กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ผ่านทางสถานฑูตสิงคโปร์ในไทย ขอให้ยุติการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป เพราะถือเป็นการเข้ามาแทรกแซงกิจการขั้นพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศไทย ขู่หากไม่ถอนตัวเจอมาตรการรณรงค์บอยคอตสินค้า-บริการของสิงคโปร์และกลุ่มชินฯ ความสมานฉันท์ของสองชาติแตกเป็นเสี่ยงแน่
วันนี้ (7 มี.ค.) เวลาประมาณ 14.00 น. ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ตัวแทนแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นางสาวรสนา โตสิตระกูล นางสาวสารี อ่องสมหวัง จะเข้ายื่นหนังสือขอให้ยุติการซื้อขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ป ถึงนายลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสิงคโปร์ ผ่านทางสถานทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย โดยเนื้อความของจดหมายของพันธมิตรฯ มีดังนี้
“ประเทศสิงคโปร์ และประเทศไทย ได้มีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างดีมาเป็นเวลาช้านาน บัดนี้ กองทุนเทมาเส็คซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์กำลังดำเนินการซื้อกิจการ บมจ.ชินคอร์ป จากครอบครัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งครอบคลุมกิจการสัญญาสัมปทานจากรัฐที่มีลักษณะผูกขาดและมีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ ทั้งด้านโทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม สถานีโทรทัศน์ และสายการบินนั้น
“กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอเรียนต่อท่านว่า ขณะนี้ประชาชนจำนวนมาก กำลังอยู่ในระหว่างการติดตามตรวจสอบนายกรัฐมนตรี เพื่อพิสูจน์พฤติกรรมทำกระทำผิดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมายหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กิจการส่วนตัวของครอบครัวนายกรัฐมนตรีทั้งด้านโทรศัพท์มือถือ ดาวเทียม สถานีโทรทัศน์ และสายการบิน เป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มีการปกปิดซุกซ่อนสินทรัพย์อันเป็นการผิดรัฐธรรมนูญ มีการหลีกเลี่ยงภาษีในการโอนหลักทรัพย์ในราคาต่ำกว่าราคาตลาดหลายครั้ง และล่าสุดได้ขายกิจการของกลุ่มตนซึ่งเป็นกิจการยุทธศาสตร์ของชาติให้แก่เทมาเส็คซึ่งเป็นกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ อันเป็นลักษณะการขายชาติ
“นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรียังมีพฤติกรรมการแทรกแซงองค์กรอิสระต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ อันทำให้การตรวจสอบในด้านต่างๆ ไม่สามารถเป็นไปโดยชอบธรรม ตลอดจนมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอยู่เสมอ ดังจะเห็นได้จากการยุบสภาก่อนจะถึงวันเปิดสภาเพื่อทำให้ไม่สามารถติดตามตรวจสอบนายกรัฐมนตรีในประเด็นดังกล่าว
โดยเหตุนี้ ประชาชนและนักวิชาการจำนวนมากทั่วประเทศ จึงเห็นว่า นายกรัฐมนตรีหมดความชอบธรรมในการปกครองประเทศ ไม่สมควรที่จะควบคุมอำนาจรัฐด้านต่างๆ เพราะกลัวการตรวจสอบตลอดจนควบคุมอำนาจรัฐในกระบวนการการเลือกตั้งอีกต่อไป กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประชาชนและนักวิชาการจึงเห็นควรที่จะให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งโดยทันที
ด้วยความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างประเทศสิงคโปร์กับประเทศไทย กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้ประเทศสิงคโปร์ยุติการซื้อขายกิจการของชินคอร์ปในวันที่ 9 มีนาคม 2549 ดังเงื่อนไขที่เปิดเผยไว้กับนักลงทุน มิเช่นนั้นจะถือเป็นการเข้ามาแทรกแซงกิจการพื้นฐานที่สำคัญและมีผลต่อความมั่นคงของประเทศ กลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาธิปไตยจะได้รณรงค์ต่อต้านให้ถึงที่สุด อาทิ การรณรงค์ไม่ใช้สินค้าและบริการของกลุ่มชินคอร์ปที่กองทุนเทมาเส็คครอบงำอีกต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะมาติดตามคำตอบที่หน้าสถานทูตสิงคโปร์อีกครั้งในวันที่ 9 มีนาคม 2549 ขอให้ประเทศสิงคโปร์และประเทศไทยมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรประเทศอย่างดีตลอดไป”
ตัวแทนหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรฯ เปิดเผยว่า ในการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงของพันธมิตรฯ ในเย็นวันนี้ จะมีการประกาศมาตรการที่เป็นการคว่ำบาตรสินค้าและบริการของกลุ่มทุนจากประเทศสิงคโปร์และสินค้าและบริการของกลุ่มชินคอร์ป โดยจะมีการรณรงค์ต่อต้านกันอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศ