xs
xsm
sm
md
lg

2 สามีภรรยลงทุนล้มต้นยาง 8 ไร่ สร้าง “สวนไผ่ต้องตรัง” จุดเช็คอินแห่งใหม่ของจังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - สองสามีภรรยาลงทุนสร้างฝันล้มต้นยางเนื้อที่ 8 ไร่ มาปลูกต้นไผ่ เพื่อสร้างเป็น “ตลาดสวนไผ่ต้องตรัง” ตลาดสวนไผ่แห่งแรกของตรัง หวังเป็นจุดเช็คอินใหม่ เผยผลตอบรับดีเกินคาดนักท่องเที่ยวใกล้ไกลแห่ไปเยือน

วันนี้ (23 ธ.ค.) นายฐาดิลก และ นางรุ่งวสุ ราชพลี สองสามีภรรยาวัย 46 ปีเท่ากัน ได้ช่วยกันทุ่มเทสร้างความฝันให้กลายมาเป็นความจริงนับตั้งแต่เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ด้วยการลงทุนล้มต้นยางพาราในเนื้อที่ 8 ไร่ บริเวณหมู่ที่ 6 บ้านเกาะบก ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อปลูกต้นไผ่ซางนวล (ไผ่ป่า) ลงไปจำนวนกว่า 200 กอ เพียงเพื่อต้องการนำพื้นที่แห่งนี้มาสร้างเป็นตลาดเชิงธรรมชาติ และระหว่างนั้นก็ได้เปิดเป็นร้านกาแฟเล็ก ๆ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงสถานที่ทีละเล็กละน้อย จนกระทั่งเมื่อเดือนกันยายน 2568 ที่ผ่านมา จึงได้ตัดสินใจเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด โดยใช้ชื่อว่า “ตลาดสวนไผ่ต้องตรัง” ตลาดสวนไผ่แห่งแรกแห่งเดียวของจังหวัดตรัง

สืบเนื่องจากก่อนหน้านั้นทั้งสองสามีภรรยาได้เดินทางไปเที่ยวยังจังหวัดต่างๆ ข้างเคียงอยู่บ่อยครั้ง และพบว่าตลาดสวนไผ่ ถือเป็นหนึ่งในตลาดยอดนิยมที่มีชาวตรังไปเยือนในแต่ละปีจำนวนมาก นั่นจึงเป็นที่มาของการวางแผนสร้างตลาดสวนไผ่ในพื้นที่บ้านเกิดอย่างจริงๆ จังๆ แม้ในช่วงแรกจะมีบางคนมองในมุมที่ต่างกันออกไป แต่เพียงแค่ 3 เดือนหลังจากกี่เปิดตัวก็ได้รับความสำเร็จอย่างล้มหลาม โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวตรังและจังหวัดข้างเคียง เช่น กระบี่ พังงา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี เข้ามาเที่ยวชมทุกเสาร์-อาทิตย์ เฉลี่ยวันละ 700-1,000 คน


สำหรับพื้นที่ภายใน “ตลาดสวนไผ่ต้องตรัง” จะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ได้แก่ โซนงานเวิร์คช็อป อาทิ พิซซ่า บาติก ครัวจิ๋ว ของเล่น ส่วนโซนอาหาร-เครื่องดื่ม ก็จะเน้นเพียงแค่เมนูละหนึ่งเดียว ห้ามซ้ำกัน เพื่อต้องการความเป็นเอกลักษณ์ แต่หลากหลาย แบบมาจบครบที่เดียว โดยมีราคาขายเริ่มต้นที่เมนูละ 5 บาทขึ้นไป ซึ่งล่าสุดมีประมาณ 60 ร้าน และเตรียมขยายเพิ่มเป็น 100 ร้าน ขณะที่โซนกลาง ก็เน้นเวทีการแสดงเพื่อความสนุกสนานและผ่อนคลาย อาทิ ร้องเพลง เล่นดนตรี โดยมีนักเรียน นักศึกษา รวมทั้งหน่วยงานราชการต่างๆ หมุนเวียนกันมาจัดกิจกรรม ซึ่งทางตลาดก็เอื้อพื้นที่สถานที่ให้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนโซนท้ายสุดของตลาดก็คือ โซนแอดเวนเจอร์ ด้วยการขับรถ ATV เที่ยวชมตลาดโดยรอบ ในราคาเริ่มต้นที่ 100 บาท และในอนาคตก็เตรียมขยายพื้นที่ด้านหลัง เพื่อให้มีกิจกรรมทางน้ำเพิ่มขึ้น หวังเอาใจสายผจญภัย เนื่องจากมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่ขุดไว้นานแล้ว รวมทั้งจัดระบบการจอดรถเพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความสะดวกมากขึ้น โดยอาจจะมีการจัดรถรับส่งเป็นจุดๆ ไป ที่สำคัญก็คือ มีนโยบายเปิดให้เที่ยวชมภายในตลาดฟรีไปตลอด แถมยังมีการจัดโปรแจกฟรีให้นักท่องเที่ยวอีกมากมายด้วย เพื่อหวังให้ตลาดสวนไผ่แห่งนี้ติดอยู่ในหนึ่งจุดเช็คอินของจังหวัดที่ต้องมาเยือน และเป็นตลาดสวนไผ่ที่สร้างขึ้นโดยชาวตรังอย่างแท้จริง แถมยังอยู่ใกล้กับตัวเมืองตรังด้วย












กำลังโหลดความคิดเห็น