xs
xsm
sm
md
lg

นักวิจัย ม.ทักษิณ พบ แมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้า ชนิดใหม่ของโลก ในถ้ำระยาบังสา จ.สตูล ดัชนีชี้วัดสภาพแวดล้อมและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศถ้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มหาวิทยาลัยทักษิณ โดยนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมดิจิทัล พบ “แมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้า” Lepidonella sirindhornae Nilsai & Jantarit, sp. nov. ชนิดใหม่ของโลก ซึ่งเป็นกลุ่มแมลงหางดีดที่ปรับตัวเข้าถ้ำที่มีวิวัฒนาการอย่างยาวนาน สะท้อนถึงดัชนีชี้วัดสภาพแวดล้อมของระบบนิเวศถ้ำ และความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง

อาจารย์ ดร.อารีรักษ์ นิลสาย คณะวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยทักษิณ ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ ดร.โสภาค จันทฤทธิ์ สถานวิจัยความเป็นเลิศความหลากหลายทางชีวภาพแห่งคาบสมุทรไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และคุณรณพร เอ่งฉ้วน เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา ภายใต้โครงการวิจัยเรื่อง สายสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการและอนุกรมวิธานของแมลงหางดีดในวงศ์ Entomobryidae (Hexapoda: Entognatha) ประเภททุนพัฒนานักวิจัยรุ่นใหม่ 2568 มหาวิทยาลัยทักษิณ ลงพื้นที่สำรวจ “ถ้ำระยาบังสา” ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นแหล่งศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของจังหวัดสตูล โดยเฉพาะสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ เช่น เลียงผา เป็นแหล่งศึกษานกน้ำและแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติของนักธรรมชาติวิทยา อีกทั้งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวจังหวัดสตูล

จากการสำรวจพบ “แมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้า” Lepidonella sirindhornae Nilsai & Jantarit, sp. nov. แมลงหางดีดชนิดใหม่ของโลก เป็นการรายงานการค้นครั้งแรกในพื้นถ้ำของประเทศไทย เป็นกลุ่มแมลงหางดีดที่ปรับตัวเข้าถ้ำที่มีวิวัฒนาการอย่างยาวนาน เป็นดัชนีชี้วัดสภาพแวดล้อมของระบบนิเวศถ้ำ และความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลง


อาจารย์ ดร.อารีรักษ์ นิลสาย กล่าวว่า การค้นพบแมลงหางดีดชนิดใหม่ของโลกครั้งนี้ถือเป็นการเพิ่มฐานข้อมูลทางชีวภาพของโลก และแสดงเห็นให้ถึงดัชนีชี้วัดสภาพแวดล้อมของระบบนิเวศถ้ำ โดยแมลงหางดีดเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีบทบาทในธรรมชาติเป็นผู้ย่อยสลายซากอินทรีย์วัตถุ (Decomposer) และหลายชนิดเป็นผู้บริโภคเชื้อราสามารถควบคุมประชากรเชื้อราในธรรมชาติ จึงถือว่าแมลงหางดีดเป็นผู้ดูแลและทำความสะอาดระบบนิเวศหนึ่ง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่สามารถใช้บ่งชี้ถึงสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ในระบบนิเวศดินที่สำคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม การมีอยู่ของแมลงหางดีดในธรรมชาติเหล่านี้จะช่วยให้พื้นที่ระบบนิเวศมีเสถียรภาพและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

สำหรับที่มาของชื่อ “แมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้า” มาจากชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “Lepidonella sirindhornae Nilsai & Jantarit, sp. nov.” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานภายใต้พระนามของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 70 พรรษา พุทธศักราช 2568 ภายใต้การทำงานของนักวิจัยไทยเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณด้านการส่งเสริมงานด้านอนุกรมวิธาน และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย

ความโดดเด่นของ “แมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้า” คือ การมีสีเงินประกายในธรรมชาติ สีเกิดจากเกล็ดเล็ก ๆ ที่เรียงตัวปกคลุมลำตัว ซึ่งจะสะท้อนแสงเมื่อส่องไฟ ไม่เพียงเท่านั้นแมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้ายังแสดงลักษณะการปรับตัวเพื่อเข้าอาศัยในพื้นที่ถ้ำอย่างเด่นชัด จากการอยู่ในพื้นที่ไม่มีแสง เช่น การมีรยางค์ต่าง ๆ ยืดยาว การมีจำนวนตาลดลง นับเป็นลักษณะที่พบได้ยากที่สุดในกลุ่มเดียวกัน และเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกและอธิบายวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตเมื่ออาศัยในถ้ำได้


อย่างไรก็ตามปัจจุบันพื้นที่ถ้ำและป่าธรรมชาติโดยเฉพาะพื้นที่เขาหินปูน เริ่มมีการถูกรุกรานโดยกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ดังนั้น การค้นพบ “แมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้า” ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มฐานทรัพยากรในประเทศไทยแล้ว ยังสร้างความตระหนักต่อประชาชนทั่วไปในการดูแลและหวงแหนสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่มากยิ่งขึ้น อาจารย์ ดร.อารีรักษ์ กล่าว

ในด้านวิชาการการค้นพบแมลงหางดีดถ้ำเจ้าฟ้าได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Tropical Natural History เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ในชื่อ Lepidonella sirindhornaesp. nov. (Entomobryidae: Paronellinae), A New Collembola species from Southern Thailand เข้าถึงแหล่งข้อมูลจาก https://doi.org/10.58837/tnh.25.8.267503






กำลังโหลดความคิดเห็น