ตรัง - สั่งเร่งซ่อมแซมคันดินฝายบ้านโคกทราย ในพื้นที่ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก ด้านผู้รับเหมาเตรียมพร้อมซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนเมื่อน้ำลด ห่วงฝนตกทำน้ำหลากซ้ำ
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่บริเวณฝายบ้านโคกทราย หมู่ที่ 4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายอุดมพร กาญจน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่ชลประทานตรัง นายก อบต.โพรงจระเข้ ลงพื้นที่สำรวจฝายบ้านโคกทราย ซึ่งบริเวณคันดินด้านข้างทั้ง 2 ข้างของฝาย ได้ถูกน้ำป่าจากน้ำตกไพรสวรรค์ ซัดจนได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ พบว่าความรุนแรงของน้ำป่าได้ทำให้คันดินพังสไลด์เสียหายเป็นช่อง ประมาณช่องละ 15 เมตร และบริเวณด้านข้างของตัวฝาย ก็มีการกัดเซาะ แต่บริเวณอาคารของฝายที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งทางชลประทานตรังได้ประสานผู้รับเหมา ซึ่งยังอยู่ในสัญญา ให้นำเครื่องจักรมาเตรียมรอแล้ว หากฝนไม่ตกลงมา ไม่เกิดน้ำป่าไหลหลากซ้ำ และปริมาณน้ำลดลง ทางผู้รับเหมาก็พร้อมจะเร่งซ่อมแซมทันที
นายธัชเวชช์ ชูหว่าง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 โครงการชลประทานตรัง บอกว่า ฝายกั้นน้ำแห่งนี้ก่อสร้างด้วยงบประมาณ 73 ล้านบาท รวมระบบส่งน้ำ เพื่อใช้ทำน้ำประปาให้แก่ชาวบ้านตำบลโพรงจระเข้ ส่วนน้ำตกไพรสวรรค์ ถือเป็นน้ำตกขนาดใหญ่และมีปริมาณน้ำมากกว่าน้ำตกทุกแห่งในจังหวัดตรัง โดยตลอด 1 สัปดาห์มานี้ เกิดป่าไหลหลากลงมาจากน้ำตกไพรสวรรค์ ทั้งหมด 3 รอบ แต่ได้ทำให้ฝายเกิดความเสียหายเฉพาะคันดินเท่านั้น แต่ตัวคอนกรีตไม่มีปัญหาใด ๆ ซึ่งผู้รับเหมามารอพร้อมซ่อมแซมอยู่แล้ว
สำหรับพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลโพรงจระเข้ เมื่อปี 2564 เคยเกิดน้ำป่าไหลหลาก มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ต่อมาจึงได้มีการสร้างพนังกันน้ำป่า ปรากฏว่า ครั้งนี้ก็ถูกน้ำป่าซัดจนพังเสียหายตลอดแนว ส่วนพื้นที่คลองห้วยสอ น้ำป่าก็ได้ไหลหลากกัดเซาะที่ดินของชาวบ้านที่อยู่ริมคลองระยะทางยาวนับ 100 เมตร รวมทั้งยังมีพื้นที่สวนยางพาราหายไปด้วย ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน 28 ครัวเรือน ขณะเดียวกันบ้านบางหลังก็อยู่ห่างจากแนวตลิ่งที่ถูกน้ำป่ากัดเซาะเพียงเมตรเศษ เสี่ยงจะจมหายไปในน้ำ ชาวบ้านจึงร้องขอให้ผู้ว่าฯ ช่วยทำแนวกันตลิ่ง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่ม


