ล้อมกรอบ 1 รายงานพิเศษ ... สื่อ(ไม่)เสรี ใต้เงาระบอบทักษิณ (3)
ชื่อของ ขวัญชัย ไพรพนา ดี.เจ.คนดังแห่งคลื่นมวลชนสัมพันธ์ หนึ่งในสถานีวิทยุชุมชน จ.อุดรธานี เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วประเทศเมื่อคราวเป็นแกนนำเม็อบปิดล้อม สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

ขวัญชัย ไพรพนา เป็นใคร บนเส้นทางสร้างชื่อเสีย(ง)ในแวดวงวิทยุที่ดำเนินมาค่อนชีวิตเป็นไปอย่างไร ที่สำคัญเครือข่ายของชมรมคนรักอุดรฯ ที่เขาเป็นที่ปรึกษาและเป็นหัวหอกในฐานะปากกระบอกเสียงสำคัญ ซึ่งกำลังทำหน้าที่สู้เพื่อทักษิณชนิดยอมตายถวายชีวิตนั้นมีใครอยู่เบื้องหลัง
เพื่อนพ้องของ ขวัญชัย เล่าถึงตัวตนของเขาว่า นิสัยส่วนตัวชอบทำตัวเว่อร์ๆ ขี้คุยโวโอ้อวดถึงความมั่งมี และคุยโวว่าเป็นคนมีเส้นสายใหญ่โตในวงราชการและนักธุรกิจใหญ่โตในเมือง ชอบประจบสอพลอกับคนใหญ่คนโตในจังหวัดเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น ผู้ว่าฯ ภรรยาผู้ว่าฯ ผู้กำกับ ส.ส. นายก อบจ. นักธุรกิจ-พ่อค้า
ขวัญชัย มีพื้นเพเป็นคนอำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เรียนจบ ป.4 แล้วออกมาเผชิญโชค เคยเป็นตลกอยู่วงลูกทุ่ง แล้วก็เริ่มมาตั้งตัวได้ในสมัยที่สายัณห์ สัญญา กำลังโด่งดัง
เขาเริ่มเข้ามาจับธุรกิจทำรายการวิทยุที่เสียงสามยอด โดยเป็นผู้จัดรายการวิทยุเชียร์นักร้องลูกทุ่ง โดยเฉพาะสายัณห์ สัญญา โดยห้างขายยา/ห้างร้าน เช่น ห้างขายยาแก่นนคร ซันย่า เข้ามาเช่าเวลาจากสถานีวิทยุเสียงสามยอด แล้วก็หานักจัดรายการมาจัดรายการเพลงลูกทุ่ง สลับกับโฆษณาสินค้า ขวัญชัย ไพรพนา ก็เป็นหนึ่งในนักจัดรายการวิทยุด้วย โดยทำทั้งทัวร์คอนเสิร์ตไปตามหมู่บ้านตำบลต่าง ๆ ถ่ายทอดสด และประกวดนักร้อง
ฝีมือการปั้นนักร้องของดีเจ.ป.4 คนนี้ มีผลงานเด่น คือ “ลูกนก - พรพนา” ทโดยอาศัยความสนิทสนมกับเจ้าของห้องอัด มาสเตอร์ เทป
คนใกล้ชิดเขาเล่าว่า ในสมัยที่จัดรายการวิทยุเสียงสามยอด เมื่อ 20 – 30 ปีก่อน ขวัญชัยจะชอบเบ่งและข่มเพื่อน เคยมีเรื่องกับนักจัดรายการวิทยุคนอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น “ทิดสา ผีบ่อยาก” เป็นนักจัดรายการวิทยุที่ จ.ส.5 ชัยภูมิ และเสียงสามยอดอุดรธานี เรื่องก็คือ ขวัญชัย ทำมาหากินเดินสายกับ “สายัณห์ สัญญา” แต่ “ทิดสา ผีบ่อยาก” ทำมาหากินเดินสายกับ “ยอดรัก สลักใจ” ไปทับเส้นทางทำมาหากินกัน
นักจัดรายการวิทยุในสมัยเดียวกับขวัญชัยที่ไม่กินเส้นกัน เช่น ทิดสา ผีบ่อยาก, เขยใหม่ เมืองอุดร, กิ่ง กรกช สำหรับคนนี้พะบู๊กันขนาดเคยจะต่อยขวัญชัยด้วย, ชาย เมืองชล (เสียชีวิตแล้ว), วิฑูรย์ วงศ์ไกร, ดอน แดนอีสาน หนุ่มไทย สระบุรี เป็นต้น
