ยะลา – เกิดเหตุสลด เจ้าหน้าที่ ตชด.43 ถูกกระสุนปืนปริศนาเข้าบริเวณศีรษะ ทำให้เสียชีวิตคาจุดตรวจพงยือไร อ.เมือง จ.ยะลา ล่าสุด จนท.ลงพื้นที่รวบรวมข้อมูลและเบาะแสเพิ่มเติมในการคลี่คลายคดี
วานนี้ (22 ธ.ค.) เกิดเหตุสลดขึ้นที่บริเวณจุดตรวจพงยือไร ต.บันนังสาเรง อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนถูกกระสุนปืนปริศนา ไม่ทราบทิศทาง เข้าที่บริเวณศีรษะทำให้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ หลังรับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี ผกก.สภ.เมืองยะลา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 (ศพฐ.10) และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้รีบเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบร่าง ด.ต.สังเวียร แก้วเพชร อายุประมาณ 48 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ตชด.43 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะจำนวน 1 นัด จึงประสานมูลนิธิกู้ภัยฯ เพื่อเร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ล่าสุด พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.กองอรรถ สุวรรณขำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา และ พ.ต.ท.รัชพล เจ๊ะซู รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองยะลา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ 10 จังหวัดยะลา เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน วัตถุพยาน และร่องรอยต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อนำไปใช้ประกอบการสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้นำร่างของเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ผู้เสียชีวิต ส่งตรวจชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดต่อไป
นอกจากนี้ ชุดสืบสวน สภ.เมืองยะลา ร่วมกับชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา อยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรวบรวมข้อมูลและเบาะแสเพิ่มเติมในการคลี่คลายคดี
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตและรายละเอียดของการก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ต้องรอผลการชันสูตรจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงผลการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป


