหน่งแทนนายณอคุณ ที่ขณะนี้รักษาการอยู่