มีเรื่องเล่าว่า สมัยอยู่เสียงสามยอดจังหวัดขอนแก่น ด้วยนิสัยคุยโวโอ้อวด เขาเคยถูกขู่ฆ่า จึงหนีไปพึ่งบารมีนางเบญจมาศ ปริญญาพล ผู้ซึ่งเป็นภรรยาผู้ว่าฯอุดรในปัจจุบัน คือ นายจารึก ปริญญาพล จากนั้น ขวัญชัย ก็ย้ายมาปักหลักทำมาหากินที่เมืองอุดรธานี
ปัจจุบันขวัญชัย เป็นเจ้าของสถานีวิทยุ “คลื่นมวลชนสัมพันธ์” FM. 97.50 MHz โดยอาศัยช่องทางของรัฐธรรมนูญมาตรา 40 จัดตั้งสถานีวิทยุแห่งนี้ขึ้นมา แต่เนื้อแท้แล้วไม่ได้มีเจตนารมย์ที่จะทำวิทยุชุมชนอย่างแท้จริง เพราะมีโฆษณาเหมือนวิทยุกระแสหลักทั่วไป
ภายหลังจากขวัญชัย นำม็อบปิดล้อมแกนนำพันธมิตรฯ ว่ากันว่าได้รับรางวัลสมนาคุณจากพรรคการเมืองใหญ่ กระทั่งสามารถซื้ออุปกรณ์เพิ่มสัญญาณจากกำลังขยาย 300 วัตต์ เป็น 1 กิโลวัตต์ เพื่อขยายการผลรับฟังของสถานีแห่งนี้ให้ได้ยินทั่วถึงทั้งเมืองอุดรธานี รวมทั้งยังมีทุนรอนสำหรับจัดกิจกรรมและเคลื่อนไหวโดยไม่เป็นที่เปิดเผยถึงเส้นทางเงินทุนที่สนับสนุน
ย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้าม็อบปิดล้อมพันธมิตรฯ มีการใช้คลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 94.00 เมกะเฮิร์ตซึ่งเป็นเครื่องส่งสัญญาณกำลังส่งเล็กๆ แบบสถานีวิทยุชุมชนทั่วไป แล้วยิงสัญญาณไปที่ 97.50 เม็กกะเฮิร์ต ซึ่งกำลังส่งใหญ่กว่าประมาณ 300 วัตต์ แต่ปัจจุบันซื้อเครื่องส่งสัญญาณ 1 กิโลวัตต์ มาแล้ว ทำให้ไม่ต้องยิงสัญญาณจาก 94.00 มาที่ 97.50 อีก โดยเป็นการส่งสัญญาณจากคลื่น 97.50 โดยตรง
ส่วนการจัดตั้งชมรมคนรักอุดรฯนั้น ตั้งขึ้นมาก่อนหน้าปิดล้อมพันธมิตรฯอุดรธานี ประมาณ 1 เดือนช่วงที่กระแสไล่ทักษิณเกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งที่อุดรฯ ด้วย ช่วงนั้นพรรคไทยรักไทย ก็สร้างกระแสตีโต้ว่าคนต่างจังหวัดสนับสนุนทักษิณ และขึ้นเวทีในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนทักษิณ
สำหรับจังหวัดอุดรธานี เปิดเวทีใหญ่กลางทุ่งศรีเมืองโดยการสนับสนุนของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด, ส.ส.ไทยรักไทย รวมทั้งนายก อบจ.อุดรธานี คือ เฉลิมพล สนิทวงศ์ชัย หลังจากจัดเวทีเสร็จก็เริ่มก่อตั้งชมรมคนรักอุดรขึ้นมา เพื่อมารองรับการเคลื่อนไหวสนับสนุนทักษิณ โดยมี ส.ส.ไทยรักไทย จ.อุดรธานี นายก อบจ. ผู้ว่าฯ และฝ่ายตำรวจโดยการนำของ พล.ต.ต. เขมณัฐ สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่มีเกี่ยวข้องกับการก่อเกิดและกิจกรรมของชมรมคนรักอุดรฯ
ขวัญชัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญนั้น จะจัดรายการช่วง 08.00 – 12.00 น. ทุกวัน โดยทั้งปลุกระดม ข่มขู่ คุกคาม พวกนักธุรกิจ ข้าราชการที่ออกมาสร้างกระแสขับไล่ทักษิณในจังหวัดอุดรธานี รูปแบบรายการจะให้คนฟังทางบ้านโทรศัพท์เข้ามา แล้วก็ใช้วาจาหยาบคายข่มขู่ คุกคาม ปลุกระดมให้เกิดการทำร้ายร่างกายและเอาชีวิต
เช่น ไอ้คนพวกนี้(พวกขับไล่ทักษิณ) ต้อง “เผามัน” “นั่งยางมัน” “ฆ่ามัน” หรือไม่ก็ “เอาคนไปปิดล้อมบ้านหรือร้านค้ามัน” เป็นต้น และยังมีการทำรายชื่อร้านค้าต่าง ๆ ในเมืองอุดรธานีที่เป็นพันธมิตรของ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ โดยเอาไปสอดไว้หน้าร้านค้าที่มีรายชื่อดังกล่าวเป็นการข่มขู่คุกคามด้วย
สำหรับสถานที่ตั้งสถานีวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์ ตั้งอยู่ที่ตลาดเริ่มอุดม ซึ่งอยู่ติดกับตลาดเซ็นเตอร์พ้อยท์ และตลาดปรีชา อยู่ใกล้สถานีรถไฟอุดรธานี ซึ่งเป็นของ “เสี่ยตี๋” - ปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าของโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุดรธานี 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ อ.กุมภวาปีและไชยวาน
ส่วนสายสัมพันธ์ของกลุ่มบุคคลในเมืองอุดรธานี ที่เกื้อหนุนต่อการดำรงอยู่ของคลื่นมวลชนสัมพันธ์ มีดังนี้
1. ขวัญชัย ไพรพนา เจ้าของสถานีวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์ ตั้งอยู่ที่ตลาดเริ่มอุดม
2. สุเทพโปรโมชั่น บริหารงานโดย สุเทพ สุวรรณประดิษฐ์ สำนักงานตั้งอยู่ติดกันกับสถานีวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์ สุเทพ เป็นคนปักษ์ใต้ทำธุรกิจในแวดวงบันเทิง รับจ้างออกสวนสนุก ออกร้านค้า จัดคอนเสิร์ตลูกทุ่ง และมีธุรกิจที่ไม่เปิดเผย กระทั่งได้ชื่อว่าเป็น “ผู้กว้างขวางแห่งทุ่งศรีเมือง” เพราะแทบจะผูกขาดการจัดงานในทุ่งศรีเมือง หากงานไหนเขาพลาดผู้รับเหมารายอื่นก็อาจมีปัญหาการต่อไฟฟ้ามาใช้ที่ทุ่งศรีเมืองได้
3. “เสี่ยตี๋” - ปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าของตลาดเริ่มอุดมและตลาดปรีชาซึ่งอยู่ติดกัน และเป็นเจ้าของโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุดรฯ เขาเป็นเจ้าของคอกม้าและสนามแข่งม้าอุดรธานี แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเจ้าของ (แต่เพียงในนาม) เป็นของคนอื่นแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นที่เพ่งเล็งและถูกขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลตามนโยบายปราบมาเฟียเจ้าพ่อของทักษิณ
เรื่องนี้เสธ.ไอซ์ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต เพื่อนของเสี่ยตี๋ และ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ขุนพลไทยรักไทย ที่คุมพื้นที่ภาคอีสาน น่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ดี เช่นเดียวกับการรู้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่จำต้องทำให้เสี่ยตี๋ ฟเขียวให้ ขวัญชัย เปิดคลื่นมวลชนฯ ที่ตลาดแห่งนี้ปลุกระดมมวลชนทางวิทยุและจัดตั้งชมรมคนรักอุดรฯ
4. ชมรมคนรักอุดร มีผู้ว่าฯ เมืองอุดรฯ เป็นสมาชิกลำดับแรก และ นายสมพงษ์ จันทร์งาม เป็นประธานชมรม ส่วนขวัญชัย ไพรพนา เป็นที่ปรึกษา สำหรับนายสมพงษ์ จันทร์งาม คนนี้ เป็นข้าราชการครู อยากเล่นการเมือง
ปัจจุบันชมรมคนรักอุดรเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาชื่อ www.weloveudon.com มีเนื้อหาโจมตีผู้ไม่เห็นด้วยกับทักษิณทั้งสิ้น วิธีการหาสมาชิกชมรมคนรักอุดร มีคำสั่งจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดให้นำใบสมัครสมาชิกชมรมฯไปวางไว้ตามสถานที่ราชการทุกแห่งในอุดรธานี และให้ผู้ใหญ่บ้านกำนันหาสมาชิกเข้าชมรมฯ ด้วย ปัจจุบันมีการอ้างตัวเลขว่ามีคนอุดรฯมาสมัครเป็นสมาชิกแล้ว 100,000 คน
5. หมอวิชัย ชัยจิตวณิชย์กุล และ ธีรชัย แสนแก้ว อดีต ส.ส.ไทยรักไทย มีการเกณฑ์เอาชาวบ้านในเขตเลือกตั้งของตนมาสมัครเป็นสมาชิกชมรมคนรักอุดร
6. ตำรวจอุดรโดยการนำของ พล.ต.ต.เขมณัฐ สุขเจริญ ผู้ซึ่งกำข้อมูลในธุรกิจที่ไม่เปิดเผยของผู้กว้างขวางแห่งทุ่งศรีเมือง และข้อมูลดังกล่าวอาจดลบันดาลให้ตำรวจเมืองอุดรฯ วางเฉยในกรณีปิดล้อมพันธมิตรฯอุดร เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2549
7. เฉลิมพล สนิทวงศ์ชัย นายก อบจ. อุดรธานี พรรคไทยรักไทย มีลูกสาวเป็น ส.ส.ไทยรักไทย (ช่วงเลือกตั้งซ่อมแทน เฉลิมชัย สนิทวงศ์ชัย ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่กระโดดตึกตาย) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการจัดเวทีเชียร์ทักษิณที่ทุ่งศรีเมืองเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2549
ส่วน นายจารึก ปริญญาพล และผู้เป็นภรรยา คือ นางเบญจมาศ ปริญญาพล ว่ากันว่า นับเป็นผู้หนุนเนื่องที่สำคัญของชมรมคนรักอุดรฯ
ชื่อของ ขวัญชัย ไพรพนา ดี.เจ.คนดังแห่งคลื่นมวลชนสัมพันธ์ หนึ่งในสถานีวิทยุชุมชน จ.อุดรธานี เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วประเทศเมื่อคราวเป็นแกนนำเม็อบปิดล้อม สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
ขวัญชัย ไพรพนา เป็นใคร บนเส้นทางสร้างชื่อเสีย(ง)ในแวดวงวิทยุที่ดำเนินมาค่อนชีวิตเป็นไปอย่างไร ที่สำคัญเครือข่ายของชมรมคนรักอุดรฯ ที่เขาเป็นที่ปรึกษาและเป็นหัวหอกในฐานะปากกระบอกเสียงสำคัญ ซึ่งกำลังทำหน้าที่สู้เพื่อทักษิณชนิดยอมตายถวายชีวิตนั้นมีใครอยู่เบื้องหลัง
เพื่อนพ้องของ ขวัญชัย เล่าถึงตัวตนของเขาว่า นิสัยส่วนตัวชอบทำตัวเว่อร์ๆ ขี้คุยโวโอ้อวดถึงความมั่งมี และคุยโวว่าเป็นคนมีเส้นสายใหญ่โตในวงราชการและนักธุรกิจใหญ่โตในเมือง ชอบประจบสอพลอกับคนใหญ่คนโตในจังหวัดเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เช่น ผู้ว่าฯ ภรรยาผู้ว่าฯ ผู้กำกับ ส.ส. นายก อบจ. นักธุรกิจ-พ่อค้า
ขวัญชัย มีพื้นเพเป็นคนอำเภอเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี เรียนจบ ป.4 แล้วออกมาเผชิญโชค เคยเป็นตลกอยู่วงลูกทุ่ง แล้วก็เริ่มมาตั้งตัวได้ในสมัยที่สายัณห์ สัญญา กำลังโด่งดัง
