xs
xsm
sm
md
lg

ยะลาเร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด เก็บกวาดขยะกองโตกว่า 10 ชุมชน – ชาวบ้านตลาดเก่าเผยนาที “น้ำขึ้นกลางดึก” หนีแทบไม่ทัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ยะลา – เทศบาลนครยะลาเร่งฟื้นฟูหลังน้ำลด ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จัดเก็บขยะกองโตเหมือนภูเขาขยะกว่า 100 ชุมชนให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ด้านชาวบ้านตลาดเก่าเผยนาที “น้ำขึ้นกลางดึก” หนีแทบไม่ทัน


วันนี้ ( 28 พ.ย.68) สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครยะลาเริ่มคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง ประชาชนในหลายชุมชนต่างเร่งทำความสะอาดบ้านเรือน เก็บกวาดโคลนและซากสิ่งปฏิกูลที่ถูกน้ำพัดเข้ามากองรวมกัน ขณะที่เทศบาลนครยะลาได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าเก็บขน "ภูเขาขยะ" ที่เกิดขึ้นหลังน้ำลด เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพเมืองให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

เทศบาลนครยะลา ได้ประกาศแผนปฏิบัติการจัดเก็บขยะและของเสียจากน้ำท่วมประจำวันนี้ โดยมุ่งเน้นในเขตชุมชนที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจและชุมชนเก่า ดังนี้:ย่านสำคัญ: โรงแรมรามา, หน้าสถานีรถไฟ, หน้าโรงเรียนจีน ตลาดและชุมชน: ย่านตลาดเก่าทั้ง 2 ฝั่ง, ซอยจะปะกียา, ซ.บราโอะ, ซ.ปราณี, ซ.สิโรรส 5, ซ.ดินชัชวาจ์, ซ.เลิศปัญญา, ซ.เลิศปัญญา 11ถนนหลัก: ถนนผังเมือง 4 (เริ่มจากแยกเทียนหงวนหลัง วค. และซอยที่เข้าได้)

เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือประชาชนให้นำขยะออกมาวางไว้หน้าบ้าน และเคลื่อนย้ายยานพาหนะที่จอดขวางทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถเก็บขยะขนาดใหญ่สามารถเข้าปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็วชาวบ้านตลาดเก่าผวา “น้ำขึ้นกลางดึก”


นายอัมนาน สาและ อายุ 34 ปี ชาวชุมชนตลาดเก่า ซอย 8 เผยว่า ในคืนที่เกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ ระดับน้ำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นไปอย่างคาดไม่ถึง ทำให้ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านได้รับความเสียหายหนักจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ขยะและของที่เสียหายถูกนำมากองเป็นภูเขาสูงใหญ่หน้าบ้านเรือน ต้องใช้รถตักดินขนาดใหญ่เข้ามาเก็บกวาด

“น้ำขึ้นเร็วมากจนหนีแทบไม่ทัน ข้าวของพังเสียหายเยอะมาก ตอนนี้ทุกคนก็ช่วยกันทำความสะอาด หวังว่าคงไม่มีน้ำท่วมรอบสองมาซ้ำเติมอีก” นายอัมนาน กล่าว

สรุปความเสียหาย จำนวน 39 ชุมชน จำนวน 3.7 หมื่นคนได้รับผลกระทบอุทกภัยในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ในเขตเทศบาลนครยะลาอย่างหนัก โดยมีรายงานว่า 39 ชุมชน ในเขตตำบลสะเตงได้รับผลกระทบ และมีประชาชนได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 20,690 ครัวเรือน หรือประมาณ 37,427 คน
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ริมแม่น้ำปัตตานียังคงมีระดับน้ำสูง ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งจึงต้องเฝ้าระวังการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด


กำลังโหลดความคิดเห็น