“ทีมงานของศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย” เป็นส่วนหนึ่งในการได้ร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในบ้านตันหยงลิมอร์ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 21 กันยายน จวบจนถึงบทสุดท้าย เมื่อมีการนำศพของนาวิกโยธินทั้งสองนายออกมา
คลิกชมภาพสไลด์โชว์ รวมภาพ19 ชั่วโมงวิกฤตที่ “ตันหยงลิมอ”!ได้ที่ไอคอน Manager Mutimedia

คลิก เพื่อชมวิดีโอคลิป การทำงานของศูนย์ข่าว “อิศรา
ช่วงเช้าวันที่ 21 กันยายน หลังรับทราบเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น ทีมงานศูนย์ข่าวอิศรา เดินทางเข้าสู่พื้นที่บ้านตันหยงลิมอร์ในทันที แต่เนื่องจากชาวบ้านต้องการให้มีสื่อมวลชนมาเลเซีย เข้ามาเป็นผู้รายงานสถานการณ์ และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะไม่วางใจในความเป็นกลางของสื่อไทย ทีมข่าวคนหนึ่งของศูนย์ ฯ ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมวิชาชีพจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีโอกาสร่วมสังเกตการณ์ในคณะตัวแทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐฯ ที่เข้าร่วมเจรจากับชาวบ้าน
“ตอนแรกที่มาถึง ผมขอคุยกับแกนนำชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงทันที เพื่อขอเข้าไปในหมู่บ้าน” ทีมงานศูนย์ข่าวอิศรา เล่าให้ฟังด้วยความระทึก หลังจากก้าวแรกที่ลงจากรถในเวลาราว 10.30 น.
แกนนำที่เขาคุยด้วย เป็นหญิงเชื้อสายมลายู อายุราว 35 ปี ที่ยืนยันกับเขาว่าไม่ต้องการให้สื่อมวลชนไทยเข้าไปในเขตของหมู่บ้าน โดยอ้างว่าเขียนเรื่องไม่จริง ยกเว้นนักข่าวจากมาเลเซียเท่านั้น
ทีมข่าวคนหนึ่งซึ่งเป็นมุสลิมและพูดภาษามลายูได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านวางใจและยอมให้ฝ่าด่านหญิงชาวบ้านร่วม 100 คนได้ ในขณะที่ผู้สื่อข่าวชาวไทยคนอื่นๆ ได้รับเสียงโห่ร้องต้อนรับตั้งแต่ย่างกรายเข้ามา
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินเข้าหมู่บ้านโดยมีหญิงชาวบ้านเดินคุมตัวไป 3 คน โดยนำหน้าและขนาบซ้ายขวา เพื่อไปสมทบกับ “ผู้ใหญ่” ที่อยู่ในหมู่บ้านก่อนแล้ว

“ผู้ใหญ่” ที่อยู่ในหมู่บ้านขณะนั้น มี พล.ต.พิเชษฐ์ พิสัยจร รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอระแงะ และนายนัจมุดดิน อูมา อดีต ส.ส.ไทยรักไทย ซึ่งกำลังคุยกับชาวบ้านอยู่บางส่วน
หญิงทั้งสามเดินนำเขาไปหมู่บ้านอย่างนิ่งเงียบ ไม่เอ่ยอะไร ชาวบ้านกลุ่มแรกที่เจอในหมู่บ้านคือกลุ่มวัยรุ่นราว 10 กว่าคน ที่ยืนคุมศาลาอเนกประสงค์กลางหมู่บ้าน ซึ่งปกติใช้เป็นที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน แต่เวลานี้ถูกใช้เป็นสถานที่ควบคุมตัว 2 นายทหารนาวิกโยธิน
“ตอนแรกที่เดินผ่านศาลา ผมยังเห็นอยู่ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่” หนึ่งในทีมข่าวของศูนย์ฯ ที่มีโอกาสเข้าไปภายในหมู่บ้านตันหยงลิมอ หมายถึงทหารนาวิกโยธินทั้งสองนาย
ศาลาอเนกประสงค์ ขนาด 2 ชั้น ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน ห่างจากร้านน้ำชาที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ราว 100 เมตร และห่างจากมัสยิดราว 20 เมตร อาคารที่ใช้คุมขังทหารทั้งสอง มีช่องลมให้พอมองเห็นสภาพภายในได้
ภาพที่เราเห็นคือ ชายสองคนที่อยู่ในสภาพเปลือยกายท่อนบน ถูกมัดปากด้วยเสื้อ และถูกมัดมือไพล่หลังไว้อย่างแน่นหนา แต่สังเกตเห็นว่าทั้งสองยังคงมีสติดีอยู่

ข้างๆ กับศาลาอเนกประสงค์มีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลลา สีน้ำเงิน สภาพพังยับเยิน ไฟท้ายและไฟหน้าถูกทุบแตกกระจาย จอดขวางถนนอยู่ หลังจากนั้น พวกเราถูกนำตัวไปดูสภาพร้านน้ำชาอันเป็นจุดเกิดเหตุกราดยิงเมื่อสองทุ่มครึ่งเมื่อคืนวาน สังเกตเห็นว่ารอยเลือดยังคงอยู่ โดยไม่ได้ทำความสะอาดใดๆ อีกทั้งยังมีรอยมือเปื้อนเลือดที่เกาะติดอยู่ตามเสาของร้านน้ำชา ในขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังคงจับกลุ่มอยู่ในร้านน้ำชาแห่งนั้น
ทีมงานของเราสังเกตเห็นว่า ผู้ชายในหมู่บ้านจะจับกลุ่มอยู่ในบ้าน ส่วนผู้หญิงและเด็กจะอยู่กันตามถนนหนทางในหมู่บ้าน ซึ่งนอกจะมีบรรดาหญิงชาวบ้านเดินกันให้ขวักไขว่แล้ว ยังมีทั้งท่อนไม้และยางรถยนต์ขวางทางไว้อย่างสะเปะสะปะ นอกจากนี้ หญิงชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งยังรวมตัวชุมนุมในเต็นท์หน้าหมู่บ้าน เขายังรู้สึกว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันอย่างเป็นระบบ
สิ่งที่เขาสังเกตได้คือ การเจรจาเป็นไปโดยไม่มีศูนย์กลาง หรือ บ้านศูนย์กลาง แต่เป็นการพูดคุยกับชาวบ้านกันไปเรื่อย โดยไม่มีบุคคลเป้าหมายในการเจรจา
ในระหว่างเดินสำรวจหมู่บ้านและพูดคุยกับชาวบ้านอยู่นั้น ทางผู้ใหญ่ได้พยายามติดต่อขอเฮลิคอปเตอร์ให้ไปรับนักข่าวมาเลเซียที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ในขณะที่ตัวเขาเองรับที่จะติดต่อนักข่าวมาเลเซียซึ่งเป็นได้รู้จักกันในระหว่างตระเวนทำข่าว
หลังจากติดต่อนักข่าวมาเลเซียได้ตามที่ชาวบ้านตันหยงลิมอต้องการแล้ว ต่อจากนี้คือการเฝ้ารอ...โดยหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
แต่ทว่า..!!!