เขาเริ่มเข้ามาจับธุรกิจทำรายการวิทยุที่เสียงสามยอด โดยเป็นผู้จัดรายการวิทยุเชียร์นักร้องลูกทุ่ง โดยเฉพาะสายัณห์ สัญญา โดยห้างขายยา/ห้างร้าน เช่น ห้างขายยาแก่นนคร ซันย่า เข้ามาเช่าเวลาจากสถานีวิทยุเสียงสามยอด แล้วก็หานักจัดรายการมาจัดรายการเพลงลูกทุ่ง สลับกับโฆษณาสินค้า ขวัญชัย ไพรพนา ก็เป็นหนึ่งในนักจัดรายการวิทยุด้วย โดยทำทั้งทัวร์คอนเสิร์ตไปตามหมู่บ้านตำบลต่าง ๆ ถ่ายทอดสด และประกวดนักร้อง
ฝีมือการปั้นนักร้องของดีเจ.ป.4 คนนี้ มีผลงานเด่น คือ “ลูกนก - พรพนา” ทโดยอาศัยความสนิทสนมกับเจ้าของห้องอัด มาสเตอร์ เทป
คนใกล้ชิดเขาเล่าว่า ในสมัยที่จัดรายการวิทยุเสียงสามยอด เมื่อ 20 – 30 ปีก่อน ขวัญชัยจะชอบเบ่งและข่มเพื่อน เคยมีเรื่องกับนักจัดรายการวิทยุคนอื่น ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น “ทิดสา ผีบ่อยาก” เป็นนักจัดรายการวิทยุที่ จ.ส.5 ชัยภูมิ และเสียงสามยอดอุดรธานี เรื่องก็คือ ขวัญชัย ทำมาหากินเดินสายกับ “สายัณห์ สัญญา” แต่ “ทิดสา ผีบ่อยาก” ทำมาหากินเดินสายกับ “ยอดรัก สลักใจ” ไปทับเส้นทางทำมาหากินกัน
นักจัดรายการวิทยุในสมัยเดียวกับขวัญชัยที่ไม่กินเส้นกัน เช่น ทิดสา ผีบ่อยาก, เขยใหม่ เมืองอุดร, กิ่ง กรกช สำหรับคนนี้พะบู๊กันขนาดเคยจะต่อยขวัญชัยด้วย, ชาย เมืองชล (เสียชีวิตแล้ว), วิฑูรย์ วงศ์ไกร, ดอน แดนอีสาน หนุ่มไทย สระบุรี เป็นต้น
มีเรื่องเล่าว่า สมัยอยู่เสียงสามยอดจังหวัดขอนแก่น ด้วยนิสัยคุยโวโอ้อวด เขาเคยถูกขู่ฆ่า จึงหนีไปพึ่งบารมีนางเบญจมาศ ปริญญาพล ผู้ซึ่งเป็นภรรยาผู้ว่าฯอุดรในปัจจุบัน คือ นายจารึก ปริญญาพล จากนั้น ขวัญชัย ก็ย้ายมาปักหลักทำมาหากินที่เมืองอุดรธานี
ปัจจุบันขวัญชัย เป็นเจ้าของสถานีวิทยุ “คลื่นมวลชนสัมพันธ์” FM. 97.50 MHz โดยอาศัยช่องทางของรัฐธรรมนูญมาตรา 40 จัดตั้งสถานีวิทยุแห่งนี้ขึ้นมา แต่เนื้อแท้แล้วไม่ได้มีเจตนารมย์ที่จะทำวิทยุชุมชนอย่างแท้จริง เพราะมีโฆษณาเหมือนวิทยุกระแสหลักทั่วไป
ภายหลังจากขวัญชัย นำม็อบปิดล้อมแกนนำพันธมิตรฯ ว่ากันว่าได้รับรางวัลสมนาคุณจากพรรคการเมืองใหญ่ กระทั่งสามารถซื้ออุปกรณ์เพิ่มสัญญาณจากกำลังขยาย 300 วัตต์ เป็น 1 กิโลวัตต์ เพื่อขยายการผลรับฟังของสถานีแห่งนี้ให้ได้ยินทั่วถึงทั้งเมืองอุดรธานี รวมทั้งยังมีทุนรอนสำหรับจัดกิจกรรมและเคลื่อนไหวโดยไม่เป็นที่เปิดเผยถึงเส้นทางเงินทุนที่สนับสนุน
ย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้าม็อบปิดล้อมพันธมิตรฯ มีการใช้คลื่นวิทยุเอฟเอ็ม 94.00 เมกะเฮิร์ตซึ่งเป็นเครื่องส่งสัญญาณกำลังส่งเล็กๆ แบบสถานีวิทยุชุมชนทั่วไป แล้วยิงสัญญาณไปที่ 97.50 เม็กกะเฮิร์ต ซึ่งกำลังส่งใหญ่กว่าประมาณ 300 วัตต์ แต่ปัจจุบันซื้อเครื่องส่งสัญญาณ 1 กิโลวัตต์ มาแล้ว ทำให้ไม่ต้องยิงสัญญาณจาก 94.00 มาที่ 97.50 อีก โดยเป็นการส่งสัญญาณจากคลื่น 97.50 โดยตรง
