ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นายกชายแถลงขอยุติบทบาทเส้นทางการเมืองพร้อมกับภรรยาแต่ยังไม่ฟันธงตลอดชีวิตหรือไม่ขอดูสถานการณ์การเมืองอีกระยะ สาเหตุหลักมาจากความบิดเบี้ยวของการเมือง ส่วนลูกชาย3คนที่ลง สส.พรรคประชาธิปัตย์และพรรคกล้าธรรมเป็นเจตนารมณ์ของแต่คน
วันนี้ (24ธ.ค.) ที่โรงแรมคริสตันหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายเดชอิศว์ ขาวทอง หรือนายกชาย อดีต สส.สงขลาและอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงเปิดใจกับสื่อมวลชนเกี่ยวกับอนาคตบนถนนสายการเมือง นับตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางการเมืองจากการเป็นสจ. เป็นสส.เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและตำแหน่งสุดท้ายเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาไทย
"หลังจากที่ทบทวนแล้วขอหยุดบทบาททางการเมืองในฐานะที่มีตำแหน่ง ส่วนจะเลิกตลอดชีวิตหรือไม่นั้นรอดูอีกซักระยะ แต่รอบนี้ขอหยุดไปทำสวนเลี้ยงหลาน เพราะหมดแรงและสู้ไม่ไหวแล้วและที่ผ่านมาก็สู้มาอย่างโดดเดี่ยว รวมถึง นางสุภาพร กำเนิดผล อดีต สส.เขต6 สงขลาก็ยุติบทบาททางการเมืองเช่นกัน" นายเดชอิศว์ กล่าว
นายเดชอิศว์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะไม่ขอเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆ เลย แม้ว่าวันนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ แต่หลังปิดรับสมัครเลือกตั้งวันไหนตนก็จะลาออกทันที และจะไม่ลงเล่นการเมืองท้องถิ่นเพราะผ่านมาหมดแล้ว
นายเดชอิศว์ ระบุถึงสาเหตุที่ต้องตัดสินใจยุติบทบาททางการเมืองว่ามาจาก 3 ปัจจัยหลักจากการเมืองที่บิดเบี้ยว 1.เริ่มจากเรื่องของฮุนเซนที่ยกหูมาคุยกับรัฐบาลไทยได้ จนทำให้คนไทยและคนทั้งโลกหัวเราะ 2.ศาลรัฐธรรมนูญ9 คนมีอำนาจเหนือกว่าประชาชนทั้ง 70 ล้านคน และไม่สำคัญเท่ากับข่าวที่ออกมาว่าวิ่งซื้อกันเป็นหลักพันล้าน แม้จะไม่มีการยืนยันว่าจริงแต่พูดกันหนาหู และ 3.กรณีของพรรคประชาชนซึ่งมีเสียง 100 กว่าเสียงแต่กลับยกมือสนับสนุนพรรคเล็กๆ เช่น ภูมิใจไทยแทนที่จะรับตำแหน่งมาแก้ไขปัญหาให้ประชาชน
นายเดชอิศว์ กล่าวว่า แม้จะยุติบทบาททางการเมืองไปแล้วแต่ก็ยังช่วยหาเสียงแต่เป็นเฉพาะตัวบุคคลในบางเขตของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคกล้าธรรม แต่ที่ไม่เชียร์มีสองพรรคคือพรรคประชาชนที่ทำให้การเมืองไทยบิดเบี้ยวและพรรคการเมืองที่ตนไปเห็นการทำงบประมาณกระจุกตัวแค่พวกพ้อง ฮั้วสว.และเรื่องที่ดินเขากระโดง
ส่วนกรณีที่ลูกชาย 3 คนยังลงสมัคร สส.ใน 3 เขตเลือกตั้งของ จ.สงขลา ทั้ง นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ที่ลงเขต 9 พรรคประชาธิปัตย์ นายวงศ์วชิร ขาวทอง ที่ลงเขต 5 พรรคกล้าธรรมและนายบารมี ขาวทอง ที่ลงเขต 6 พรรคกล้าธรรม เรื่องนี้เป็นเจตนารมณ์ของทั้ง 3 คนว่าจะเลือกลงพรรคไหน ครอบครัวตนเป็นครอบครัวใหญ่ไม่ใช่บ้านใหญ่ เป็นครอบครัวประชาธิปไตยที่จะรับฟังความคิดเห็นของทุกคนในครอบครัว ใครจะเลือกลงพรรคไหนก็แล้วแต่เส้นทางของแต่ละคนจะไม่ปิดกั้นหรือบังคับ