เวลา 14.00 น. มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมกับบอกว่ามีเห็นทหารชุดหนึ่งแอบบุกเข้ามาในอีกด้านหนึ่งของหมู่บ้าน ส่งผลให้ชายบ้านทั้งหญิงและชายต่างกรูกันไปทางที่ชายเหล่านั้นระบุ
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ศาลาอเนกประสงค์ ที่ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านหลายสิบคนเฝ้าอยู่ ถูกปล่อยทิ้งไว้ เหลือเพียงเด็กหนุ่มไม่ถึง 10 คน
และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีเสียงเอะอะบริเวณศาลาฯ ที่คุมตัวทหารทั้ง 2 นาย เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน แต่ในระหว่างนี้มีชาวบ้านหลายคนพยายามเข้าไปควบคุมสถานการณ์รวมทั้งชายที่ยืนคุยกับเขาด้วย
“ตอนแรกก็ไม่เอะใจ เพราะหลังจากนั้นเสียงก็เงียบ คิดว่าไม่มีอะไร ก็นั่งคุยกับชาวบ้านต่อ” หนึ่งในทีมงานของเราเล่าย้อนให้ฟัง พร้อมทั้งระบุด้วยว่าเขาย้ายไปคุยกับชาวบ้านที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากศาลาฯ ดังกล่าวเพียง 20 เมตร ในระหว่างนี้ มีชาวบ้านจากหมู่บ้านรอบข้างเริ่มทยอยกันเข้ามาเยี่ยมเยียนญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงเมื่อคืนวาน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน กลิ่นคาวเลือดที่พัดมาตามลมทำให้การพูดคุยต้องหยุดชะงักลง หลายคนจึงเอ่ยปากว่าต้องไปดูที่ศาลาฯ ให้แน่ชัดว่า ทหารทั้งสองนายอยู่ในสภาพใด
จากภายนอก ประตูของศาลายังคงล็อคไว้อย่างปกติ ในขณะที่กลิ่นคาวเลือดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านจึงหารือกันว่าต้องตัดสินใจพังประตู และพบศพของทั้งสองนอนอยู่ในสภาพที่สาหัสสากรรจ์
“ผมไม่กล้าเข้าไปดู เขาบอกว่าไส้ทะลัก เห็นแต่ขาที่เหยียดอยู่เท่านั้น”
เมื่อเหตุการณ์เริ่มเข้าสู่จุดที่บานปลายขั้นนี้ การคลี่คลายสถานการณ์จึงจำเป็นต้องอาศัยสมาธิเป็นอย่างดี การประสานงานให้นำรถผู้ใหญ่บ้านแทนที่จะเป็นรถทหารมารับศพทั้งสองจึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง
เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า การลอบเข้าไปสังหารทหารทั้งสองนายดำเนินไปในขณะที่สภาพประตูยังอยู่ในสภาพเดิม ไม่มีการพังประตู จึงเป็นไปได้ว่าคนร้ายมีกุญแจอยู่ในมือ
น่าเสียดายที่เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนที่นักข่าวจากมาเลเซียซึ่งกลุ่มชาวบ้านร้องขอจะเดินทางมาถึงเพียง 30 นาที
ประมวลข่าวเกี่ยวเนื่อง
คำแถลงแม่ทัพ 4 กรณีสังหารโหด 2 นาวิกโยธิน
ประวัติ 2 นาวิกโยธินที่เสียชีวิต
“มทภ.4” สั่งปิดล้อมหมู่บ้าน-ควานหามือฆ่า 2 นาวิกฯ
ยันชาวบ้านฆ่าโหด2ทหารผิดกฎหมาย
ชั่วโมงวิกฤติที่ “ตันหยงลิมอ” !
“ทักษิณ”ลั่นไม่ให้ 2 ทหารตายฟรี-ชี้แผนโจรปลุกระดม
ซ้ำรอยโจรนินจา 2 นาวิกฯ ตัวประกันถูกรุมแทงดับอนาถ
ด่วน!1 ใน 2 นย.ถูกตีได้รับบาดเจ็บสถานการณ์ที่ระแงะเครียด
6 นักข่าวมาเลย์เดินทางเข้านราฯ–ชาวระแงะยังไม่ปล่อย 2 ทหาร
“กอ.สสส.จชต.” แจงชาวบ้านจับ 2 ทหาร “เข้าใจผิด” –วอนตั้งสติอย่าเชื่อข่าวลือ
“โฆษก กอ.สสส.ฯ” ยันชาวบ้านยังไม่ปล่อยตัว 2 ทหาร
ประมวลภาพชาวนราธิวาสปิดกั้นทางเข้าออกหมู่บ้านหลังจากจับตัวนาวิกโยธินไว้ 2 นาย
ประมวลภาพลำเลียงคนเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด-ยิงถล่มร้านน้ำชาในนราธิวาส
ชาวบ้านนราฯ นับพันจับ 2 ทหาร เป็นตัวประกัน–รอสื่อมาเลย์ทำข่าวถึงจะยอมเจรจา
โจรใต้วางบึ้มตำรวจเจ็บ 4 นาย – ยิงถล่มร้านน้ำชา ชาวบ้านสาหัส 6 ราย
คลิกชมภาพสไลด์โชว์ รวมภาพ19 ชั่วโมงวิกฤตที่ “ตันหยงลิมอ”!ได้ที่ไอคอน Manager Mutimedia

คลิก เพื่อชมวิดีโอคลิป การทำงานของศูนย์ข่าว “อิศรา
ช่วงเช้าวันที่ 21 กันยายน หลังรับทราบเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้น ทีมงานศูนย์ข่าวอิศรา เดินทางเข้าสู่พื้นที่บ้านตันหยงลิมอร์ในทันที แต่เนื่องจากชาวบ้านต้องการให้มีสื่อมวลชนมาเลเซีย เข้ามาเป็นผู้รายงานสถานการณ์ และข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะไม่วางใจในความเป็นกลางของสื่อไทย ทีมข่าวคนหนึ่งของศูนย์ ฯ ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมวิชาชีพจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีโอกาสร่วมสังเกตการณ์ในคณะตัวแทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐฯ ที่เข้าร่วมเจรจากับชาวบ้าน
“ตอนแรกที่มาถึง ผมขอคุยกับแกนนำชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงทันที เพื่อขอเข้าไปในหมู่บ้าน” ทีมงานศูนย์ข่าวอิศรา เล่าให้ฟังด้วยความระทึก หลังจากก้าวแรกที่ลงจากรถในเวลาราว 10.30 น.
แกนนำที่เขาคุยด้วย เป็นหญิงเชื้อสายมลายู อายุราว 35 ปี ที่ยืนยันกับเขาว่าไม่ต้องการให้สื่อมวลชนไทยเข้าไปในเขตของหมู่บ้าน โดยอ้างว่าเขียนเรื่องไม่จริง ยกเว้นนักข่าวจากมาเลเซียเท่านั้น
ทีมข่าวคนหนึ่งซึ่งเป็นมุสลิมและพูดภาษามลายูได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชาวบ้านวางใจและยอมให้ฝ่าด่านหญิงชาวบ้านร่วม 100 คนได้ ในขณะที่ผู้สื่อข่าวชาวไทยคนอื่นๆ ได้รับเสียงโห่ร้องต้อนรับตั้งแต่ย่างกรายเข้ามา
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินเข้าหมู่บ้านโดยมีหญิงชาวบ้านเดินคุมตัวไป 3 คน โดยนำหน้าและขนาบซ้ายขวา เพื่อไปสมทบกับ “ผู้ใหญ่” ที่อยู่ในหมู่บ้านก่อนแล้ว
“ผู้ใหญ่” ที่อยู่ในหมู่บ้านขณะนั้น มี พล.ต.พิเชษฐ์ พิสัยจร รองแม่ทัพภาคที่ 4 นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอระแงะ และนายนัจมุดดิน อูมา อดีต ส.ส.ไทยรักไทย ซึ่งกำลังคุยกับชาวบ้านอยู่บางส่วน
