ผู้จัดการรายวัน – สมัชชาคนจนรุกหนัก ยึดกระทรวงเกษตรกดดันเจรจาแก้ปัญหาค้างปี ร้องหาสำนึกนายกฯ ด้านปลัดฯ – รองโฆษกไทยรักไทย เหงื่อตกรับหน้าม็อบทั้งวัน “หญิงหน่อย” แจ้นเปิดโต๊ะเจรจา กะงัดมุขเก่าตั้ง กก.ดูแล รัฐมนตรีเป็นประธาน กล่อมม็อบกลับบ้าน หวั่นร่วมชุมนุมใหญ่ ด้านสมัชชาฯ ถูกกล่อมจนสุดท้ายกลับไปปักหลักที่หน้ารัฐสภาเช่นเดิม
วานนี้ (23 ก.พ.) เวลา 05.00 น. ชาวบ้านในเครือข่ายสมัชชาคนจนร่วม 1,000 คน เคลื่อนขบวนจากที่ชุมนุมหน้ารัฐสภาไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระจายคนเข้านั่งชุมนุมอยู่บริเวณภายในอาคารอำนวยการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งในบริเวณห้องโถงชั้นล่างและชั้น 2 หน้าห้องรัฐมนตรี ทางเดินในอาคาร และบริเวณบันได รวมถึงบริเวณหน้าอาคาร โดยมีรถเครื่องเสียง 1 คัน เป็นจุดปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์นโยบายแก้จนของรัฐบาลไทยรักไทย โดยมีเรียกร้องให้เร่งรัดการแก้ปัญหากรณีปัญหาในเครือข่าย อาทิเช่น กรณีที่สาธารณะ เขื่อน ผู้ป่วยจากการทำงาน ป่าไม้ทับที่ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดเวลาทั้งวัน นายบรรพต หงษ์ทอง ปลัดกระทรวงเกษตรฯ นายจตุพร พรหมพันธ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย ได้พยายามเจรจาให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมถอนกำลังคนออกจากบริเวณอาคารของกระทรวง เมื่อคนออกแล้ว จะเริ่มต้นเจรจาในประเด็นของปัญหาต่างๆ ต่อไปได้ ในขณะที่ตัวแทนสมัชชาคนจนกว่า 30 คน เรียกร้องที่จะเจรจาการแก้ปัญหากับนักการเมืองผู้มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้น ในขณะที่ยืนยันว่ากลุ่มชาวบ้านจะรอรับฟังผลการเจรจาจนถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เวลา 17.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.กระทรวงเกษตรฯ ได้เดินทางมาพบผู้ชุมนุมซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดี รวมทั้งทักทายชายแก่คนหนึ่งว่า “สบายดีหรือเปล่า เดี๋ยวคุยแล้วจะรับข้อเสนอ จากนั้นก็กลับบ้านนะ จะไปเยี่ยมที่บ้าน” และเข้าร่วมเจรจาหารือกับตัวแทนสมัชชาคนจนที่ห้องประชุมชั้น 3 โดยตัวแทนสมัชชาคนจนได้อ่านแถลงการณ์ “ถามหาสำนึกของนายกรัฐมนตรี” พร้อมทั้งนำเสนอปัญหาทั้งที่เป็นกรณีที่มีมติ ครม.รองรับ แต่ขาดการสั่งการหรือกลไกในการแก้ปัญหาไม่ปฏิบัติตาม รวมทั้งกรณีที่ยังไม่ได้ริเริ่มแก้ปัญหา
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวในที่ประชุมว่า ตนจะรับเป็นคนประสานงานหลักใน 6 กระทรวงหลักที่รับผิดชอบในกรณีปัญหาของสมัชชาคนจน พร้อมทั้งรับปากว่าจะเสนอให้นายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการที่มีรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงเป็นประธานหรือกรรมการ โดยจะมีการประชุมสรุปความคืบหน้ากันเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ทั้งนี้ ในกรณีที่สามารถสั่งการได้เลยตนก็รับปากว่าจะดำเนินการและประสานไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยให้ตัวแทนของสมัชชาคนจนจัดทำตารางกำหนดประเด็นและหน่วยงานที่มีอำนาจให้ชัดเจน
“ตอนนี้จะรับเป็นคนประสานให้ รัฐมนตรีบางคนรับปากแล้ว แต่บางคนยังอยู่ต่างประเทศมาไม่ได้ แต่ตัวดิฉันจะเป็นตัวประกันให้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเจรจา รมว.กระทรวงเกษตรฯ ได้สอบถามกับผู้ชุมนุมว่าจะกลับภูมิลำเนาทันทีหรือไม่เมื่อการเจรจาแล้วเสร็จ แต่ตัวแทนสมัชชาคนจนยืนยันจะชุมนุมต่อที่หน้ากระทรวงเกษตรฯ จนกว่าจะได้การแก้ปัญหาเป็นที่น่าพอใจ คุณหญิงสุดารัตน์แสดงความตกใจ และสอบถามกลางวงประชุมว่า “ไม่ได้กะจะไปร่วมกับเขาใช่มั้ย” ซึ่งหมายถึงการชุมนุมใหญ่วันที่ 26 ก.พ.นี้ แต่ได้รับคำปฏิเสธจากตัวแทนสมัชชาคนจน
นางสาวสมภาร คืนดี ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน ระบุว่า การประชุมตัวแทนชาวบ้านแต่ละเครือข่ายสรุปว่าไม่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมการขึ้นมาดูแล เนื่องจากที่ผ่านมาหลายกรณีก็มีกรรมการหลายชุดอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่แท้จริงคือการไม่มีการปฎิบัติตามมติ ครม.และข้อตกลงของกรรมการ ไม่มีความคืบหน้า
“หลักการของชาวบ้านคือปัญหาทุกกรณีต้องขึ้นโต๊ะเจรจา และมีแนวทางในการแก้ปัญหาชัดเจนถึงขั้นตอนการปฏิบัติ ส่วนเรื่องที่สามารถสั่งการได้ 9 กรณี เช่น เขื่อนสิรินธร เขื่อนห้วยละห้า ก็สั่งการได้เลย"
ที่ปรึกษาฯ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับบทเรียนว่าการมีมติ ครม.และการรับปากลมๆ แล้งๆ ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ รมว.เกษตรฯ พยายามเร่งรัดให้ชาวบ้านกลับบ้าน เพราะกลัวว่าชาวบ้านจะได้รับอันตรายจากมือที่สาม แต่ชาวบ้านยืนยันที่จะชุมนุมต่อจนกว่าผลการเจรจาจะเป็นที่พอใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเจรจากันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยกันออกมาจากกระทรวงเกษตรฯ และรวมตัวชุมนุมอยู่นอกรั้วกระทรวงเกษตร ในขณะที่ล่าสุดเวลา 21.00 น. มีรัฐมนตรีหลายคน อาทิ นายยงยุทธ ติยะไพรัช รมว.ทรัพยากรฯ นายเสริมศักดิ์ พงศ์พานิช รมช.มหาดไทย และนายวราเทพ รัตนากร รมช.คลัง วนเวียนเข้ามาในห้องเจรจาซึ่งยังคงดำเนินอยู่
อย่างไรก็ตาม หลังจากการเจรจายื้อเยื้อยาวนานได้จบลง โดยสมัชชาคนจน ถอยกลับไปปักหลักชุมนุมที่หน้ารัฐสภาเหมือนเดิม เมื่อเวลา 23.30 น.และรอการตั้งคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเหมือนเช่นที่เคยผ่านมา