ส่วนการจัดตั้งชมรมคนรักอุดรฯนั้น ตั้งขึ้นมาก่อนหน้าปิดล้อมพันธมิตรฯอุดรธานี ประมาณ 1 เดือนช่วงที่กระแสไล่ทักษิณเกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งที่อุดรฯ ด้วย ช่วงนั้นพรรคไทยรักไทย ก็สร้างกระแสตีโต้ว่าคนต่างจังหวัดสนับสนุนทักษิณ และขึ้นเวทีในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อสนับสนุนทักษิณ
สำหรับจังหวัดอุดรธานี เปิดเวทีใหญ่กลางทุ่งศรีเมืองโดยการสนับสนุนของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัด, ส.ส.ไทยรักไทย รวมทั้งนายก อบจ.อุดรธานี คือ เฉลิมพล สนิทวงศ์ชัย หลังจากจัดเวทีเสร็จก็เริ่มก่อตั้งชมรมคนรักอุดรขึ้นมา เพื่อมารองรับการเคลื่อนไหวสนับสนุนทักษิณ โดยมี ส.ส.ไทยรักไทย จ.อุดรธานี นายก อบจ. ผู้ว่าฯ และฝ่ายตำรวจโดยการนำของ พล.ต.ต. เขมณัฐ สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่มีเกี่ยวข้องกับการก่อเกิดและกิจกรรมของชมรมคนรักอุดรฯ
ขวัญชัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญนั้น จะจัดรายการช่วง 08.00 – 12.00 น. ทุกวัน โดยทั้งปลุกระดม ข่มขู่ คุกคาม พวกนักธุรกิจ ข้าราชการที่ออกมาสร้างกระแสขับไล่ทักษิณในจังหวัดอุดรธานี รูปแบบรายการจะให้คนฟังทางบ้านโทรศัพท์เข้ามา แล้วก็ใช้วาจาหยาบคายข่มขู่ คุกคาม ปลุกระดมให้เกิดการทำร้ายร่างกายและเอาชีวิต
เช่น ไอ้คนพวกนี้(พวกขับไล่ทักษิณ) ต้อง “เผามัน” “นั่งยางมัน” “ฆ่ามัน” หรือไม่ก็ “เอาคนไปปิดล้อมบ้านหรือร้านค้ามัน” เป็นต้น และยังมีการทำรายชื่อร้านค้าต่าง ๆ ในเมืองอุดรธานีที่เป็นพันธมิตรของ สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ โดยเอาไปสอดไว้หน้าร้านค้าที่มีรายชื่อดังกล่าวเป็นการข่มขู่คุกคามด้วย
สำหรับสถานที่ตั้งสถานีวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์ ตั้งอยู่ที่ตลาดเริ่มอุดม ซึ่งอยู่ติดกับตลาดเซ็นเตอร์พ้อยท์ และตลาดปรีชา อยู่ใกล้สถานีรถไฟอุดรธานี ซึ่งเป็นของ “เสี่ยตี๋” - ปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าของโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุดรธานี 2 แห่ง ตั้งอยู่ที่ อ.กุมภวาปีและไชยวาน
ส่วนสายสัมพันธ์ของกลุ่มบุคคลในเมืองอุดรธานี ที่เกื้อหนุนต่อการดำรงอยู่ของคลื่นมวลชนสัมพันธ์ มีดังนี้
1. ขวัญชัย ไพรพนา เจ้าของสถานีวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์ ตั้งอยู่ที่ตลาดเริ่มอุดม
2. สุเทพโปรโมชั่น บริหารงานโดย สุเทพ สุวรรณประดิษฐ์ สำนักงานตั้งอยู่ติดกันกับสถานีวิทยุคลื่นมวลชนสัมพันธ์ สุเทพ เป็นคนปักษ์ใต้ทำธุรกิจในแวดวงบันเทิง รับจ้างออกสวนสนุก ออกร้านค้า จัดคอนเสิร์ตลูกทุ่ง และมีธุรกิจที่ไม่เปิดเผย กระทั่งได้ชื่อว่าเป็น “ผู้กว้างขวางแห่งทุ่งศรีเมือง” เพราะแทบจะผูกขาดการจัดงานในทุ่งศรีเมือง หากงานไหนเขาพลาดผู้รับเหมารายอื่นก็อาจมีปัญหาการต่อไฟฟ้ามาใช้ที่ทุ่งศรีเมืองได้
3. “เสี่ยตี๋” - ปรีชา ชัยรัตน์ เจ้าของตลาดเริ่มอุดมและตลาดปรีชาซึ่งอยู่ติดกัน และเป็นเจ้าของโรงงานน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอุดรฯ เขาเป็นเจ้าของคอกม้าและสนามแข่งม้าอุดรธานี แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเจ้าของ (แต่เพียงในนาม) เป็นของคนอื่นแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นที่เพ่งเล็งและถูกขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลตามนโยบายปราบมาเฟียเจ้าพ่อของทักษิณ
เรื่องนี้เสธ.ไอซ์ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต เพื่อนของเสี่ยตี๋ และ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ขุนพลไทยรักไทย ที่คุมพื้นที่ภาคอีสาน น่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องนี้ดี เช่นเดียวกับการรู้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่จำต้องทำให้เสี่ยตี๋ ฟเขียวให้ ขวัญชัย เปิดคลื่นมวลชนฯ ที่ตลาดแห่งนี้ปลุกระดมมวลชนทางวิทยุและจัดตั้งชมรมคนรักอุดรฯ
4. ชมรมคนรักอุดร มีผู้ว่าฯ เมืองอุดรฯ เป็นสมาชิกลำดับแรก และ นายสมพงษ์ จันทร์งาม เป็นประธานชมรม ส่วนขวัญชัย ไพรพนา เป็นที่ปรึกษา สำหรับนายสมพงษ์ จันทร์งาม คนนี้ เป็นข้าราชการครู อยากเล่นการเมือง
ปัจจุบันชมรมคนรักอุดรเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาชื่อ www.weloveudon.com มีเนื้อหาโจมตีผู้ไม่เห็นด้วยกับทักษิณทั้งสิ้น วิธีการหาสมาชิกชมรมคนรักอุดร มีคำสั่งจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดให้นำใบสมัครสมาชิกชมรมฯไปวางไว้ตามสถานที่ราชการทุกแห่งในอุดรธานี และให้ผู้ใหญ่บ้านกำนันหาสมาชิกเข้าชมรมฯ ด้วย ปัจจุบันมีการอ้างตัวเลขว่ามีคนอุดรฯมาสมัครเป็นสมาชิกแล้ว 100,000 คน
5. หมอวิชัย ชัยจิตวณิชย์กุล และ ธีรชัย แสนแก้ว อดีต ส.ส.ไทยรักไทย มีการเกณฑ์เอาชาวบ้านในเขตเลือกตั้งของตนมาสมัครเป็นสมาชิกชมรมคนรักอุดร
6. ตำรวจอุดรโดยการนำของ พล.ต.ต.เขมณัฐ สุขเจริญ ผู้ซึ่งกำข้อมูลในธุรกิจที่ไม่เปิดเผยของผู้กว้างขวางแห่งทุ่งศรีเมือง และข้อมูลดังกล่าวอาจดลบันดาลให้ตำรวจเมืองอุดรฯ วางเฉยในกรณีปิดล้อมพันธมิตรฯอุดร เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2549
7. เฉลิมพล สนิทวงศ์ชัย นายก อบจ. อุดรธานี พรรคไทยรักไทย มีลูกสาวเป็น ส.ส.ไทยรักไทย (ช่วงเลือกตั้งซ่อมแทน เฉลิมชัย สนิทวงศ์ชัย ส.ส.พรรคไทยรักไทย ที่กระโดดตึกตาย) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการจัดเวทีเชียร์ทักษิณที่ทุ่งศรีเมืองเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2549
ส่วน นายจารึก ปริญญาพล และผู้เป็นภรรยา คือ นางเบญจมาศ ปริญญาพล ว่ากันว่า นับเป็นผู้หนุนเนื่องที่สำคัญของชมรมคนรักอุดรฯ