หญิงทั้งสามเดินนำเขาไปหมู่บ้านอย่างนิ่งเงียบ ไม่เอ่ยอะไร ชาวบ้านกลุ่มแรกที่เจอในหมู่บ้านคือกลุ่มวัยรุ่นราว 10 กว่าคน ที่ยืนคุมศาลาอเนกประสงค์กลางหมู่บ้าน ซึ่งปกติใช้เป็นที่อ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน แต่เวลานี้ถูกใช้เป็นสถานที่ควบคุมตัว 2 นายทหารนาวิกโยธิน
“ตอนแรกที่เดินผ่านศาลา ผมยังเห็นอยู่ว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่” หนึ่งในทีมข่าวของศูนย์ฯ ที่มีโอกาสเข้าไปภายในหมู่บ้านตันหยงลิมอ หมายถึงทหารนาวิกโยธินทั้งสองนาย
ศาลาอเนกประสงค์ ขนาด 2 ชั้น ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน ห่างจากร้านน้ำชาที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ราว 100 เมตร และห่างจากมัสยิดราว 20 เมตร อาคารที่ใช้คุมขังทหารทั้งสอง มีช่องลมให้พอมองเห็นสภาพภายในได้
ภาพที่เราเห็นคือ ชายสองคนที่อยู่ในสภาพเปลือยกายท่อนบน ถูกมัดปากด้วยเสื้อ และถูกมัดมือไพล่หลังไว้อย่างแน่นหนา แต่สังเกตเห็นว่าทั้งสองยังคงมีสติดีอยู่
ข้างๆ กับศาลาอเนกประสงค์มีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโคโรลลา สีน้ำเงิน สภาพพังยับเยิน ไฟท้ายและไฟหน้าถูกทุบแตกกระจาย จอดขวางถนนอยู่ หลังจากนั้น พวกเราถูกนำตัวไปดูสภาพร้านน้ำชาอันเป็นจุดเกิดเหตุกราดยิงเมื่อสองทุ่มครึ่งเมื่อคืนวาน สังเกตเห็นว่ารอยเลือดยังคงอยู่ โดยไม่ได้ทำความสะอาดใดๆ อีกทั้งยังมีรอยมือเปื้อนเลือดที่เกาะติดอยู่ตามเสาของร้านน้ำชา ในขณะที่ชาวบ้านบางส่วนก็ยังคงจับกลุ่มอยู่ในร้านน้ำชาแห่งนั้น
ทีมงานของเราสังเกตเห็นว่า ผู้ชายในหมู่บ้านจะจับกลุ่มอยู่ในบ้าน ส่วนผู้หญิงและเด็กจะอยู่กันตามถนนหนทางในหมู่บ้าน ซึ่งนอกจะมีบรรดาหญิงชาวบ้านเดินกันให้ขวักไขว่แล้ว ยังมีทั้งท่อนไม้และยางรถยนต์ขวางทางไว้อย่างสะเปะสะปะ นอกจากนี้ หญิงชาวบ้านอีกส่วนหนึ่งยังรวมตัวชุมนุมในเต็นท์หน้าหมู่บ้าน เขายังรู้สึกว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันอย่างเป็นระบบ
สิ่งที่เขาสังเกตได้คือ การเจรจาเป็นไปโดยไม่มีศูนย์กลาง หรือ บ้านศูนย์กลาง แต่เป็นการพูดคุยกับชาวบ้านกันไปเรื่อย โดยไม่มีบุคคลเป้าหมายในการเจรจา
ในระหว่างเดินสำรวจหมู่บ้านและพูดคุยกับชาวบ้านอยู่นั้น ทางผู้ใหญ่ได้พยายามติดต่อขอเฮลิคอปเตอร์ให้ไปรับนักข่าวมาเลเซียที่ด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก ในขณะที่ตัวเขาเองรับที่จะติดต่อนักข่าวมาเลเซียซึ่งเป็นได้รู้จักกันในระหว่างตระเวนทำข่าว
หลังจากติดต่อนักข่าวมาเลเซียได้ตามที่ชาวบ้านตันหยงลิมอต้องการแล้ว ต่อจากนี้คือการเฝ้ารอ...โดยหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
แต่ทว่า..!!!
