xs
xsm
sm
md
lg

โรงน้ำแข็งตรังแถลงเหตุแอมโมเนียรั่วไหล ย้ำขณะนี้คุมได้แล้วทุกคนปลอดภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตรัง - โรงน้ำแข็งคูลไอซ์ จ.ตรัง ออกแถลงการณ์เหตุแอมโมเนียรั่วไหล ย้ำขณะนี้พื้นที่ปลอดภัยแล้ว และไม่มีกลิ่นแอมโมเนียรบกวน ส่วนผู้คนที่ได้รับผลกระทบทุกคนปลอดภัยดี และได้ดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่

วันนี้ (24 พ.ย.) จากกรณีที่ได้เกิดเหตุแอมโมเนียรั่วไหล บริเวณซอย 13 ถนนวิเศษกุล ในเขตเทศบาลนครตรัง โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถจำกัดวงของการรั่วไหลได้ทันที และมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง 2 ราย มีอาการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจเล็กน้อย จากการสูดดมสารแอมโมเนีย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 พ.ย.2568 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด โรงน้ำแข็งคูลไอซ์ เจ้าของสถานประกอบการดังกล่าว ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า สาเหตุเกิดจากรอยร้าวบริเวณรอยเชื่อมของเครื่องผลิตน้ำแข็งจำนวน 1 เครื่อง ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นแอมโมเนียในพื้นที่โดยรอบ โดยก๊าซแอมโมเนีย เป็นก๊าซที่มีกลิ่นชัดเจนแม้ในปริมาณต่ำ ซึ่งช่วยเตือนก่อนถึงระดับที่เป็นอันตราย และกรณีครั้งนี้ค่าก๊าซที่กระจายออกมาอยู่ในระดับที่ปลอดภัย และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพระยะยาว


ทั้งนี้ ทันทีที่พบเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 23 พ.ย.68 ทีมงานได้หยุดการทำงานของเครื่องจักรทันที ควบคุมพื้นที่ตามมาตรฐานความปลอดภัย และดำเนินการซ่อมแซมโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งนับตั้งช่วงบ่ายของวันที่ 23 พ.ย.68 ระบบได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ไม่พบการรั่วไหลเพิ่มเติม พื้นที่ปลอดภัยแล้ว และไม่มีกลิ่นแอมโมเนียรบกวน สำหรับผู้ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุและมีอาการระคายเคือง ทางโรงงานได้อำนวยความสะดวกในการเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งผลตรวจยืนยันว่า ทุกคนปลอดภัยดี

อย่างไรก็ตาม เพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง ทางโรงงานได้จัดที่พักให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเข้าพักโรงแรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และดูแลค่าดำเนินการทั้งหมดเป็นการชั่วคราว จนกว่าทุกท่านจะมั่นใจว่าสถานการณ์ปลอดภัยเรียบร้อย พร้อมขอย้ำว่า เครื่องที่เกิดเหตุเป็นเครื่องเดียวเท่านั้น และไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำแข็ง น้ำดื่ม หรือการให้บริการลูกค้า โดยโรงงานยังดำเนินงานตามปกติ

ดังนั้น ทางผู้บริหารโรงงานคูลไอซ์ จึงขออภัยอย่างจริงใจต่อเหตุการณ์ที่สร้างความกังวลให้แก่ประชาชนและชุมชนโดยรอบ และขอยืนยันว่าจะเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย และกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.075-213 003-4


กำลังโหลดความคิดเห็น