xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจร้องทุกข์เอาผิดนอมินีคนไทย พร้อมเจ้าของต่างชาติ ทำธุรกิจเลี่ยงกฎหมาย ใช้คนไทยถือหุ้นแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สุราษฎร์ธานี - เดินหน้าต่อ ตม.สุราษฎร์ธานี ร่วม สภ.บ่อผุด ลงดาบ รุกแจ้งความร้องทุกข์ เอาผิดนอมินีคนไทย และ เจ้าของธุรกิจต่างชาติ ทำธุรกิจบาร์เกิร์ล หลีกเลี่ยงกฎหมาย ใช้คนไทยถือหุ้นแทน


วันนี้ ( 26 พฤศจิกายน 2568 ) ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในลักษณะจัดตั้งนอมินี ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมายก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุในลักษณะกลุ่มแก๊งหรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด แย่งอาชีพคนไทย

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด ตำรวจจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตำรวจท่องเที่ยวสมุย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเกาะสมุย ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 17/2568 เข้าทำการตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากการสืบทราบมาว่าเป็นธุรกิจของคนต่างชาติที่มีหมายจับของประเทศอังกฤษ และ มีการดำเนินธุรกิจในลักษณะอำพรางโดยคนต่างชาติกันเอง มีคนไทยคอยให้การช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจ


โดยวิธีการเข้ามาถือหุ้นแทนคนต่างชาติเพื่อให้คนต่างชาติได้ประกอบธุรกิจในราชอาณาจักรที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของนาย แอชตัน ฯ สัญชาติอังกฤษ และ ดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศต้นทางเรียบร้อยแล้ว เมื่อตรวจสอบบริษัทฯแห่งหนึ่ง ซึ่งดำเนินการโดย นางแม็กซีน ฯ สัญชาติอังกฤษ ซึ่งเป็นแม่ของนายแอชตัน ฯ พบว่าบริษัทดังกล่าว ซึ่งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไทย มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ในลักษณะบาร์เกิร์ลเต้นโชว์ ที่ตั้งในย่านแหล่งบันเทิงย่านชายหาดเฉวง ในชื่อร้าน ซิน บาย ไนท์

ซึ่งมีการถือหุ้นและดำเนินกิจการร่วมกับคนไทย ตามที่จดแจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งลักษณะในการดำเนินธุรกิจของบริษัทดังกล่าวข้างต้นนั้น มีข้อพิรุธสงสัยและข้อสังเกตซึ่งเชื่อว่าเป็นการจัดตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจอันเป็นการหลีกเลี่ยงกฏหมาย โดยมีบุคคลสัญชาติไทยเข้าร่วมถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยสัดส่วนในการถือหุ้น พบว่ามีการแบ่งสัดส่วนในการถือหุ้นแบ่งเป็น คนสัญชาติไทย ถือหุ้นร้อยละ 51 จำนวน 2 คน ประกอบด้วย น.ส.ดา ฯ จำนวนหุ้น 10200 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.5 น.ส.จี จำนวนหุ้น 10200 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.5 และคนต่างชาติ ถือหุ้น 19600 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 49 อันเป็นลักษณะต้องสงสัยว่าจะเป็นการจัดตั้งบริษัทของชาวต่างชาติ โดยให้คนไทยช่วยเหลือหรือถือหุ้นแทน (นอมินี) อีกทั้งบริษัท ได้มีกรรมการของบริษัท จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย ชาวต่างชาติ และน.ส.จี มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท


เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัทจากบัญชีที่เปิดในชื่อบริษัท หลังจากที่เงินที่ได้จากการดำเนินธุรกิจโอนเข้ามาในบัญชีของบริษัท แล้ว พบว่าได้มีการโอนเงินออกไปยังบัญชีส่วนตัวของนางแม็ก ในห้วงตั้งแต่ ปี 2566 - มี.ค. 2568 จำนวน 11,775,845.49 บาท และ อีกบัญชี ของบริษัท พบมีความเคลื่อนไหวทางการเงิน โดยการนำเงินสดเข้าทำธุรกรรมผ่านทางช่องทางฝากเงินสด ตั้งแต่ห้วง พ.ย.2567 - มี.ค. 2568 เป็นเงิน 5,684,980.00 บาท หลังจากนั้นได้โอนต่อไปยังบัญชีส่วนตัวของนางแม็ก อีกเช่นกัน และ ปรากฎว่าการทำธุรกรรมออนไลน์ของบัญชีของบริษัท ทั้ง 2 บัญชี ยังอยู่ในอำนาจการควบคุมบริหารของ นางแม็ก คนต่างชาติแต่เพียงผู้เดียว

ประกอบถ้อยคำของ น.ส.ดา ฯ และ น.ส.จี ได้ให้ถ้อยคำไว้ว่า นางสาวแม็กได้มาร้องขอหรือขอให้ช่วยเข้าถือหุ้นในบริษัท ในขณะที่ทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ร้าน โดยที่ทั้งสองไม่ทราบถึงการดำเนินกิจการของบริษัท ไม่มีอำนาจบริหาร และ อีกทั้งไม่ได้นำเงินมาลงหุ้นในบริษัทแต่อย่างใด เพียงแต่เอาชื่อเข้าร่วมหุ้น เพื่อให้ต่างชาติมาประกอบธุรกิจดังกล่าวได้ ซึ่งทั้งสองได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนในระหว่างที่ทำงานเป็นลูกจ้าง เท่านั้น


จึงเชื่อว่านางแม็ก มีอำนาจบริหารทางการเงินและอำนาจการบริหารและควบคุมบริษัท ที่แท้จริงทั้งหมด เป็นการดำเนินธุรกิจในลักษณะอำพรางเพื่อให้คนต่างชาติได้ครอบงำธุรกิจเพื่อตนเองและหลีกเลี่ยงการประกอบธุรกิจตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยวิธีการให้บุคคลสัญชาติไทยเข้ามาร่วมถือหุ้น

ต่อมาวันที่ 25 พ.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.อ.นฤวัต พุทธวิโร ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นางแม็ก อายุ 60 ปี สัญชาติอังกฤษ ,น.ส.ดา สัญชาติไทย ,และ น.ส.จี สัญชาติไทย
...




กำลังโหลดความคิดเห็น