เวลา 14.00 น. มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาพร้อมกับบอกว่ามีเห็นทหารชุดหนึ่งแอบบุกเข้ามาในอีกด้านหนึ่งของหมู่บ้าน ส่งผลให้ชายบ้านทั้งหญิงและชายต่างกรูกันไปทางที่ชายเหล่านั้นระบุ
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ศาลาอเนกประสงค์ ที่ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านหลายสิบคนเฝ้าอยู่ ถูกปล่อยทิ้งไว้ เหลือเพียงเด็กหนุ่มไม่ถึง 10 คน
และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีเสียงเอะอะบริเวณศาลาฯ ที่คุมตัวทหารทั้ง 2 นาย เขาไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน แต่ในระหว่างนี้มีชาวบ้านหลายคนพยายามเข้าไปควบคุมสถานการณ์รวมทั้งชายที่ยืนคุยกับเขาด้วย
“ตอนแรกก็ไม่เอะใจ เพราะหลังจากนั้นเสียงก็เงียบ คิดว่าไม่มีอะไร ก็นั่งคุยกับชาวบ้านต่อ” หนึ่งในทีมงานของเราเล่าย้อนให้ฟัง พร้อมทั้งระบุด้วยว่าเขาย้ายไปคุยกับชาวบ้านที่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากศาลาฯ ดังกล่าวเพียง 20 เมตร ในระหว่างนี้ มีชาวบ้านจากหมู่บ้านรอบข้างเริ่มทยอยกันเข้ามาเยี่ยมเยียนญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงเมื่อคืนวาน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน กลิ่นคาวเลือดที่พัดมาตามลมทำให้การพูดคุยต้องหยุดชะงักลง หลายคนจึงเอ่ยปากว่าต้องไปดูที่ศาลาฯ ให้แน่ชัดว่า ทหารทั้งสองนายอยู่ในสภาพใด
จากภายนอก ประตูของศาลายังคงล็อคไว้อย่างปกติ ในขณะที่กลิ่นคาวเลือดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ชาวบ้านจึงหารือกันว่าต้องตัดสินใจพังประตู และพบศพของทั้งสองนอนอยู่ในสภาพที่สาหัสสากรรจ์
“ผมไม่กล้าเข้าไปดู เขาบอกว่าไส้ทะลัก เห็นแต่ขาที่เหยียดอยู่เท่านั้น”
เมื่อเหตุการณ์เริ่มเข้าสู่จุดที่บานปลายขั้นนี้ การคลี่คลายสถานการณ์จึงจำเป็นต้องอาศัยสมาธิเป็นอย่างดี การประสานงานให้นำรถผู้ใหญ่บ้านแทนที่จะเป็นรถทหารมารับศพทั้งสองจึงเป็นไปอย่างระมัดระวัง
เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า การลอบเข้าไปสังหารทหารทั้งสองนายดำเนินไปในขณะที่สภาพประตูยังอยู่ในสภาพเดิม ไม่มีการพังประตู จึงเป็นไปได้ว่าคนร้ายมีกุญแจอยู่ในมือ
น่าเสียดายที่เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นก่อนที่นักข่าวจากมาเลเซียซึ่งกลุ่มชาวบ้านร้องขอจะเดินทางมาถึงเพียง 30 นาที
ประมวลข่าวเกี่ยวเนื่อง
คำแถลงแม่ทัพ 4 กรณีสังหารโหด 2 นาวิกโยธิน
ประวัติ 2 นาวิกโยธินที่เสียชีวิต
“มทภ.4” สั่งปิดล้อมหมู่บ้าน-ควานหามือฆ่า 2 นาวิกฯ
ยันชาวบ้านฆ่าโหด2ทหารผิดกฎหมาย
ชั่วโมงวิกฤติที่ “ตันหยงลิมอ” !
“ทักษิณ”ลั่นไม่ให้ 2 ทหารตายฟรี-ชี้แผนโจรปลุกระดม
ซ้ำรอยโจรนินจา 2 นาวิกฯ ตัวประกันถูกรุมแทงดับอนาถ
ด่วน!1 ใน 2 นย.ถูกตีได้รับบาดเจ็บสถานการณ์ที่ระแงะเครียด
6 นักข่าวมาเลย์เดินทางเข้านราฯ–ชาวระแงะยังไม่ปล่อย 2 ทหาร
“กอ.สสส.จชต.” แจงชาวบ้านจับ 2 ทหาร “เข้าใจผิด” –วอนตั้งสติอย่าเชื่อข่าวลือ
“โฆษก กอ.สสส.ฯ” ยันชาวบ้านยังไม่ปล่อยตัว 2 ทหาร
ประมวลภาพชาวนราธิวาสปิดกั้นทางเข้าออกหมู่บ้านหลังจากจับตัวนาวิกโยธินไว้ 2 นาย
ประมวลภาพลำเลียงคนเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิด-ยิงถล่มร้านน้ำชาในนราธิวาส
ชาวบ้านนราฯ นับพันจับ 2 ทหาร เป็นตัวประกัน–รอสื่อมาเลย์ทำข่าวถึงจะยอมเจรจา
โจรใต้วางบึ้มตำรวจเจ็บ 4 นาย – ยิงถล่มร้านน้ำชา ชาวบ้านสาหัส 6 ราย